หน้า 1 จากทั้งหมด 1

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 9:37 pm
โดย iambuffet
คนลงทุนในหุ้นทั้งคนไทยและต่างชาติ
ส่วนมากเท่าที่ผมสังเกตุจะเป็นระดับปัญญาชน
อย่างเช่น คุณเฟยหง คุณฉัตรชัย คุณสุมาอี้ คุณเอกยุทธ คุณทักษิณ
หากไม่แคร์คนเล่นหุ้น และปล่อยให้ตลาดทุนพินาศโดยไม่คิดช่วยอะไร
ก็จะมีปัญญาชนจำนวนไม่น้อยที่ไม่พอใจนัก
ผมคิดว่าคุณเฟยหงและหลาย ๆ คน เริ่มอึดอัด แต่ยังคงอดทนอยู่
เพราะเห็นแก่ชาติ แต่เมื่อไหร่ที่นักลงทุนหมดความอดทน
ผมคิดว่าจะมีปัญญาชนจำนวนมาก ที่ย้ายข้างไปสู่คนที่เข้าใจและเห็นใจเรา

สมัยคุณทักษิณก็พลาดเพราะเหล่าบรรดาปัญญาชนต่าง ๆ ต่างสงสัยในความสุจริต
ในความเห็นผม เมื่อไหร่ที่ปัญญาชนเหล่านี้หมดความอดทน หม่อมอุ๋ยและผู้สนับสนุน
หม่อมอุ๋ยคงมีชะตาไม่ต่างจากคุณทักษิณ...

แล้วเพื่อน ๆ ละคิดเห็นยังไงกันบ้าง

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 10:29 pm
โดย อองตวน
คงไม่มีผลอ่ะคับ

ปัญญาชนไม่ได้เล่นหุ้นทุกคน
ถึงเล่นหุ้น คนที่คิดเห็นกลางๆต่อมาตรการก็มี
คนทำธุรกิจส่งออกรายเล็กรายใหญ่ยิ่งรักหม่อมอุ๋ย

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 12:01 pm
โดย พ่อปลาไหล
ผมคงไม่โวยวายอะไร
BOT ก็มีปัญหาให้แก้ ซึ่งทางแก้มีหลายทาง  ไม่ว่าวิธีไหนก็มีผลข้างเคียงบ้าง  ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ไม่มีใครบอกได้ว่าวิธีไหนดีที่สุด  เพราะวิสัยทัศน์สั้นยาวต่างกัน

ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่  ตรงนั้นเป็นความเสี่ยงที่เราต้องคิด   ต้องปรับตัวรับสถานการณ์
ทุกปัญหามาพร้อมโอกาสเสมอครับ  :wink:

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 12:27 pm
โดย อองตวน
สารคดีสัตว์โปรแกรมหนึ่ง เทียบการปรับตัวของสัตว์ที่สืบสายพันธุ์มาจากบรรพบุรุษเดียวกัน อย่าง แรคคูนอเมริกาเหนือ กับ หมีแพนด้า

แบบหลังแทบสูญพันธุ์เพราะกินอะไรไม่ได้นอกจากไผ่จีน เผชิญภาวะวิกฤตเมื่อมนุษย์รุกป่า ขณะที่แบบแรกเข้ามาคุ้ยถังขยะในเมืองซะเลย แถมข้ามถนนหลบรถเก่งด้วย

ไม่มีไร แค่ทฤษฎีวิวัฒนาการ

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 2:50 pm
โดย jody4003
ปัญญาชนที่เป็นนักลงทุนมีจุดเด่นอย่างหนึ่งที่แต่งต่างจากคนกลุ่มอื่นๆครับ

นั่นคือ การ"ปรับตัว"

