Thai VI

...

ถ้าพิจารณาเฉพาะเหตุการณ์ดีๆ ที่ผ่านมา
สังเกตว่า นักลงทุนต่างประเทศ จะเป็นฝ่าย "ซื้อสุทธิ" อยู่เกือบตลอดเวลา
แสดงว่า คนเหล่านั้นต้องมองว่า บ้านเรามีดี สิครับ (ไม่งั้นจะตะลุยซื้อมาตั้งแต่ต้นปีทำไม ???)

ยอดเงินฝากในประเทศ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ไม่เคยลดลงเลย อยู่ในระดับ 5-6 ล้านล้านบาทมาตลอด ...
ฝากแบงก์กันอยู่นั่นแหละ ดอกเบี้ยก้อต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เงินเฟ้อกินหมดแทบไม่รู้ตัว ...

คนทั่วไปส่วนใหญ่ก้อยังเล่นหวย ทั้งๆ ที่รู้ว่า เสียเปรียบเจ้ามือมหาศาล โอกาสได้เงินคืนแทบจะไม่มีเลย ... (หวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะรวย ... วันไหนวะครับนั่น ???) ...

แล้วทำไมต้องให้ต่างชาติมาชักนำตลาดหุ้นบ้านเราด้วยครับ
มีแต่ October Effect, January Effect
พวก Effect ต่างๆ นี้ ส่วนใหญ่ก้อเห็นจะมีแต่ฝรั่งนะ ...

ทำไมคนไทยไม่เป็นฝ่ายซื้อสุทธิตลอดเสียเอง ปล่อยให้ฝรั่งติดดอยบ้างเป็นไง อยากรู้จัง
ที่ผ่านมา คนไทยเห็นฝรั่งซื้อ เลยซื้อตาม มันก้อเลยตกเป็นเหยื่อ ติดดอยกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ...

ขอมาบ่น ครับ ...

เพราะบ้านเราไม่มีบ่อยคาสิโนครับ

พวกพ่อค้า ของเถือน ตัดไม้เถื่อน ค้ายาบ้า และอื่นๆ ไม่มีทางออกครับ ก็ต้องมาเล่นหุ้นครับ เงินต่อเงิน

อยากเป็นคนดี

แต่พอเข้ามาแล้วคงตกใจครับ ว่ หาเงินง่ายกว่า การทำทุจริตอีก

การปั่นหุ้นโดยสุจริต

พี่คิดว่าตลาดหุ้นบ้านเรา เม็ดเงินที่หมุนเวียนยังอยู่ในมือของคนที่ไม่มีความรู้ ในการลงทุนครับ

คงต้องอีกระยะหนึ่ง ซัก 10-20 ปีมั๊งครับ

ตลาดถึงจะเสถียรกว่านี้ครับ

นี่อารายการ เรามีทุนสำรอง 2 ล้านๆ ต่างชาติขายแค่ 25000 ล้าน หุ้นลง 108 จุด

แสดงว่า คนที่เข้าไปรับด้วยเหตุด้วยผล มีจำนวนน้อยมากครับ

19/12/2006 :lol:
ผมว่าหมูตัวจริง สถาบัน 10,555 13,460 -2,904.92
หมูตัวจริง จริง คนฃื้อสถาบัน

คนไทยยังมีความเข้าใจ และ ความรู้สึกผิดๆ เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ครับ

พี่ไทยมักจะมองว่ามันเป็นการพนัน มีความเสี่ยงสูง และต้องใช้เงินทุนเป็นหลักหมื่น พี่ก็เลยเล่นหวยดีกว่า 10 บาทก็ซื้อได้ แถมไม่มีอะไรซับซ้อน

ในขณะที่บางคนไม่มีดวงในหวย แต่เป็นเกจิลูกหนัง ก็มักจะตั้งคำถามว่าเล่นหุ้นทำไม เล่นผีดีกว่า 90 นาทีก็รวยแล้ว จะรอทำไมปันผล

ส่วนพวกที่พอจะมีทุน แล้วหวังเสี่ยงโชคในหุ้น เล่นตามเพื่อนเพราะเห็นเพื่อนได้ แต่ขาดความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุน ก็ดันเป็นพวกมี ถิฐิสูงหลัง เพราะหลังจากเสียตัวเพราะหุ้น ก็ตราหน้าตลาดหุ้นว่าไม่ดีทำให้คนดีๆเสียคน แตไม่คิดจะศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุน

คนรอบๆตัวผมเป็นแบบนี้ทั้งนั้น  :(

คงจะต้องอาศัยเวลาแล้วก็ความพยายามของพวกเราที่จะช่วยกระจายความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยให้กับคนรอบๆตัวละครับ (อยากบ่นเหมือนกัน)

กลต.วินิจฉัยค่อนข้างล่าช้า และ เอาผิดพวกปั่นหุ้นไม่ค่อยได้

ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม คิดว่าหัวเรื่องกระทู้นี้น่าสนใจ
น่าจะแตกความคิดที่มีประโยชน์ออกมาได้มากกว่านี้ครับ

ปัจจัยหนึ่ง คือ ตัวบริษัทจดทะเบียน ผู้บริหาร และผู้จัดทำที่เกี่ยวข้อง เช่น
1 ผลประกอบการ 3 ไตรมาส ทำผลงานมาดีเยี่ยม นักลงทุนที่ติดตามพื้นฐาน ตามข่าว ประมาณการผลประกอบการไตรมาส 4 ปรากฎว่า ไตรมาส 4 มีรายการพิเศษ ตั้งสำรอง หรือ ค่าใช้จ่ายพิเศษ กำไรตกวูบ สร้างความเซ็งให้กับแฟนๆโดยทั่วหน้า
2 การให้ข่าว หรือ แนวโน้ม ของผลประกอบของบริษัท ว่าจะโตเท่านั้นเท่านี้ ใครเชื่อระวังน้ำตาตก เพราะอีก 2-3 เดือน ต่อมา ผบห ออกมาลดเป้า อ้างสารพัดเหตุผล
3 การเอาเปรียบเล็กๆน้อยๆ เช่น ก่อนผลประกอบการ หรือ ข่าวปันผล มักจะมีผู้รู้ก่อนชาวบ้าน ทำการซื้อหรือขายดักหน้า

