หน้า 1 จากทั้งหมด 5
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 05, 2007 10:01 pm
โดย Jeng
เหตุผล
1. ptt ต้องนำเข้าน้ำมัน ใช่ปะ ยอดซื้อน่าจะเยอะมาก เมื่อเทียบกับการนำเข้า ตอนนี้ค่าเงินบาทแข็ง ก็จะทำให้ ptt ต้นทุนต่ำลง
2. ราคาน้ำมันต่ำลง ทำให้ ต้นทุนต่ำลง
3. ราคา ptt ในตลาด ต่ำมาก 192 สมัยก่อน อยากซื้อก็ซื้อไม่ได้เพราะแพง
4. ก่อนหน้านี้เคยรู้ผ่านๆ ว่า ptt ได้หุ้น tpi และ เร็วๆนี้ก็มี โรงกลั่นระยองเข้ามาอีก
ถึงแม้ว่า เราจะแย่ ใน 3 เรื่องใหญ่ คือ ท่องเที่ยว ส่งออก และการลงทุนของต่างประเทศ
ผมคิดว่า กระทบต่อ การใช้น้ำมัน และแก๊สน้อย
ปัจจัยหลักที่กระทบ ptt คือการเมือง ในเรื่องที่จะนำ ptt ออกจากตลาด
ผมเดาว่า
ptt น่าจะเป็นแหล่งผลประโยชน์ของทุกกลุ่ม รวมทั้งกลุ่มการเมือง การเข้าไปเป็นของรัฐ ไม่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผลประโยชน์เดิม
เมื่อการเมืองกลับมามั่นคง ยังไง ptt และกลุ่ม ก็จะครองมาร์เก็ตแชร์ที่สูงที่สุด ในตลาดหุ้นไทย
ผมไม่อยากเห็นว่า เมื่ออะไรๆ ผ่านไปเรียบร้อย กับกลายเป็น ptt ไม่ออกจากตลาด และแล้ว ต่างชาติถือหุ้น ptt สูงขึ้นอีก
แล้ว พวกเราก็เข้าไปซื้อตอนสูงอีก
ปัจจัยเสี่ยงคือ การเมือง เราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อตอนนี้ แต่ผมมองไม่เห็นว่า หุ้นแบบนี้ จะเป็นวัฎจักรอย่างไร
เพราะ ptt มีความใหญ่มาก เป็น monopoly และยังไม่นับ การที่กระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ ยิ่ง monopoly เข้าไปใหญ่เลย
สมัยรัฐบาลที่แล้ว ถ้า ptt ไม่ monopoly แล้ว ไปนำเข้าน้ำมันมาขาย ในขณะที่ค่าเงินไทยอ่อน และ น้ำมันแพง ถ้าเป็นการค้าปกติ ptt คงเจ๊งไปแล้ว
แต่ ptt ก็ขึ้นราคาได้
มาตอนนี้ อะไรๆ ก็เป็นข่าวดีสำหรับ ptt แต่ ไม่มีใครพูดถึงเพราะอะไร
ยิ่งเห็นราคา ptt ลง เราก็กลัว ว่าจะลงต่อ ทำให้เราขาย ptt ใช่หรือไม่
ฝากช่วยกันคิดครับ
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 12:28 am
โดย Jeng
comment ท่าน eto
โค้ด: เลือกทั้งหมด
Jeng wrote:
อ้าวเหรอ ไม่ได้ดูเท่าไร
แล้วนำมันดิบ ขึ้น นี่ ptt กำไรเหรอ ท่านบักไลฟ์ แล้วพอลง จะขาดทุนเหรอครับ
ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสุก มีความเกี่ยวพันกัน แต่ไม่จำเป็นต้อง
วิ่งตามกันไปในทางเดียวกันเสมอไป
ปกติแล้วการต้มน้ำมันดิบนั้น จะได้น้ำมันสุกออกมาหลายๆ ชนิด
โรงกลั่นจะสามารถปรับให้กลั่นน้ำมันสุกชนิดหนึ่งมากกว่าอีกชนิดหนึ่งได้
แต่ทำได้ในขอบเขตจำกัด
น้ำมันสุกที่ขายดีที่สุดคือ เบนซิน รองลงมาคือดีเซล
บริษัทขายน้ำมัน (ปตท.) จะต้องซื้อน้ำมันสุกจากโรงกลั่น
คือ TOP IRPC หรือ RRC ก็คือจ้างบริษัทพวกนี้กลั่นให้
