หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 10:50 am
โดย ลูกอิสาน
ปีนี้ TR รายงานผลประกอบการมีกำไรค่อนข้างสูงครับ
แม้ไตรมาสสี่ ล่าสุด จะรายงานผลประกอบการลดลง แต่ก็เนื่องจากมีการบันทึกค่าใช้จ่ายรายการพิเศษถึง 128 ล้านบาท...

ในฐานะผู้ถือหุ้น เมื่อบริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้น ก็น่าจะได้รับผลตอบแทน คือเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น หรือราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น

ในแง่เงินปันผล ถ้าบริษัทยังยึดนโยบายการปันผลเดิม ปีนี้น่าจะจ่ายประมาณ 9-12 บาท เปรียบเทียบกับราคาหุ้นที่ 424 ให้ผลตอบแทนประมาณ 2 % ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยครับ แต่การจ่ายปันผลเช่นนี้เป็นที่เข้าใจได้ว่า TR มีลักษณะเหมือน holding company ของกลุ่ม Aditya Birla ทำให้มีการสะสมเงินไว้จำนวนมากเพื่อลงทุนในกิจการใหม่ๆ เช่นล่าสุดลงทุนในโรงงานผลิตเส้นใยอคริลิค ในอียิปท์ ร่วมกับ TCB...

ในแง่ capital gain แม้ปีที่ผ่านมาราคาหุ้น TR จะเพิ่มขึ้นพอควร แต่ในฐานะผู้ถือหุ้น ผมคิดว่าน่าจะสูงกว่านี้ เมื่อเปรียบเทียบกับ การทำกำไรของบริษัท ทั้งนี้อาจเป็นเพราะราคาหุ้น TR สูงเป็นอันดับสองในตลาด รองจาก GYT ทำให้ไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุนรายย่อยทั่วไป....

เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ถือหุ้นควรจะทำอย่างไรครับ คิดว่ามีอีกทางหนึ่งซึ่งน่าจะ win-win ทั้งบริษัทและผู้ถือหุ้น ก็คือการเสนอให้มีการแตกพาร์ TR ครับ บริษัทไม่ต้องเสียอะไรเลยครับ ในขณะที่ราคาหุ้นก็มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น เหมือน TCB ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นครับ...

งานนี้คงต้องรบกวนเพื่อนสมาชิกที่จะไปร่วมประชุมผู้ถือหุ้นครับ และผมจะเขียนจดหมายเป็นภาษาอังกฤษเรื่องเสนอการแตกพาร์ ส่งให้ MR. Bajaj ซึ่งเป็นประธานของ TR ในเร็ววันนี้ครับ...

ไม่ทราบว่าเพื่อนสมาชิกคนอื่นๆ มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ... :D

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 11:00 am
โดย ayethebing
โดนเครื่องหมาย H ไปแล้วครับ ห้ามการซื้อขายจนกว่าจะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลประจำปีให้ตลาดหลักทรัพย์ครับ

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 11:12 am
โดย ayethebing
ยิ่งดูงบก้อยิ่งไม่เข้าใจหลักการการจ่ายเงินปันผลของ TR เงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นมีถึง 1,400 ล้านบาท เป็นครึ่งนึงของต้นทุนขายทั้งปี ไม่มีทางที่บริษัทไหนจะต้องใช้เงินเยอะขนาดนี้ในการดำเนินการปกติ

ที่ว่าเค้าจะไปลงทุนในที่อื่นๆ นะเค้าจะลงทุนอะไรเหรอครับ ธุรกิจสิ่งทอมันไม่ได้เติบโตมากเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ หรือเค้าจะ di"worse"ify ครับ ถ้าเค้าจะไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องละก้อ เฮ้อ คงไม่มีทางเลี่ยงนอกจากขายหุ้นออกไปครับ

ผมว่าน่าจะให้เค้าจ่ายเงินปันผลตามนโยบายที่บริษัทเขียนเอาไว้คือ 35% ของ กำไรสุทธิซึ่งเราก้อจะได้ประมาณ 16-17 บาทต่อหุ้น แตกพาร์ก้อดีแต่ไม่สำคัญเท่าเงินปันผลครับ

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 11:18 am
โดย ayethebing
ประกาศเงินปันผลออกมาแล้ว ที่ 9 บาทต่อหุ้น น่าผิดหวังมากครับ มีการลงทุนเพิ่มในซาอุเป็นโรงงานผลิตไฟเบอร์ มูลค่าการลงทุน 262 ล้านบาท

บอกตรงๆ ว่าผิดหวังมากกับ TR ขอกลับไปคิดก่อนว่าจะเอายังไงดี

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 11:45 am
โดย ลูกอิสาน
:lol: รัก TR ต้องทำใจหน่อยครับเรื่องปันผล.. :lol:
สำหรับผมปันผลมีความสำคัญครับ แต่ความสามารถในการทำกำไรของกิจการสำคัญกว่าครับ...

