Thai VI

คือ สนใจอยากซื้อมากครับ แต่ติดช้อสงสัยดังนี้ พี่ๆ ช่วยตอบหน่อยนะคับ
1. กองทุน มีสิทธิ์ เจ๊ง ได้ไหมครับ คือส่งเงินไปแล้ว 20 ปีแล้วไม่ได้เงินคืน ปิดกิจการไป โอกาส มากน้อยแค่ไหน
( ส่วนเรื่องหน่วยลงทุน น้อยลง ไม่ค่อยห่วง เพราะชดเชยมาในรูปแบบภาษีแล้ว)
2. นโยบาย การให้หักภาษี มีสิทธิ์ เปลี่ยนแปลงได้ไหมครับ ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นในทางที่ดีขึ้น หรือเลวลง
ขอบคุณครับ

ผมซื้อครับ ปีนี้ก้อจะซื้ออีกครับ

แหมการลงทุนทุกอย่างมันก้อเสี่ยงทั้งนั้นแหละ แต่ถึงกับเจ้ง คงไม่ถึงยังงั้นมั้ง ก้อเลือกกองทุนดีๆ อย่าง กสิกร (ผลตอบแทนดีที่สุดในกลุ่มกองทุนแบบยืดหยุ่น แต่ระวังว่าหุ้นมันขึ้นไปเยอะแล้วก้อแล้วกัน) หรือ ธนชาติก้อดีนะครับ

นโยบายการหักภาษีจาก RMF มันคงไม่เปลี่ยนหรอกนะ มันเป็นนโยบายที่ดีทีเดียวครับ

เหมือนคุณ Ayethebing ครับ

ผมซื้อมาแล้ว 2 ปี และก็จะซื้อไปเรื่อยๆ กสิกรปีที่แล้วได้แชมป์ครับ
เรื่องผลตอบแทน ปีนี้ก็ใกล้ๆเหมือนกัน

ส่วนเรื่องเจ๊งมีสองประเด็นครับ คือหนึ่งบริษัทที่จัดการกองทุนเจ๊ง และ
สอง หุ้นที่บริษัทฯไปลงทุนเจ๊ง

ประเด็นที่หนึ่งคงเป็นไปได้ยากครับ สำหรับรายใหญ่ๆ เช่นกสิกร TISCO
หรือ MFC ส่วนรายย่อยๆก็ต้องระวังไว้เล็กน้อยครับ

ประเด็นที่สอง ถ้าเจ๊งคงจะไม่เจ๊งทั้งหมดหรอกครับ เป็นไปได้ที่อัตรา
ผลตอบแทนคงจะไม่ได้ดีนักถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ว่า

แต่ถ้าคิดลดหย่อนภาษีมาหักต้นทุนด้วย แค่เริ่มซื้อก็กำไรแล้วครับ

สรุปแล้วผมว่าความเสี่ยงไม่สูงนักครับ ผลตอบแทนดีมากทีเดียว (เพราะ
เรื่องลดหย่อนภาษีนี่แหละครับ) ผู้มีเงินได้ (จากงานประจำ) ควรกันเงิน
ออมส่วนหนึ่งลงทุนใน RMF ทุกเดือนครับ เช่นอาจจะตั้งเป้าแค่เดือนละ
5% ทุกเดือน เป็นต้น ซึ่งบางกองทุนก็มีแบบหักออกจากบัญชีเราทุก
เดือนไปเลยอยู่แล้ว (เช่น 500 บาทต่อเดือน ทุกวันที่ 1)

ปีที่แล้วซื้อปีนี้ก็ต้องซื้ออีก ลดภาษีได้เพียบๆนะครับ :lol:

พี่ CK ครับ

ของ ทหารไทยธนบดี RMF เป็นไงครับ ในเรื่องของความมั่นคงแข็งแกร่ง เทียบกับของ กสิกรไทย
ใช้ได้ไหม ตอนนี้ผมลงทุนอยู่ แต่ไม่กล้าใส่เยอะ คือกลัว อย่างเดียวไม่ได้เงินคืน

กองทุนที่ว่านี่คืออะไรเหรอครับ
เห็นพูดกัน ผมไม่รู้จริงๆครับ
แต่เท่าที่อ่านดูท่าทางน่าสนใจครับ
ขอความรู้หน่อยครับ

