Thai VI

วันหน้าใครจะกำไรโตกว่ากัน

ของ PB ชัวร์กว่าครับ

วัดกันสองตัวนี้เลยหรือ
PBนี้ต้องไปถามเฮียคลายเครียด
ส่วนS&Pนี้ต้องรอขุดอยู่ ขุดเท่าไรก็ไม่หมด

PB ตอนนี้ เข้าใจว่าน่าจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลงพอสมควร อันเนื่องมาจาก Logistic Cost ลดลงแถมรู้สึกน่าจะได้ปรับราคาเข้าไปแล้ว นอกจากนั้นคงต้องรอการขยายโรงงาน ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จอีก 1 ปีกว่าๆ คงจะทำให้สามารถผลิตได้มากขึ้น ผมลองเดินสังเกตตามร้านต่างๆ ก็ยังเห็นว่า ขนมปังก็ยังมีคนซื้อหมด Shelf เป็นประจำ
S&P คงต้องรอว่าแผนการ Synergy กับทาง MINT เป็นอย่างไรบ้างซึ่งคาดว่าอีกสักพักคงจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรม นอกจากนั้น การที่ MINT ไม่ได้มี Chain Store ร้านอาหารไทย ทำให้เมื่อมีการควบรวมแล้ว คงน่าจะสามารถนำ brand S&P เข้าไปเจาะตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น ซึ่งค่า P/E ของ MINT ในขณะนี้ค่อนข้างสูง ถ้าการ Synergy เป็นผลสำเร็จ ค่า P/E ของ S&P คงน่าจะวิ่งเพิ่มสูงขึ้นได้อีก นอกจากนั้น การที่ MINT ถือเพียงแค่ 30 % และยังมีผู้ถือหุ้นเก่าถืออยู่ ทำให้การบริหารน่าจะโปร่งใสมากขึ้น เนื่องจากมีสองฝ่ายมีการคานอำนาจกัน ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างเราๆ น่าจะได้ประโยชน์จากการควบคุมซึ่งกันและกัน
ในระยะสั้น PB ดูน่าจะดีขึ้นกว่า แน่นอนกว่า ในระยะยาวไม่แน่ต้องรอดูแผนการ Synergy ของ S&P แต่อย่างไรก็ตามผมว่า ก็น่าสนใจทั้งสองตัวครับ

โตแง่ไหนละท่าน hot

ขอยืมคำท่าน chatchai หน่อยว่า

จะสรุปแบบว่าโตแบบไหน มีหลายประเด็นให้ขบคิด

แต่สำหรับผมนะ s&p โตทางจิตใจครับ

หลังจากได้เจอคุณ ประเวศวุฒิ ไรวา ที่วัดผานิตยารามแล้ว

อยากจะบอกว่า พวกเราที่เน้นการลงทุน หยาบคายมากๆ วันๆคิดแต่เรื่องกำไร

คิดแต่เรื่องโต คิดแต่เรื่องความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ขาดทุน

แต่จริงๆ แล้วเราได้เรียนรู้อะไรในชาตินี้

เราได้สั่งสมบารมีอะไรในชาติหน้า

คุณประเวศวุฒิ ไรวา ได้สอนเรื่อง แต่ละภพ ภูมิ

ที่เราเกิดมาเวียนว่าย

แหมคุณjengไม่ได้เจอซะนาน
รอบนี้มากับพระแฮะ

ผมคงต้องเปลี่ยนมุมมองS&pใหม่แล้ว
ถ้าผู้บริหารค้าขายไม่เอากำไร

ความจริงกำไรกับพุทธธรรมไปด้วยกันได้สบาย
ถ้ากำไรนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของธุรกิจที่
-ไม่ผิดศีลธรรม
-ไม่ค้ากำไรเกินควร
-กำไรที่ได้แบ่งไปทำประโยชน์แก่สังคมแก่ผู้ด้อยโอกาส
ยิ่งกำไรมากยิ่งมีปัจจัยมาก