ที่คุณ Ayethebing กลัวว่าขยายกิจการไปทำสิ่งทอแล้วจะเป็นการ diworsify หรือทำลายมูลค่ากิจการนั้น ผมขอยกคำพูดของผู้บริหารที่เคยกล่าวว่า

" In terms of the most profitable industry, I would say that both the chemicals and the textile businesses generate similar levels of profitability."

และกิจการที่ TR ลงทุนในบริษัทย่อยเป็นกิจการระดับ world class ทั้งนั้นนะครับไม่ว่าจะเป็น polyphosphate, sulfie, caustic soda, rayon grade pulp,epoxy resin, cabon black, fatty acid, acrylic fiber....
บริษัทย่อยเหล่านี้ เป็นระดับโลก แทบทั้งสิ้นครับ ในแง่ใดแ่ง่หนึ่ง..

เรื่องเงินปันผลที่จ่ายน้อย อาจจะเป็นเพราะว่า กำไรที่แสดงเป็นกำไรที่รวมของบริษัทย่อยด้วยครับ แต่ไม่มี cash flow เข้ามาจริงๆ เว้่นแต่ปันผลครับ ทำให้กระแสเงินสดน้อยกว่ากำไรที่แสดงจริงครับ...
:lol: :lol: ผมมีส่วนได้เสียนะครับ ยังไงก็ฟังหูไว้หูนะครับ เพราะอาจจะมองในแง่ดีเกินไป..

ลงทุนล่าสุดเป็นโรงงานอคริลิคไฟเบอร์ครับ อยู่ในอียิปย์ ๋ซึ่งกลุ่ม Aditya Birla เคยไปลงทุนแล้ว เป็นโรงคาร์บอนแบล็ค ชื่อ Alexzendria cabon black ซึ่งก็น่าดีใจครับที่ครั้งนี้ ให้บริษัทลูกในไทยเข้าไปลงทุนโดยตรง โรงนี้มีกำลังการผลิต เ่ริ่มต้น 18000 ตัน จะเพิ่มเป็น 36000 ตัน เป็นกิจการที่ capital intensive มากครับ..

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 12:34 pm
โดย ลุงขวด
เรื่องเงินปันผล อัตราต่ำมาก แต่จะสังเกตได้ว่า ให้เพิ่มทุกปี ปีละ 1 บาท.......ให้เขาปันมาก ๆ คงไม่ยอม เขาชอบเงินไปลงทุน ไม่ยอมกู้ธนาคารเท่าไหร่

ส่วนเรื่องแตกพาร์ น่าจะทำได้ และ สมควรจะทำ เพราะ หุ้นจะได้มีสภาพคล่อง คนถือหุ้นจะได้ สบายใจ สนุก กับการขึ้น ๆ ลง ๆ......แต่ขึ้นมาก ๆ แบบ tcb นี่ผม แย่เลยนะครับ ทำให้ผมเสียของ อยากได้เงินมากกว่าที่จะเก็บหุ้นไว้ นาน ๆ..........เขากำหนดวันประชุมให้แล้วนิครับ ถ้าใครว่างก็ไปประชุม มีอาหารอินเดียให้ลิ้มรส วันที่ 21 มกราคม ดังนี้

อนุมัติกำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 11 ในวันพุธที่ 21 มกราคม 2547 เวลา 16.00 น. ณ ห้องซาลอนแอทธินี
โรงแรมพลาซ่าแอทธินี ถนนวิทยุ กรุงเทพมหานคร โดยระเบียบวาระการประชุมจะแจ้งให้ทราบภายหลัง และกำหนดวันปิด
สมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น/กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมและรับเงินปันผล ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2547
เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมผู้ถือหุ้นจะแล้วเสร็จ

