หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ถ้าผมจะรับเงินโอนจากทาง USA ตอนนี้ผ่านทาง Swift

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 27, 2007 7:06 pm
โดย wee1
เวลาโอนเข้าแบงก์ที่เมืองไทย เรทที่ได้เป็นเรทของทาง Offshore ใช่ไหมครับ

ถ้าผมจะรับเงินโอนจากทาง USA ตอนนี้ผ่านทาง Swift

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 27, 2007 10:12 pm
โดย นายสต็อก
อย่างของผม พี่เค้าจะโอนมาให้ทางบ้าน
ผมก็เตือนเค้าไปหลายหน นานแล้ว บอกให้รีบโอนกลับมา
เค้าก็อิดๆออดๆ

สุดท้าย...
พอใกล้เวลาจะโอนจริงๆ อัตราแลกเปลี่ยนเค้าได้ แค่ 33-34 บาท/ดอลล่าร์
แค่นั้น!!! (หวังดีไปก็แค่นั้น) :evil:

ถ้าผมจะรับเงินโอนจากทาง USA ตอนนี้ผ่านทาง Swift

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 29, 2007 11:39 pm
โดย chaiyos
โอนเข้ามาเป็นเงินต่างประเทศ
แลกเป็นเงินบาทที่เมืองไทย ต้องใช้เรท Onshore สิครับ

แต่ระวังถูกหักสำรอง 30% นะครับ
แบ้งจะถามว่าโอนมาทำอะไร
เตรียมหลักฐานประกอบด้วย

ถ้าผมจะรับเงินโอนจากทาง USA ตอนนี้ผ่านทาง Swift

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 30, 2007 12:30 am
โดย lekmak333
แต่ระวังถูกหักสำรอง 30% นะครับ
แบ้งจะถามว่าโอนมาทำอะไร
เตรียมหลักฐานประกอบด้วย
เรื่องนั้นไม่ต้องกลัวครับ พึ่งมีประกาศจาก ธปท ไม่นานมานี้เอง
ให้บุคคลธรรมดา เป็นคนไทย นำเงินออกไปลงทุนได้ไม่เกิน 50,000$
ถ้าไม่เกินวงเงินดังกล่าว ธนาคารไม่จำเป็นต้องขอคำชี้แจ้งครับ

ว่าแต่โอนเข้ามา ใช้แบงก์พาณิชย์ไทย หรือ ต่างชาติ ครับ ถึงได้เรท onshore  :D

ถ้าผมจะรับเงินโอนจากทาง USA ตอนนี้ผ่านทาง Swift

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 30, 2007 12:37 am
โดย chaiyos
lekmak333 เขียน:
เรื่องนั้นไม่ต้องกลัวครับ พึ่งมีประกาศจาก ธปท ไม่นานมานี้เอง
ให้บุคคลธรรมดา เป็นคนไทย นำเงินออกไปลงทุนได้ไม่เกิน 50,000$
ถ้าไม่เกินวงเงินดังกล่าว ธนาคารไม่จำเป็นต้องขอคำชี้แจ้งครับ

ว่าแต่โอนเข้ามา ใช้แบงก์พาณิชย์ไทย หรือ ต่างชาติ ครับ ถึงได้เรท onshore

ถ้าผมจะรับเงินโอนจากทาง USA ตอนนี้ผ่านทาง Swift

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 30, 2007 12:55 am
โดย lekmak333
ตามที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกันเงินสำรองเงินนำเข้าระยะสั้นในวันที่ 18 ธันวาคม 2549 และผ่อนผันเพิ่มเติมในเวลาต่อมา เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาท อันจะเอื้อต่อการขยายตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจในระยะยาว นั้น

เพื่อความชัดเจนของมาตรการฯ และเพื่อให้สถาบันการเงินใช้อ้างอิงและถือปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ธปท. ขอสรุปรายละเอียดของมาตรการฯ ดังนี้

1. ธุรกรรมรับซื้อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็น เงินบาทที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องกันเงินสำรองเป็นเงินตราต่างประเทศไว้จำนวนร้อยละ 30 ได้แก่
1.1. ธุรกรรมเงินตราต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับรายการในดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งหมายรวมถึง ค่าสินค้า ค่าบริการ รายได้ เงินโอนและบริจาค

