Thai VI

นี่เป็นกรณีที่ชัดเจนมากว่า ธปท. ประกาศ และ ดำเนิน  มาตรการที่ผิดพลาด
ถามจริงๆ เถอะ  วันนี้ mkt.cap ของไทยเสียหายเกือบ 1 ล้านล้านบาท
แล้วมันคุ้มไหมกับการที่ค่าเงินบาทอ่อนลง 2%  จากยอดส่งออก 4 ล้านล้านบาทต่อปี     เอาสมองส่วนไหนมาคิดว่ามันคุ้มครับ ????

การประกาศแบบนี้ก็เหมือนบอกต่างชาติว่า  ต่อไปนี้ คุณห้ามซื้อหุ้นแล้วนะ... ขายได้อย่างเดียว    เพราะลักษณะของการ settlement ของกองทุนต่างชาติ ซึ่งต้องทำการซื้อขาย forex กันทุกวัน... จะหาหลักฐานอะไรมายันว่าลงทุนเกิน 1 ปี  แล้วการที่ต้องโอนเงินมามากกว่ามูลค่าหุ้นที่ซื้อเป็นเรื่องที่บ้าไปแล้ว  มีที่ไหนในโลกที่เขาทำกันแบบนี้ครับ

นโยบายตรงๆ ตามทฤษฎี  ด้วยการลดดอกเบี้ยลงมา  เพื่อช่วยกระตุ้น ศก.ไปด้วยในตัว  กลับไม่ยอมทำ.... บอกว่า "ไม่ช่วย"  ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำเลย  ถ้า 25 bps ไม่ได้ผล  ก็ลดไปเลย 50 bps  ถ้ายังไม่ได้อีกก็ 100 bps  ไปเลย  อยากรู้เหมือนกัน..... บาทจะแข็งไปเรื่อยๆ ไหม  ประเทศชาติจะเสียหายอะไร

ถ้าทำตามทฤษฎีการเงินระหว่างประเทศ  แล้วยังไม่ได้ผล   ค่อยว่ากันใหม่  แต่นี่ยังไม่ได้ "ลดดบ." ด้วยซ้ำ   แล้วประกาศมาตรการ "ตามใจฉัน" แบบนี้  เกินไปไหมครับ  
ถ้ายังไม่ยกเลิกมาตรการนี้ในเร็ววันนี้  คงต้องมีการเดินประท้วงและฟ้องร้องนะครับ ............................

ผมคิดว่า  ท่านผู้ว่า ธปท.ต้องพิจารณาตัวเองได้แล้ว....
และคิดว่า ธปท.ต้องยกเครื่องวิธีการออกกฎ ธปท.ใหม่ทั้งหมด  
ต้องมองปัญหาให้รอบด้านมากกว่านี้ครับ

เสียหายตรงใหนครับ กับการที่หุ้นลง
m.cap จะเหลือเท่าไหร่ ผมว่าไม่น่าจะสิ่งสำคัญเลย

ถ้าคิดว่าธุรกิจไปได้ ผมสนับสนุน

พี่เฟยหง

ใครจะรับฟ้องอ่ะ
แล้วฟ้องไป จะรับผิดไหม เห็นข่าวล่าสุดว่า

ท่านไม่ได้แทรกแซงตลาดหุ้น (ก็จริงอย่างท่านว่า) แล้วก็บอกว่าไม่ทบทวนการตัดสินใจที่ทำไปแล้วด้วย นัยว่า มาถูกทางแล้ว (เอากับท่านสิ)

อย่างนี้ใช่ไหมคะ ที่เค้าเรียกว่า "แก่มะพร้าว เฒ่ามะละกอ"

ท่าน อาจจะรอเก็บของถูกก็ได้นะเคอะ ใครจะไปรู้

สำหรับผมยังไงก็ได้ครับ ขออย่างเดียวอย่าให้มีคนในของ ธปท. ไป short ไว้ก่อนละกัน

ไปชุมนุมเมื่อไร บอกด้วยแล้วกัน จะไปดูซะหน่อยว่าจะว่าไง ตอนนี้แดงเป็นทะเลเลือด หึหึ เอาไงดีหว่า

ผมเห็นด้วยกับคุณเฟยหงครับ

การที่ตลาดใช้มาตรการรุนแรงเกินไป โดยมิได้มีการพยายามกระทำการอย่างอื่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการเงิน เช่นการลดดอกเบี้ย หรืออื่นๆ ที่พอจะส่งสัญญาณเป็นลำดับ ควรจะมีการส่งสัญญาณกันก่อน

