ถึงเวลากรมการประกันภัยเป็นหน่วยงานอิสระเหมือน กลต.
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 30, 2006 2:11 pm
เกริกไกรลงนามรื้อกม.ประกัน
โพสต์ทูเดย์ รมว.พาณิชย์ ขีดเส้น 60 วัน วางกรอบองค์กรอิสระ ปรับปรุง กม.3 ฉบับ ต้องเสร็จ
นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงนามในคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2549 กำหนดเวลา 60 วัน ให้คณะกรรมการศึกษา กำหนดรูปแบบโครงสร้างอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอิสระ เพื่อกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย และกรรมการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต ประกันวินาศภัย และกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ดำเนินการให้แล้วเสร็จนับตั้งแต่วันออกคำสั่ง
ทั้งนี้ ได้แต่งตั้ง น.ส.พจนีย์ ธนวรานิช รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่สอง หรืออดีตอธิบดีกรมการประกันภัย เป็นประธานกรรมการ ทั้ง 2 คณะ
น.ส.พจนีย์ กล่าวว่า สิ่งที่จะต้องทำสำหรับงานแยกองค์กรเป็นอิสระ คือพิจารณาร่างกฎหมายว่าด้วยเรื่อง โครงสร้างอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอิสระที่จัดตั้งขึ้น จำนวนอัตราและประเภทบุคลากร แหล่งที่มาของบุคลากร แนวทางขั้นตอนการยืมหรือรับโอนในช่วงระยะแรกๆ เพราะการไปสังกัดองค์กรอิสระนั้น ให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ ซึ่งที่ผ่านมามีการทำไปบ้างแล้ว มีข้าราชการบางส่วน ที่ต้องการเป็นข้าราชการต่อไป เช่น สำนักงานประกันภัยจังหวัด ซึ่งจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมว่าจะต้องสังกัดหน่วยงานใด หลังจากกรมการประกันภัยแยกเป็นองค์กรอิสระแล้ว รวมถึงผลประโยชน์ตอบแทนที่เหมาะสมแก่บุคลากร
เคยมีร่างเดิมอยู่แล้ว แต่การแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ เป็นโอกาสดี ที่จะได้เชิญผู้แทนจาก กพร. ก.พ.รวมถึง ภาคธุรกิจ คือ นายสุรชัย ศิริวัลลภ อุปนายกสมาคมประกันวินาศภัย เข้าร่วมด้วย เพราะมีประสบการณ์จากต่างประเทศ น.ส. พจนีย์ กล่าว
น.ส.พจนีย์ กล่าวถึง คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายประกันภัย 3 ฉบับนั้น มี 2 เรื่องใหญ่ที่จะพิจารณา คือ 1.ธรรมาภิบาล ซึ่งได้ร่างกรอบออกมาแล้ว จะให้ภาคธุรกิจเสนอความคิดเห็นเพื่อหากรอบที่เหมาะสมร่วมกัน เพื่อบรรจุเพิ่มเติมในกฎหมายประกันชีวิต และกฎหมายประกันวินาศภัยต่อไป
2.กองทุนคุ้มครองผู้เอาประกันภัย ที่มีการหารือกันไว้แล้ว แต่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาคือ กฎหมายระบุไว้ว่า ในธุรกิจหนึ่งธุรกิจใด ควรจะมีกองทุนเพียงกองทุนเดียวที่บรรจุไว้ในกฎหมาย จากปัจจุบันที่ธุรกิจประกันภัยมี 3 กองทุน คือ กองทุนพัฒนาธุรกิจประกันภัย กองทุนพัฒนาธุรกิจประกันชีวิต และกองทุนคุ้มครอง ผู้ประสบภัยจากรถ
เราจะมาร่วมกันหารือว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำทั้ง 3 กองทุน มารวมกันเป็นกองทุนเดียว ซึ่งจะต้องดึงทั้ง 2 ธุรกิจ จาก 3 ฝ่ายมาแสดงความคิดเห็น น.ส.พจนีย์ กล่าว
น.ส.พจนีย์ กล่าวว่า การกำหนดเวลา 60 วันนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี
สำหรับคณะกรรมการศึกษากำหนดรูปแบบโครงสร้าง อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอิสระ เพื่อกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย มี 6 คน ประกอบด้วย อธิบดีกรมการประกันภัย ซึ่งปัจจุบันยังว่าง นางคมคาย ธูสรานนท์ รองอธิบดี นายไพศาล โชติไพบูลย์พันธ์ นักวิชาการประกันภัย 9 ชช. ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ผู้แทนจากคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นายสุรชัย ศิริวัลลภ ตัวแทนภาคเอกชน
ส่วนคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย 3 ฉบับ มี 9 คน ประกอบด้วย นายยรรยง พวงราช รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ อธิบดีกรมการประกันภัย นายทรงกลด อุบลสิงห์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน รักษาการในตำแหน่ง ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงพาณิชย์ น.ส. ชำเลือง ชาติสุวรรณ รองอธิบดีกรมการประกันภัย นายสรศักดิ์ ทันตสุวรรณ นิติกร 9 ชช. นายกุมพล บัวสวรรค์ นักวิชาการประกันภัย 9 ชช. นายกสมาคมประกันชีวิตไทย หรือแทน นายกสมาคมประกันวินาศภัย หรือแทน