น้ำมันสุกที่ขายดี จะทำให้โรงกลั่นต้องสั่งน้ำมันดิบเข้ามากลั่นมากขึ้น
โดยน้ำมันสุกที่ขายไม่ดี (เช่นดีเซลหรือน้ำมันเตาหรือยางมะตอย)
จะเหลือ ทำให้ราคาตก (ถ้าเป็นไปตามกลไก demand supply)
และจะทำให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น แม้ว่าน้ำมันสุกที่เป็นที่ต้องการ
จะเป็นเพียงชนิดเดียวก็ตาม
ดังนั้น เรามักจะเห็นว่า เมื่อความต้องการเบนซินในสหรัฐฯ สูง
หรือ stock น้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ ลดลง ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้น
ทั้งนี้เพราะความต้องการน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ในขณะที่น้ำมันที่ใช้ในการทำความร้อน เป็นน้ำมันดีเซล
ดังนั้น ในหน้าหนาว ดีมานด์ของน้ำมันดีเซล จะกำหนดราคาน้ำมันดิบ
กลับมาเมืองไทย ก่อนที่จะงงไปกว่านี้
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง ทำให้ต้นทุนน้ำมันสุก
ของปตท.ต่ำลง เพราะโรงกลั่นคิดค่ากลั่นเป็น cost plus
(เอาน้ำมันดิบมาคูณ %)
ถ้าปตท.ลดราคาลงมา จนน้ำมันมีการใช้มากขึ้น
แล้วโรงกลั่นในไทยเต็ม capacity ก็ต้องโทรสั่งจากสิงค์โปร์
ถ้าสิงค์โปร์เต็มอีก ก็ต้องโทรสั่งจากดูไบ
ทำให้ต้นทุนน้ำมันสุกสูงขึ้น แม้ว่าต้นทุนน้ำมันดิบจะลดลง
กลับมาที่คำถามพี่เจ๋ง หลังจากวนรอบโลกไปหนึ่งรอบ
น้ำมันดิบราคาถูกลง ptt จะขาดทุนรึเปล่า -- ไม่ครับ
น้ำมันดิบราคาถูกลง ptt จกำไรลดรึเปล่า -- เป็นได้ครับ
เพราะปตท.คิดราคาน้ำมัน (ตามปั๊ม) เป็น cost plus
เมื่อราคาลดลง margin ก็ลด กำไรก็ลด
น้ำมันดิบราคาถูกลง ปริมาณการใช้ในไทยเพิ่มรึเปล่า -- คงเพิ่มครับ
แต่ความวุ่นวายในเมืองไทย ทำให้ consumption ลดลงมากกว่า
โดยรวมคือ กำไรของ ptt จากส่วนนี้ จะลดลงแน่นอนครับ
ส่วนกำไรจากปิโตรเคมี -- เป็นเรื่องของวัฎจักร commodity ครับ
คือ driven by demand and supply
สรุปว่า PTT ถุกหรือแพง ยากที่จะบอกครับ นอกจากคนในวงการปิโตรฯ
PTT เอง ผมคิดว่าไม่ได้ทำ petrochem ครบวงจร ดังนั้นวัฎจักรจะมีผลมาก
กว่าหุ้น petrochem ตัวอื่นๆ หน่อย
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 12:46 am
โดย phobenius
ถ้าในใจผม
น้ำมันขึ้น ปตท ขึ้น น้ำมันลง ปตท ก็ลง
มันเป็นกลไกจิตวิทยาง่ายๆ ไม่ต้องลึกซึ้งมากมาย
การที่จะเปลี่ยนมันตอนนี้คงยากครับ
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 2:35 am
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ถ้าในใจผม
น้ำมันขึ้น ปตท ขึ้น น้ำมันลง ปตท ก็ลง
มันเป็นกลไกจิตวิทยาง่ายๆ ไม่ต้องลึกซึ้งมากมาย
การที่จะเปลี่ยนมันตอนนี้คงยากครับ
ถ้าไม่มีปัญหาการเมือง แล้วตอนนี้ ptt ราคา 360 ยังจะคิดแบบนี้หรือไม่ ?
