Thai VI

วันนี้ผมเข้าอบรมสัมมนาการส่งออกมา มีวิทยากรท่านนึงซึ่งอยู่ในวงการธุรกิจขนส่งทางทะเล บอกว่า ค่าระวางเรือในปีหน้าจะลดลง โดยให้เหตุผลว่า จะมีเรือใหม่ขนาดใหญ่มาให้บริการเพิ่ม ทำให้ซัพพลายสูงกว่าดีมานด์และจะส่งผลทำให้ค่าระวางเรือต่ำลงไปอีกค่อนข้างมาก คือ แค่อยากมาแชร์ครับ อาจเป็นประโยชน์กับบางท่าน เชื่อหรือไม่ ลองหาข่าวเพิ่ม หรือลองพิจารณาดูอีกทีแล้วกันครับ

ขอบคุณครับ
หุ้นเรือที่ไม่มีหนี้วิ่งจัง

ผมเริ่มสงสัย  สินค้าเทกองจะอยู่คู่โลกอีกนานมั๊ย

[quote="ด๊กดิงด่าง"]ผมเริ่มสงสัย

ใช่ครับ การส่งสินค้าทางเรืออยู่คู่โลกไปอีกนานเพียงแต่จะมากจะน้อยเท่านั้น

เรือเทกองยังมี Value อยู่ โดยเฉพาะในประเทศที่ไม่นิยมขนส่งสินค้าด้วยรถไฟ (เช่น ไทย) เพราะการส่งของด้วยเรือเทกองประหยัดจึงเหมาะกับสินค้าที่ lead time ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

ฟังเขามาครับ  8)

[quote="สุมาอี้"]เรือเทกองยังมี Value อยู่ โดยเฉพาะในประเทศที่ไม่นิยมขนส่งสินค้าด้วยรถไฟ (เช่น ไทย) เพราะการส่งของด้วยเรือเทกองประหยัดจึงเหมาะกับสินค้าที่ lead time ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

ฟังเขามาครับ

[quote="สุมาอี้"]เรือเทกองยังมี Value อยู่ โดยเฉพาะในประเทศที่ไม่นิยมขนส่งสินค้าด้วยรถไฟ (เช่น ไทย) เพราะการส่งของด้วยเรือเทกองประหยัดจึงเหมาะกับสินค้าที่ lead time ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

ฟังเขามาครับ

ประเด็นที่ผมมองคือเมื่อเปิดการค้าเสรีมากขึ้นเรื่อยๆ  สินค้าเทกองทั้งหลายอาจแปรเปลี่ยนไปเป็นสินค้าสำเร็จรูปมากขึ้นเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มจากประเทศผู้ผลิตต้นทางมากขึ้น(เพื่อเพิ่มขนาดเศรษฐกิจ)เพราะไม่มีพิกัดภาษีตามลักษณะสินค้ามาเป็นเงื่อนไขตามขั้นของการถูกแปรรูป  ส่วนผสมหรือลักษณะและขนาดของบรรจุภัณฑ์ที่ใช้  ฯลฯ  ในลักษณะจากผู้ผลิตแปรรูปสำเร็จพร้อมบริโภคแบบ from farm to table  เพราะฉนั้นลักษณะของแพคกิ้งอาจเปลี่ยนไปให้เหมาะสมกับการขนส่งชนิดอื่น เช่นเรือตู้ หรือทางบก เพื่อให้ตอบสนองต่อการกระจายสินค้าให้คล่องตัวที่สุดเพื่อต้นทุนที่ต่ำลง  ตัวอย่างเช่นเราอาจส่งอาหารสัตว์สำเร็จรูปเป็นถุงขนาดพร้อมใช้ที่ปลายทางแทนที่จะเป็นการส่งมันสำปะหลังและส่วนผสมอื่นๆแบบบรรจุถุงกระเช้าขนาดใหญ่แบบเดิม(ผมอาจยกตัวอย่างไม่ตรง แต่คิดว่าเป็นลักษณะแบบนี้)

การแปรรูปพร้อมใช้สำหรับผู้บริโภคปลายทาง ย่อมต้องเกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ประเทศต้นทางอย่างแน่นอนไม่ว่าอุตสาหกรรมเกี่ยวกับตัวสินค้าเอง  บรรจุภัณฑ์  และอื่นๆ