ผมก็เคยเจอ อ. วรากรณ์ ไรวา ครับ ที่ยุวพุทธ มาเป็นวิทยากร ให้คอร์สวิปัสสนา ของคุณแม่สิริ กริณชัย

ครับ ตระกูลนี้ มาทั้งตระกูลครับ ในสายคุณแม่ครับ

ผมยังหวังให้ PB ไปขยาย ในกลุ่ม อินโดจีนครับ
 ลาว เขมร เวียดนาม กิน ขนมปังฝรั่งเศส กันถ้วนหน้า
เเถมขนมปังที่ขายอยู่ก็ดู ไม่ค่อยสะอาด บางร้าน ต้องมาตบๆไล่ฝุ่น ก่อนค่อยเอามาขาย

 :(  :(  :(  :(  :(

terati20 เขียน:ผมยังหวังให้ PB ไปขยาย ในกลุ่ม อินโดจีนครับ
 ลาว เขมร เวียดนาม กิน ขนมปังฝรั่งเศส กันถ้วนหน้า
เเถมขนมปังที่ขายอยู่ก็ดู ไม่ค่อยสะอาด บางร้าน ต้องมาตบๆไล่ฝุ่น ก่อนค่อยเอามาขาย

 :(  :(  :(  :(  :(

ผมเห็นต่างออกไปนะครับ
ชาวฝรั่งเศสมีรสนิยมในการทำขนมปังมาก ดูแล้วน่าบริโภคไปหมด
แล้วคนเวียดนามได้สูตรการทำ ขนมปังจากฝรั่งเศส
ทำขนมปังได้เนื้อแน่น ไม่อ่อนพริ้วแบบขนมปังไทย
เพราะของเราจะหนักผงฟู
วัฒนธรรมการกินขนมปังของไทยกับอินโดจีนที่รับวัฒนธรรมฝรั่งเศสต่างกันพอดูครับ
คงต้องศึกษาให้ลึกถ้าจะทำตลาดนี้

ความนิยมชมชอบขนมปังของไทยจะใกล้กับญี่ปุ่นมากกว่าครับ
ชาวญี่ปุ่นเรียกขนมปังว่า " ปัง " ตรงตัว และทำขนมปังทุกแบบที่มีในโลก จะพบขนมปังเป็นร้อยชนิดดูลานตาไม่รู้จะลองอะไรก่อนดี
ดีแล้วที่ส่งออกแป้งโดแช่แข็งไปญี่ปุ่น

ขนมปังก็ยังมีคนซื้อหมด Shelf เป็นประจำ

เค้าเก็บของหมดอายุออกคับ เหมือนโฆษณา

อัม "ป้ง" แมน ของญี่ปุ่น


ปะทะ



ปังปอนด์ ของไทย

สุมาอี้ เขียน:
อัม "ป้ง" แมน ของญี่ปุ่น


ปะทะ



ปังปอนด์ ของไทย

อันปัง หรือ อัมปัง ครับผมไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ แบคทีเรียแมนหายไปไหน  :mrgreen:

หมดไวจริงๆ คอนโดผม และ ร้านค้าใต้ตึกในย่านธุรกิจ หลายที่ที่ผมสำรวจมา น่าขยายกำลังการผลิตมากๆ

ความเสี่ยงของฟาร์มเฮ้า อยู่ที่ House Brand ของ Modern Trade ที่พยายามยัดเข้ามา แล้วไล่ฟาร์มเฮ้า ไปขายใน shelf ที่แย่ลง ซึ่งผมเห็น Lotus และ 7-11 กำลังทำแบบนี้อยู่

ปล ผมมีหุ้นตัวนี้อยู่ คิดว่าใน 1-2 ปีนี้ น่าจะ ok .... มั้ง

ไม่ทราบว่ามีท่านใดที่พอทราบ Utilization Rate ณ ปัจจุบันของ PB บ้างครับ

อนึ่ง สัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่ม MINT  ภายหลังการทำรายการดังกล่าวข้างต้น
แล้วจะเป็นดังนี้