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 6:17 am
โดย อกาลิโก
ptt ดีมั้ย แต่รู้ว่าความเป็นวัฎจักรน้อยลง
ไตรมาสที่3 กำไรไม่ลด
ถ้าเราเห็นความผันผวนของราคา แล้วทนไม่ไหว
ไม่ควรถือ
ราคาพนักงานใช้สิทธิ์ที่183บาทต่อหุ้น
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 6:31 am
โดย 121
ขายมา...ขายมา
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 11:16 am
โดย Jeng
มองแบบง่ายๆ 9 เดือนที่เห็นกำไร คือ 80000 ล้าน
ทั้งปี สมมุติเล่นๆ กำไร 100000 ล้าน
ราคาทั้งบริษัทตอนนี้ 540000 ล้าน
นี่เราซื้อราคานี้ได้กำไร ปีที่แล้วมา 100000 ล้าน ต้นทุนเหลือ
440000 ล้าน
ปี 2550 กำไรเท่าไรดี เอาแบบกำไรลดละกัน เหลือ 80000 ล้าน สมมุตินะ
pe จะเหลือเท่าไร
ไม่เห็นต้องคิดมากเลย
192 ผมว่าถูก ยิ่งลง ยิ่งถูก
ถ้าเหตุการการเมืองเปลี่ยนแปลง แล้วมีผลให้ราคาลงไปอีกมากๆ ก็ ซื้อ ซื้อ ซื้อ
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 12:32 pm
โดย kondee
ระบบบัญชีใหม่จะมีผลกับ ปตท หรือป่าว??
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 1:43 pm
โดย สามัญชน
jaychou wrote
ผมคิดว่า PTT นี่แหละเกินพื้นฐาน ผมไม่ทราบนะว่าใครถือ และผมไม่ได้อยากซื้อนะครับ
เหอๆ เรามองความจริง PTT ก็เป็นหุ้นวัฏจักรที่ปลายๆแล้ว ลองคิดสมัยราคาจอง 35 บาท คนไม่อยากซื้อซิ
โอกาสลงขนาดไหน โอกาสขึ้นขนาดไหน
ผมบอกให้เลยตัวเกินพื้นฐาน บานเลย
แบบนี้มองลบหรือมองความจริง ครับ
ผมเห็นด้วยกับน้องเจย์นะครับ
1. วัฏจักรพลังงาน(รวมโรงกลั่นรวมแก๊สของปตท.สผ.ด้วย)และปิโตร เริ่มมาสามสี่ปีแล้ว ตอนนี้น่าจะเป็นช่วงปลายๆวัฏจักร การคาดการณ์กำไรของหุ้นวัฏจักรไม่สามารถทำได้เหมือนหุ้นเติบโต
เพราะมีความผันผวนสูงมาก ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
2. ราคาหุ้นเหล่านี้ก็แสดงตัวในรูปแบบ
clssical type มาตลอดในช่วงสามสี่ปีที่ผ่านมา แม้ที่ราคา 230 บาทเมื่อต้นปี ตอนนั้น p/e ก็ไม่ได้มากมายอะไรเพราะอยู่ที่ 6-7 เท่า แล้วทำไมหุ้นที่มีคนดูทั้งตลาด(ที่จริงทั้งโลกเพราะต่างชาติก็นิยมมาก)ถึงไม่ขึ้นไปอยู่ที่ p/e สัก 15 เท่าให้สมกับเป็นหุ้นจ้าวตลาดเพราะครองมาร์เก็ตแชร์สูงมาก และเป็นธุรกิจที่มีกำแพงกั้นพอสมควร ใครจะมาแข่งด้วยจะต้องมีเงินเป็นแสนล้านถึงจะแข่งได้
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 1:45 pm
โดย สามัญชน
3. คำตอบน่าจะเป็นเพราะจริงๆแล้วมันเป็นหุ้นวัฏจักร และเมื่อขนาดใหญ่ขึ้นมากๆแล้วทำให้กลายไปเป็นหุ้นแข็งแกร่งด้วยซึ่งยิ่งเทอะทะไปใหญ่ เมื่อมันแสดงตัวในรูปแบบคลาสสิคมาตลอด แล้วอะไรจะมีกำลังมากพอที่จะทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนไปจากรูปแบบที่เป็นอยู่
4.จากวัฏจักรพลังงานซึ่งเกิดขึ้นมานานสามสี่ปีแล้วทำให้พื้นฐานวันนี้ไม่เหมือนวันวาน