ตอบคุณ champ

คือกองทุนเกษียณอายุครับ เอาคร่าวๆนะครับ คือรัฐอนุญาตให้จัด
ตั้งกองทุนขึ้นมา (ซึ่งอาจจะลงทุนในหุ้นหรือตราสารหนี้อะไรก็ได้)
และให้ประชาชนซื้อออมไว้ยามเกษียณครับ โดยมีแรงจูงใจคือให้
นำเงินที่ซื้อลดภาษีเงินได้ในแต่ละปี เช่นถ้าปกติจ่ายภาษีอัตราสูงสุด
ที่ 30% พอเราซื้อไป 10,000 หมื่นจะได้เงินคืน 3,000 บาทครับ

แสดงว่าจากที่ซื้อตอนราคา 10 บาทต่อหน่วยลงทุน จะใช้เงินแค่
7 บาทเองครับ กำไรทันที 40 กว่า % จากเงินต้น (7 บาท)

ข้อเสียคือถ้าเกิดขาย (ในแต่ละปี) ต้องคืนภาษีครับ รายละเอียด
มันยุบยับกว่านี้อีกเยอะ คุณ champ ลองถามกองทุนแล้วกัน

ตอบคุณ RMF

ไม่ทราบจริงๆครับ รู้แต่ว่าธ.กสิกรไทย MFC และ TISCO มีระบบ
ตรวจสอบคุณภาพของ fund manager ที่ชัดเจนครับ (เอามาจาก
ฝรั่ง) และจากประวัติแล้ว ทั้ง KBANK และ TISCO ทำผลตอบแทน
ได้สูงกว่า SET INDEX ครับ ส่วน MFC ค่อนข้าง conservative
กว่า ผลตอบแทนจะค่อนข้างต่ำครับ

ผมเลยซื้อมันสองกองทุนเลยครับ ทั้ง M-VAL ของ KBANK และ
MFC ส่วน TISCO ก็เล็งๆอยู่

ขอบคุณครับ พี่ CK

สมมติว่าทั้งปีผมมีรายได้แค่จากเงินปันผลหุ้นอย่างเดียว
ซื้อกองทุน RMF ไม่ได้ประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีใช่หรือเปล่าครับ
เคยอ่านดูน่าจะเป็นอย่างนั้น
เขายอมให้หักได้เฉพาะรายได้ที่เกิดจากการจ้างงาน

คิดว่าไม่ได้นะครับ เสี่ยไว้ท์ ต้องไปอ่านรายละเอียดอีกที

รายได้จากปันผลอย่างเดียว... อิจฉาง่ะ

RMF ของ AJF , วรรณ , ทหารไทย
เป็นอย่างไรบ้างครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ
(ที่ถาม ทั้งสามบริษัทนี้เพราะเคยไปฟังคุณ สุวรรณ วลัยเสถียร เขาบอกเขาซื้อมากอยู่ 3 กองนี้)

คืออยากจะทราบว่า
การที่กองทุน RMF จะมีอายุถึง 20 กว่าปีนี้ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ซักกี่เปอร์เซนต์ ครับ

เกิน 90 เปอร์เซนต์ ไหมครับ โดยที่ไม่ล้มไปเสียก่อน

อ้า ตอบไปแล้วถูกลบครับ สงสัยตอน server down

ทหารไทยไม่แน่ใจครับ แต่ผมเน้นปลอดภัยไว้ก่อนครับ

MFC TFB และ TISCO มีระบบตรวจสอบคุณภาพของ fund manager
ตามมาตรฐานฝรั่งครับ ซึ่งอาจจะไม่ได้ดีที่สุดแต่ก็ดีกว่าไม่มี ในบรรดานี้
ผมคิดว่า MFC conservative ที่สุดครับ

ที่ต้อง conservative เพราะว่าใน 20 ปีอะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ ตลาดหลัก
ทรัพย์ต้องมียุคตกต่ำสุดยอด และยุครุ่งเรืองสุดขีด แต่บวกลบออกมาก็น่า
จะเป็นบวก ถ้าไม่เจ๊งไปเสียก่อน

พูดถึงเรื่องเจ๊งผมว่าคงเป็นไปได้ครับ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นนอกจากผู้บริหาร
ไม่โปร่งใส

พูดถึงเรื่องนี้อยากให้หลีกเลี่ยงบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเมืองครับ เพราะ
อาจจะมี "ใบสั่ง" มาให้ "อุ้ม" หุ้นบางตัวตามนักการเมืองบัญชา เรื่องอย่างนี้
ตรวจสอบยากครับ

พอจะมีกองทุนไหนที่เหมาะกับข้าราชการไหมครับ ???

