Thai VI

เพื่อนของผมหลายคนมักจะสอบถามผมว่าอะไรคือสิ่งสำคัญ  หรือเป็นปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนแนว VI  (พวกเขาคงคิดไปเองว่าผมประสบความสำเร็จในการลงทุนแล้วละมั๊ง)

ผมก็คิดอยู่นาน  เมื่อไปอ่านหนังสือของ ท่าน ว.วชิรเมธี เล่มหนึ่ง  ผมก็ถึงคิดได้ว่าคงเป็นเพราะ  สัมมาทิฏฐิ ครับ

สัมมาทิฏฐิ  คือ  ความเห็นชอบ  ความเชื่อ  ทัศนคติ  โลกทัศน์  ค่านิยม  และอุดมการณ์

เป็นความเห็นชอบ ความเชื่อ ทัศนคติ  และศรัทธา ต่อการลงทุนแนว VI

เพื่อนของผมหลายคนก็มีความรู้มากกว่าผมซะอีก  แต่เนื่องจากไม่มีศรัทธาในการลงทุนแนว VI  ยังคงเล่นเก็งกำไรรายวัน  รายสัปดาห์ และบางคนถึงแม้จะพยายามลงทุนแนว VI แต่ก็อดใจไม่ไหวที่จะกลับไปเก็งกำไร

ถ้าเราไม่มีศรัทธาในการลงทุนแนว VI อย่างมั่นคงแล้วก็ยากที่จะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและยาวนาน  จิตใจจะหวั่นไหว

แล้วอะไรทำให้เกิดศรัทธา

พระพุทธเจ้าเรียกวิธีการตรวจสอบสิ่งที่เราจะศรัทธานั้น  ท่านเรียกว่า ท่าทีแห่งปัญญา  อันประกอบด้วย

1.  อย่าปลงใจเชื่อด้วยการฟังตามๆกันมา
2.  อย่าปลงใจเชื่อด้วยการถือสืบๆกันมา
3.  อย่าปลงใจเชื่อด้วยการเล่าลือต่อๆกันมา
4.  อย่าปลงใจเชื่อด้วยการอ้างคัมภีร์หรือตำรา
5.  อย่าปลงใจเชื่อเพราะอาศัยตรรกะ
6.  อย่าปลงใจเชื่อเพราะการอนุมานเอาเอง
7.  อย่าปลงใจเชื่อเพราะการคิดตามแนวเหตุผล
8.  อย่าปลงใจเชื่อเพราะสอดคล้องกับบางทฤษฎี
9.  อย่าปลงใจเชื่อเพราะมองเห็นว่ามีเค้าน่าเชื่อถือ
10. อย่าปลงใจเชื่อเพราะมองเห็นว่าผู้พูดเป็น ครูของเรา

สาธุครับ

ขอเสริมอีกอย่างคือ
ทุกอย่างเกิดที่ใจ จบลงที่ใจ
ถ้าชนะใจตัวเองไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรจะชนะคนอื่นเขา

แล้ววันนี้  คุณมี  สัมมาทิฏฐิ ในการลงทุนแนว VI แล้วหรือยังครับ

ผมคิดว่า ต้องมีรายได้ประจำ มากกว่ารายจ่ายประจำ

ทำให้ มีเงินเหลือมาลงทุนครับ

คนที่ลงทุน แล้วต้องขายหุ้น ออกไปใช้จ่าย ต่อให้ได้กำไร มาก แต่ก็กินดอกผล และบางครั้ง พาลไปกินเงินต้นด้วย

1. หมั่นหา

2. หมั่นเก็บรักษา

3. คบเพื่อนดี

4. เป็นอยู่สมฐานะ

เหลือเงินก็ค่อยๆซื้อหุ้น เก็บสะสมไปเรื่อยๆ ก็ประสบความสำเร็จเอง

เพียงแต่ คนที่มีรายได้เหลือทุกเดือน มีน้อยมากครับ

ผมก็เลยคิดว่า การลงทุนแนว vi ไม่ได้อยากอะไรหรอก

แต่การควบคุมตัวเอง ให้เหลือเงิน ทุกเดือนนี่ซิ น่าจะยาก

สาธุ สาธุ สาธุ

ซื้อหุ้นแล้วนอนหลับ

เดินตามศีล 5 ข้อ

จงคิดว่าเป็นการลงทุน  ไม่ใช่ค้าขาย

จงเก็บออม  อย่าอดออม

ราคาหุ้นไม่มีค่าอะไร  ความเจริญเติบโตของบริษัทสำคัญกว่า

ยังทำไม่ได้เหมือนกัน
พยายามอยู่อย่างตั้งใจ

[quote="chatchai"]เพื่อนของผมหลายคนก็มีความรู้มากกว่าผมซะอีก

[quote="chatchai"]แล้ววันนี้

ขอเสริมคุณฉัตรชัย   .... ว่าขึ้นกับบุคคลนั้นๆปลูกฝังแนวคิดตนเองมาเช่นไรตั้งแต่ต้น  
ตามที่มีปราชญ์ทางตะวันตกพูดว่า "The chain of habit is too light to be felt until it 's too  heavy to be broken"(ลูกโซ่ของพฤติกรรมนิสัยมักจะยากที่จะมีใครรู้ว่าเป็นอย่างที่เป็นจนกระทั่งมันยากที่จะปรับเปลี่ยนใหม่ได้ - - หรือ ภาษาชาวบ้านแบบไม่สุภาพ เรียกว่า "สันดาน") ซึ่งท่านบัฟเฟตต์มักยกประโยคนี้ขึ้นมาพูดถีงบ่อยๆ

ฉะนั้นผู้คนที่คุ้นเคยกับการเล่นหุ้นแบบเก็งกำไรอย่างฝังใจก็ยากที่เปลี่ยนตัวเองให้หันมาลงทุนแบบ VI  คนที่ลงทุนแบบ VI โดยเข้าใจถึงแก่นอย่างแท้จริง ก็ไม่ง่ายที่จะเปลี่ยนใจตัวเองไปเล่นเก็งกำไร   หรือ อีกนัยของมันเคยมือ  :lol:  :lol:

อาจเป็นเพราะ  หนังสือ Once Up on Wall Street ของ Peter Lynch คือหนังสือที่ทำให้ผมสนใจเริ่มลงทุนในหลักทรัพย์

[quote="chatchai"]อาจเป็นเพราะ

[quote="beammy"][quote="chatchai"]แล้ววันนี้

นักลงทุนแนว VI ที่เจ๊งไปก็มีเหมือนกัน  :roll:

[quote="สุมาอี้"]นักลงทุนแนว VI ที่เจ๊งไปก็มีเหมือนกัน

[quote="Saran"][quote="สุมาอี้"]นักลงทุนแนว VI ที่เจ๊งไปก็มีเหมือนกัน

[quote="สุมาอี้"][quote="Saran"][quote="สุมาอี้"]นักลงทุนแนว VI ที่เจ๊งไปก็มีเหมือนกัน

เล่นหุ้นให้สำเร็จ...
มันต้องรวย!...รวย!...รวย! (ความสุข) ครับ!!!

แม้ว่า...ติดหุ้นอยู่เต็มไปหมดก็ตามที (ฮะๆ) :lol:


ปล: อย่าให้ถึงขั้นเล่นจนถังแตก (ดังโพละ)
ก็แล้วกัน มันไม่ดีๆ เสียฟอร์ม VI หมด

ขอบคุณพี่ๆ ที่คอยชี้แนะ