ยกตัวอย่างหุ้นเหล็ก เมื่อสามสี่ปีก่อน ตอนที่ราคาเหล็กขึ้นมาสุดๆ เมื่อก่อนกำลังการผลิตเหล็กในเมืองไทยไม่ได้มากมายขนาดนี้ แต่วันนี้ ssi ก็ขยายกำลังผลิตมหาศาล nsm ก็ใช่ ms ก็ไม่น้อยหน้า นี่ยังไม่นับรวมรายอื่นๆอีกมาก และนี่นับเฉพาะในเมืองไทย เมืองซึ่งไม่มีแร่เหล็กเป็นของตัวเอง เมืองนอกจะเพิ่มมากขึ้นขนาดไหน วัฏจักรเหล็กก็จะเกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมารอบแล้วรอบเล่า สู่ยุคตกต่ำกลับไปรุ่งเรืองกลับมาตกต่ำและกลับไปรุ่งเรืองไม่มีสิ้นสุด ถามว่าทำไมถึงไม่เรียนรู้ ก็เพราะเหตุปัจจัยเป็นเช่นนี้ ผลจึงเป็นเช่นนี้ ในอนาคตระยะยาวๆอาจจะมีกลุ่มที่เรียนรู้และหาประโยชน์จากวัฏจักรแต่ก็จะมีกลุ่มใหม่ๆพลัดหลงมาหมุนกงล้อเดิมไปเรื่อยๆ
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 1:50 pm
โดย สามัญชน
5.วัฏจักรพลังงานก็จะซ้ำรอยวัฏจักรอื่นๆ แต่ความรุนแรงอาจจะไม่เหมือนเดิมเปี๊ยบ
น้ำมันดิบเดินทางมาสู่ยุคปลายๆ เพราะน้ำมันใกล้จะหมดโลกแล้ว ถ้าการใช้อยู่ในอัตราปัจจุบันก็อาจจะหมดภายใน 40 ปี ดังนั้นระยะท้ายๆของวัฏจักรอาจจะจึงอาจจะมีรูปแบบไม่เหมือนเดิม ราคาน้ำมันอาจจะขึ้นไปโดยไม่ลงมาก็ได้
ซึ่งแปลว่าหุ้นวัฏจักรตัวนี้จะทำตัวไม่เหมือนวัฏจักรตัวอื่นๆ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ผู้ถือหุ้น ptt ก็จะรวยเละ
6.สามสี่ปีที่ผ่านมาการค้นหาแหล่งน้ำมันเป็นไปอย่างคึกคักเพราะเป็นช่วงสดใสเหมือนงานเลี้ยงซินเดอเรล่าที่ใครๆก็กระเป๋าตุง แท่นขุดเจาะน้ำมันเกิดขึ้นจำนวนมาก แม้แต่ สผ.เองยังสยายปีกไปหาน้ำมันกับเขาถึงตะวันออกกลาง แล้วประเทศต้นตำหรับเขาจะไม่ทำหรือ ใครล่ะที่จะไม่ไปงานเลี้ยงแล้วเลือกที่จะนอนอยู่บ้านเฉยๆเงียบๆเหงาๆทั้งที่กระเป๋าตุงกันหละ ซินเดอเรล่าจนแสนจนยังไปกับเขาเลย......
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 1:51 pm
โดย สามัญชน
7.อันนั้นเป็นเรื่องวัตถุดิบ ถ้าดูเรื่องโรงกลั่นน้ำมัน ก็จะพบว่า ในเมืองไทยมีการขยายโรงกลั่นน้อยมาก โรงกลั่นในมือ ptt คงจะยังดูมีอนาคตอีกยาวนาน เพราะ supply ไม่ได้เพิ่มเท่าไหร่
8. ซึ่งแตกต่างจากโรงงานปิโตรเคมี ลำพังการขยายโรงงานในประเทศไทยก็ถือว่ามหาศาลแล้ว ถ้าดูต่างประเทศจะยิ่งมากมายยิ่งกว่านี้
9. ทั้งหมดนี้วิเคราะห์โดยยอมปิดตามองข้ามความเสี่ยงทางการเมืองนะครับ ถ้า ptt โดนยึดกลับไปเป็นของรัฐเหมือนเดิมคงดูไม่จืดจริง และเป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับรัฐบาลแบบนี้ ใครเคยคิดไหมล่ะครับว่ารูปแบบการบริหารประเทศจะพลิกกลับไปกลับมาเหมือนเด็กเล่นขายของได้
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 1:52 pm
โดย สามัญชน
10. ที่สำคัญและเป็นลักษณะที่ ปีเตอร์ ลินช์ไม่ชอบก็คือ หุ้นตัวนี้เป็นที่นิยมมากทั้งไทยและเทศ วอลุ่มซื้อขายมหาศาล เชื่อได้เลยว่าพื้นฐานของบริษัทถูกวิเคราะห์โดยนักลงทุนระดับโลกและผู้เชี่ยวชาญในวงการพลังงานทั้งข้อมูล inside outside เขาเข้าถึงมากกว่าเรามาก เรามีโอกาสได้เปรียบเขาน้อยมากๆ
11. บัฟเฟตต์บอกว่า หลังงานเลี้ยงจบลง รถม้าทองคำของซินเดอเรล่าก็จะกลับกลายมาเป็นฟักทองเหมือนเดิม......
