Thai VI

พอดีไปอ่านเจอของดีมา ก็เลยมาถามว่ามีใครถือหุ้นอะไรไว้บ้าง แล้วมีความเห็นกันอย่างไรบ้างครับ

มีตัวนึงครับ
OHTL ถือไว้ตั้งนานไม่ได้เป็นหุ้น VI อะไรหรอกครับ
แต่ว่าอยากมีส่วนร่วมกับโรงแรมที่มีศักดิ์ศรีเป็น ที่หนึ่ง ของประเทศเท่านั้นเองครับปันผลปีละ 2 ครั้ง 9 บาทที่นึง 6 บาทที่นึง
เอาเป็นว่าปันผลก็ประมาณ 5% แต่ว่าหุ้นแพงไปหน่อย 300 บาทสมัยผมซื้อราคาเค้าแค่ 180-200 ไม่เกินนี้ครับมีแค่ 600 หุ้นเองกระเป๋าก็แฟบแล้วครับ ถอนใบหุ้นมาเก็บไว้ในเซฟเลย ว่างๆก็เอามาดูเล่นชอบจริงๆหุ้นตัวนี้ ใบหุ้นเค้าสวยดีสีออกเหลืองๆครีมๆ ไปงานแต่งงานก็บ่อย กินข้าวก็บ่อย ทุกครั้งที่ไปที่รร.คุยกับแฟนได้ว่าฉันก็เป็นเจ้าของโรงแรมเหมือนกันนะ

อืมที่ ดร.นิเวศน์ท่านว่ามีความรู้สึกเป็นส่วนร่วมมันเป็นยังไงนี่บรรยายได้แบบนั้นเลยครับ

ไม่ทราบลองดู LRH บ้างไหมครับ
ก่อนหน้านี้เคยไปพักและจัดสัมนาบ่อย
มีโรงแรมที่ดีๆ ตั้ง 4-5 โรงแรมนะครับ
แถมจ่ายเงินปันผลในอัตราที่ดีตลอดด้วย

เกิดถ้าอยากได้ความรู้เป็นเจ้าของโรงแรมร่วมอย่างคุณ FITCH ที่ภูเก็ตก็แนะนำ LRH เลยครับ ราคาขยับขึ้นไปบ้างแต่ยังต่ำกว่า book อยู่ครับ

โดยปกติคนส่วนมากจะคิดว่าการส่งออกเป็นอุตสาหกรรม
หลักของประเทศไทย โดยมีข้าว สิ่งทอ และชิ้นส่วนอิ-
เล็กโทรนิคส์เป็นตัวนำ

ผิดครับ อุตสาหกรรมหลักของประเทศไทยแต่ไหนแต่ไร
มาคือธุรกิจท่องเที่ยวครับ ผมไม่ได้พูดถึงเฉพาะรายได้
ตรงจากธุรกิจ เช่นโรงแรมหรือทัวร์ แต่พูดถึงค่าใช้จ่าย
ต่างๆที่นักท่องเที่ยวใช้ในประเทศไทยด้วยครับ เช่น
ทานอาหาร ช๊อปปิ้ง ไปเที่ยว ขึ้นแท็กซี่ บินในประเทศ
ฯลฯ คงไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนที่หอบของกินมาด้วย
ไม่ใช้เงินสักแดงเดียว

ถ้ารวมรายได้จากสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกันทั้งหมด อุตสาหกรรม
ท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้ประเทศไทยมาก
เป็นอันดับหนึ่งครับ

เป็นที่น่าเสียดายว่า รายได้ตรงจากการท่องเที่ยวตกถึงมือ
คนไทยแค่ประมาณ 20 สตางค์ในทุกๆบาท เพราะโรงแรม
ใหญ่ๆ ที่เป็นที่นิยม ต่างก็ถือหุ้นโดยคนต่างชาติทั้งสิ้น หรือ
ไม่ก็ต้องจากบริษัทต่างชาติบริหาร

ในภาพรวมแล้ว สิ่งที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวมากที่สุด
คือข่าวร้ายครับ

ข่าวที่ร้ายๆทั้งหลายจะส่งผลทางจิตวิทยาต่อนักท่องเที่ยว
สูงมาก เพราะการท่องเที่ยวเป็น "สินค้าที่ทดแทนกันได้"

