หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็ง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 01, 2006 3:04 pm
หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็ง ( Globlex )
การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ US$ ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 35.82บาทต่อดอลลาร์สูงสุดในรอบ 8 ปีหรือในระดับเดียวกับ
ช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 40 เกิดขึ้นจากเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้าอย่างต่อเนื่องที่เข้ามาเป็นเงินลงทุนในตลาดหุ้น
ตลาดพันธบัตร และเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ โดยส่วนหนึ่งเป็นเงินระยะยาวที่เข้ามาลงทุนโดยตรงในภาคเศรษฐกิจ
1. หุ้นที่ได้รับผลประโยชน์เป็นหุ้นที่นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ หรือบริษัทที่มีหนี้สินในรูปดอลลาร์ได้แก่ ธุรกิจการเกษตร
TLUXE (3.26 ซื้อ เป้าปี 50, 4.30) ซึ่งนำเข้ากากถั่วเหลืองบางส่วนจากต่างประเทศ หุ้นกลุ่มเหล็กซึ่งสั่งเข้าวัตถุดิบในการผลิต
จำพวกเศษเหล็กจากต่างประเทศมาผลิตแนะนำ MS (1.15ซื้อลงทุน เป้าหมาย 1.28) GSTEEL (1.09 ซื้อลงทุน เป้าปี 50, 1.50)
SSI (1.20 ซื้อลงทุน เป้าปี 50, 1.52) สำหรับบริษัทที่มีหนี้สินในรูปดอลลาร์ค่อนข้างสูงที่อาจจะได้รับผลบวกในด้านของมูลค่า
หนี้สินในรูปของเงินดอลลาร์ที่ลดลง เช่น EGCOMP (90.50 ซื้อ เป้าปี 50, 107) PTT (230 ซื้อ เป้าปี 50, 310) PTTEP (110
ซื้อ เป้าปี 50, 126) แต่ไม่มากนักเนื่องจากส่วนใหญ่จะมีนโยบายในการรักษาสัดส่วนรายได้ที่เป็นดอลลาร์ให้ใกล้เคียงกับ
หนี้สินที่เป็นดอลลาร์อยู่แล้ว
2.หุ้นที่เสียประโยชน์เป็นหุ้นส่งออกที่มีรายได้เป็นเงินดอลลาร์ในสัดส่วนสูง หุ้นกลุ่มอาหาร ได้แก่ TUF (24.50 ราคา
เหมาะสมตาม consensus 23.40-30) หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ได้แก่ CCET (4.36 ซื้อลงทุน เป้าปี 50, 5.20) DELTA (17.60 ซื้อ
เป้าปี 50, 22.60) HANA (27.25 ซื้อ เป้าปี 50, 37.50) KCE (4.08 ซื้อ เป้าปี 50, 6.30) SVI (12.90 ซื้อ เป้าปี 50, 15.20) อย่างไร
ก็ตาม บริษัทดังกล่าวก็มีการนำเข้าวัตถุดิบในสกุลดอลล่าร์ในบางส่วนเหมือนกัน ทำให้ผลกระทบที่ได้รับโดยตรงคือรายได้
ในรูปเงินบาทที่จะปรับตัวลดลง แต่เราประเมินว่ายอดขายในรูปดอลล่าร์สหรัฐยังคงขยายตัวสูง ทำให้รายได้ในรูปเงินบาท
ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง
3.หุ้นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบ (NEUTRAL) เนื่องจากส่วนใหญ่บริษัทได้ใช้เครื่องมือการเงินในการประกันความเสี่ยง ไม่มี
รายได้และต้นทุนขายที่อยู่ในรูปดอลลาร์เป็นหลัก หรือมีรายได้และต้นทุนขายอิงกับดอลลาร์ได้แก่ กลุ่มพลังงาน กลุ่ม
ธนาคาร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
(ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในตาราง)
