Thai VI

ปกติถ้าซื้อหุ้นตัวหนึ่งด้วยวงเงิน margin  หุ้นลงกี่% จะโดน force sell ครับ
ถ้าไม่มีเงินมาวางค่า maintenance เพิ่ม

CK เขียน: มีดตกอย่าเพิ่งเอามือไปรับครับ

 

เข้าใจว่าปกติคือ -30% มั้งคะ

แต่ไม่แน่ใจว่าแต่ละตัวเท่ากันหรือไม่

สงสัยว่าหุ้นบางตัวกำลังโดน force sell ครับ
แต่อาจจะเป็นแค่ขายลดความเสี่ยงก็ได้

มีกองทุนบางประเภทที่บริหารงานแบบ red tape คือต้องประชุมบอร์ดการลงทุนเพื่ออนุมัติก่อนถึงจะค่อยขายได้ พวกนี้ชอบออกมาขายตอนควันหลงครับ เป็นพวกคิดนานมาก

2 dogs เขียน:สงสัยว่าหุ้นบางตัวกำลังโดน force sell ครับ
แต่อาจจะเป็นแค่ขายลดความเสี่ยงก็ได้

คุณ 2 dogs คิดว่าตัวไหนที่กำลังโดน Force sell อยู่ครับ ??? ...

ขอผมดูให้แน่ใจกว่านี้ดีกว่าครับ

จะโดน force เมื่อราคาหุ้นที่ซื้อลดลง 1 ใน 3 หรือ 33.33% ครับ
(กรณีที่อัตรา force sell 25%)

ถ้าหุ้นลงประมาณ 25% จะโดนเรียกเงินประกันเพิ่ม
ถ้าลงถึง 35% จะโดนฟอร์ซเซลครับ ประมาณนี้

ถ้าจ่ายเงินประกันตอนลง25% พอมันลงอีก10%ถึงจุด35%
จะยังโดน force sell ไหมครับ
หรือจะโดน force กรณีที่ไม่จ่ายเงินประกันเพิ่มเท่านั้น

2 dogs เขียน:ถ้าจ่ายเงินประกันตอนลง25% พอมันลงอีก10%ถึงจุด35%
จะยังโดน force sell ไหมครับ
หรือจะโดน force กรณีที่ไม่จ่ายเงินประกันเพิ่มเท่านั้น

ไม่โดนครับ
สูตรคือ
(มูลค่าหุ้นทั้งหมด ณ ราคาปัจจุบัน - เงินกู้ยืม)/(มูลค่าหุ้น ณ ราคาปัจจุบัน)
ถ้าต่ำกว่า 35% จะมีการเรียกหลักประกันเพิ่ม
ถ้าต่ำกว่า 25% จะโดน force sell

ถ้าจะเล่น margin แนะนำ credit balance ของ poems ครับ
เพราะมี online มันจะคำนวณให้หมดเลยครับว่าต้องวางหลักประกันเพิ่มที่เท่าไร ถึงระดับ force sell รึยัง ถ้าถึงแล้วต้องขายหุ้นออกไปเท่าไร

เท่าที่รู้ต้องดูทุนตอนเขาซื้อ และ สัดส่วนการค้ำด้วยไม่ใช่เหรอครับ

สุมาอี้ เขียน:มีกองทุนบางประเภทที่บริหารงานแบบ red tape คือต้องประชุมบอร์ดการลงทุนเพื่ออนุมัติก่อนถึงจะค่อยขายได้ พวกนี้ชอบออกมาขายตอนควันหลงครับ เป็นพวกคิดนานมาก

วันนี้กองทุนเป็นคนขายหนักซะด้วย  :roll:

วันนี้ฝรั่งหัวไหนไม่รู้ซื้อครับ

naris เขียน:เท่าที่รู้ต้องดูทุนตอนเขาซื้อ และ สัดส่วนการค้ำด้วยไม่ใช่เหรอครับ

ผมก็เข้าใจแบบนี้เหมือนกันครับ .. ไม่รู้สูตรคำนวณที่แท้จริง
แต่คุยกับมาร์แล้วเค้าบอกว่าต้องดูต้นทุนด้วย ถ้ายังลงไม่ต่ำกว่าทุนก็ยังไม่โดนแน่ๆ ถ้าลงไปลึกว่าทุนถึงจะเริ่มคิด ...
เลยถามไปว่า port ผมต้องลงมาประมาณเท่าไหร่ถึงจะโดน force sell เค้าตอบว่า มูลค่า port ต้องลงไปเกือบครึ่งถึงจะโดน