1.2. เงินลงทุนในหุ้นทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ไม่รวมหน่วยลงทุนทุกประเภท และ Warrant) เงินลงทุนในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX ) และตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (AFET) ทั้งนี้ ให้นำเงินลงทุนดังกล่าวเข้าบัญชีเงินบาทที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ (Special Non-resident Baht Account for Equity Securities: SNS)

1.3. เงินลงทุนโดยตรง ซึ่งหมายถึง เงินที่นำมาจัดตั้งกิจการหรือเข้าร่วมลงทุนในประเทศไทย โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นหรือมีส่วนเป็นเจ้าของไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 และมีอำนาจในการบริหารจัดการกิจการดังกล่าว

1.4. เงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน คอนโดมิเนียม (ไม่รวมหน่วยลงทุนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์)

1.5. เงินกู้เงินตราต่างประเทศที่ได้ทำสัญญากู้เงินก่อนวันที่ 19 ธันวาคม 2549

1.6. การรับซื้อเงินตราต่างประเทศจากธุรกรรมเงินตราต่างประเทศที่เป็นการต่ออายุสัญญาป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน โดยการทำธุรกรรม Swap กับสถาบันการเงินเดิม

1.7. การรับซื้อเงินตราต่างประเทศที่มีจำนวนต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาด

1.8. การรับซื้อเงินตราต่างประเทศจากลูกค้า หรือบุคคลรับอนุญาต ในรูปเช็คเดินทางและธนบัตรเงินตราต่างประเทศ

1.9. การรับซื้อเงินตราต่างประเทศจาก (ก) สถานทูตไทย สถานกงสุลไทย หรือหน่วยงานรัฐบาลไทยที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย และ (ข) สถานทูตต่างประเทศ สถานกงสุล ทบวงการชำนัญพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติ องค์การหรือสถาบันระหว่างประเทศ ที่ประจำการในประเทศไทย

1.10. เงินกู้สกุลเงินตราต่างประเทศของหน่วยงานราชการที่นำมาขายรับบาท

2. ธุรกรรมรับซื้อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็น เงินบาทที่ต้องกันเงินสำรองเป็นเงินตราต่างประเทศไว้จำนวนร้อยละ 30 ได้แก่

2.1. เงินลงทุนในตราสารหนี้ ที่สืบเนื่องจากการซื้อตราสารหนี้ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป

2.2. เงินกู้สกุลเงินตราต่างประเทศที่ทำสัญญากู้เงินตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป

2.3. การรับซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ได้รับการยกเว้นในข้อ 1.

3. บัญชีเงินบาทของบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (Non-resident Baht Account : NRBA) ได้รับการผ่อนผันให้มียอดคงค้างเกิน 300 ล้านบาท โดยไม่จำกัดจำนวนจนถึงวันที่ 8 มกราคม 2550 และให้ลดยอดคงค้างลงเหลือเพียงไม่เกิน 300 ล้านบาทหลังจากนั้น

4. เงินบาทในบัญชี SNS หลังจากวันที่ 8 มกราคม 2550 ให้มียอดคงค้างไม่เกิน 300 ล้านบาทเป็นการชั่วคราว ซึ่ง ธปท. จะพิจารณาความเหมาะสมต่อไป

.................................................................................................

ถ้าตามประกาศ เข้าใจว่าโอนเข้าได้ครั้งล่ะ 20,000$ โดยไม่ต้องกันสำรอง

ถ้ามีลู่ทาง เข้าๆ ออกๆ ได้ บอกกันมั้ง แบ่งกันรวยครับ  :D

ถ้าผมจะรับเงินโอนจากทาง USA ตอนนี้ผ่านทาง Swift

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 30, 2007 10:36 am
โดย fantasia
ผมก็เข้าใจว่าได้เป็นเรต onshore (ที่เมืองไทย)
แต่อีกกระทู้นึงคุณ 2dogs บอกว่าได้เรต offshore
คงแล้วแต่กรณีครับ

แต่ที่แน่ ๆ ผู้ส่งออกรับเงิน $ จากลูกค้าที่โอนมาได้ onshore แน่นอนครับ
ตามหลักแล้ว $ น่าจะมาถึงไทยก่อนแล้วค่อยถูก convert

แตกต่างจากกรณีโอนเงินไปต่างประเทศ ที่ต้อง convert เป็น $ ก่อนแล้วค่อยโอนไป