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 1:12 pm
โดย ayethebing
ผมก้อไม่ได้ดูที่กำไรนะครับ แค่ดูสองตัวเองคืน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดกับเงินลงทุนระยะสั้นกับสถาบันการเงินนะครับ แค่สองตัวนี้รวมกันก้อ 1400 ล้านเข้าไปแล้ว ทำไมกิจการนึงๆ ต้องมีเงินสดมากขนาดนี้ สังเกตจากปีที่แล้วเค้าก้อมีเงินสด+เงินลงทุนระยะสั้นประมาณนี้เหมือนกัน

การลงทุนเพิ่มก้อ ok ละครับแต่ผมกังวลความโปร่งใสของการลงทุนเพราะไม่รู้เป็นการถ่ายเทเงินจากเมืองไทยไปบริษัทแม่อย่างแนบเนียนหรือเปล่า ลงทุนเพิ่มแค่ 265 ล้านบาทเองครับเมื่อเทียบกับกระแสเงินสดในมือถือว่าน้อยมาก

textile กับเคมี เนี่ยนะกำไรดี แปลกจัง ยังไงก้อตามก้อคงให้ลองติดตามดูละครับ

ผมเองก้อสนใจความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเหมือนกัน อย่างไรก้อตาม การลงทุนเพิ่มและการใช้เงินสดของบริษัทที่เราไปลงทุนก้อต้องดูกันอย่างละเอียดว่าทำให้ได้ผลตอบแทนมากพอรึเปล่าใช่มั้ยครับ ตัวอย่างครับ TR ลงทุนในเงินลงทุนระยะสั้นกับสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 322 ล้านบาท ทำให้มีเงินลงทุนชั่วคราวถึง 845 ล้านบาทลองไปดู ดอกเบี้ยรับ ได้แค่ 40 ล้านบาท ประมาณแค่ 4.7% ถามว่าถ้าเอาเงินมาจ่ายปันผล 16 บาท (ตามนโยบายจ่ายปันผลที่ให้ไว้กับตลาดหลักทรัพย์ 35%) ก้อจะทำให้เงินสดลดลงไปประมาณ 320 ล้านบาท ผมว่าน่าจะดีกว่าไปฝากระยะสั้นยังงี้ครับ

ผมก้อเลยสงสัยในความสามารถในการบริหารเงินของบริษัทนี้ครับ

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 1:26 pm
โดย ลูกอิสาน
ผมก็อยากไปประชุมผู้ถือหุ้นครับลุงขวด เพราะมีคำถามที่ต้องการคำตอบหลายเรื่อง แต่ติดที่ว่าครั้งนี้ไม่ค่อยสะดวกครับ ลูกก็ยังเล็ก ปันผลแค่พอตั๋วเครื่องบิน..(ค่าเครื่องบินไปกลับ 6000 พันครับ กทม-หาดใหญ่) :lol:

แต่หากปีหน้าทุกอย่างยังเหมือนเดิม คงต้องตีตั๋วสายการบินต้นทุนต่ำไปประชุมด้วยครับ...ประชุมโรงแรมหรูซะด้วยครับ...รู้สึกว่าโรงแรมนี้สร้างบนที่ดินของ อิมพีเรียลวิทยุเก่า...

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 2:13 pm
โดย sirivajj
เพื่อนๆ มีความเห็นเกี่ยวกับ TR อย่างไรเข้ามาแลกเปลี่ยนกันนะครับ

ผมว่า หากกำไรที่ทำได้แล้ว ฝ่ายบริหารมีแผนการที่เป็นรูปธรรมและชัดเจนที่จะไปหาผลตอบแทนได้มากจริงๆ ก็คงจะพอรับได้
อย่างไรก็ดี การเพิ่มจำนวนหุ้นโดยการแตกพาร์เพื่อหวังให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นนั้น ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและเจ้าของนะครับ
จะมีข้อเสียนิดก็ตรงที่จำนวนหุ้นมากขึ้น ค่าใช้จ่ายในการจัดการในส่วนที่เกี่ยวกับผู้ถือหุ้นก็คงจะต้องมากขึ้นด้วย แต่ฝ่ายบริหารเขาน่าจะยอมได้นะครับ
ไม่รู้เพื่อนๆ ท่านอื่น คิดอย่างไร

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 2:36 pm
โดย ลูกอิสาน
โดยส่วนตัวคิดว่า ผู้บริหาร น่าจะพอใจ หากราคาหุ้นบริษัทสูงขึ้น เพราะนั่นแสดงถึง ฝีมือการบริหาร แต่หากผู้บริหารไม่อยากเห็นหุ้นบริษัทตัวเองราคาสูงขึ้น ก็น่าจะมีสาเหตุไม่กี่อย่างครับ เช่น..

