ขอความรู้หน่อยครับ ภาค 2
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 04, 2007 8:42 pm
ตลท. และสภาธุรกิจตลาดทุนไทยนัดหารือกับโบรกเกอร์ต่างประเทศ 10 ราย เพื่อประเมินผลกระทบจากเหตุระเบิด พร้อมสอบถามถึงผลกระทบจากมาตรการกันสำรองร้อยละ 30 ในวันจันทร์ที่ 8 ม.ค.นี้
เรื่องโรดโชว์ รวมทั้งสอบถามถึงประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติวิตกกังวล โดยเฉพาะมาตรการกันสำรองร้อยละ 30 ของธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีผลบังคับใช้กับเงินลงทุนในตลาดหุ้น แต่นักลงทุนต่างประเทศยังเป็นกังวลว่าต้นทุนในการระดมทุนผ่านตราสารหนี้จะเพิ่มขึ้น เพราะต้องโดนกันสำรองร้อยละ 30
เดิมสภาธุรกิจตลาดทุนไทยมีกำหนดจะหารือร่วมกับโบรกเกอร์ต่างประเทศในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ แต่เมื่อเหตุระเบิดใน กทม. จึงเลื่อนมาหารือเร็วขึ้น ซึ่งคงจะมีการสอบถามถึงความเห็นของนักลงทุนต่างชาติ เพราะในปลายปี 2549 ต่างชาติเทขายหุ้นไทยอย่างหนัก เพราะวิตกกับมาตรการกันสำรองร้อยละ 30 ทั้ง ๆ ที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและกำไรของบริษัทจดทะเบียนไม่มีการเปลี่ยนแปลง นายวิเชฐ กล่าว
นายวิเชฐ กล่าวว่า ตลท.จะเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศมากขึ้น เพื่อมาทดแทนนักลงทุนต่างชาติ โดยให้ความสำคัญกับบริษัทประกันภัยและประกันชีวิต โดยเห็นว่าในช่วงที่เกิดเหตุระเบิด ทำให้คนให้ความสนใจมาทำประกันมากขึ้น ดังนั้น บริษัทประกันจะต้องหาช่องการลงทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือประกัน ซึ่งเห็นว่าตลาดหุ้นน่าจะเป็นแนวทางที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในปี 2550 จะชะลอลงจากเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา เพราะกองทุนเก็งกำไรมีการเทขายออกมาจำนวนมากแล้ว เพื่อปิดงบบัญชีในรอบปี 2549 ดังนั้น เงินลงทุนต่างชาติที่ยังลงทุนอยู่ในไทยอีก 83,000 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปี 2549 จึงเป็นเงินลงทุนระยะยาว ซึ่งขณะนี้กำลังชะลอและรอดูความชัดเจนในหลายเรื่อง
ส่วนความคืบหน้าการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดเอ็มเอไอ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอการกำหนดอัตราภาษีจากกรมสรรพากร และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ( สศค.) หลังจากในเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ตลท.ได้นำเสนอข้อมูลให้กระทรวงการคลังพิจารณา
เรื่องโรดโชว์ รวมทั้งสอบถามถึงประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติวิตกกังวล โดยเฉพาะมาตรการกันสำรองร้อยละ 30 ของธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีผลบังคับใช้กับเงินลงทุนในตลาดหุ้น แต่นักลงทุนต่างประเทศยังเป็นกังวลว่าต้นทุนในการระดมทุนผ่านตราสารหนี้จะเพิ่มขึ้น เพราะต้องโดนกันสำรองร้อยละ 30
เดิมสภาธุรกิจตลาดทุนไทยมีกำหนดจะหารือร่วมกับโบรกเกอร์ต่างประเทศในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ แต่เมื่อเหตุระเบิดใน กทม. จึงเลื่อนมาหารือเร็วขึ้น ซึ่งคงจะมีการสอบถามถึงความเห็นของนักลงทุนต่างชาติ เพราะในปลายปี 2549 ต่างชาติเทขายหุ้นไทยอย่างหนัก เพราะวิตกกับมาตรการกันสำรองร้อยละ 30 ทั้ง ๆ ที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและกำไรของบริษัทจดทะเบียนไม่มีการเปลี่ยนแปลง นายวิเชฐ กล่าว
นายวิเชฐ กล่าวว่า ตลท.จะเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศมากขึ้น เพื่อมาทดแทนนักลงทุนต่างชาติ โดยให้ความสำคัญกับบริษัทประกันภัยและประกันชีวิต โดยเห็นว่าในช่วงที่เกิดเหตุระเบิด ทำให้คนให้ความสนใจมาทำประกันมากขึ้น ดังนั้น บริษัทประกันจะต้องหาช่องการลงทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือประกัน ซึ่งเห็นว่าตลาดหุ้นน่าจะเป็นแนวทางที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในปี 2550 จะชะลอลงจากเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา เพราะกองทุนเก็งกำไรมีการเทขายออกมาจำนวนมากแล้ว เพื่อปิดงบบัญชีในรอบปี 2549 ดังนั้น เงินลงทุนต่างชาติที่ยังลงทุนอยู่ในไทยอีก 83,000 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปี 2549 จึงเป็นเงินลงทุนระยะยาว ซึ่งขณะนี้กำลังชะลอและรอดูความชัดเจนในหลายเรื่อง
ส่วนความคืบหน้าการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดเอ็มเอไอ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอการกำหนดอัตราภาษีจากกรมสรรพากร และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ( สศค.) หลังจากในเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ตลท.ได้นำเสนอข้อมูลให้กระทรวงการคลังพิจารณา