การออกมาตรการที่เข้มงวดและช็อกนักลงทุน จะทำให้นักลงทุนต่างชาติไม่เข้าใจว่าเมืองไทยกำลังจะไปทางไหนกันแน่ เพราะเราเพิ่มจะมีการปฏิวัติกันมาหมาดๆ

โดยส่วนตัว วันนี้เป็นเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น เพราะภาคธุรกิจกระทบแน่นอน เริ่มจากเงินลงทุนที่จะไหลเข้ามา (ถึงแม้ FDI จะได้รับการยกเว้นก็ตาม) ต่างชาติจะขอหยุดดูสถานะการณ์พักใหญ่ครับ

ผมไม่ค่อยห่วงเงินที่ต่างชาติจะไหลเข้ามาในตลาดหุ้น แต่ผมห่วงเงินที่จะไหลเข้ามาในภาคธุรกิจต่างหาก และมันจะกระทบเป็นลูกโซ่อย่างแน่นอน

ธปท.ยันไม่มีทางเลือกสกัดเก็งบาทแต่รับข้อเสนอโบรกฯหารือเย็นนี้

น.ส.นิตยา พิบูลย์รัตนกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า เย็นวันนี้จะมีการหารือถึงแนวทางต่าง
ๆ ที่เป็นข้อเสนอจากทางโบรกเกอร์ที่ต้องการให้ช่วยเหลือการลงทุนในตลาดหุ้นที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากมรตรการสกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาท

"ธปท.เองก็ไม่ทางเลือกจึงออกมาตรการนี้ออกมา ขณะนี้จะพยายามดูแลซึ่งตั้งแต่เช้าก็ดูผลกระทบ คิดว่าหุ้นไม่น่าตกแรงขนาดนี้ เราเป็นห่วงมาก และเย็นนี้จะมีการประชุมเพื่อมาแนวทางช่วยเหลือบล." น.ส.นิตยา กล่าว

น.ส.นิตยา กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ว่า ในที่ประชุมมีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางกับมาตรการที่ธปท.ออกมา เนื่องจากมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างรุนแรง และธปท.ได้รับข้อเสนอต่าง ๆ จากโบรกเกอร์มา

พิจารณา ซึ่งได้แก่ การยกเว้นเงินลงทุนในตลาดหุ้นไม่ต้องใช้มาตรการดังกล่าวหรือให้ยกเลิกมาตรการไปเลย หรือ หาที่พักเงินให้ หรือ ใช้มาตรการลดดอกเบี้ยอาร์/พีเพื่อสกัดเงินทุนระยะสั้นแทน แต่ยังไม่มีข้อสรุปในขณะนี้

น.ส.นิตยา กล่าวว่า ธปท.ได้พิจารณามาตรการลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่เนื่องจากดูแล้วเห็นว่าไม่น่าจะได้ผล ประกอบกับเรื่องการลดดอกเบี้ยไม่ใช่เรื่องของธปท แต่ขึ้นกับคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งกนง.ลดดอกเบี้ยได้เพียงครั้งละ 0.25% ขณะที่บาทแข็งค่าขึ้น 0.20 บาท/วัน

- - - -
ในเมื่อท่านๆ บอกว่า ทำถูกแล้ว ถ้าพี่เฟยหง ไปเถียงเนี่ย ก็เหมือนคุยกับคนบ้า น่ะค่ะ เผลอเราจะบ้าตามนะคะพี่