1.ต้องการ delist ออกจากตลาดครับ เพราะยิ่งราคาหุ้นต่ำเท่าไหร่ ก็สามารถทำ tender offer ที่ราคาต่ำเท่านั้น บริษัทเหล่านี้มักมีเงินสดอยู่ในบริษัทมากครับ และจะปันผลน้อยๆ พอ delist ออกไปแล้ว จึงจะจ่ายปันผลเยอะๆ..แต่ในกรณี TR คิดว่าที่จ่ายปันผลน้อย ิเพราะต้องการนำเงินไปลงทุนต่อมากกว่า...

2.ไม่อยากให้หุ้นบริษัทเป็นที่สนใจ หากมีการแตกพาร์ จะมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนมากขึ้นที่ซื้อหุ้น อาจจะมีปัญหาตามมามากขึ้น หากผู้บริหารทำอะไร ที่ขัดกับผลประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย อาจจะมีปัญหาเมื่อมีการประชุมผู้ถือหุ้นครับ..

ผมจะแนบกระทู้นี้ กับจดหมายส่งไปให้ Mr. Bajaj ด้วยครับ... :wink:

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 2:43 pm
โดย ayethebing
การแตกพาร์ไม่มีผลอะไรเลยกับมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น มันคือผลทางด้านจิตใจและเป็นการเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นเท่านั้นเอง ผมเฉยๆ กับการแตกพาร์นะครับ แตกก้อได้ไม่แตกก้อได้

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 3:31 pm
โดย CK
ayethebing เขียน:การแตกพาร์ไม่มีผลอะไรเลยกับมูลค่าที่แท้จริง
ของหุ้น มันคือผลทางด้านจิตใจและเป็นการเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นเท่า
นั้นเอง ผมเฉยๆ กับการแตกพาร์นะครับ แตกก้อได้ไม่แตกก้อได้
ไม่ยอมแตกพาร์ระวังจะเป็นเหมือน Berkshire Hathaway Type A นะ
ครับ หุ้นละสามล้านกว่าบาท mimum 100 หุ้น ซื้อขายทีก็สามร้อยกว่า
ล้าน

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 3:50 pm
โดย ครรชิต ไพศาล
CK เขียน: ไม่ยอมแตกพาร์ระวังจะเป็นเหมือน Berkshire Hathaway Type A นะ
ครับ หุ้นละสามล้านกว่าบาท mimum 100 หุ้น ซื้อขายทีก็สามร้อยกว่า
ล้าน

:lol: ผมไม่อยากให้แตกพาร์ อยากเห็นราคาหุ้นละสามล้านบาทจัง ครับ :lol:

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 4:08 pm
โดย ayethebing
ขอให้สมพรปากครับพี่ครรชิตและคุณ CK ดีเหมือนกันจะได้ไม่มีใครมาปั่นหุ้นเนาะ พี่ๆ เนาะ

เอาแค่ 500-600 บาทก้อพอแล้วครับพี่ ไม่เอาเยอะหรอก อิอิ

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 10:51 pm
โดย sirivajj
ตกลงเพื่อนๆ ผู้ถือหุ้นตกลงใจจะถือรอจนกว่าจะหุ้นละ 3 ล้านบาทกันนะครับ สู้ สู้ ต่อไป ลูกผู้ชายตัวจริง

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 10:53 pm
โดย No Name
กำไรสุทธิของ TR ที่ปรับปรุงแล้วจะอยู่ประมาณ 52-53 บาทซึ่งสูงกว่ากำไรที่แจ้งตลาดที่ 48 บาท ตามที่คุณลูกอีสานวิเคราะห์ไว้

การประกาศจ่ายเงินปันผล 9 บาท ไม่ได้เป็นไปตามนโยบายที่แจ้งไว้กับตลาดหลักทรัพย์

เท่าที่สังเกตดู TR วางตำแหน่งบริษัทในลักษณะ holding company กำไรมาจะจ่ายปันผลน้อยเก็บเงินสดไว้มากเพื่อนำไปลงทุนต่อ สิ้นเดือนกันยายน 2546 มีเงินสดต่อหุ้น ึ70 บาท