ขอเสนอหน่อยนึงคับ ไหนๆ ก็มีห้อง "ร้อยคนร้อยหุ้น" เราก็จัดเพิ่มอีกห้องนึงเป็น "ร้อยคนร้อยกองทุน" ดีไหมครับ จะได้เป็นแหล่งรวมข้อมูลเรื่องการลงทุน จัดทำเอาเนื้อหาของกองทุน หนังสือชี้ชวน มารวบรวมไว้ ฯลฯ

someOne เขียน:พอจะมีกองทุนไหนที่เหมาะกับข้าราชการไหมครับ ???

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการครับ (GPF) พอใช้ได้ทีเดียว

พี่ๆ เพื่อนๆ ครับ
ผมก็มีความสนใจใน RMF เหมือนกัน อยากถามความเห็น
1. การลงทุน ในRMF เป็นการลงทุน ระยะยาว จนเกษียณ สมมุติ ว่า 25 ปี เพื่อประโยขน์ทางภาษี แต่มีความเสี่ยงในแง่ของ cycle การขึ้น ลง ของ SET index และ วัฎจักรทางธุรกิจ ไม่รู้ว่าหากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือ เศรษฐกิจขาลง ในบางช่วงเวลา พี่ๆ จะทำอย่างไรกันบ้าง ในเมื่อเราไม่สามารถถอนการลงทุนออก หรือ อยู่เฉยๆ ผมเข้าใจว่า พอร์ทคงไม่ขาดทุน แต่ผลตอบแทนรวมอาจไม่มาก
2. หากเปรียบเทียบ ระหว่าง กองทุนผสมแบบยืดหยุ่น เน้นลงทุนในหุ้น และ กองทุนผสมแบบยืดหยุ่น เพื่อการเลี้ยงชีพ (เน้นลงทุนหุ้น) ของ บลจ. เดียวกัน
2.1 RMF (flexible) ผลตอบแทนรวม อาจไม่สูง แต่ได้ ประโยชน์ทางภาษี ไม่เหมาะการทำกำไร ในแต่ละช่วงเวลา
2.2 Flexible fund เราสามารถใช้ cost averaging ในการซื้อกองทุน และสามารถทำกำไรเป็นช่วงเวลา สามารถลดพอร์ท ในช่วงวิกฤติได้
ขอความคิดเห็นกันหน่อยครับ
3. ที่ไม่แน่ใจก็คือ แม้ว่าเราจะเลือก บลจ. ที่น่าเชื่อถือ ที่สุด ผมก็ไม่มั่นใจว่า ในช่วงSET ขาลง กองทุน flexible fund จะดูแลพอร์ท ไม่ให้ลดลงมาก ได้ดีเพียงไร

ขอตอบคุณ supachail

1. การลงทุนระยะยาวโดยปกติจะได้รับผลตอบแทนที่เป็นบวกเสมอ ถ้าไม่มีการล้มหายตายจากของบริษัทที่เราไปลงทุน และมีหุ้นจะได้รับผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตร อันนี้เป็นวิจัยของเมืองนอกเค้า แต่ความเชื่อของผมเองก้อสอดคล้องกับวิจัยอันนี้ว่าหุ้นดีๆ เมืองไทยที่มีอยู่ก้อจะสามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้มากกว่าเงินฝากและพันธบัตรแน่นนอน การซื้อ RMF ก้อบังค้บอยู่แล้วว่าซื้อแล้วลืมไปเลย ผลตอบแทนที่น่าสนใจของ RMF ไม่ได้อยู่ที่เมื่อเกษียนแล้วได้ผลตอบแทนเท่าไร ดีกว่าลงทุนเองมั้ย แต่อยู่ที่การลดภาษีตอนนี้ ซึ่งเทียบเป็น NPV ที่สูงมากนะครับ การขึ้นๆ ลงๆ ของ SET ก้อปล่อยมันไป แล้วเราเลือกกองทุนที่มีกึ๋นหน่อย เค้าก้อน่าจะทำผลตอบแทนได้อย่างน้อยเท่ากับตลาด ระยะยาวก้อน่าจะทำให้ผลตอบแทนการลงทุนดีพอสมควร

