Thai VI

อยากรู้

Dividend Policy  : Minimum of 30% of net profit after tax, except if any necessities exist and there is impact to business operation

งบออกช้าอีกแล้วครับท่าน

งบออกแล้วนี่คับ

คุณhot คิดว่าไงครับ

คือรู้สึกว่า มาร์จินจากการรับจ้างผลิตเพิ่มขึ้นอย่างนัยสำคัญหรือปล่าวครับ

ได้ภาษีคืนตั้ง 45 ล้านครับ

เงินสดท่วมบริษัทปันผล  บาทยังไม่กระเทือนซางเลยครับ :lol:  ที่น่าห่วง ดร. แกกะจะขายหมดทั้ง 19 ล้านห้นเลยหรือครับ

ดูสไตลการออกข่าว เข้าใจคิดนะครับเนี่ย เผลอๆ เสร็จ จะมีไรให้แปลกใจอีกหว่า อันนี้ผมก็ไม่รู้นะครับ

ดูจากงบกำไรขาดทุน
สังเกตว่า ต้นทุนจากการรับจ้างผลิตน้อยลงไปประมาณ 400 ล้านบาท
กำลังรออ่านเหตุผลว่าเพราะอะไร?? คิดว่าพรุ่งนี้คงได้อ่าน

ก็หวังว่ามันคงไม่เกิดแค่ครั้งเดียวในไตรมาสสามนะครับ

สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่ 3 (F45-3)
                                         บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน)
     
                                                                                                                    สอบทาน
                                                                                                                (หน่วย : พันบาท)
                                                                                                        สิ้นสุดวันที่  30 กันยายน
                                                                          ไตรมาสที่ 3                          งวด 9 เดือน
                                              ปี                 2549             2548                 2549            2548
     
         กำไรสุทธิ                                     134,530          41,410            327,174      117,133
         กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท)                       0.54              0.17                    1.31            0.47

ที่ อทพ.297/2549
     
                                                                             วันที่ 14 พฤศจิกายน 2549
     
     เรื่อง      ชี้แจงงบการเงินไตรมาส 3 ปี 2549
     เรียน      กรรมการและผู้จัดการ
                    ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
     
              ตามที่บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) ได้นำส่งงบการเงินไตรมาส 3 ปี 2549
     สำหรับงวดสามเดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2549
     จึงใคร่ขอเรียนชี้แจงสาเหตุและผลการดำเนินงานดังนี้
              * รายได้จากการรับจ้างผลิต, การขายและบริการ เท่ากับ 290.96 ล้านบาท ลดลง
     60.13% เมื่อเทียบกับ 729.85 ล้านบาท สำหรับระยะเวลาเดียวกันในปี 2548
              * กำไรขั้นต้นจากการผลิต, การขายและบริการ เท่ากับ 104.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
     60.35%  เมื่อเทียบกับ 65.24 ล้านบาท สำหรับระยะเวลาเดียวกันในปี 2548
              * กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นในขณะที่รายได้ลดลงมาก มีสาเหตุหลักเนื่องมาจากโครงการ
     ที่บริษัทและบริษัทย่อยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างร่วมกันโครงการหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่ได้ดำเนินการ
     แล้วเสร็จไปในไตรมาสที่ 2 แต่เพิ่งมีการปิดโครงการกับลูกค้าเสร็จสิ้นในไตรมาสที่ 3
     ส่งผลให้บริษัทและบริษัทย่อยสามารถรับรู้กำไรทั้งจำนวนในไตรมาสนี้
     ในขณะเดียวกันโครงการใหม่ของบริษัทฯส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มดำเนินการทำให้
     การรับรู้รายได้ยังคงอยู่ในอัตราส่วนที่น้อยจึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่รายได้สำหรับไตรมาส
     น้อยกว่าระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
              * จากสาเหตุดังกล่าวทำให้บริษัทแสดงผลกำไรสุทธิ 134.53 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี
     2549
     