สิ่งที่ผู้ถือหุ้น TR ต้องติดตาม โดยผมได้เคยตั้งข้อสังเกตไว้ คือ บริษัทและธุรกิจที่ TR นำเงินไปลงทุน หากเป็นธุรกิจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือสนับสนุนธุรกิจปัจจุบัน จะต้องระวังให้มาก

ส่วนตัวถือหุ้น TR อยู่พอสมควรและต้นทุนต่ำ คงถือต่อไป หากจะซื้อเพิ่มคงพิจารณาลงทุนในหุ้นตัวอื่นที่มีความน่าสนใจกว่า

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 25, 2003 11:20 pm
โดย ลูกอิสาน
เรื่องความโปร่งใสทางบัญชีของ TR ผมยังมองแง่ดีครับ เพราะว่า....

กลุ่ม Aditya Birla ของอินเดียเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินเดีย มีผู้ถือหุ้นเป็นกองทุนมากมายครับ เป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสากรรมใหญ่ที่สุดของอินเดีย (เหมือน SCC เมืองไทย) ผลิตสินค้าซีเมนต์ เหล็กพรุน อลูมิเนียม ทองแดง เคมีภัณฑ์หลายชนิด ผลิตไฟฟ้า ปุ๋ย เส้นใย เสื้อผ้า เหมืองแร่ เยื่อไม้ คาร์บอนแบล็ค ฉนวน โรงกลั่นน้ำมัน โรงกลั่นน้ำมันปาล์ม etc,. มีธุรกิจใำนหลายประเทศ มีพนักงานมากกว่าแสนคน มียอดขายหลายแสนล้านบาท...

การลงทุนล่าสุดของ TR ก็เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งของกลุ่มนี้ครับ (เส้นใยอคริลิค) และผมก็คิดว่ากลุ่มนี้ค่อนข้างแฟร์ ที่ให้บริษัทลูกในไทย ไปลุงทุนในต่างประเทศ เช่น จีน อียิปย์ อินโด ครับ ทำให้ทั้ง TR TCB เป็น Growth stock ครับ...

แต่เรื่องปันผลผมก็เห็นด้วยกับเพื่อนๆ ว่าออกจะน้อยไปนิด คือ ประมาณ 3 % หลังเครดิตภาษี ผมคิดว่าผู้บริหารน่าจะหาทางทำอะไรที่มากกว่านี้ เพื่อผู้ถือหุ้น เพราะผู้ถือหุ้นเหล่านี้แหละครับที่ ซื้อหุ้น IPO ทำให้บริษัทมีเงินนำไปขยายกิจการ จนมีทุกวันนี้....

ก็คงต้องไปสอบถามในเวทีประชุมผู้ถือหุ้นละครับงานนี้...

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 26, 2003 12:40 am
โดย ayethebing
ผมตกลงใจได้แล้วครับ (หลังคุยปรึกษากับแฟนแล้ว) ว่าจะถือ TR ต่อครับแต่จะไม่ซื้อเพิ่ม ถ้าราคาขึ้นไปสูงพอก้อจะขายทำกำไรออกไป แล้วหาหุ้นตัวอื่นดีกว่า อันนี้คงเป็นกลยุทธ์เดียวกับคุณ no name ครับ

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 26, 2003 12:50 am
โดย ayethebing
ลองดูงบโดยละเอียดแล้วปรากฎว่า TR ต้องการ working capital ค่อนข้างสูงโดยเฉพาะลูกหนี้กิจการเกี่ยวข้อง (ประมาณ 30 วัน) และลูกหนี้กิจการอื่นๆ (ประมาณ 35 วัน) ในขณะที่เจ้าหนี้การค้าน้อยมาก (รวมแล้วแค่ 11 วัน) เงินเบิกเกินบัญชีแค่ประมาณ 2 ล้านบาท อันนี้ผมว่าเป็นเหตุผลนึงที่ TR ต้องมีเงินสดเยอะพอสมควรสำหรับหล่อเลี้ยง working capital อันนี้

