Good or Bad ? พาณิชย์ไฟเขียวบจ.ลงบันทึก ส่วน"เกิน-ต่ำ&q
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 15, 2003 7:25 pm
อ่านแล้วไม่ค่อยรู้ว่าไอ้ที่แก้นี่จะดีหรือไม่ดีกันแน่ครับ เพราะผมเองยังเพิ่งศึกษาเรื่องการเงินเลยยังไม่เข้าใจครับ
http://www.bangkokbiznews.com/2003/12/1 ... 35153.html
"พาณิชย์"ไฟเขียวบจ.ลงบันทึก ส่วน"เกิน-ต่ำ"มูลค่าหุ้นลดซ้ำซ้อน
กระทรวงพาณิชย์ ไฟเขียว บริษัทจดทะเบียนในการบันทึกรายการสุทธิ ระหว่างส่วนเกินและส่วนต่ำมูลค่าหุ้น ลดความซับซ้อนด้านบัญชี
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการและประธานศูนย์ระดมทุนตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการปรับปรุงความหมายของรายการในงบการเงินของบริษัทมหาชน จำกัด ขึ้นใหม่ โดยให้สามารถนำรายการส่วนเกินมูลค่าหุ้น และส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นของทั้งหุ้นบุริมสิทธิ และหุ้นสามัญมาหักกลบกันและแสดงเป็นมูลค่าสุทธิได้ โดยแยกตามประเภทของหุ้น
จากเดิมซึ่งมีข้อกำหนด เรื่องรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงินบางรายการ ซึ่งกำหนดให้แสดงรายการส่วนเกินมูลค่าหุ้น และส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทั้ง 2 ประเภท ต้องแยกออกจากกัน โดยไม่สามารถนำมาหักกลบกันได้
การปรับปรุงความหมายดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าวิธีการทางบัญชีไม่ได้ ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นโดยรวมเปลี่ยนแปลง ซึ่งการแสดงมูลค่าสุทธิเป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลในงบการเงินเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การบัญทึกรายการในบัญชี จะต้องแยกบันทึกรายการส่วนเกินมูลค่าหุ้น และส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นของทั้งหุ้นบุริมสิทธิ และหุ้นสามัญ เป็นแต่ละบัญชีแยกจากกัน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนด ในเรื่องการโอนชดเชยผลขาดทุนสะสมตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2544
ทั้งนี้ รายการส่วนเกินมูลค่าหุ้น ต้องเป็นเงินที่ได้จากการขายหุ้นส่วนที่สูงกว่ามูลค่าที่ตราไว้ตามที่จดทะเบียน หรือจากการลดทุนจดทะเบียนในส่วนที่ได้มีการชำระเงินจากผู้ถือหุ้นแล้ว แต่ไม่ได้คืนกลับให้ผู้ถือหุ้น เช่น หุ้นสามัญของบริษัทมหาชนแห่งหนึ่งมีมูลค่าที่ตราไว้ ตามที่จดทะเบียนหุ้นละ 10 บาท หากบริษัทขายหุ้นดังกล่าวในราคาหุ้นละ 12 บาท จะเกิดส่วนเกินมูลค่าหุ้นๆ ละ 2 บาท
แต่หากบริษัทขายหุ้นในราคาหุ้นละ 10 บาท จะไม่เกิดมูลค่าส่วนเกิน และในอนาคตหากบริษัทมีการลดทุนเหลือหุ้นละ 8 บาท โดยไม่คืนส่วนทุน 2 บาทให้ผู้ถือหุ้นก็จะเกิดเป็นส่วนเกินมูลค่าหุ้นเช่นกัน แต่ในกรณีที่บริษัทขายหุ้นดังกล่าวในราคา 8 บาท ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้จะเกิดส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นละ 2 บาท ทั้งนี้ หากบริษัทมีการลดทุนจดทะเบียนเหลือหุ้นละ 7 บาท ให้กลับรายการส่วนต่ำมูลค่าหุ้นละ 2 บาท ที่เคยบันทึกไว้เป็นส่วนเกินมูลค่าหุ้นละ 1 บาท
อย่างไรก็ตาม ส่วนเกินมูลค่าหุ้นที่จะนำมาหักกลบกับส่วนต่ำกว่าจะต้องมาจากหุ้นทุนประเภทเดียวกัน หรือมีเนื้อหาทางเศรษฐกิจเหมือนกัน เนื่องจากหุ้นทุนแต่ละประเภทมีสิทธิตามกฎหมายแตกต่างกัน
?ตลาดหลักทรัพย์ได้มีการประสานงานเรื่องดังกล่าวกับกระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่ต้นปี 2546 เพราะพบว่ามีบริษัทจดทะเบียนหลายรายที่มีการออก และเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่ำกว่าราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ เช่น บริษัท แนเชอรัล พาร์ค บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) การอนุมัติเรื่องนี้ จะทำให้งบการเงินไม่ซับซ้อน และเข้าใจง่ายมากขึ้น โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา? นางสาวโสภาวดี กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com/2003/12/1 ... 35153.html