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 3:24 pm
โดย jiras
คุณสามัญชนวิเคราะห์ได้สุดยอดครับ แม้จะไม่เห็นด้วยเรื่องโรงกลั่น ที่ผมมองว่าต่อไปกำไรจะบางเฉียบ
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 3:27 pm
โดย naris
สิ่งที่น่าหลงไหลของเวปTVIก็ตรงนี้แหละ ตรงที่....
ผู้เยี่ยมยุทธ มาแสดงวิธีการเดินหมากแต่ละก้าวให้ ผู้น้อยอย่างเราได้ดูชม
ข้าน้อยขอคาระวะ1000จอก ให้อาจารย์ทั้งสามท่าน
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 5:39 pm
โดย shaneshane
ผมว่าptt โตเพราะยอดขายมากกว่า ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิ เฉลี่ยอยู่ที่ 8-9% มาหลายปีแล้ว(ในปี 2002 อยู่ที่ 6 %)
ส่วนในขณะที่หุ้นเรือ อัตรากำไรสุทธิ โตจาก 10% ไป 40 % (tta)
หุ้นเหล็ก ก็เช่นกัน จาก กำไรสุทธิ 15-20 % เหลือ 5 % ในขณะนี้
แล้วที่สำคัญเฉพาะบริษัทลูก ของ ptt ใน set ก็มีมูลค่า กว่า สามแสนล้านแล้ว เพราะฉะนั้น ตัวptt เอง ตลาดประเมินว่ามีราคาแค่ สองแสนล้านกว่าเอง
pttep มี 60 % = ~สองแสนล้าน
pttch = ห้าหมื่นล้าน
top = ห้าหมื่นล้าน
rrc = สองหมื่นล้าน
irpc = สีหมื่นล้าน(31 %)
bcp = ??
ยอดขายปีนี้ น่าจะประมาณ 1.3 ล้านล้าน ถ้าอัตรากำไรสุทธิลดลงเหลือ 5 %
ปีนึง ก็จะได้กำไรประมาณ เจ็ดหมื่นล้าน pe ก็ประมาณ 7-8 เท่านั้น
ราคานี้ผมว่า ptt ถูกมากๆ
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 6:58 pm
โดย Minesweeper
อืมถูกจริงๆ ด้วย ถ้างั้นก็คงเหลือแต่เรื่องการเมืองซิครับที่กดดันอยู่
แต่เอาเหอะ ปีที่แล้วสอนผมเยอะ ว่าอะไรที่ไม่คิดว่าจะเกิด ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
บางอย่างก็ประเมินโอกาสที่จะเกิดไม่ได้ง่ายๆ ซะด้วย
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 6:58 pm
โดย สามัญชน
5.วัฏจักรพลังงานก็จะซ้ำรอยวัฏจักรอื่นๆ แต่ความรุนแรงอาจจะไม่เหมือนเดิมเปี๊ยบ
น้ำมันดิบเดินทางมาสู่ยุคปลายๆ เพราะน้ำมันใกล้จะหมดโลกแล้ว ถ้าการใช้อยู่ในอัตราปัจจุบันก็อาจจะหมดภายใน 40 ปี ดังนั้นระยะท้ายๆของวัฏจักรอาจจะจึงอาจจะมีรูปแบบไม่เหมือนเดิม ราคาน้ำมันอาจจะขึ้นไปโดยไม่ลงมาก็ได้
ซึ่งแปลว่าหุ้นวัฏจักรตัวนี้จะทำตัวไม่เหมือนวัฏจักรตัวอื่นๆ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ผู้ถือหุ้น ptt ก็จะรวยเละ
ขออณุญาตขยายความหน่อยครับ
