Thai VI

จริงๆ มันไม่มีอะไรเลย
แต่เพราะคนเชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น
และทำตามกันอย่างนั้น
มันก้เลยเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า

ผมเพิ่งอ่าน บทวิเคราะห์ ข้อความ ประมาณ

....(ชื่อหุ้น) หลายวันที่ผ่านมาเคลื่อนที่ในกรอบแคบๆ
จนเส้นค่าเฉลี่ยทั้ง 4 เส้นกลับมารวมตัวกันและเมื่อวานนี้ ราคาสามารถทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ยทั้ง 4 เส้น ไปปิดที่ราคาสูงสุดของวันได้ ดังน้นในระยะสั้น
จึงน่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาเช่นเดิม

....(ชื่อหุ้น) หลังจากราคาเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทั้ง 4 เส้นในช่วงต้นสัปดาห์ เมื่อวานนี้ราคาเริ่มอ่อนตัว แต่ก็ยังยืนเหนือ เส้นค่าเฉลี่ยทั้ง 4 เส้นได้
หาก ราคาไม่ลงไปต่ำกว่า ...... ยังสามารถซื้อเก็งกำไรระยะสั้นได้ต่อไป

ผมว่า อ่าน บทวิเคราะห์ม้าแข่ง ยังดีกว่าเลย อย่างมาก ก็ได้รู้ คอก สายพันธุ์ ผลการวิ่ง คู่แข่งตัวอื่นๆ

เขียนแบบนี้ พอๆ กับ เอาผลหวยเก่า มาปั้นสูตร หลอกขายให้คนข้างถนนเลย

นักเทคนิคที่ดูแต่ price ไม่ต่างอะไรกับ VI ที่ไม่ได้โหลดงบมาดู ...

ผมเป็นคนที่ศึกษาเทคนิคที่ไม่ได้เชื่อในเรื่องเทคนิค แต่ก็อาศัยประโยชน์จากเทคนิค ครับผม เอ๊ะ งงไหมเนี่ย

เฉยๆครับ

ทางใครทางมัน

ผมว่ามันเหมือน"กาก" สำหรับนักลงทุนครับ ไม่เคยอ่านไม่เคยสนใจเลย

อืมม...มองกลางๆนะครับ
พื้นฐานอาจไม่เปลี่ยนทุกวัน แต่อารมณ์นักลงทุนที่สะท้อนลงมาทางตลาดมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้ต้องมีตลาดรองไว้ตอบสนองแบบนี้ล่ะครับ
หากทุกคนมองแต่พื้นฐานคงขาดสภาพคล่องไปเยอะ หุ้นในตลาดที่เราคิดว่ามีสภาพคล่องใกล้เคียงกับเงินสด ก็จะเปลี่ยนไป
นักวิเคราะห์ที่อธิบายทางเทคนิค ก็คงเปรียบเสมือนการอธิบายอารมณ์ตลาด สะท้อนไปถึงอารมณ์นักลงทุนในปัจจุบัน แน่นอนว่ามีทั้งคิดเห็นแตกต่างเพราะข้อมูลที่มากมายมาจากหลายทาง คนที่ขายหุ้นไปแล้วก็อยากจะให้มีข่าวไม่ดีมา ทำให้หุ้นลง คนที่มีหุ้นอยู่แล้วก็อยากให้มีข่าวดีๆทำให้หุ้นมีมูลค่ามากขึ้น เป็นต้น
ขึ้นอยู่กับการเลือกเสพของเราครับ

A wise investor never ignores to learn more.

A wise investor never ignores to learn more.

ถ้าเขาศึกษาเพิ่มเติมแล้ว  ทดสอบแล้วครั้งแล้วครั้งเล่า  พิสูจน์แล้วครั้งแล้วครั้งเล่า

แล้วได้ข้อสรุปว่า  มันไม่น่าสนใจ  เขาพอจะเป็น A wise investor. ได้ไหมครับ.......

คัดท้าย เขียน:นักเทคนิคที่ดูแต่ price ไม่ต่างอะไรกับ VI ที่ไม่ได้โหลดงบมาดู ...