"พาณิชย์"ไฟเขียวบจ.ลงบันทึก ส่วน"เกิน-ต่ำ"มูลค่าหุ้นลดซ้ำซ้อน
กระทรวงพาณิชย์ ไฟเขียว บริษัทจดทะเบียนในการบันทึกรายการสุทธิ ระหว่างส่วนเกินและส่วนต่ำมูลค่าหุ้น ลดความซับซ้อนด้านบัญชี
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการและประธานศูนย์ระดมทุนตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการปรับปรุงความหมายของรายการในงบการเงินของบริษัทมหาชน จำกัด ขึ้นใหม่ โดยให้สามารถนำรายการส่วนเกินมูลค่าหุ้น และส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นของทั้งหุ้นบุริมสิทธิ และหุ้นสามัญมาหักกลบกันและแสดงเป็นมูลค่าสุทธิได้ โดยแยกตามประเภทของหุ้น
จากเดิมซึ่งมีข้อกำหนด เรื่องรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงินบางรายการ ซึ่งกำหนดให้แสดงรายการส่วนเกินมูลค่าหุ้น และส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทั้ง 2 ประเภท ต้องแยกออกจากกัน โดยไม่สามารถนำมาหักกลบกันได้
การปรับปรุงความหมายดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าวิธีการทางบัญชีไม่ได้ ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นโดยรวมเปลี่ยนแปลง ซึ่งการแสดงมูลค่าสุทธิเป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลในงบการเงินเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การบัญทึกรายการในบัญชี จะต้องแยกบันทึกรายการส่วนเกินมูลค่าหุ้น และส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นของทั้งหุ้นบุริมสิทธิ และหุ้นสามัญ เป็นแต่ละบัญชีแยกจากกัน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนด ในเรื่องการโอนชดเชยผลขาดทุนสะสมตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2544
ทั้งนี้ รายการส่วนเกินมูลค่าหุ้น ต้องเป็นเงินที่ได้จากการขายหุ้นส่วนที่สูงกว่ามูลค่าที่ตราไว้ตามที่จดทะเบียน หรือจากการลดทุนจดทะเบียนในส่วนที่ได้มีการชำระเงินจากผู้ถือหุ้นแล้ว แต่ไม่ได้คืนกลับให้ผู้ถือหุ้น เช่น หุ้นสามัญของบริษัทมหาชนแห่งหนึ่งมีมูลค่าที่ตราไว้ ตามที่จดทะเบียนหุ้นละ 10 บาท หากบริษัทขายหุ้นดังกล่าวในราคาหุ้นละ 12 บาท จะเกิดส่วนเกินมูลค่าหุ้นๆ ละ 2 บาท
แต่หากบริษัทขายหุ้นในราคาหุ้นละ 10 บาท จะไม่เกิดมูลค่าส่วนเกิน และในอนาคตหากบริษัทมีการลดทุนเหลือหุ้นละ 8 บาท โดยไม่คืนส่วนทุน 2 บาทให้ผู้ถือหุ้นก็จะเกิดเป็นส่วนเกินมูลค่าหุ้นเช่นกัน แต่ในกรณีที่บริษัทขายหุ้นดังกล่าวในราคา 8 บาท ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้จะเกิดส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นละ 2 บาท ทั้งนี้ หากบริษัทมีการลดทุนจดทะเบียนเหลือหุ้นละ 7 บาท ให้กลับรายการส่วนต่ำมูลค่าหุ้นละ 2 บาท ที่เคยบันทึกไว้เป็นส่วนเกินมูลค่าหุ้นละ 1 บาท
อย่างไรก็ตาม ส่วนเกินมูลค่าหุ้นที่จะนำมาหักกลบกับส่วนต่ำกว่าจะต้องมาจากหุ้นทุนประเภทเดียวกัน หรือมีเนื้อหาทางเศรษฐกิจเหมือนกัน เนื่องจากหุ้นทุนแต่ละประเภทมีสิทธิตามกฎหมายแตกต่างกัน
?ตลาดหลักทรัพย์ได้มีการประสานงานเรื่องดังกล่าวกับกระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่ต้นปี 2546 เพราะพบว่ามีบริษัทจดทะเบียนหลายรายที่มีการออก และเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่ำกว่าราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ เช่น บริษัท แนเชอรัล พาร์ค บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) การอนุมัติเรื่องนี้ จะทำให้งบการเงินไม่ซับซ้อน และเข้าใจง่ายมากขึ้น โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา? นางสาวโสภาวดี กล่าว