เป็นเพราะผมมองว่า ณ.ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 192 บาท p/e 5.56 p/b 1.98 ซึ่งราคานี้ก็ไม่แพง เพราะนายตลาดตกใจขายจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาหยกๆ ถ้าสภาพตลาดดีๆ ราคาสามารถขึ้นไปได้ถึง p/e7-8 เท่า หรือ 275 บาทก็ไม่น่าเกลียดอะไรสำหรับหุ้นที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้ แต่ถ้าจะขึ้นไปเท่าตัว 394 บาทอาจจะค่อนข้างยาก
แต่โอกาสที่ราคาจะลงก็มีได้เสมอเพียงแค่บริษัทลูกกลุ่มปิโตรเคมีเริ่มแสดงผลขาดทุนหรือโรงกลั่นทำกำไรน้อยลง p/e ที่ราคานี้ (192) จะกลับกลายเป็นสูงปรี๊ดทันที ซึ่งมีโอกาสเกิดสูงเหมือนกัน
ผมจึงเห็นด้วยกับพี่อีโต้ที่ว่า
ดังนั้น ผมว่า กรอบบน (upside gain) ของ ptt มีไม่มาก
อย่างมากถ้าทุกอย่างสงบนิ่ง ราคาอาจจะไปซัก 230 - 250
ในขณะที่ความเสี่ยงที่ราคาจะลงไป 100 ต้นๆ กลับมีมากกว่าเยอะ
ผมเดาเอาว่า อาจจะเห็น 125 ก่อนจะเห็น 250 ครับ
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 10:28 pm
โดย poppo
สุดยอดเลยกระทู้นี้ ได้ความรู้มากๆ
อยากเห็นคุณ offshore engineer, คุณสุมาอี้ และ พี่วิบูลย์มาร่วมบรรเลงในกระทู้นี้ด้วยจัง จะได้รู้สึกเหมือนฟังเพลงคลาสสิคเต็มวง
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 10:34 pm
โดย Jeng
ถ้ายังจำกันได้ตอน ktc ลงไป 16 book 23 ในขณะที่มีกำไร 347 ล้านในรอบ 9 เดือน
ณ เวลานั้น ไม่มีใครสนใจ เพราะมีแต่ข่าวร้ายเรื่อง หนี้เสีย ทั้งๆที่ ตอนนั้นก่อน ปฎวัติ
มา ณ เวลานี้ หลังจาก ปฎิวัติ + หม่อม 108 + ระเบิด
แต่ไม่มีคนพูดเรื่องหนีเสียกันแล้ว
ktc อยู่ที่ 26.50
........................................................................
กรณี tta ก็เช่นกัน ราคาลูดลงจน เหลือ 18 เซียนหลายคนได้แต่บอกว่า เห็นมั๊ย เวลาควรซื้อไม่ซื้อ เวลาไม่ควรซื้อดันซื้อ
สุดท้าย tta วิ่งไป 27 ณ เวลา นี้
ผ่าน ปฎิวัติ + หม่อม 108 + ระเบิก
ราคาก็ยัง 24 บาท
........................................................................
ดูเหมือนว่าบ้านเราเล่นหุ้นกันแบบนี้
เมื่อหุ้นตัวไหนขึ้นมากๆ ก็พยายามค้นหาแต่ข่าวดี
เมื่อราคาขึ้นไปอีก เราก็ยิ่งมั่นใจว่า ใช่เลย เห็นมัย ถูกต้องแล้ว
เมื่อหุ้นตัวไหนลงมากๆ ก็ค้นหาแต่ข่าวร้าย
เมื่อราคาหุ้นตกลงไปอีก เราก็ยิ่งมั่นใจว่า ใช่เลย เห็นมั๊ย ถูกต้องแล้ว
............................................................................
ผลทีเกิดหลังจากหุ้นขึ้นมากๆ และมี่ข่าวดี กับ หุ้นลงมากๆ และมีข่าวร้าย เราเลิกคุยกันแล้ว
เพราะหลายคนก็งงว่า อืม ไม่รู้เหมือนกัน ทำไมลงขนาดนั้น
หรือ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมขึ้นขนาดนั้น
..............................................................................