ฟ้องอะไรกันครับ

ถ้าอย่างนี้ใครจะไปทำงานหละพี่

พลาดอะไรหน่อยก็โดนฟ้อง

ผมว่าเราจะคิดจะทำอะไร คงต้องมองกันที่ระยะยาวมากกว่านะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่กระทรวงการคลัง เมื่อเวลา 15.49 น. วานนี้ (18 ธ.ค.)  ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พร้อมด้วยภริยาและบุตรสาว ทำการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการคลังอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 2 ภายหลังจากที่เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ซึ่งเป็น วันแรกของการทำงานในตำแหน่ง รมว.คลัง ม.ร.ว.ปรีดิยาธรได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการคลังมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ในครั้งแรกนั้นเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดี และเป็นลางร้ายขึ้นมาถึง 2 ครั้ง กล่าวคือมีช่างภาพทีวีและหนังสือพิมพ์จำนวนมากรุมล้อม รมว.คลังจนเกิดการเบียด กันชุลมุนทำให้โคมไฟสนามหญ้าสีขาวที่ตั้งอยู่บริเวณรอบพระพรหมหล่นลงมาตกแตก นอกจากนี้ ขณะที่ รมว. คลังกำลังคล้องพวงมาลัยดอกดาวเรืองให้กับช้างคู่ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของกระทรวงใช้ไม้ยาวช่วยดันพวงมาลัย เพื่อยกพวงมาลัยขึ้นไปคล้องคอช้างจนเชือกขาดกลางเป็น 2 ท่อนต่อหน้าต่อตา รมว.คลัง แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่รับพวงมาลัยไว้ได้ทัน  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการคลังในครั้งที่ 2 นี้เป็นไปด้วย ความเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่เป็นลางร้ายเกิดขึ้น โดย รมว.คลังใช้เวลาการอธิษฐานจิตพระภูมิเจ้าที่พระพรหม และพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 นานเป็นพิเศษ  

ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวภายหลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสร็จสิ้นว่า ไม่มีเหตุการณ์อะไรเป็นกรณีพิเศษ เพียงแต่ วันนี้อากาศดีและเย็นจึงมาไหว้ ไม่มีลางร้ายแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้สอบถามถึงสาเหตุที่ รมว.คลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของกระทรวงการคลังเป็นครั้งที่ 2 กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับการชี้แจงว่าการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในครั้งแรกนั้น มีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง จึงทำให้ รมว.คลัง ตัดสินใจสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใหม่เป็นครั้งที่ 2 ตามความเชื่อคนไทยที่ในครั้งแรกเกิดขึ้นเหตุการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก จนกลายเป็นข่าวใหญ่โต

http://www.thairath.co.th/news.php?sect ... tent=30585

วันนี้ถูกแช่งไว้เยอะ รีบไปไหว้ กัวตายน่ะฮะ

เห็นด้วยกับคุณเฟยหง

น่าจะใช้มาตรการชี้นำทางนโยบาลก่อน เช่น การลดดอกเบี้ย ก่อนที่จะมาตรการแบบโหดๆ แบบนี้

แล้วมันคุ้มกันไหม

มองในแง่ดีน่าจะเป็นระยะสั้นนะครับ
แต่เป็นมาตรการที่รุนแรงมากทีเดียวซึ่งน่าจะใช้ตอน ปี 40 นะแต่ดันมาใช้ตอนนี้ เฮ้อ  :shock:

ถ้าไม่มีมาตรการนี้

ต้มยำกุ้งรอบ2มาถึง

คุณเฟยหงรับผิดอะไรบ้าง

...

นโยบายมีทั้งผลดี และผลเสียครับ

ผมอยากให้ทุกคนมองเหมือนเหรียญ ที่มีทั้ง 2 ด้าน

...

ปู่อลัน กรีนสแปน
คงไม่กล้าทำแบบนี้  :lol:

หนึ่งเดียวในโลก
เอาคนผูกหูกระต่ายนักมายากล
มาเป็น รมต คลัง

แล้วรู้ได้ไงว่าจะมี ต้มยำกุ้ง รอบ 2

แล้วถ้ามี ทำไม พี่เฟยหง ต้องรับผิดชอบด้วย

การแสดงความคิดเห็น ทำไมต้องรับผิดชอบการกระทำ(แบบไม่ยั้งคิด)ของใครด้วย และแถมเป็นการกระทำที่คนแสดงความคิดเห็น ไม่ได้กระทำ

Blueblood เขียน:สำหรับผมยังไงก็ได้ครับ ขออย่างเดียวอย่าให้มีคนในของ ธปท. ไป short ไว้ก่อนละกัน

ผมรู้สึกแปลกๆ ราคาหุ้นก่อน ประกาศ (ตอนที่พี่ บีม เทขาย) อีก 2 วัน ก็ประกาศ นโยบาย
เหมือนตอนที่ ก่อนเกิด รปห. หุ้นภาคบ่ายมีการเทขายออมาบางส่วน
ปล. มันก็เป็นแค่ความรู้สึก

แต่ผมก็ไม่ชอบ นโยบายนี้อยู่ดี มองดูไม่รอบคอบไม่นึกถึงคนที่โดนผลกระทบยังไงไม่รุครับ แต่ก็ไม่ได้เรียนมาทางนี้โดยตรง แต่ก็คิดว่าน่าจะมีทางออกที่ดีกว่า นโยบายที่ประกาศออกมาแล้ว หุ้นลงวันเดียว 100 กว่าจุด (ที่ไหนเค้ามีบ้างครับอ้างอิงหน่อย)