วรุตม์ ศิวะศริยานนท์
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... Dec06_.pdf
การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ US$ ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 35.82บาทต่อดอลลาร์สูงสุดในรอบ 8 ปีหรือในระดับเดียวกับ
ช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 40 เกิดขึ้นจากเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้าอย่างต่อเนื่องที่เข้ามาเป็นเงินลงทุนในตลาดหุ้น
ตลาดพันธบัตร และเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ โดยส่วนหนึ่งเป็นเงินระยะยาวที่เข้ามาลงทุนโดยตรงในภาคเศรษฐกิจ
1. หุ้นที่ได้รับผลประโยชน์เป็นหุ้นที่นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ หรือบริษัทที่มีหนี้สินในรูปดอลลาร์ได้แก่ ธุรกิจการเกษตร
TLUXE (3.26 ซื้อ เป้าปี 50, 4.30) ซึ่งนำเข้ากากถั่วเหลืองบางส่วนจากต่างประเทศ หุ้นกลุ่มเหล็กซึ่งสั่งเข้าวัตถุดิบในการผลิต
จำพวกเศษเหล็กจากต่างประเทศมาผลิตแนะนำ MS (1.15ซื้อลงทุน เป้าหมาย 1.28) GSTEEL (1.09 ซื้อลงทุน เป้าปี 50, 1.50)
SSI (1.20 ซื้อลงทุน เป้าปี 50, 1.52) สำหรับบริษัทที่มีหนี้สินในรูปดอลลาร์ค่อนข้างสูงที่อาจจะได้รับผลบวกในด้านของมูลค่า
หนี้สินในรูปของเงินดอลลาร์ที่ลดลง เช่น EGCOMP (90.50 ซื้อ เป้าปี 50, 107) PTT (230 ซื้อ เป้าปี 50, 310) PTTEP (110
ซื้อ เป้าปี 50, 126) แต่ไม่มากนักเนื่องจากส่วนใหญ่จะมีนโยบายในการรักษาสัดส่วนรายได้ที่เป็นดอลลาร์ให้ใกล้เคียงกับ
หนี้สินที่เป็นดอลลาร์อยู่แล้ว
2.หุ้นที่เสียประโยชน์เป็นหุ้นส่งออกที่มีรายได้เป็นเงินดอลลาร์ในสัดส่วนสูง หุ้นกลุ่มอาหาร ได้แก่ TUF (24.50 ราคา
เหมาะสมตาม consensus 23.40-30) หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ได้แก่ CCET (4.36 ซื้อลงทุน เป้าปี 50, 5.20) DELTA (17.60 ซื้อ
เป้าปี 50, 22.60) HANA (27.25 ซื้อ เป้าปี 50, 37.50) KCE (4.08 ซื้อ เป้าปี 50, 6.30) SVI (12.90 ซื้อ เป้าปี 50, 15.20) อย่างไร
ก็ตาม บริษัทดังกล่าวก็มีการนำเข้าวัตถุดิบในสกุลดอลล่าร์ในบางส่วนเหมือนกัน ทำให้ผลกระทบที่ได้รับโดยตรงคือรายได้
ในรูปเงินบาทที่จะปรับตัวลดลง แต่เราประเมินว่ายอดขายในรูปดอลล่าร์สหรัฐยังคงขยายตัวสูง ทำให้รายได้ในรูปเงินบาท
ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง
3.หุ้นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบ (NEUTRAL) เนื่องจากส่วนใหญ่บริษัทได้ใช้เครื่องมือการเงินในการประกันความเสี่ยง ไม่มี
รายได้และต้นทุนขายที่อยู่ในรูปดอลลาร์เป็นหลัก หรือมีรายได้และต้นทุนขายอิงกับดอลลาร์ได้แก่ กลุ่มพลังงาน กลุ่ม
ธนาคาร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
(ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในตาราง)
วรุตม์ ศิวะศริยานนท์
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... Dec06_.pdf