ช่องทางทำเงินนั้นมีเป็นร้อยช่องครับ คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เห็นจำนวนช่องจากทั้งหมดร้อยช่องนั้นเก่งที่สุดในบรรดาคนทุกกลุ่ม และเป็นไปไม่ได้ที่มาตรการณ์ใดๆจะปิดช่องได้ทั้งร้อยช่อง หากเปลี่ยนไปปิดช่องนึง ก็จะเปิดอีกช่องนึงให้คนกลุ่มนี้ทำเงินได้อยู่ดี

ดังนั้นต่อให้รบ.เปลี่ยนมาตรการณ์ยังไง ผมเชื่อว่าไม่รอดพ้นสายตาที่ของนักลงทุนกลุ่มนี้หาช่องทางลงทุนได้อยู่ดีครับ

สรุปผมว่ามันจะไม่เหมือนกันครับ

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 2:57 pm
โดย 2 dogs
jody4003 เขียน:ปัญญาชนที่เป็นนักลงทุนมีจุดเด่นอย่างหนึ่งที่แต่งต่างจากคนกลุ่มอื่นๆครับ

นั่นคือ การ"ปรับตัว"
ค่าปรับตัวครั้งละ 0.3-0.5%  :P

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 3:10 pm
โดย chatchai
ผมไม่รู้ว่า  ที่เรียกว่าเป็นระดับปัญญาชน  ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง

แต่ที่แน่ๆ  ผมก้เหมือนกับเพื่อนๆทุกๆท่านในนี้ละครับ

ถ้าผมเป็นได้  ทุกท่านก็เป็นได้เหมือนกัน

ส่วนเรื่องความคิดเห็นของรัฐบาลชุดนี้มองนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อย่างไร

ผมว่าท่านคงมองว่าเป็นพวกร่ำรวย  ชอบเสี่ยงโชค  กิจกรรมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ก็ไม่ค่อยจะมีประโยชน์อะไรกับประเทศชาติเท่าไรนัก  จะขาดทุนบ้างก็เพราะตัวเองเข้าไปเสี่ยงโชคเอง  ไม่มีใครบังคับ

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 08, 2007 6:05 pm
โดย iambuffet
รู้สึกมึน ๆ นะครับ
เหมือนไม่ได้คุยกับคนเล่นหุ้น
เพราะรู้สึกว่าหุ้นจะลงมาก
คิดว่าหลาย ๆ คนน่าจะไม่ค่อยพอใจนัก
ก็ถ้าทุกคนยังโอเค ผมก็โอเคนะ
เพราะตลาดหุ้น
จริง ๆ แล้ว มันก็ไม่ใช่ของผมสักหน่อย
ถ้าคนอื่นทนได้ ผมก็ทนได้ครับ

:D

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 08, 2007 6:08 pm
โดย iambuffet
หากข้อความผิดพลาดประการใด
ขออภัยด้วยครับ

:D

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 08, 2007 6:17 pm
โดย Viewtiful Investor
Forgive but never forget

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 08, 2007 6:19 pm
โดย Onokung
Viewtiful Investor เขียน:Forgive but never forget
:cool:

ไม่โกรธแต่จะจำไว้ <<  :lol:

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 08, 2007 6:26 pm
โดย ply33
เมื่อเช้านี้ครับได้ฟังวิทยุสัมภาษณ์ ดร. ศุภวุทธ สายเชื้อ จาก Phatra ได้คิดตามแล้วความรู้ดีครับ คือท่านบอกว่า

ธปท ห่วงค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วทำให้มีผลกระทบต่อการส่งออก แล้วได้ออกมาตรการต่างๆมาบ้างแล้ว แต่ตลาดไม่ตอบรับเท่าที่ควรเพราะค่าเงินยังแข็งขึ้นไปอีก ส่วนมาตรการที่ออกมานั้นแรงมาก หมายความว่าธปท ไม่อยากให้มีดอลล่าร์ไหลเข้ามาเพื่อเก็งกำไรมาก แต่ว่ายาที่ให้เป็นยาแรงมากที่ครอบคลุมไปทั่วทุกตลาด ทั้งตลาดเงินและตลาดทุน ตลาดตราสารหนี้ ตลาดพันธบัตร ส่วนผลกระทบก็คือต่างชาติมีต้นทุนมากขึ้นมาก และอาจจะขาดทุนได้เลยถ้านำเงินออกก่อน 1 ปีเพราะโดนหักเงิน

ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศเราที่ไม่ได้แข็งแกร่งมากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่สำคัญทั้ง จีน อินเดีย เวียดนาม ที่มีการเติบโตสูงและมีการระดมทุนมากเพื่อใช้ในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เมื่อประเทศไทย ไม่ต้องการเม็ดเงินการลงทุนจากต่างชาติก็หมายความว่าเศรษฐกิจของไทยอาจจะไม่โตตามที่คาดกันไว้เหมือนเดิมที่ 4-5% เพราะบริษัทต่างๆมีต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นในการระดมทุน ทั้งจากพันธบัตร หุ้น ตราสารหนี้ต่างๆ เพราะต้องให้ดอกเบี้ยสูงขึ้นเพื่อชดเชยกับความเสี่ยงที่มีให้นักลงทุนต่างๆ

ดังจะเห็นได้ว่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเป็นเพราะการนำเข้าเพื่อส่งออก มันมีการชดเชยในระบบอยู่แล้ว แล้วอัตราเงินเฟ้อของเราก็ไม่มีสัญญาณอันตรายประกอบกับทาง ธนาคารกลางสหรัฐ ยังไม่มีสัญญาณลดดอกเบี้ย จึงคิดว่าน่าจะใช้อัตรากดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือไปก่อนไม่น่าจะให้ยาแรงขนาดนี้ หรือถ้าจะใช้มาตรการนี้น่าจะค่อยๆใช้เป็นช่วงเวลาไป ไม่ใช่ทีเดียวให้ตกใจกันหมด

เลยเสียหายกันทั้งระบบ และคาดว่าจะมีการทบทวนนโยบายดังกล่าวอย่างแน่นอน

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 08, 2007 6:53 pm
โดย คนเรือ VI
ฟังวิทยุเมื่อเช้าเหมือนกัน เห็นทาง ธปท บอกว่าพอใจกับมาตรการเพราะ "ชะลอ" การแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเปรียบเทียบกับเงินในภูมิภาค

ไม่รู้ว่าจุดประสงค์หลักนี่คือชะลอหรือเปล่า

แล้วเมื่อไหร่จะเลิกชะลอ จะปล่อยตามตลาดเมื่อไหร่

คำถามคือเราสามารถลดดอกเบี้ยก่อนอเมริกาได้มั้ย ในเมื่อเศรษฐกิจเราชะลอตัวด้วยระเบิดและเหตุการณ์ต่างๆ

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 08, 2007 8:02 pm
โดย chatchai
ท่านก็พูดแก้เกี๊ยวไปเรื่อยๆ

หลังประกาศนโยบาย  ผมได้ยินบางคนพูดว่าอยากเห็นค่าเงินบาทซัก 37 บาท  ผู้ส่งออกก็บอกว่าถ้าให้แข่งขันได้ก็ต้อง 38 บาทขึ้นไป

แต่นี่  ค่าเงินบาทแข็งค่าได้แค่แถว 36 บาท  เลยอยากมาพูดว่าพอใจเพราะชะลอการแข็งค่าเงินบาทได้

แล้วคุ้มไหมละครับ  แข็งขึ้น 1 บาท  ไม่ถึง 3% เลย

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 08, 2007 11:21 pm
โดย สุมาอี้
ได้อ่านที่ดร.ศุภวุฒิเขียนในกรุงเทพธุรกิจวันนี้ด้วย ท่านบอกว่า เคยมีการวิจัยพบว่าการส่งออกของไทยจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับGDPโลกและ GDPของบริษัทคู่ค้าสำคัญมากกว่าที่จะขึ้นอยู่กับค่าเงิน ลองนึกดูในอดีตที่ผ่านมาผมก็เห็นว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ

ฟังวิทยุดร.ก้องเกียรติบอกว่าคนเล่นหุ้นและคนซื้อกองทุนมีประมาณ 4.7 ล้านคน ตลาดหุ้นจึงเป็นแหล่งออมเงินของคนจำนวนมากเหมือนกัน

จะให้ตลาดหุ้นทั้งตลาดพังย่อยยับเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกรวมๆ แล้วก็อาจมีโทษมากกว่าคุณก็ได้

ผมเคยได้ยินว่าเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้หมายถึงการปิดประเทศเพื่ออยู่โดดเดี่ยว หวังว่าผู้มีอำนาจคงจะเห็นเช่นนั้นเหมือนกัน

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 08, 2007 11:30 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

จะให้ตลาดหุ้นทั้งตลาดพังย่อยยับเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกรวมๆ แล้วก็อาจมีโทษมากกว่าคุณก็ได้ 
ไม่เคยเชื่ออยู่แล้ว ว่าใครจะทำอะไรด้วยเหตุผลที่ประกาศออกมา

เค๊าเรียกอะไรนะ

วาระซ่อนเร้น เหรอ

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 08, 2007 11:44 pm
โดย lekmak333
ผมมั่นใจว่า ตลาดหุ้น ซบเซา มีผลกระทบ ต่อธุรกิจนอกตลาดแน่นอน

ถ้ารัฐมีเจตนาไม่สนใจ เพิกเฉยต่อตลาดทุน ระบบอื่นๆก็จะแย่ตามไปหมด

เด็ดดอกไม้ มันสะเทือนถึงดวงดาว

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 7:59 am
โดย Muffin
เห็นด้วยครับว่า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป
ไปหมดแน่นอนครับ

สมองไหล...
เงินลงทุนไหลออก...

ในขณะที่ประเทศอย่างสิงคโปร์และสหรัฐอเมริกา ส่งเสริมตลาดทุน (นอกจากในประเทศแล้ว ส่งเสริมให้คนอื่นเอาเงินมาลงทุนด้วย เช่น คนไทย) และสร้าง Brain Gain อย่างมหาศาล...

ก็ดีครับ...แบบนี้ ปกครองง่ายดีครับ...

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 9:12 am
โดย tachikoma
lekmak333 เขียน:ผมมั่นใจว่า ตลาดหุ้น ซบเซา มีผลกระทบ ต่อธุรกิจนอกตลาดแน่นอน

ถ้ารัฐมีเจตนาไม่สนใจ เพิกเฉยต่อตลาดทุน ระบบอื่นๆก็จะแย่ตามไปหมด

เด็ดดอกไม้ มันสะเทือนถึงดวงดาว
:cool:
Butterfly Effect สินะครับฺี

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 10:18 am
โดย 007-s
lekmak333 เขียน:
เด็ดดอกไม้ มันสะเทือนถึงดวงดาว
เด็ดกุหลาบแก้ว สะเทือนนอมินี่

:lol:

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 10:56 am
โดย buglife
รัฐชุดนี้ต้องการล้างไพ่ใหม่หมดแน่นอน
สมานฉันท์ครับ พี่น้อง  :lol:

การกระทำเป็นเครื่องบอกเจตนา

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 5:01 pm
โดย Gaiz
tachikoma เขียน: Butterfly Effect สินะครับฺี
น่าจะเรียกว่า "อุ๋ย Effect" นะครับเนี่ย

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 9:02 pm
โดย Viewtiful Investor
เด็ดกุหลาบแก้ว สะเทือนนอมินี่
Cool 555

คิดว่าหม่อมอุ๋ยและรัฐบาลได้คิดถึงข้อนี้กันบ้างไหมครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 10, 2007 11:25 am
โดย tanate@man
007-s เขียน: เด็ดกุหลาบแก้ว สะเทือนนอมินี่

:lol:
เด็ดดอกอุ๋ยนี่ซี สะเทือนทั่วโลกา :D