ข่าวที่ร้ายๆ เช่น โรคระบาด สงคราม ความไม่สงบภายใน
การก่อการร้าย ข่าวปล้น จี้ ฆ่านักท่องเที่ยว ข่าวอุบัติเหตุ
ฯลฯ มีผลต่อธุรกิจท่องเที่ยวโดยตรงครับ และเมื่อข่าวเกิด
ขึ้น ผลกระทบจะรุนแรงกว่าความเป็นจริงมากๆ ดูอย่างเรื่อง
โรคซาร์สเมื่อต้นปีเป็นตัวอย่างครับ

นี่เป็นสาเหตุให้ท่านนายกระบุให้เพิ่มโทษคนขับแท็กซี่ที่
ทำร้ายนักท่องเที่ยว เรื่อง "ความปลอดภัยของนักท่อง-
เที่ยว" มีความสำคัญกว่า roadshow เพื่อ promote ประ-
เทศไทยเสียอีก

ผมไม่อยากพูดถึงข่าวร้ายที่นครสวรรค์ แต่บอกได้เลยครับ
ว่าถ้าเป็นความจริง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะโดนกระทบ
ด้วยแน่นอน และอาจจะหนักกว่าที่ใครๆ คิดครับ

ข่าวร้ายต่างๆที่กระทบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะเกิดผลสอง
ต่อครับ คือ ต่อที่หนึ่ง นักท่องเที่ยวลดลง รายได้ลดลง

ต่อที่สอง ผู้ประกอบการจะ "หนีตาย" ด้วยการลดราคาสะบั้น
หั่นแรก ทำให้มาร์จิ้นและ value-added ลดลง ซึ่งถึงแม้ระ
ดับนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเท่าเดิม กำไรและรายได้รวมก็
ยังเป็นปัญหาอยู่

ที่สำคัญ เรื่อง cheap destination เป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยว
จำฝังใจไม่ลืมครับ ถ้าเคยได้ถูกๆแล้วหนหนึ่ง คราวต่อไป
อย่าหวังว่าจะให้จ่ายแพงเลยครับ

ดูหาดใหญ่เป็นตัวอย่าง เมื่อสิบกว่าปีก่อนเกิดการแข่งขัน
ด้านราคาสูงมาก ทำให้หาดใหญ่ถูกตราหน้าว่าเป็น cheap
destination หลังๆขึ้นราคายากมากครับ เพราะไม่มีคนไป
จนกว่าราคาจะถูก ก็ต้องลดกันอยู่เรื่อยๆ

สิบกว่าปีให้หลัง หาดใหญ่ก็ยังมีภาพของการเป็น cheap
destination อยู่บ้าง ถึงแม้จะดีขึ้นมากก็ตาม

ผมคิดว่าการที่รัฐจะทำให้เศรษฐกิจโตแบบยั่งยืน 8% ได้
ธุรกิจท่องเที่ยวจะต้องโตแบบยั่งยืนให้ได้ก่อนครับ ลองจับ
ตาดู "นโยบาย" ที่สนับสนุนการท่องเที่ยวของรัฐบาลให้ดี
ครับ

พล่ามมาเยอะครับ ขอจบก่อนก็แล้วกัน ไม่ทราบว่าตอบคำ
ถามคุณ harry หรือเปล่า

ส่วนหุ้นเป็นรายตัวขอไม่พาดพิงแล้วกันครับ ไม่ทราบว่าน้อง
harry ไปอ่านเจออะไรมาหรือครับ?

ผมถือ DTC อยู่ครับ

นี้ก็หน้าหนาวแล้ว ขออย่าให้โรคซาร์ ระบาดอีกก็แล้วกัน

โรงแรมจะได้ฟื้นไข้เสียที

พอ พูดถึง ซาร์ มีกี้ ดูข่าวโทรทัศน์ ว่า ไต้หวัน พบซาร์ อีกแล้ว 1 ราย เป็นนักเรียนทหาร

ขอให้ควบคุมได้ อย่าระบาดให้ ตกอก ตกใจ กันไปทั้งโลก อีกก็แล้วกัน

เดียวโรงแรมของเรา หงิกอีก :lol:

