เขาประท้วงอะไรกัน [PRO]
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 06, 2006 4:09 pm
ท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมบ้าง
---------------------------------------------------------
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2549
เรื่อง ความคืบหน้าเรื่องคดีความระหว่างบริษัทฯ กับกลุ่มผู้ชุมนุม
เรียน กรรมการและผู้จัดการ / ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) ขอ
รายงานความคืบหน้าเรื่องคดีความระหว่างบริษัทฯ กับกลุ่มผู้ชุมนุมปิดทางเข้า-ออก
โรงงาน ดังนี้
อ้างถึงจากคดีความ 412/2549 ที่ฝ่ายผู้ชุมนุมฟ้องบริษัทฯ ข้อหา ละเมิด เหตุ
เดือดร้อนรำคาญ และ คดีความ 529/2549 ที่ฝ่ายบริษัทฯ ฟ้องกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อเรียกร้อง
ค่าเสียหาย จากการที่บริษัทฯ ต้องสูญเสียรายได้, เสื่อมเสียชื่อเสียง และค่าความเสี่ยง
จากการที่อาจถูกสั่งปิดโรงงาน ตามที่ได้แจ้งท่านไปแล้วนั้น
ขณะนี้บริษัทฯ ได้แก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นของบ่อบำบัดน้ำเสียและหลุมฝังกลบ
เรียบร้อยแล้ว และได้ทำการเจรจาประนีประนอมยอมความกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อยุติปัญหา
ระหว่างกัน ซึ่งได้ผลสรุปว่า ทั้งสองฝ่ายยินดีทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเพื่อเสนอ
ต่อศาล และทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญาต่อหน้าศาลแล้ว ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2549
โดยมีสาระสำคัญในสัญญาประนีประนอมยอมความ ดังนี้
1. บริษัทฯ ตกลงแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นจากน้ำเสียและจากหลุมฝังกลบ ภายใต้
การกำกับดูแลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ การติดตามของตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม โดย
บริษัทฯ ต้องดูดน้ำเสียที่มีอยู่ในโรงงานไปบำบัดนอกโรงงาน ให้แล้วเสร็จภายใน 6
เดือน (พฤษภาคม 2550) ดังนี้
- ดูดน้ำเสีย บ่อ พี-2 และ บ่อ พี-4 ให้เสร็จเรียบร้อย
- เมื่อเริ่มดูดน้ำเสีย บ่อ พี-3 ศาลจะยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพื่อให้
บริษัทฯ เริ่มรับกากของแข็งจากลูกค้าเข้ามาฝังกลบในโรงงานได้ โดยฝ่ายกลุ่มผู้ชุมนุม
จะไม่ทำการขัดขวาง
- บริษัทฯ ต้องวางเงินค้ำประกันต่อศาล จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อค้ำประกัน
การปฏิบ้ติตามสัญญา และจะได้รับคืนเมื่อนำน้ำเสียออกไปบำบัดภายนอกหมดแล้ว
2. ให้ทั้งสองฝ่าย ร่วมกันตรวจสอบการแก้ไขหลุมฝังกลบในโรงงาน ให้ได้
มาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ก่อนนำกากของแข็งเข้ามาฝังกลบ
3. เมื่อได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการต่อไป บริษัทฯ ต้องไม่รับน้ำเสียเคมี
และน้ำเสียชีวภาพภายนอกโรงงานเข้ามาบำบัดภายในโรงงานอีกต่อไป
4. บริษัทฯ ต้องโอนเงินเข้าบัญชีกองทุนชุมชน ตามที่บริษัทฯ ได้ตั้งขึ้น ตามสัญญา
นี้ เป็นเงินครั้งแรก 400,000 บาท ภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบ
กิจการ และจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน จากรายได้การรับกากของแข็งในอัตรา ตันละ 10
บาท นับจากวันที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการ โดยชำระเข้ากองทุนทุกสิ้นเดือน
กองทุนดังกล่าว ให้ดำเนินการโดยคณะกรรมการ ที่เป็นตัวแทนกลุ่มผู้
ชุมนุมและชาวบ้านหมู่บ้านละ 2 คน จาก 9 หมู่บ้านเป็นอย่างน้อย ซึ่งเงินกองทุน ต้องใช้
เพื่อประโยชน์ของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการของโรงงาน และ
เพื่อดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของชุมชนเป็นหลัก
5. บริษัทฯ ตกลงช่วยเหลือเงินให้แก่กลุ่มผู้ชุมนุมและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
จำนวน 58 คน เป็นเงิน 2,341,500 บาท โดยต้องชำระให้เสร็จภายใน 30 วัน นับ
จากวันเริ่มประกอบกิจการ
6. บริษัทฯ ตกลงย้ายที่ทำการทั้งหมดที่จังหวัดสระแก้ว ไปอยู่รวมกันในโรงงาน
ที่อำเภอวัฒนานคร ภายใน 3 ปี นับจากวันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ
7. บริษัทฯ ตกลงถอนฟ้องกลุ่มผู้ชุมนุม ในคดีหมายเลข 529/2549 ศาลจังหวัด
สระแก้ว โดยไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น
8. ระหว่างการดำเนินการแก้ไข หรือระหว่างประกอบกิจการ หากก่อให้เกิด
กลิ่นเหม็นรบกวน บริษัทฯ ต้องหยุดดำเนินการ และดำเนินการแก้ไขท้นที
ถ้ามีความคืบหน้าประการใด บริษัทฯ จะแจ้งผลให้ทราบในคราวต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายเกรียงไกร เลิศศิริสัมพันธ์)