                                                                                จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
     
                                                                                     ขอแสดงความนับถือ
     
     
     
                                                                               (นายมาศถวิน ชาญวีรกูล)
                                                                                     กรรมการผู้จัดการ

ทำท่าจะเปิดชนเพดานครับ วันนี้เสียดายเมื่อวานรับน้อยไปหน่อย

แปลกจังไม่เห็นพูดถึงเรื่องภาษีรับคืนเลยนะ

เงินสดท่วมเพราะลูกหนี้การค้าลด  พร้อมกับรายได้ลด  แสดงว่างานลด

ถ้างานเพิ่ม  ลูกหนี้การค้าก็คงเพิ่ม  เงินสดก็คงจะลด

ปฏิเสธmcs อืม คงมีงานอะไรอยู่ในมือหรือเปล่าคับ

สงสัยจัง

รายได้ลดลงไปเยอะ แต่กำไรเพิ่มขึ้นมาก

เค้าทำยังไงครับ

เผื่อหนี้สงสัยสูญเยอะจัง

ถ้าควบคุมต้นทุนรับจ้างผลิตได้ดี น่าจะมีกำไรต่อเนื่อง

ค่าใช้จ่ายจากการขายและบริการไม่สูง

น่าจะเป็นเรื่องนี้นะ
มีเศรษฐีบ้านนอกคนหนึ่ง เป็นสหายผู้ไม่เคยเห็นกัน
         ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี วันหนึ่งได้ให้คนงาน
         นำสิ่งของมาขายเมืองสาวัตถี เมื่อมาถึงอนาถบิณเศรษฐี
         ก็ให้การต้อนรับ เลี้ยงดูอย่างสะดวกสบาย
         แต่เมื่ออนาถบิณเศรษฐี ส่งสินค้าและเครื่องบรรณาการ
         ไปขายที่บ้านของเศรษฐีบ้านนอกกลับไม่ได้รับ
         ความสะดวกสบายแถมยังถูกปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักอีกต่างหาก
         ภายหลังเศรษฐีบ้านนอกส่งสิ้นค้ามาขายอีก
         ก็เลยดดนเอาคืน ด้วยการถูกขโมยสิ้นค้าจนหมด จึงมีคำกล่าวที่ว่า
         " ผู้ใด ไม่รู้จักคุณความดีและประโยชน์ให้ที่ผู้อื่นกระทำไว้ก่อน
         ผู้นั้น เมื่อมีกิจการเกิดขึ้นภายหลัง ย่อมไม่ได้ผู้ช่วยเหลือ "
         สำหรับวันนี้ เป็นวันธงไชย ฤกษ์ดีเหมาะกับการมงคล เข้าบ้านใหม่
         หุ้นที่อาจารย์แนะนำคือ xxxx
         ส่วนหุ้นที่ไม่ขอแนะนำคือ xxxxx
         คติวันนี้ บุญคุณคนต้องทดแทน

[quote="econometrica"]น่าจะเป็นเรื่องนี้นะ
มีเศรษฐีบ้านนอกคนหนึ่ง เป็นสหายผู้ไม่เคยเห็นกัน

วันนี้ผมทุบ MCS บางส่วนแล้วไปถือ stpi แทน เพราะรายได้ดีกว่าเยอะ  เงินสดก็เยอะดี  จำนวนหุ้นก็น้อยกว่า  แต่ราคายังถูกกว่า  stpi มีหุ้นทั้งหมด 250 ล้านหุ้น  แต่ mcs มีประมาณ 500 กว่าล้านหุ้น   MCS บริษัทก็เล็กกว่า stpi ตั้งเยอะเปลี่ยนตอนนี้ยังทันนะครับ    พรุ่งนี้กะว่าจะทยอยขาย mcs ออกทั้งหมด

key เขียน:วันนี้ผมทุบ MCS บางส่วนแล้วไปถือ stpi แทน เพราะรายได้ดีกว่าเยอะ  เงินสดก็เยอะดี  จำนวนหุ้นก็น้อยกว่า  แต่ราคายังถูกกว่า  stpi มีหุ้นทั้งหมด 250 ล้านหุ้น  แต่ mcs มีประมาณ 500 กว่าล้านหุ้น   MCS บริษัทก็เล็กกว่า stpi ตั้งเยอะเปลี่ยนตอนนี้ยังทันนะครับ    พรุ่งนี้กะว่าจะทยอยขาย mcs ออกทั้งหมด