มารายงานตัวว่าเป็น ผู้ถือหุ้นรายจิ๋วของ OHTL กับ
RHC (หุ้นที่ซื้อ-ขายกันน้อยถึงน้อยมากที่สุด) ครับ
ตอนนี้ ก็กำลังลุ้นว่า ไตรมาส 4 นี้ จะทำกำไรได้ดี พอที่จะชดเชยกับ
ช่วงที่หงอยไปในระหว่าง ซาร์ระบาดครับ

หุ้นพวกนี้ เป็นหุ้นที่ผมถือไว้เพื่อความสุขใจแบบคุณ Fitch มากกว่า
โอกาสทำกำไรจาก Turn around หรือ Story เพิ่มทุน แตกพาร์ แจกวอร์ ฯลฯ คงลืมไปได้ คือไม่น่าจะมีนะครับ

ผมมีความรู้ไม่ค่อยมากเท่าไหร่เรื่องโรงแรม

จำนวนหุ้นก็ไม่มาก

แต่ยังกอด MANDARIN อยู่ครับ
ผมยังเชื่อมือคุณเพียงใจ หาญพาณิชย์
รวมทั้งมีกลุ่ม LH ร่วมอยู่ด้วยก็สบายใจได้
แม้ว่าจะเป็นโรงแรมเล็กๆ

พักนี้ก็เสียวๆโรคซาร์อยู่เหมือนกัน

มี DTC SHANG และ RGR หุ้น 2 ตัวแรก นิ่ง ดีจังเลย รอ รับปันผลไปเรื่อย ๆ ส่วนตัวหลัง RGR นี่ ให้ capital gain สูงดี นำมาเล่นรอบได้........ผมว่า กลุ่มโรงแรม อนาคตคงไปได้ ไทยเราน่าจะเป็นศูนย์กลางของ สนามบิน ระหว่างประเทศในภูมิภาคนี้ ได้ แทน สิงค์โปร์ นะ คิดว่า สนามบินสุวรรณภูมิเปิดได้ ธุรกิจ การท่องเที่ยวคงทำให้ กลุ่มโรงแรม ไปได้ดี

ก็แค่อ่านงบแล้วเจอฐานะการเงินดีอ่ะครับ แบบว่าไปอ่านบทวิเคราะห์มาก็เลยลองหางบมาอ่านดู ก็เจอที่ดีๆอยู่สองสามแห่ง ก็เลยมาลองถามดูครับว่ามีใครถือตัวไหนบ้าง

ขอบคุณครับสำหรับข่าวคราวและคำแนะนำ

ผมมี rhc กับ dtcอยู่ครับ คิดว่าราคาของrhcจะขึ้นในอนาคตข้างหน้า เพราะมีการขยายกิจการและปรับปรุงห้องพักเป็นห้องพักพิเศษทั้งหมดครับ แต่ถ้ามีโรคระบาดเกิดขึ้นจริง ก็คงต้องซื้อเฉลี่ยขาดทุนอีกแล้วครับ

ขอฝากถามเกี่ยวกับDTCหน่อยนะครับ ผมรู้สึกว่าอาจมีอะไรแปลกๆ โรงแรมซื้อหุ้นคืนแต่ราคากลับตกลงเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ก็เคยอ่านพบในเวปนี้ว่าผู้บริหารขายหุ้นทิ้งที่ราคาสามสิบบาทปลายๆ พอข่าวขายทิ้งออกมาได้ไม่นานก็ประกาศซื้อหุ้นคืน ราคาก็เด้งขึ้นไปเกือบห้าสิบบาท แล้วก็ตกลงมาอยู่ที่42บาทอยู่นาน ส่วนตอนนี้ก็41บาทแล้ว ทั้งๆที่หลังจากซื้อหุ้นคืนแล้ว epsจะสูงขึ้น และราคาก็น่าจะสูงขึ้นมิใช่หรือครับ

harry เขียน:พอดีไปอ่านเจอของดีมา ก็เลยมาถามว่ามีใครถือหุ้นอะไรไว้บ้าง แล้วมีความเห็นกันอย่างไรบ้างครับ

ผมมี centel อยู่นิดนึงครับ ชอบที่รวมเอากิจการร้านฟาสฟู๊ดส์เข้าไปด้วย
ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงไปได้บางส่วน ปันผลประมาณ 4-5%