Thai VI

8. อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของบริษัทจากเดิมจำนวน 14  ข้อ  เป็นวัตถุประสงค์ใหม่จำนวน  
15  ข้อ ซึ่งได้มีการพิจารณาเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ใหม่จำนวน  1  ข้อ  เป็นดังนี้
    " ประกอบกิจการผลิตเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตเครื่องใช้
ไฟฟ้า  รวมทั้งวัตถุดิบ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า "  
          โดยมีรายละเอียดของการดำเนินธุรกิจใหม่เป็นดังนี้
ผลิตภัณฑ์ : เครื่องรีดแผ่นทองแดงเพื่อใช้ในแผงวงจรไฟฟ้า
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป
ประมาณการลงทุน : 100   ล้านบาท
กลุ่มลูกค้า : ประเทศไต้หวัน , ญี่ปุ่น , อเมริกา , เกาหลีใต้
ระยะเวลาของผลตอบแทนที่จะคุ้มกับเงินลงทุน
: 3-5    ปี
ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจาถ้ามีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
------------------------------------------------------------------------------------
พอจะไปไหวในธุรกิจใหม่นี้มั้ยครับ

ชีวิตต้องสู้

หวังว่าเลือดคงจะหยุดไหลเร็วๆๆๆ
และไม่หวังพึ่งพาบริษัทที่สั่งซื้อเพียงบริษัทเดียวเหมือนเมื่อก่อนนี้ล่ะกัน

ประสบการณ์มันต้องสอนอะไรกันบ้างอ่ะ

ระวังอยู่เรื่องเดียว ความผันผวนของราคาทองแดง
ตัวที่มีความสามารถในการจัดการกับความผันผวนของพวกนี้ได้มีอยู่น้อยมากๆๆๆ ที่ผลักภาระไปให้กับลูกค้าได้ อย่างเต็มที่ ต้องพิจารณาเอาไว้ด้วย

นึกไม่ออกว่ารีดแผ่นทองแดงไปทำส่วนไหน

พวก Bus Bar เหรอ หรือว่าก้าน cutout

หรือว่า copper layer ใน PCB

มันจะรุ่งเหรอครับ เห็นเค้าขายกันทั่วไปในท้องตลาด

[quote="JackJune"]8. อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของบริษัทจากเดิมจำนวน 14

ผมว่าราคานี้ก็ยังคงจัดว่าเป็นราคาซากอยู่ดี...1.88*2.3 ~ 432 ล้านบาท

ถ้าดูจากงบปีที่เพิ่งปิดไป...ขาดทุนบักโกรก...2.05 บาทต่อหุ้น...
ไตรมาสถัดไปก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่...จะดีจะแย่ก็ต้องรอดู...

ถ้าดูจากฐานะการเงิน...
กำไรสะสม...พลิกกลับมาเป็น ติดลบ -65 ล้านบาท แต่ยังไงแค่นี้ก็ยังคงจิ๊บจ๊อยมั้งครับเพราะบอสัดมันยังมี ส่วนเกินมูลค่าหุ้นอยู่ตั้ง 410 ล้านบาท...ไอ้ขาดทุนหนักๆแบบปีถึงสองปีที่ผ่านมาคงจะไม่มีแล้ว...เนื่องจากรายจ่ายลดลงฮวบ...พนักงานโดน lay off ไปเพียบ...  :shock:  :shock: >

เงินสดคงเหลือ 62 ล้านบาท
เงินลงทุนระยะสั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกหุ้นกู้...225 ล้านบาท...
<รวมๆสองรายการตีว่าได้ประมาณ 280 ล้านบาท...
ถ้าหาร 188 ล้านหุ้น หมายความว่า ถ้าใครซื้อ 1 หุ้น ตอนนี้ก็จะมีเงินสดคืนมา 1.5 บาท
นี่ถ้าใครได้ราคา super panic สมัย 1.5 บาทเมื่อปีที่แล้วไปคง ไม่ต้องทำอะไร...วันนั่งกระดิกขาอย่างเดียว...ก็ยังยิ้มออก> :lol:  :lol:  :lol:

สินทรัพย์อื่นพวก สินค้าคงเหลือ อาคาร อุปกรณ์ และ ที่ดิน ไม่ต้องพูดถึง...ตีให้เหลือ 0 บาทเรยส์เอ้า...  :shock:  :shock:

หนี้สินระยะยาวไม่มี...0 บาท...


สำหรับพวกผู้ถือหุ้นใหญ่<หรือเจ้าของ>...หุ้นที่ถืออยู่ก็คงไม่เหลือทุนแล้วแหละครับ...เพราะสมัยก่อนได้ปันผลต่อหุ้นกัน 2-3 บาท อยู่ตั้งหลายปี...
ราคาปัจจุบันยังถูกกว่าเงินปันผลที่รับกันมาเมื่อ 5-6 ปีที่แล้วอีก...  :shock:  :shock:

ดูๆแล้วยังมีอะไรที่น่ากลัวอีกมั้ยครับสำหรับ บอสัด แบบนี้...จะยกเว้นก็แต่ว่า ทำธุรกิจใหม่แล้วมันก็ยังคงเจ๊งอยู่มั้งครับ...