รองกรรมการผู้จัดการสายบัญชีการเงินและบริหารสำนักงาน
---------------------------------------------------------
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2549
เรื่อง ความคืบหน้าเรื่องคดีความระหว่างบริษัทฯ กับกลุ่มผู้ชุมนุม
เรียน กรรมการและผู้จัดการ / ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) ขอ
รายงานความคืบหน้าเรื่องคดีความระหว่างบริษัทฯ กับกลุ่มผู้ชุมนุมปิดทางเข้า-ออก
โรงงาน ดังนี้
อ้างถึงจากคดีความ 412/2549 ที่ฝ่ายผู้ชุมนุมฟ้องบริษัทฯ ข้อหา ละเมิด เหตุ
เดือดร้อนรำคาญ และ คดีความ 529/2549 ที่ฝ่ายบริษัทฯ ฟ้องกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อเรียกร้อง
ค่าเสียหาย จากการที่บริษัทฯ ต้องสูญเสียรายได้, เสื่อมเสียชื่อเสียง และค่าความเสี่ยง
จากการที่อาจถูกสั่งปิดโรงงาน ตามที่ได้แจ้งท่านไปแล้วนั้น
ขณะนี้บริษัทฯ ได้แก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นของบ่อบำบัดน้ำเสียและหลุมฝังกลบ
เรียบร้อยแล้ว และได้ทำการเจรจาประนีประนอมยอมความกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อยุติปัญหา
ระหว่างกัน ซึ่งได้ผลสรุปว่า ทั้งสองฝ่ายยินดีทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเพื่อเสนอ
ต่อศาล และทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญาต่อหน้าศาลแล้ว ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2549
โดยมีสาระสำคัญในสัญญาประนีประนอมยอมความ ดังนี้
1. บริษัทฯ ตกลงแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นจากน้ำเสียและจากหลุมฝังกลบ ภายใต้
การกำกับดูแลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ การติดตามของตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม โดย
บริษัทฯ ต้องดูดน้ำเสียที่มีอยู่ในโรงงานไปบำบัดนอกโรงงาน ให้แล้วเสร็จภายใน 6
เดือน (พฤษภาคม 2550) ดังนี้
- ดูดน้ำเสีย บ่อ พี-2 และ บ่อ พี-4 ให้เสร็จเรียบร้อย
- เมื่อเริ่มดูดน้ำเสีย บ่อ พี-3 ศาลจะยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพื่อให้
บริษัทฯ เริ่มรับกากของแข็งจากลูกค้าเข้ามาฝังกลบในโรงงานได้ โดยฝ่ายกลุ่มผู้ชุมนุม
จะไม่ทำการขัดขวาง
- บริษัทฯ ต้องวางเงินค้ำประกันต่อศาล จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อค้ำประกัน
การปฏิบ้ติตามสัญญา และจะได้รับคืนเมื่อนำน้ำเสียออกไปบำบัดภายนอกหมดแล้ว
2. ให้ทั้งสองฝ่าย ร่วมกันตรวจสอบการแก้ไขหลุมฝังกลบในโรงงาน ให้ได้
มาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ก่อนนำกากของแข็งเข้ามาฝังกลบ
3. เมื่อได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการต่อไป บริษัทฯ ต้องไม่รับน้ำเสียเคมี
และน้ำเสียชีวภาพภายนอกโรงงานเข้ามาบำบัดภายในโรงงานอีกต่อไป
4. บริษัทฯ ต้องโอนเงินเข้าบัญชีกองทุนชุมชน ตามที่บริษัทฯ ได้ตั้งขึ้น ตามสัญญา
นี้ เป็นเงินครั้งแรก 400,000 บาท ภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบ
กิจการ และจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน จากรายได้การรับกากของแข็งในอัตรา ตันละ 10
บาท นับจากวันที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการ โดยชำระเข้ากองทุนทุกสิ้นเดือน
กองทุนดังกล่าว ให้ดำเนินการโดยคณะกรรมการ ที่เป็นตัวแทนกลุ่มผู้
ชุมนุมและชาวบ้านหมู่บ้านละ 2 คน จาก 9 หมู่บ้านเป็นอย่างน้อย ซึ่งเงินกองทุน ต้องใช้
เพื่อประโยชน์ของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการของโรงงาน และ
เพื่อดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของชุมชนเป็นหลัก
5. บริษัทฯ ตกลงช่วยเหลือเงินให้แก่กลุ่มผู้ชุมนุมและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
จำนวน 58 คน เป็นเงิน 2,341,500 บาท โดยต้องชำระให้เสร็จภายใน 30 วัน นับ
จากวันเริ่มประกอบกิจการ
6. บริษัทฯ ตกลงย้ายที่ทำการทั้งหมดที่จังหวัดสระแก้ว ไปอยู่รวมกันในโรงงาน
ที่อำเภอวัฒนานคร ภายใน 3 ปี นับจากวันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ
7. บริษัทฯ ตกลงถอนฟ้องกลุ่มผู้ชุมนุม ในคดีหมายเลข 529/2549 ศาลจังหวัด
สระแก้ว โดยไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น
8. ระหว่างการดำเนินการแก้ไข หรือระหว่างประกอบกิจการ หากก่อให้เกิด
กลิ่นเหม็นรบกวน บริษัทฯ ต้องหยุดดำเนินการ และดำเนินการแก้ไขท้นที
ถ้ามีความคืบหน้าประการใด บริษัทฯ จะแจ้งผลให้ทราบในคราวต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายเกรียงไกร เลิศศิริสัมพันธ์)
รองกรรมการผู้จัดการสายบัญชีการเงินและบริหารสำนักงาน