ถ้า ptt ลงไป 150 ผมว่า มีอีกหลายคนมั่นใจที่วิเคราะห์ไว้
ซึ่งก็น่าจะจริง ถ้ามันลงไปนานๆ เลย
แต่ถ้า มันลงไป 150 แล้ว ไม่นาน วิ่งไป 300 เราน่าจะมาถกกัน และปรับแนวคิดกันใหม่
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 11:02 pm
โดย WhiskeySierra
ต้นเหตุที่แท้แห่งมูลค่าหุ้นคือตัวธุรกิจ ไม่เห็นมีใครพูดถึงตัวธุรกิจจริงของ PTT ว่ากำไรได้อย่างไร ธุรกิจอะไรบ้าง ขายได้เท่าไหร่ สรุปแล้วหาราคาที่เหมาะสมได้เท่าไหร่ ด้วยวิธีอะไร และหุ้นอื่นที่ลงแล้วขึ้นก็มีมากกว่านี้ PTT อาจจะลงแล้วขึ้นหรือไม่ขึ้นก็ตามแต่ แต่ก็ไม่เกี่ยวกับ KTC TTA อย่างแน่นอน
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 11:12 pm
โดย อองตวน
อ่านความเห็น คุณsierra ทีไร ผมคิดถึงคุณครูดุๆถือไม้เรียว ยังงั้น อ่ะคับ
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 06, 2007 11:54 pm
โดย Jeng
tta เคยบอกว่าน่าซื้อที่ 30 กว่าจิงครับ
หลังๆ tta 18 ไม่ได้บอกครับ เพราะว่า ไม่มีใครชอบทำการบ้าน ว่าราคาลงสุดๆเท่าไรน่าซื้อ
แต่บอกน้องๆบางคนครับ
ktc บอกว่าน่าซื้อตอน 23 ครับ พอประกาศผลไม่เป็นไปตามเป้า มีคนโพสถาม ว่าเอาไง ก็ตอบไปแล้วครับ ว่าขาย ขาย ขาย
แล้วติดตามต่อ ราคาลงเหลือ 16 ครับ
ก็ได้แต่บอกน้องๆบางคนครับ ไม่ได้โพส เหตุผลเดียวกันคือ
ไม่มีใครร่วมด้วยช่วยกันศึกษา ว่า ราคาที่ลดลงมาสุดๆ ตรงไหนน่าซื้อครับ
อย่างมากก็ช่วยกันมองว่ามันแย่อย่างไร
ผมคิดว่า ไม่ว่าสื่อ หรือนักวิเคราะห์ หรือพวกเรากันเอง ก็เป็นแค่ ส่วนประกอบที่ช่วยกันผสมโรง ให้หุ้น ลง หรือ หุ้นขึ้น เกินพื้นฐานครับ
อย่าง ptt ตอนนี้
ผมว่าราคานี้น่าซื้อครับ ตั้งแต่ต่ำกว่า 210 น่าซื้อ แต่ไม่ใชว่า ราคาจะไม่ลงครับ
แล้วก็มาดูกันต่อไป ผิดหรือถูกก็เป็นประสบการณ์ครับ
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 12:04 am
โดย Jeng
อย่างไรก็ตาม กรณี tta ยังติดใจเล็กน้อย
ถ้าไม่มีราคาในตลาดเลย คุณที่ ซื้อตอน 30 กว่านี่ ขาดทุนจริงหรอ หรือนั่งดีใจกับผลประกอบการ โดยตลอด ว่าคุ้มค่าจริงๆ
การใส่ใจแต่เรื่องราคา ดูเหมือนจะหลุดแนว vi ไปมากจริงๆ
เฉพาะปันผล ก็น่าจะแฮปปี้แล้วนะ
ผมก็ยังติดตาม tta อยู่นะครับ ว่าเป็นไงต่อไป
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 12:12 am
โดย phobenius
เยี่ยมยุทธจริงๆครับ
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 12:25 am
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ต้นเหตุที่แท้แห่งมูลค่าหุ้นคือตัวธุรกิจ ไม่เห็นมีใครพูดถึงตัวธุรกิจจริงของ PTT ว่ากำไรได้อย่างไร ธุรกิจอะไรบ้าง ขายได้เท่าไหร่ สรุปแล้วหาราคาที่เหมาะสมได้เท่าไหร่ ด้วยวิธีอะไร และหุ้นอื่นที่ลงแล้วขึ้นก็มีมากกว่านี้ PTT อาจจะลงแล้วขึ้นหรือไม่ขึ้นก็ตามแต่ แต่ก็ไม่เกี่ยวกับ KTC TTA อย่างแน่นอน
คุณ WhiskeySierra
ภาษาอาจจะไม่สื่อเท่าไร
สมัยก่อนเวลาผมพูดถึง bigc ว่าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ โดยยกตัวอย่าง wall mart
ท่านๆก็แซวว่า bigc ไม่เหมือน wall mart ประเทศไทยกับเมกา ไม่เหมือนกัน และ bigc ก็ไม่ใช่ big player เพราะมี คาร์ฟู โลตัส
เพราะฉะนั้นเอา wall mart มาเทียบไมได้
ผมก็ตอบว่า ผมพยายามเข้าใจ bigc ไมให้เทียบ wall mart จะให้ผมไปเทียบกับโรงงานเหรอ หรือว่าเทียบกับส่องออกดี
เรื่องที่ผมเอา ktc tta มาเทียบก็เหมือนกัน