เค้าน่าจะเพิ่มเวลาจ่ายเงินกับเจ้าหนี้การค้า (ทั้งกิจการอื่นๆ และกิจการเกี่ยวข้อง) และเพิ่มการใช้เงินเบิกเกินบัญชีมากขึ้น ดอกเบี้ยจ่ายอาจจะมากขึ้นแต่ก้อไม่ต้องมีเงินสดมากขนาดนี้ (เงินจมครับ เงินจม) และน่าจะทำให้ cash flow ของบริษัทดีขึ้นครับ

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 26, 2003 7:16 am
โดย Jeng
ตกลงผมซื้อครับ 424 อิอิ

หมัยก่อนวิเคราะห์ว่า 296 น่าซื้อ ดันไม่ซื้อ

โฮ

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 26, 2003 8:15 am
โดย ayethebing
เวลกัมแบก คับพี่เจ๋ง ผิวแทนสวยกลับมาเลยรึเปล่าครับเนี่ย

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 26, 2003 8:17 am
โดย Jeng
ขอบคุณมากครับ

หนุกมากครับ >>> ayethebing

ตั้งแต่กลับมาตี 2 ยังไม่ได้นอนเลย นั่งอ่านหุ้นอย่างเดียวเพลินไปหมด

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 26, 2003 9:11 am
โดย thanwa
ไหนๆ คุณลูกอิสาน คุณ ayethebing คุณ No Nmae พี่ครรชิต ลุงขวด แถมคุณเจ๋ง จะมาเสริมทัพ อีก อบอุ่นครับ อบอุ่น เท่าที่ผมทราบอีกก็มี คุณพี คุณมน (ไม่รู้ยังจะถือต่อหรือเปล่า) แหมบอกตรงถ้ารวมกันมันก็มากเอาการอยู่เหมือนกันนะครับ

นอกจากผมจะติดใจเรื่องจ่ายเงินปันผลไม่ตรงกับนโยบายที่แจ้งไว้แล้ว ผมยังมีข้อกังขาบางประเด็นครับ

1) การให้บริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องกู้ยืม แหมตั้ง 350 ล้านเลยทำให้กระแสเงินสดติดลบในปีที่ผ่านมา ดอกเบี้ยก็คิดราคามิตรภาพเอามากๆ อันนี้ถ้าจะมองในแง่ดีก็ดีครับ แต่ถ้ามองในแง่ร้ายก็ไม่ว่ากัน

2) นอกจากเงินให้ยืมแล้ว ยังผ่อนผันการจ่ายเงินต้นคืนของบริษัทลูกที่แคนาดา คือตกลงกันที่ 8% ก็ลดลงมาเหลือ 6% แถมยังใจดีเลื่อนการจ่ายงวดแรกจากมกรา 46 เป็นปี 47 อีกต่างหาก อีกนั่นแหละถ้าจะมองในแง่ดีก็ดี เพราะบริษัทที่ว่าทำให้ TR ควบคุมเรื่องวัตถุดิบได้ดีขึ้น

3) ตั้งสำรองเผื่อผลประโยชน์เมื่อเกษียณอายุเกือบ 95 ล้านบาท อันนี้น่าจะทำให้ผลประกอบการ conservative มากขึ้นอีก

เพื่อนๆ มีความคิดเห็นเพิ่มเติมอย่างไรบ้างครับ

คราวนี้หลายท่านคงมีธุรกิจที่ประเทศตุรกีเพิ่มเติมกันแล้วครับ
ถ้าใครถือทั้ง TR และ TCB นี่สัดส่วน 55% เลยนะครับ
เอ TR ถือ TCB อีก 25% โอ้โห ถือมากกว่า 55% อีกซิเรา :wink:

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 27, 2003 6:29 pm
โดย ลูกอิสาน
:D เพิ่งรู้ว่าผู้ถือหุ้นรายย่อย TR รวมกันอยู่ที่นี่เองครับ.. :D
ดีครับ ไปประชุมผู้ถือหุ้นจะได้ไม่เหงา...ไม่ทราบว่ามีใครจะไปบ้าง ที่แ่น่ๆ ลุงขวดน่าจะไปครับ..

ผมก็สรุปได้แล้วเหมือนกันเกี่ยวกับ TR ว่าคงต้องถือต่อครับ...เพราะเชื่อลึกๆว่า ภายในห้าปีข้างหน้า ราคา TR น่าจะเป็นรองแค่ STANLY แค่นั้นเอง..