        (1)   ก่อนการแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิ
                   -  หุ้นสามัญ จำนวน  9,710,573  หุ้น คิดเป็นร้อยละ 10.91 ของ
ทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วในขณะนี้ เท่ากับจำนวน  89,021,700 หุ้น
                   -  ใบสำคัญแสดงสิทธิ จำนวน   8,069,627  หน่วย

        (2)   ภายหลังการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ
                   -  หุ้นสามัญเดิมและหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิแปลงสภาพ
เป็นหุ้นสามัญ จำนวน 17,780,200  หุ้น  คิดเป็นร้อยละ  18.31 ของทุนจดทะเบียนชำระ
แล้วภายหลังจากการแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของ
กลุ่ม  MINT  คือ    97,091,327 หุ้น

        จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

                                       ขอแสดงความนับถือ



                                      (นางเกษสุดา    ไรวา)
                                     กรรมการและเลขานุการ
                       บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)

utilization rate ของกำลังการผลิตใกล้จะเต็ม จึงจำเป็นต้องสร้างโรงงานใหม่ที่นิคมบางชัน เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ และการส่งออกโดลแช่แข็งไปญี่ปุ่น

ปัจจุบันจึงต้องใช้พื้นที่บางส่วนของโรงงานที่ทำการผลิตโดลแช่แข็ง  มาขยายการผลิตขนมปังช่วยคราวก่อนที่โรงงานใหม่ที่บางชันจะสร้างเสร็จในช่วงกลางปี
พ.ศ.2550

[quote="setsmart"]utilization rate ของกำลังการผลิตใกล้จะเต็ม จึงจำเป็นต้องสร้างโรงงานใหม่ที่นิคมบางชัน เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ และการส่งออกโดลแช่แข็งไปญี่ปุ่น

ปัจจุบันจึงต้องใช้พื้นที่บางส่วนของโรงงานที่ทำการผลิตโดลแช่แข็ง

ขอกลับไปดูข้อมูลตอนประชุมสามัญ เมื่อช่วงเดือนเมษา หรือ พฤษภาคม 2549 ก่อน  เพราะทางผู้บริหารได้มีการชี้แจงเรื่องนี้ให้ผู้ถือหุ้นทราบ

หากหาเจอแล้วจะมาบอกให้ทราบ

[quote="setsmart"]ขอกลับไปดูข้อมูลตอนประชุมสามัญ เมื่อช่วงเดือนเมษา หรือ พฤษภาคม 2549 ก่อน

พอดีผมเคย Copy ที่มีคนมา Post เืรื่องการประชุมสามัญไว้ ขอตอบคุณ Woody แทนคุณ setsmart เลยนะครับ

"โรงงานปัจจุบันที่นิคมลาดกระบัง(เรียกว่า ลาดกระบัง1 เป็นที่ดินเช่า มี 3 โรงงาน) ได้ใช้กำลังการผลิตที่ 80% ยังสามารถขยายได้อีก 10% เท่านั้น"

xcha เขียน:พอดีผมเคย Copy ที่มีคนมา Post เืรื่องการประชุมสามัญไว้ ขอตอบคุณ Woody แทนคุณ setsmart เลยนะครับ

"โรงงานปัจจุบันที่นิคมลาดกระบัง(เรียกว่า ลาดกระบัง1 เป็นที่ดินเช่า มี 3 โรงงาน) ได้ใช้กำลังการผลิตที่ 80% ยังสามารถขยายได้อีก 10% เท่านั้น"

อืม คุณ xcha หมายความว่า จาก 100% จะสามารถขยายกำลังการผลิตได้เป็น 110% หรือว่า ตอนนี้ 80% จะเหลือความสามารถในการผลิตอีกแค่ 10% หรือครับ