ทุบเลยเหรอครับ ? เจอเศรษฐีเข้าแล้วจิ ยังไงก็เบา ๆ หน่อยนะครับ

บางทีจำนวนหุ้นก็ไม่ได้บอกอะไรนะ

ถ้า  คนซื้อมากเกินกว่าจำนวนหุ้น
หารกันไม่ลงตัวเสียที

วันนี้ที่ขาย mcs เพื่อลดความเสี่ยงบางส่วนครับ  เพราะรายได้ 80 เปอร์เซ็นต์ของ mcs มาจากออเดอร์จาก ประเทศญี่ปุ่น หากมีปัญหายกเลิกออเดอร์อาจเกิดเหตุการณ์แบบหุ้น CEI ครับ   เลยเลือกที่จะลงทุนหุ้น stpi ครับ  เพราะรายได้ไม่ได้มาจากแหล่งเดียว diversify risk เท่านั้นแหละครับ

key เขียน:วันนี้ที่ขาย mcs เพื่อลดความเสี่ยงบางส่วนครับ  เพราะรายได้ 80 เปอร์เซ็นต์ของ mcs มาจากออเดอร์จาก ประเทศญี่ปุ่น หากมีปัญหายกเลิกออเดอร์อาจเกิดเหตุการณ์แบบหุ้น CEI ครับ   เลยเลือกที่จะลงทุนหุ้น stpi ครับ  เพราะรายได้ไม่ได้มาจากแหล่งเดียว diversify risk เท่านั้นแหละครับ

คิดเหมือนผมตอนแรกครับ เข้าใจครับ

ในขณะเดียวกันโครงการใหม่ของบริษัทฯส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มดำเนินการทำให้
    การรับรู้รายได้ยังคงอยู่ในอัตราส่วนที่น้อยจึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่รายได้สำหรับไตรมาส
    น้อยกว่าระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

อันนี้เริ่มทำให้ผมเป็นห่วง แสดงว่าช่วงที่ผ่านมางานเริ่มไม่ต่อเนื่อง?...แล้วตอนนี้โครงการที่บอกว่าเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น มีมูลค่าประมาณเท่าไหร่ ไตรมาส4จะเป็นอย่างไร

คุณphobenius พอมีข้อมูลมั้ยครับ...และมีความเห็นยังไง
แล้วที่เค้าบอกว่าเริ่มไปบุกงานต่างประเทศ ไม่ทราบว่าคืบหน้าแค่ไหนครับ จะหาข้อมูลงานของเค้าที่Update ได้จากที่ไหนบ้างครับ

[quote="key"]วันนี้ที่ขาย mcs เพื่อลดความเสี่ยงบางส่วนครับ

กราฟรายเดือนของ stpi มีภูเขา 2 ลูก รึว่าตอนนี้กำลังจะขึ้นลูกที่ 3
ขำๆนะครับ  :lol:

 :D  :D

ผมถือตัวนี้มาปีหนึ่งครับได้ราคาค่อนข้างถูกมากและยังไม่คิดจะขายครับ
และคาดหวังกับเงินปันผลที่น่าจะได้ค่อนข้างสูงครับ และที่สำคัญทีสุด
ผมได้หุ้นที่เป็น TURNAROUND STOCK จริง ๆ ครับ
จากผลประกอบการที่น่าประทับใจได้พิสูจน์ ถึงผลงานของผู้บริหารมืออาชีพ
อดีต ผู้บริหารมืออาชีพจาก Dow chemical น้องชายstec ( คุณ มาศถวิน ชาญวีรกุล )  ได้พลิกบริษัท จากฐานะ แย่มาก ๆ เมื่อ 4 ปีที่แล้วมาเป็น
บริษัท ที่มีเงินสดสูงมาก ๆ ไว้กินดอกเบี้ยสูงๆ จาก Bank ได้ด้วย
( เงินสด + เงินสำรองลงทุน .... เกือบ700 ล้าน ซึ่งหนี้น่า จะเหลือกว่า
550 ล้าน )
STPI ณ ขณะนี้มีความได้เปรียบหลายด้าน รวมถึงความสามารถในการแข่งขันด้วย เงินที่ได้มาส่วนใหญ่ เกินจาก Project ขณะใหญ่ในออสเตรเลีย ซึงทำให้บริษัทมีกำไรสูง เนื่องจากเป็นProject ที่มีมูลค่ามากกว่า 6000 ล้านบาท
ซึ่งโครงการนี้พิสูจน์ ถึงความสามารถของคนไทย ที่สามารถทำงานประกอบ
โครงสร้างเหล็กในประเทศไทย แล้วส่งไปยังประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นproject ยักษ์ มูลค่ากว่า 100000 ล้านบาท ( process module ) งานประเภทนี้ เป็นงานยาก และมีน้อยรายที่ทำได้นะครับ stpi ทำต่อทั้งโครงสร้างไปถึงก็ตั้งแล้วใช้งานเลยนะครับ  
จาก project นี้น่าจะพิสูจน์ฝีมือของทีมงานบริษัท ทั้งที่รับทราบที่ประชุมผู้ถือหุ้นปีที่แล้ว จึงทราบว่างานประเภทนี้ ฝรั่งเค้าต้องขอ ประวัติพนักงานงานทุกคนด้วยนะครับ
รวมถึงงานอื่น ๆ ที่เป็นระดับโลก คือ สุวรรณภูมินะครับ ( super trust)
ตึก ของ asahi ที่  roppogi hill ตึกที่มีพี้นที่มากที่สุดในเอเซีย
หรือ ตึกทีสูงที่สุดในฮ่องกงนะครับ ที่เราดู โฆษณาใน cnbc

เพียงแต่งานพวกนี้ เมื่อทำเสร็จต้องมีการ เคลียพื้นที่ใหม่ ถึงจะเริ่มรับงานอื่นได้นะครับ จึงเป็นเหตุผลให้รายได้ ลดลงใน q3  

ที่สำคัญที่ผมมั่นใจที่ลงทุนต่อและเพิ่มน้ำหนักด้วย คือ stpi มีกำไร และ เงินสด จริง ๆ ที่ขึ้นจากผลดำเนินงาน รวมถึงการระมัดระวังตั้งสำรองไว้ค่อนข้างสูงตลอด และ เมื่อธุรกิจมีผลดำเนินที่ปกติ ก็สามารถนำกับมาเป็นกำไรได้ครับ

ผมจึงเชื่อมั่นและขอบคุณทีมงานและผู้บริหาร Stpi
เนื่องจากผลงานชัดเจนมาก stpi น่าจะเป็นการเริ่มต้น สู่บริษัท รับเหมาไม่ใช่แค่ผลิตชิ้นส่วนและส่งชิ้นงานไปให้ญี่ปุ่น ประกอบ
stpi น่าจะเป็นบริษัทที่จะรับงานในระดับโลกได้ในไม่ช้านี้ รวมถึงความสามารถที่จะหาลูกค้าไม่ใช่แค่ญี่ปุ่น แต่เป็น ทั้งใน ยุโรป ตะวันออกกลางหรือ
อเมริกา

ข้อมูลนี้น่าจะเป็นประโยชน์ แค่เพื่อนนะครับ

[quote="เพื่อน"][quote]ในขณะเดียวกันโครงการใหม่ของบริษัทฯส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มดำเนินการทำให้

[quote="เพื่อน"][quote]ในขณะเดียวกันโครงการใหม่ของบริษัทฯส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มดำเนินการทำให้