อาจจะมีบางท่านมองว่า TR อยู่ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมไม่มีอนาคต แต่ผมมองว่า TR เป็นผู้ผลิตต้นน้ำของอุตสาหกรรม (ขั้นกลางคือปั่นด้าย-ขั้นปลายคือตัดเย็บเสื้อผ้า) ซึ่งมีกำไรดีมาก เห็นได้จาก TR มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตเรยอนถึง 25 % เนื่องจากได้มีการเปลี่ยนไลน์การผลิต ไปผลิตเรยอนสำหรับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เรียกว่า non-woven ซึ่งมีกำไรดีมาก โดยล่าสุดได้ทำข้อตกลงกับสหกรณ์แห่งเกาหลี เพื่อป้อนสินค้าชนิดนี้แต่เพียงผู้เดียว และมีเป้าหมายที่จะเพิ่ม non-woven ให้ถึง 25 % ในอนาคต...

หากรวมกำไรจากบริษัทย่อย TR จะมีกำไรสุทธิถึง 25 % ซึ่งบริษัทจดทะเบียนที่ผลิตสินค้า น้อยรายที่จะทำได้อย่างนี้....

และผมยังมองว่า TR เป็น growth company ครับ โดยเฉพาะบริษัทย่อยที่ถือหุ้นมากๆ มีโครงการขยายการผลิตแทบทุกบริษัท เช่น TCB ,ไทย โพลี่ฟอสเฟต, ไทยอคริลิค และล่าสุดคือ อเล็กซานเดรีย ไฟเบอร์ แม้ว่าบางบริษัทยังมีผลประกอบการที่ไม่ดี เช่น ไทยออกานิค เคมีเคิล แต่ก็มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆครับ...

นอกจากนี้ TR ยังมีหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อยที่มีผลการดำเนินงานที่ดีมาก แต่ไม่สำแดงในบัญชีที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ด้วยครับ เช่น ไทยอีพอกซี่,ไทย ไฮโดรเจนเพอออกไซด์, และบริษัทผลิตไขมันปาล์มในมาเลเซีย....

ส่วนข้อเสียก็อย่างที่เพื่อนๆ แสดงความคิดเห็น เรื่องปันผล และที่คุณ Thanwa ว่ามา ก็มีเหตุผล ซึ่งผู้ถือหุ้นควรติดตามครับ.. :D

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 27, 2003 6:51 pm
โดย ayethebing
พี่เจ๋ง:
ตกลงผมซื้อครับ 424 อิอิ

หมัยก่อนวิเคราะห์ว่า 296 น่าซื้อ ดันไม่ซื้อ

โฮ
ช่ายผมจำได้แล้ว ผมยังเข้าไปร่วมเชียร์ให้พี่ซื้อตอนนั้นเลย ที่ taladhoon นะ

คุณ _ลูกอีสานผมก้อเห็นด้วยนะที่ TR เป็นบริษัทที่น่าจะมีกำไรเพิ่มจากการลงทุนในบ. ย่อย แต่เราไม่สามารถเข้าถึงรายละเอียดของ บ. ย่อยนี่สิผมลำบากใจ ผมว่ายิ่งบริษัทนึงๆ มีบ.ย่อยมากๆ เนี่ยผมไม่ค่อยชอบแหละ

เฮ้อแต่ฟังหลายๆ คนแย้งแล้วก้อเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาบ้างละครับกับหุ้น TR ตัวนี้[/quote]

เรียนท่านผู้ถือหุ้น TR

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 28, 2003 4:04 am
โดย Jeng
จริงๆแล้วเรืองการแกะงบการเงินเพื่อหาอะไรที่ผิดปกติ ในเว็บนี้คนที่เก่งที่สุด น่าจะเป็น ธันวา แต่ยังไม่เคยเห็นธันวา แสดงฝีมือการแกะงบอย่างจริงๆจังๆเลย

หรือว่า เวลาธันวา เขียนแล้วคนอ่านไม่ค่อยเข้าใจ เพราะภาษาออกไปทางการเงิน

ด้วยอาชีพงาน ระดับ CFO นี่ ผมว่า เวลาธันวา เขียนอะไร พวกเราน่าจะต้อง ค่อยๆแกะ และทำความเข้าใจตามนะครับ

ท่านไม่ธรรมดานะครับ ท่านธันวานี่