ก็ขอให้ดูประเด็นที่เทียบ หากไม่ดูประเด็นที่เทียบ หรือไม่เข้าใจประเด็นที่เทียบ
ท่านก็ถูกต้องครับ ว่าไม่เกี่ยวกับ ptt เลย
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 1:25 am
โดย WhiskeySierra
It's Advertising not Analysis. IMHO
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 2:10 am
โดย Jeng
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 2:25 am
โดย Jeng
จริงๆถ้าอยากอ่านบทวิเคราะห์ ก็มีให้อ่านเยอะแยะ ในเว็บ ก็ไม่ใช่นักวิเคราะห์ เราก็เป็นนักลงทุน มาพูดคุยกัน
ยกตัวอย่าง ของกิมเอ็ง
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ปรับประมาณการผลกำไรทั้งปีเพิ่ม สะท้อนกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
จากการที่ผลกำไรสุทธิงวด 9 เดือนของบริษัทที่มีกำไร 79,701 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 28.49 บาท คิดเป็น 90% ของประมาณการผลกำไรสุทธิในปีนี้ของเราเดิมที่ 88,816 ล้านบาท หรือ 31.75 บาท/หุ้น บวกกับแนวโน้มผลกำไรไตรมาส 4/49 ที่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีและผลกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นที่บริษัทบันทึกไป 8,071 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เราปรับปรับประมาณการผลกำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้เพิ่มขึ้น 9% เป็น 96,886 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 34.64 บาท เติบโต 13% yoy แต่กำไรปกติยังคงประมาณการเดิมที่ 81,865 ล้านบาท หรือ 29.20 บาท/หุ้น ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายอยูที่ PER 7.1 เท่าของปี 2550 และมี upside 44% จากราคาตามปัจจัยพื้นฐานที่ 325 บาท ตามวิธี sum-of-the-part เรายังแนะนำ ซื้อ สำหรับ PTT
ส่วนผมก็วิเคราะห์ ในแนวทางของผมนะครับ ส่วนคุณ คุณ WhiskeySierra
จะคิดว่าผม โฆษณา อะไรก็คิดได้คับ
เรามีเว็บบอร์ดไว้พูดคุยกันครับ
คิดแล้ว ptt ดีที่สุด ณ เวลานี้
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 5:41 am
โดย Jangster
So i just joined the board and would like to chime in some opinions krub
here goes my first post...
IMHO is an acronym slang for In My Humble/Honest Opinion krub.
On the matter, PTT is somewhat a bargain, but one should consider the risk and return like some of the previous investors have said krub. 192 baht is a steal, but nonetheless people still sell.
I personally think it is a lot about confidence right now. PTT may not have the same growth in capital gain anymore with price surpassing 200, but people still and will trade at high price because it carries a brand name on it. Many average investor will buy PTT because of its name, popularity, and possibly its history. There many stocks that new investors don't realize, but these are the stocks that will separate the boys from men krub.
It's much easier to buy stocks with big cap that everyone knows. The likes of SCC, PTT, BBL, etc will have slower gains than many like SEAFCO in the past. But obviously, greater risk will have a higher CHANCE of higher return.