โพสต์ทูเดย์ รมว.พาณิชย์ ขีดเส้น 60 วัน วางกรอบองค์กรอิสระ ปรับปรุง กม.3 ฉบับ ต้องเสร็จ
นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงนามในคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2549 กำหนดเวลา 60 วัน ให้คณะกรรมการศึกษา กำหนดรูปแบบโครงสร้างอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอิสระ เพื่อกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย และกรรมการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต ประกันวินาศภัย และกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ดำเนินการให้แล้วเสร็จนับตั้งแต่วันออกคำสั่ง
ทั้งนี้ ได้แต่งตั้ง น.ส.พจนีย์ ธนวรานิช รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่สอง หรืออดีตอธิบดีกรมการประกันภัย เป็นประธานกรรมการ ทั้ง 2 คณะ
น.ส.พจนีย์ กล่าวว่า สิ่งที่จะต้องทำสำหรับงานแยกองค์กรเป็นอิสระ คือพิจารณาร่างกฎหมายว่าด้วยเรื่อง โครงสร้างอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอิสระที่จัดตั้งขึ้น จำนวนอัตราและประเภทบุคลากร แหล่งที่มาของบุคลากร แนวทางขั้นตอนการยืมหรือรับโอนในช่วงระยะแรกๆ เพราะการไปสังกัดองค์กรอิสระนั้น ให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ ซึ่งที่ผ่านมามีการทำไปบ้างแล้ว มีข้าราชการบางส่วน ที่ต้องการเป็นข้าราชการต่อไป เช่น สำนักงานประกันภัยจังหวัด ซึ่งจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมว่าจะต้องสังกัดหน่วยงานใด หลังจากกรมการประกันภัยแยกเป็นองค์กรอิสระแล้ว รวมถึงผลประโยชน์ตอบแทนที่เหมาะสมแก่บุคลากร
เคยมีร่างเดิมอยู่แล้ว แต่การแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ เป็นโอกาสดี ที่จะได้เชิญผู้แทนจาก กพร. ก.พ.รวมถึง ภาคธุรกิจ คือ นายสุรชัย ศิริวัลลภ อุปนายกสมาคมประกันวินาศภัย เข้าร่วมด้วย เพราะมีประสบการณ์จากต่างประเทศ น.ส. พจนีย์ กล่าว
น.ส.พจนีย์ กล่าวถึง คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายประกันภัย 3 ฉบับนั้น มี 2 เรื่องใหญ่ที่จะพิจารณา คือ 1.ธรรมาภิบาล ซึ่งได้ร่างกรอบออกมาแล้ว จะให้ภาคธุรกิจเสนอความคิดเห็นเพื่อหากรอบที่เหมาะสมร่วมกัน เพื่อบรรจุเพิ่มเติมในกฎหมายประกันชีวิต และกฎหมายประกันวินาศภัยต่อไป
2.กองทุนคุ้มครองผู้เอาประกันภัย ที่มีการหารือกันไว้แล้ว แต่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาคือ กฎหมายระบุไว้ว่า ในธุรกิจหนึ่งธุรกิจใด ควรจะมีกองทุนเพียงกองทุนเดียวที่บรรจุไว้ในกฎหมาย จากปัจจุบันที่ธุรกิจประกันภัยมี 3 กองทุน คือ กองทุนพัฒนาธุรกิจประกันภัย กองทุนพัฒนาธุรกิจประกันชีวิต และกองทุนคุ้มครอง ผู้ประสบภัยจากรถ
เราจะมาร่วมกันหารือว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำทั้ง 3 กองทุน มารวมกันเป็นกองทุนเดียว ซึ่งจะต้องดึงทั้ง 2 ธุรกิจ จาก 3 ฝ่ายมาแสดงความคิดเห็น น.ส.พจนีย์ กล่าว
น.ส.พจนีย์ กล่าวว่า การกำหนดเวลา 60 วันนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี
สำหรับคณะกรรมการศึกษากำหนดรูปแบบโครงสร้าง อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอิสระ เพื่อกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย มี 6 คน ประกอบด้วย อธิบดีกรมการประกันภัย ซึ่งปัจจุบันยังว่าง นางคมคาย ธูสรานนท์ รองอธิบดี นายไพศาล โชติไพบูลย์พันธ์ นักวิชาการประกันภัย 9 ชช. ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ผู้แทนจากคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นายสุรชัย ศิริวัลลภ ตัวแทนภาคเอกชน
ส่วนคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย 3 ฉบับ มี 9 คน ประกอบด้วย นายยรรยง พวงราช รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ อธิบดีกรมการประกันภัย นายทรงกลด อุบลสิงห์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน รักษาการในตำแหน่ง ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงพาณิชย์ น.ส. ชำเลือง ชาติสุวรรณ รองอธิบดีกรมการประกันภัย นายสรศักดิ์ ทันตสุวรรณ นิติกร 9 ชช. นายกุมพล บัวสวรรค์ นักวิชาการประกันภัย 9 ชช. นายกสมาคมประกันชีวิตไทย หรือแทน นายกสมาคมประกันวินาศภัย หรือแทน