ขอขอบคุณล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วยครับ

Woody ครับ

ผมเข้าใจว่าเขาคง run โรงงานไม่ถึง 100% เพราะการ run 100% อาจมี

ผลเสียกับเครื่องจักรหากเดินเครื่องไปนานๆ ดังนั้นผมว่าเขาให้ Max ที่ 90%

ของกำลังผลิต อันนี้เดาเอาครับ

ทั้งนี้คุณอภิชาติได้ให้สัมภาษณ์ใน POSTTODAY ฉบับประมาณ กรกฎา 49

ว่าขณะนี้ run อยู่ที่ประมาณ 90% แล้ว

ผมขออนุญาติตัดบทสัมภาษณ์มาบางส่วนดังนี้ครับ

"นายอภิชาติ ธรรมมโนมัย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ ผู้ผลิตและ จัดจำหน่ายขนมปังตราฟาร์มเฮ้าส์ เปิดเผยว่า การลงทุน 1.5 พันล้านบาท สำหรับสร้าง 2 โรงงาน แห่งใหม่ แบ่งออกเป็นการลงทุนสร้างโรงงานนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังบนพื้นที่ 12.5 ไร่ รวมมูลค่าที่ดินและโรงงานเครื่องจักร 1.2 พันล้านบาท เพื่อขยายไลน์ผลิตขนมปังสำหรับจำหน่ายในประเทศ จากปัจจุบันที่โรงงานเดิมที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังเดินเครื่องผลิตแล้ว 90% คาดว่า จะสามารถเริ่มผลิตได้ในไตรมาสแรกของปี 2551

ส่วนอีกโรงงานจะตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ใกล้กับโรงงานเดิม ขนาดพื้นที่ 6 ไร่ รวมมูลค่าลงทุน 250-300 ล้านบาท คาดว่าจะ เริ่มผลิตได้ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยจะเป็นโรงงานที่ผลิตขนมปังแช่แข็ง หรือโฟรเซ่น โดล เพื่อส่งออกทั้งหมด รวมทั้งจะย้ายไลน์ผลิตเพื่อ ส่งออกจากโรงงานเดิมมาไว้ที่โรงงานแห่งนี้ด้วย ส่งผลให้กำลังการผลิตเพื่อการส่งออกเพิ่มขึ้นอีก 5 เท่าจากเดิม "


 :D  :D

[quote="คนขายของ"]Woody ครับ

ผมเข้าใจว่าเขาคง run โรงงานไม่ถึง 100% เพราะการ run 100% อาจมี

ผลเสียกับเครื่องจักรหากเดินเครื่องไปนานๆ ดังนั้นผมว่าเขาให้ Max ที่ 90%

ของกำลังผลิต อันนี้เดาเอาครับ

ทั้งนี้คุณอภิชาติได้ให้สัมภาษณ์ใน POSTTODAY ฉบับประมาณ กรกฎา 49

ว่าขณะนี้ run อยู่ที่ประมาณ 90% แล้ว

ผมขออนุญาติตัดบทสัมภาษณ์มาบางส่วนดังนี้ครับ

"นายอภิชาติ ธรรมมโนมัย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ ผู้ผลิตและ จัดจำหน่ายขนมปังตราฟาร์มเฮ้าส์ เปิดเผยว่า การลงทุน 1.5 พันล้านบาท สำหรับสร้าง 2 โรงงาน แห่งใหม่ แบ่งออกเป็นการลงทุนสร้างโรงงานนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังบนพื้นที่ 12.5 ไร่ รวมมูลค่าที่ดินและโรงงานเครื่องจักร 1.2 พันล้านบาท เพื่อขยายไลน์ผลิตขนมปังสำหรับจำหน่ายในประเทศ จากปัจจุบันที่โรงงานเดิมที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังเดินเครื่องผลิตแล้ว 90% คาดว่า จะสามารถเริ่มผลิตได้ในไตรมาสแรกของปี 2551

ส่วนอีกโรงงานจะตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ใกล้กับโรงงานเดิม ขนาดพื้นที่ 6 ไร่ รวมมูลค่าลงทุน 250-300 ล้านบาท คาดว่าจะ เริ่มผลิตได้ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยจะเป็นโรงงานที่ผลิตขนมปังแช่แข็ง หรือโฟรเซ่น โดล เพื่อส่งออกทั้งหมด รวมทั้งจะย้ายไลน์ผลิตเพื่อ ส่งออกจากโรงงานเดิมมาไว้ที่โรงงานแห่งนี้ด้วย ส่งผลให้กำลังการผลิตเพื่อการส่งออกเพิ่มขึ้นอีก 5 เท่าจากเดิม "

ตามข้อมูลของ xcha และ คนขายของ ถูกต้องแล้ว  

โรงงานที่นิคมลาดกระบัง เรียกว่าโรงงานลาดกระบัง1 ใช้กำลังการผลิตแล้ว 80% เหลือกำลังการผลิตอีก 10% เท่านั้น (จะไม่ใช้เต็ม 100%) ข้อมูล ณ.พฤษภาคม 2549  

และระหว่างรอการสร้างโรงงานใหม่ซึ่งต้องใช้เวลาออกแบบ และก่อสร้างประมาณปีครึ่ง  ทางผู้บริหารก็ได้ตัดสินใจซื้อที่ดินและโรงงานเก่าขนาด 6 ไร่ ณ.เดือน ธันวาคม 2548  เพื่อปรับปรุง และ ลงเครื่องจักร กำลังการผลิต 1000 kg/วัน เสร็จประมาณ สิงหาคม 2549 เรียกว่า โรงงานลาดกระบัง2 เพื่อทำการผลิต Frozen Dole เพื่อการส่งออกไปญี่ปุ่น 80 - 90% ของกำลังการผลิต

ส่วน โรงงานใหม่ที่นิคมบางชัน (12 ไร่) จะเสร็จประมาณ ไตรมาส1 ปี 2551 และจะทำการย้ายสำนักงานใหญ่ที่ปัจจุบันอยู่แถวถนนเพชรบุรี (พื้นที่เช่า) มารวมไว้ที่นิคมบางชันด้วย   สาเหตุที่เลือกย่านบางชันในการตั้งสำนักงาน และ โรงงานใหม่  ก็ผลในเรื่องของการกระจายสินค้า หรือ Logistic ได้ง่าย เพราะใกล้ทางด่วน, ถนนวงแหวน เพื่อประหยัดในเรื่องค่าขนส่ง และ  ที่สำคัญ คือ เวลาและการจราจร

อืม งั้นระหว่างนี้ PB จะโตอย่างไรดีครับกว่าจะถึงปี 2551 ....เปลี่ยน product mix?

งั้นระหว่างนี้ PB จะโตอย่างไรดีครับกว่าจะถึงปี 2551

ผลิตสินค้าราคาสูงแบบs&p

เช่นขนมเค็กปีใหม่นี่แหละคับ
ขนมไหว้พระจันทร์

สาเหตุหลักที่ PB ดีขึ้นน่าจะเป็นเหตุผลเรื่องความได้เปรียบในการกระจายสินค้า

สินค้าที่ต้องการความสดใหม่อยู่เสมอ การกระจายสินค้าให้เร็วต้องลงทุนสูงมาก คู่แข่งรายอื่นๆ ของ PB ค่อนข้างจะเล็ก จึงไม่สามารถแข่งขันกับ PB ได้

การสร้างความแตกต่างด้วยการใส่ใส้ให้เยอะกว่าไม่สามารถสร้าง competitive advantage ได้ เพราะการใส่ไส้เยอะกว่าเป็นสิ่งที่สามารถเลียนแบบได้ง่าย