แล้วยังมี leverage อยู่หรือเปล่าครับพี่โย

woody เขียน:แล้วยังมี leverage อยู่หรือเปล่าครับพี่โย

ยังเหลืออยู่ครับ ... แต่ยังไม่คิดจะใช้ตอนนี้ รอเจอหุ้นตัวใหม่ก่อนดีกว่า หุ้นเดิมที่มีๆอยู่มันเยอะแล้ว เดี๋ยวจะเสี่ยงไป

naris เขียน:เท่าที่รู้ต้องดูทุนตอนเขาซื้อ และ สัดส่วนการค้ำด้วยไม่ใช่เหรอครับ

ราคาตอนเข้าซื้อกับสัดส่วนการค้ำใช้ในการคำนวณวงเงินที่สามารถซื้อได้ครับ เนื่องจาก initial margin แต่ละตัวไม่เท่ากัน

แต่กรณี maintanance magin กับ force sell จะใช้ที่ 35%, 25% เหมือนกันทุกตัวที่ให้ margin
ซึ่งสูตรในการอัตราหา margin ของ port ณ ปัจจุบัน คือ Equity/Asset หรือสูตรที่ผมให้ไปก่อนหน้านั้นครับ (นับเฉพาะหุ้นที่ให้ margin)

พูดอีกอย่างให้ดูง่ายกว่าก็คือ ถ้า เงินกู้มากกว่า 75% ของ มูลค่าปัจจุบันของหุ้นที่ให้ margin จะโดน force sell ครับ ( Debt/Asset > 75%)

ขอบคุณคุณ Fantasia มากๆครับ .. เรื่องพวกนี้ผมงงจริงๆ ขนาดตัวเองก็เล่น Margin นะเนี่ย คำนวณเองยังไม่ถูก ไม่ทราบหาอ่านได้ที่ไหนบ้างครับ ถามโบรกแล้วก็ยังไม่เข้าใจแจ่มแจ้ง

การเล่นหุ้นมีความเสี่ยงสูง
การใช้margin ยังทำให้การเล่นหุ้นมีความเสี่ยงสูงยิ่งขึ้นไป

นี่คือคำเตือน คนเรามักมีอีโก้สูง บางครั้งทำให้ประมาทได้
การเล่นมาร์จิ้นทำให้อีโก้สูงมากยิ่งขึ้นไปอีก
ดังนั้นโปรดระวังก่อนใช้วงเงินมาร์จิ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าวันหนึ่งสภาพคล่องหุ้นตัวนั้นไม่มีขึ้นมาเมื่อไร
อย่าว่าแต่ราคาForce Sellเลยครับ  ราคาแบบไร้สภาพก็อาจต้องขายทิ้ง

http://www.poems.in.th/cb_home/index-th03.htm
ตามนี้เลยครับคุณ yoyo

จาก post ของคุณ yoyo leverage (Debt/Asset) นี่จะอยู่ที่ประมาณ 35-45%
ซึ่งสำหรับผมถือว่าสูงทีเดียวนะครับถ้าในพอร์ตมีแต่หุ้นที่ใช้ margin ล้วน ๆ  ใจถึงมากเลยครับ  

สำหรับผมถ้าใช้ leverage คงทำให้ผลตอบแทนสูงขึ้น แต่จนถึงทุกวันนี้ยังแทบไม่เคยใช้เลยครับ แบบว่าใจไม่ถึง

[quote="fantasia"]http://www.poems.in.th/cb_home/index-th03.htm
ตามนี้เลยครับคุณ yoyo

จาก post ของคุณ yoyo leverage (Debt/Asset) นี่จะอยู่ที่ประมาณ 35-45%
ซึ่งสำหรับผมถือว่าสูงทีเดียวนะครับถ้าในพอร์ตมีแต่หุ้นที่ใช้ margin ล้วน ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าวันหนึ่งสภาพคล่องหุ้นตัวนั้นไม่มีขึ้นมาเมื่อไร


Strong agree with you krab k. Nanchan.