กว่าจะเห็นผลมันช้าครับ เข้าใจยาก ไม่เหมือนการพนันอื่นๆ

เพราะเรายังไม่รู้จริงไงครับ

ถ้าเรารู้จักตัวตนของเราจริงๆ เราจะรู้ว่าช่วงไหนโอกาส ช่วงไหนวิกฤต

บ้างคนรู้เยอะ แต่เอามาประมวลผลไม่ได้

เช่น รู้เหตุการณ์ แต่ประเมินผลไม่ออกว่า จะกระทบอะไรยังไง

อีกอย่างบ้านเราไม่รู้ว่ามีรึป่าว วิชาที่สอนการลงทุน

สอนจากคนที่ลงทุนจริงๆ แต่คนที่ลงทุนจริงๆเค้าคงไม่มีเวลามาสอนหรอกมั๊งครับ

ผม Share ดังนี้
1. ไม่สามารถให้คนส่วนใหญ่ ออมเงินโดยการลงทุนได้ มีคนไทยเพียงประมาณ 3 แสนคนเท่านั้นที่ลงทุนในหุ้น
2. ข้อ 1 อาจเกิดจากระบบ Banking ในเมืองไทยที่ผูกขาดเป็นแหล่งเงินทุนที่ครอบงำประเทศมานาน ดูกันซิครับว่าถ้าฝากเงินตอนนี้ให้ดอกเบี้ยหลักสตางค์ต่อปี แต่ถ้าไปกู้ ต้องมี 6.5% up อะไรมันจะง่ายแบบนั้น เมืองไทยไม่มี Regulators ที่จะควบคุมให้ Banks เอาเปรียบน้อยลง ดังนั้นถ้า Bank สบายแบบนี้ คุณเป็น Banks คุณอยากให้ ตลาดหุ้นพัฒนาไปแค่ใหนหละ และ ดูเอาวันนี้พวก Analysts หรือ Brokers มันก็ Banks ทั้งนั้น คุณไม่เคยได้ยินพวกนี้บอกเหรอครับว่า กลยุทธวันนี้ "หุ้นขึ้นให้ขาย หุ้นลงให้ซื้อ" แบบนี้ตลาดเราคงพัฒนาได้เหรอก ฮะๆ พอเจ็งคนก็เข็ด เล่าสู่กันฟังว่าเป็นแมงเม่า พวกนาย Bank ยิ้มแก้มปริ เพราะในที่สุดเจ้าของกิจการก็ต้องมากู้ ข้าพเจ้าเหมือนเดิม
3. คุณภาพ และ ธรรมาภิบาล ของ กลต. ดีหรือไม่ต้องคิดดูเอาครับ

เป็นความเห็นที่แย้งได้ครับ แต่ผมบอกอย่างนะครับว่า 15 ปีที่แล้ว กลุ่ม TIP (Thailand, Indonesia and Philippine) มี Index เท่ากัน ตอนนี้ พี่ไทยย่ำอยู่กับที่ ขณะที่ Indonesia และ Philippine วิ่งแนบไป 3 ถึง 4 เท่าแล้ว

ผมคิดว่าโดยพื้นฐานของคนไทยรากหญ้าแล้วมีความเชื่อลึกๆอย่างสนิทใจว่า สำหรับงานที่สุจริตแล้ว จะต้องใช้กำลังกาย กำลังใจ พลังสมอง เข้าแลกจึงจะได้เงินกลับออกมาอย่างเป็นสัดส่วนที่เสมอกัน หากผิดไปจากนี้เราจะมองว่าเป็นงานที่ไม่สุจริต หรือหากสุจริตไม่ผิดกฏหมายก็เป็นการเอารัดเอาเปรียบสังคมหรือผิดจริยธรรม และ ยอมรับกลายๆว่าสถานภาพแบบนั้นเป็นสิ่งที่สงวนไว้สำหรับอีกชนชั้นหนึ่งเท่านั้น

สังคมเปลี่ยนไป ธุรกิจเปลี่ยนไป เทคโนโลยีเปลี่ยนไป คนไทยต้องเปลี่ยนแน่แต่ต้องใช้เวลาอีกซักพักใหญ่ๆ

ก็เพราะความเชื่ิอนี่ละครับ

อวิชา มากมายที่สะสมในบ้านนี้เมืองนี้

รอ พวกท่านเหล่า VI มาแสดง โต้ตอบ กันด้วยเหตุผล

เหมือนหมู่เทียน เล่ม น่อย ในที่แสนมืดมิด

ขนาดศาสดาเค้า พยายามไม่มีตัวตนทีเป็นวัตถุ ก็ยังหา หิน มา กราบ กันได้

ศาสดาก็ทำให้เห็นอยู่ ไม่เห็นมีใครเชื่อบ้าง

ไหนจะกลุ่ม ช้าง ที่นั่งอยู่ในห้องกัดกินสังคม ก็ทำไม่มองเห็นกัน อะนะ

สงสัยบ้านเรามี เคล็ดลับวิชามาร เยอะ กระมังครับ ตลาดเลยยังไม่ค่อยที่จะพัฒนาไปเท่าไหร่

ขอบคุณมากครับ