ปรัชญา เขียน:ถ้าไม่มีมาตรการนี้

ต้มยำกุ้งรอบ2มาถึง

คุณเฟยหงรับผิดอะไรบ้าง

เห็นด้วยครับ

เห็นด้วยในส่วนของการทำงานต้องมีการผิดพลาดในส่วนของความไม่เข้าใจกันบ้าง

ตลาดเงินกับตลาดทุน

ค่อยๆแก้ไขเอาน่าจะดีขึ้นครับ

ขาดทุนในรูปบัญชี ถ้าบริษัทดีจริงราคาถูกก็ถือต่อครับ มีเงินก็ซื้อเพิ่ม  

ปล.วันนี้ก็หายไปเยอะเหมือนกันครับ

รบกวนผู้สันทัดกรณีเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียมานำเสนอด้วยคับ

แล้วจาฟ้องยังงัยก็ค่อยว่ากัน..

ผมว่าแค่
70/30 เป็น 90/10
ก็พอเหลือหลายแล้ว

เงินบาทกลับมาแข็งอีกแล้ว

มาตรการใดๆ ทุกมาตรการ มาจากเจตนาที่ดี ทั้งนั้น

ส่วน ผลจะดีหรือไม่ ก็ต้องว่ากันไป

อย่างไรก็ตาม

เท่าที่สังเกตุ ไม่ว่ามาตรการอะไร ที่ออกมา ถ้า รุนแรง เด็ดขาด เฉียบขาด ปรับตัวไม่ทัน

มาตรการนั้นๆ มักทำลายระบบ ทั้งในระยะสั้น กลาง และระยะยาว

มาตราการ ที่ดี ควรค่อยๆ ทำทีละนิด แล้วประเมิณผล ถ้าดี ก็ทำอีก

จำได้ว่า เมกา เคยลดดอกเบี้ย ปีนึง 12 ครั้ง แต่ลดครั้งละ 25 สตางค์

หากลดทีเดียว 6 บาท และลดครั้งเดียวจะเป็นอย่างไร

ผมว่า กรณีนี้ ผู้บริหารสูงสุดที่ออกคำสั่ง คงต้องทบทวน บทบาทตัวเอง

ท่านอาจจะไม่อยากให้เป็นแบบนี้ครับ

ส่วนเรื่องฟ้อง เห็นด้วยครับ ฟ้องไปเหอะ ผมจะคอยเชียร์

555

mamalover เขียน:แล้วรู้ได้ไงว่าจะมี ต้มยำกุ้ง รอบ 2

แล้วถ้ามี ทำไม พี่เฟยหง ต้องรับผิดชอบด้วย

การแสดงความคิดเห็น ทำไมต้องรับผิดชอบการกระทำ(แบบไม่ยั้งคิด)ของใครด้วย และแถมเป็นการกระทำที่คนแสดงความคิดเห็น ไม่ได้กระทำ

มีแต่ว่าคนทำงาน  
คนไม่เคยทำงานใหญ่ไม่รู้หรอกว่า...ต้องรับผิดชอบ

มาเลเซียก็เคยทำกับต้มยำกุ้งรอบที่แล้ว

mamalover เขียน:แล้วรู้ได้ไงว่าจะมี ต้มยำกุ้ง รอบ 2

แล้วถ้ามี ทำไม พี่เฟยหง ต้องรับผิดชอบด้วย

การแสดงความคิดเห็น ทำไมต้องรับผิดชอบการกระทำ(แบบไม่ยั้งคิด)ของใครด้วย และแถมเป็นการกระทำที่คนแสดงความคิดเห็น ไม่ได้กระทำ

ใจเย็นๆ เจ๊...
คุณปรัชญาเค้าไม่ได้คาดคั้นขนาดนั้นค่ะ
อยากฟ้อง ก็รวบรวมข้อมูล แล้วยื่นเรื่องเลย
ขอเชียร์อย่างเดียวตามพี่เจ๋งด้วยคน