2. ถ้าถามผมผมก้อต้องเลือกยืดหยุ่นอยู่แล้วเพราะไม่มีข้อกำหนดในการบริหารพอร์ตของผู้จัดการกองทุน เค้าสามารถโยกเงินได้อย่างอิสระไปยังที่ที่เค้าคิดว่าได้รับผลตอบแทนสูงที่สุด ทีนี่เทียบกับ กองทุนรวมปกติใช่มั้ยครับ ผมว่าคุณจะลงทุน RMF ไปเพื่อลดภาษีไม่ใช่เหรอ ถ้าจะลงทุนใน flex fund ปกติ ก้อเป็นการลงทุนที่ดีแต่จุดประสงค์มันไม่เหมือนกันนะ ก้อเลยเทียบกันไม่ได้ ผมเองก้อลงทุนใน flex fund เหมือนกัน แต่ก้อยังซื้อ RMF ไปด้วยครับ

ถ้าจะซื้อก้อรีบๆ หน่อยนะ รู้สึกจะเอาไปลดหย่อนได้ถ้าซื้อก่อน 23 ธค เท่านั้นครับ

ขอตอบดังนี้ครับ คุณ Supachai

1. วัฏจักรของหุ้น--สมมุติกองทุนหนึ่งซื้อหุ้นทุกตัวในตลาดตามสัดส่วนของ market capitalization กองทุนนั้นจะมีผลการดำเนินงานดีกว่า SET Index ประมาณ 2-3% โดยเฉลี่ยครับ เพราะเงินปันผล แต่โดยปกติแล้ว หุ้นที่กองทุนเลือกจะ outperform SET Index ทั้งขาขึ้นและขาลงครับ ดูตัวอย่างจาก TISCO Index ก็ได้ครับ (คือเลือกเฉพาะหุ้นดีที่มีกำไร ปันผลต่อเนื่อง)
   
   ถ้าเราถือ RMF ลงทุนไป 21 ปี จะผ่านวัฎจักรประมาณ 3 รอบครับ ผลตอบแทนเฉลี่ยของทั้ง 21 ปี ผมคิดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 10% ครับ (((ขอแก้เป็น 10% ต่อปีครับ)))
2. ผมคิดว่าทั้ง RMF และ Provident Fund ต่างก็น่าลงทุนอย่างที่คุณ supachia ว่าแหละครับ ก็เลยลงทั้งสองแบบเลย
3. น่าจะดีกว่าชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องหุ้นเลยนะครับ fund manager บางคนสอบได้หลักสูตร CFA Level 3 ซึ่งจะทำให้มีความสามารถที่จะมองภาพทิศทางเศรษฐกิจการเงินทั่วโลกได้ดีทีเดียวครับ เพราะ flexible fund ต่างๆ มี leverage สูงกว่าเราเยอะครับ ในระหว่างผลตอบแทนจากหุ้นไม่ดี เขาสามารถลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้ได้ครับ ส่วนเราต้องไปซื้อกองทุนหุ้นกู้เอาเอง

ขอบคุณพี่ CK ที่ให้ข้อคิดครับ

ตอบคุณ Supachail ครับเรื่องผลตอบแทนโดยรวมของกองทุน RMF ครับ

จริงอยู่ที่ว่ากองทุนหุ้นอาจจะขาดทุนช่วงขาลงได้ดังนั้น นโยบายของ RMF เปิดโอกาสให้ผู้ถือกองทุนสามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ปีละ 1 ครั้ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (หากสับเปลี่ยนเกิน 1 ครั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ผมไม่แน่ใจ คิดว่าประมาณ 200 บาท)
ดังนั้นถ้าช่วงที่ตลาดหุ้นอยู่ในขาลงหรือผลตอบแทนตราสารหนี้ดี เราสามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ได้ครับ

ผมพึ่งไปสับเปลี่ยนมาจากกองทุนตราสารหนี้เป็นกองทุนหุ้น ช่วงที่มีข่าวผลตอบแทนของตราสารหนี้ตกพอดี

อยากทราบว่าพี่ๆยังรู้สึกดีต่อกองทุนเหมือนเดิมใหมครับ
อย่างช่วง 4 -5 เดือนที่ผ่านมาพวกเราส่วนใหญ่คงติดลบ ประมาณ 1 - 2 % แต่กองทุนน่าจะติดลบเกิน 10 % นะครับ

จำได้ว่าเร็วๆนี้ที่เค้าให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มสำหรับกองทุนรวม
(รวมถึง RMF ด้วยน่ะค่ะ) รายละเอียดมันเป็นยังงัยมั่งนะคะ ออกจะเลือนๆ
แล้วถ้าเราซื้อที่เป็นแบบยืดหยุ่นไปเลยดีมั้ยคะ จะได้ไม่ต้องคอยมาสับเปลี่ยนกองบ่อยๆ กลัวสับไม่ทันน่ะค่ะ

อ่า...แล้ววานช่วยแนะนำกองทุน RMF ที่น่าสนใจในตอนนี้ให้หน่อยนะคะ
เคยเข้าไปดูผลการดำเนินงานในเว็บ aimc.co.th ดูยากค่ะ ศัพย์เยอะไปหมด
เอ..หรือจะดูไม่เป็นเองก็ไม่ทราบค่ะ แหะๆ

ข้อมูลจาก [email protected] ครับ
ตามที่ท่านได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขการได้รับลดหย่อนภาษี
การไถ่ถอนเงินจากกองทุน และความถูกต้องของข้อมูลใน FAQ นั้น

สำนักงานขอเรียนว่า

1. สำนักงานขออภัยในความไม่ถูกต้องดังกล่าว เนื่องจากได้มีการแก้ไขหลักเกณฑ์
ซึ่งสำนักงานกำลังดำเนินการแก้ไขข้อมูล โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วนี้

2. เงินค่าซื้อหน่วยลงทุนของ RMF
สามารถนำไปยกเว้นภาษีได้ตามที่จ่ายจริงและสูงสุดไม่เกิน 15%
ของเงินได้ในแต่ละปี โดยเมื่อรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการแล้วไม่เกิน 300,000 บาท ทั้งนี้ ส่วนเกิน 15%
ไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ นอกจากนี้ ผู้มีเงินได้จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด โดยสรุปคือ

เงื่อนไข

- ต้องสะสมเงินอย่างต่อเนื่อง โดยซื้อหน่วยลงทุนของ RMF ไม่น้อยกว่าปีละ 1
ครั้ง และต้องไม่ระงับการซื้อหน่วยลงทุนเกินกว่า 1 ปีติดต่อกัน
(ยกเว้นกรณีไม่มีเงินได้ในปีภาษีนั้น ก็ไม่ต้องลงทุน)

- ต้องซื้อหน่วยลงทุนของ RMF ไม่น้อยกว่า 3% ของเงินได้ในแต่ละปี
หรือไม่น้อยกว่า 5,000 บาท (แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะต่ำกว่า)

- การไถ่ถอนหน่วยลงทุนทำได้เมื่อผู้ลงทุนอายุไม่น้อยกว่า 55 ปี
และลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงทุนครั้งแรก
(กรณีทุพพลภาพหรือตาย เงินที่ไถ่ถอนจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีทั้งจำนวน)

สิทธิประโยชน์ทางภาษี

1. หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุดไม่เกิน 15%
ของเงินได้ในแต่ละปี โดยเมื่อรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการแล้วไม่เกิน 300,000 บาท/ปี

2. หากลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
แล้วมีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนโดยผู้ลงทุนโดยผู้ลงทุนยังอายุไม่ครบ 55 ปี
ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี capital gain
แต่ต้องชำระคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับจากการหักลดหย่อนในช่วง 5
ปีหลังสุด



จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