---- แซวนะเจ๊ หวั่นเจอหางเลข  :lol:  ----

คุณmamalover

มีกึ๋น  มีไอเดีย  กับการแก้ปัญหา  ค่าเงิน  ที่มันวิ่งจาก39ขึ้นมาถึงเกือบ35

ผมเป็นต่างชาติผมก็ขาย
ก็ต้องเข้ามาซื้อค่าเงินบาทมันอยู่ที่39บาท
วันนี้ก็กำไรค่าเงิน  แล้ว  มีกำไรส่วนต่าง

ตอนตึกเวิลเทรดถล่ม  ตลาดหุ้นมันก็ลง

มีใครชวนไปฟ้อง  อเมริกาบ้างครับ

ถ้าไม่มีมาตรการนี้

ต้มยำกุ้งรอบ2มาถึง

คุณเฟยหงรับผิดอะไรบ้าง

สงสัยคนพูด ถือเงินสดไว้เยอะ  

ผมว่า การทำครั้งนี้ อาจจะดูแปลก แต่ น่าจะส่งผลดีระยะยาว
แทนที่จะให้เอาเงินหน้าตักเราไปดันแทน เล่นแบบ ปิดประตูตีแมวเลย ตายสนิท

lekmak333 เขียน: สงสัยคนพูด ถือเงินสดไว้เยอะ  

เงินสดน่ะก็มี

หุ้นก็มี

แต่ไม่เคยไปชวนใครไปฟ้องร้อง  ธนาคารชาติ

คุณ ปรัชญา

ถ้าไม่มีมาตรการนี้

ต้มยำกุ้งรอบ2มาถึง

คุณเฟยหงรับผิดอะไรบ้าง

เห็นด้วย กับคุณปรัชญาครับ

ถามว่าการที่เงินบาทแข็งขึ้นมา โดยไม่มีพื้นฐานของเศรษฐกิจของประเทศ
รองรับนี้ มันมีเหตุผลหรือครับ
ถามว่า การที่ทุกฝ่ายลงความเห็นว่าเงินบาทมันแข็งแบบนี้มีเงินทุนไหลเข้า
มา แต่เป็นเงินระยะโครตสั้น คือถ้าเค้าตั้งเป้าว่า ถึง 30 บาท แล้วออก
พร้อมกัน    ตอนนั้นก็ตายอยู่ดี    แต่ไม่ตายเปล่า  เศรษฐกิจพังไปก่อน
จากการที่ผู้ส่งออก ขาดทุนมโหราฬ ขายของไม่ได้ เงินเข้าประเทศแทบ
ไม่มี   มีแต่การนำเข้าสินค้าทุกอย่าง รวมถึงน้ำมันด้ว

แล้วถึงตอนนั้น ถ้าเงินไหล จาก 30 บาท----> ไป 45 บาท   จะไม่เกิด
ฟองสบู่รอบ 2 หรือครับ    เพิ่งเจ็บมายังไม่ 15 ปีเลย  ต้องจำกันด้วยนะครับ

ผมถามว่าฝรั่งที่เค้าลงทุนในบ้านเราผ่านตลาดหุ้นเนี้ย มีใครรับประกันได้
บางว่าเค้าลงทุนยาว 5-10 ปี    ผมว่า เงินบาทแตะ แค่ 31 บาท รวมกับ
ได้น้ำจิ้มนิดหน่อย ตอนนั้นก็คงเผ่นเหมือนกันครับ

ขอแสดงความคิดเห็นโง่ๆด้วยคนครับ

ผม ยังกลางๆครับ
นโยบาย มีสองด้าน
แต่ที่แน่ๆ   ยา ขนานนี้ แรงจริงๆ  กะจะฉีดใส่ต่างชาติ  ดัน มี side effectมาที่รายย่อยซะด้วยสิ

เทียน เขียน:เห็นด้วยกับคุณเฟยหง

น่าจะใช้มาตรการชี้นำทางนโยบาลก่อน เช่น การลดดอกเบี้ย ก่อนที่จะมาตรการแบบโหดๆ แบบนี้

แล้วมันคุ้มกันไหม

:lol: ลดดอกเบี้ย ผมเป็นผู้ฝากเงิน ฟ้องมั่งได้ไหมล่ะ

ถามจริงๆ มาตรการนี้กระทบต่อพื้นฐานการทำธุรกิจของบริษัทที่คุณถืออยู่อะไรบ้างครับ

มุลค่าของบริษัทที่คุณถืออยุ่ มันลดลงมากตามผลกระทบจริงหรือ

นี่ยังไม่ได้มอง คุ้ม ไม่คุ้มในภาพรวมของประเทศนะ

สำหรับผม ปอดลดลงอีก 10 %