เจี๊ยกกๆๆๆ ไม่ค่อยอ่านครับ ดูคร่าวๆ เฉยๆๆ  
ดูแค่พวก current ratio, GM, net margin, ROA, ROE ยอดขาย กับต้นทุนที่เพิ่มอ่ะครับ
นานๆถึงจะดู operating cash flow ซะที

ต้องอ่านเพิ่มซะแหล่วๆๆ

nowkung เขียน:ผมว่ามันเหมือน"กาก" สำหรับนักลงทุนครับ ไม่เคยอ่านไม่เคยสนใจเลย

ขอพิสูจน์ความเป็น กาก ให้คุณดูเป็นครั้งสุดท้ายครับ

ไม่ว่าเย็นนี้จะถึง 719 หรือไม่

เป้าหมาย  770 จุด โดยประมาณ  กลาง พย.

Every principle has its own logic, only those who thoroughly understand and know when and how to use will surely benefit from it more or less.

อย่าทะเลาะกันเรื่องเดิม ๆ เลยครับ  :roll:

"คนมันเชี่ยวผิดกันเว้ยไอ้ศร"

ผมอ่านขำๆ นะครับ

เเต่ผมว่า เทคนิค กับ พื้นฐาน มันก็ไปด้วยกันได้นะครับ

มันก็ขึ้นกับคนนำไปใช้ด้วยหละครับ ว่าศึกษา ดีพอหรือไม่

หึหึ..

เทคนิค พื้นฐาน

ถ้าอ่านบทวิเคราะห์แล้ว เชื่อ เลย


ก็แมงเม่าดีๆนั่นเอง

HI.ผมเอง เขียน:หึหึ..

เทคนิค พื้นฐาน

ถ้าอ่านบทวิเคราะห์แล้ว เชื่อ เลย


ก็แมงเม่าดีๆนั่นเอง

8)

ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่อง Pattern ราคาเท่าไรอะครับ

เล่นตามสูตรพี่ร็อคแล้วมันก็สนุกดีนะครับ ซื้อแล้วไม่ค่อยเสียตัง

ลองดู OBV MACD แค่นี้ห็หาตังได้แล้วละครับ  :D

ผมขอนั่งเชียร์ครับ

อ่านกราฟไม่ออก แต่งานนี้อยากเชื่อไว้ก่อน

เพราะมีพวกเทคนิคเยอะๆ....พวก VI ก็เลยกำไรงามๆ

ดูให้เป็น  ก็จะเห็นมุมมอง
จาก..อดีต
สู่......ปัจจุบัน  
คาดการแนวโน้มอนาคต

การไม่เชื่อไม่ศรัทธาไม่เลื่อมใส

เพราะคนใช้ไม่เป็นเลยไม่เห็นคุณค่า

สุภาษิตมีว่า...

อันเพชรดีมีค่าราคายิ่ง
ส่งให้ลิงจะรู้ค่าราคาหรือ

(โดยส่วนตัวผมก็ไม่เก่งเรื่องกราฟ  
แต่ไม่เคยเหยียดหยามความรู้ต่างๆพัฒนาตัวเองมีความรู้เพิ่มขึ้น
คือไม่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง  และเลือกนำมาใช้บ้างในบางเวลา)

เอาอีกแล้วเหรอ

เอาเป็นว่าผมขอเป็นเด็กเชียร์เบียละกัน ตอนนี้ผมกำลังอวบเลย(หรือบวมก็ไม่รู้)

เพื่อนๆครับ อย่าลืมว่าตลาดไม่ได้มีประสิทธิภาพตลอดเวลา นะครับ ฉนั้น การวิเคราะห์ทางเทคนิคจึงสามารถใช้วิเคราะห์ได้ โดยอ่านอารมณ์ผู้เล่นผ่านตัวชี้วัด จะถูกจะผิดนั้นอยู่ที่การแปลความหมาย

ส่วนการวิเคราะห์ทางพื้นฐานนั้นใช้กฎของความไม่มีประสิทธิภาพตลอดเวลานั่นเหมือนกันแต่ไม่อ่านอารมณ์ผู้เล่น มองหาแต่หุ้นที่พื้นฐานดีๆ และไม่มีใครสนใจ ทีนี้ผิดถูกอยู่ที่การแปลความหมายอีกเช่นกัน

จะเห็นแย้งก็ไม่ว่าหรอก... คุยกันดีๆ

พนันกันเลยดีกว่าว่าถ้า SET 770จริงกลางเดือนหน้า ผมคงไม่รวยเพิ่ม อิ อิ  

ก็ไม่ต่างกับอ่านข้อมูลด้านพื้นฐาน ของนักวิเคราะห์ที่ไม่ค่อยจะรู้จริง

ชอบพาไปดอย

Bread & Butter เขียน:Every principle has its own logic, only those who thoroughly understand and know when and how to use will surely benefit from it more or less.

Good answer  :D

teetotal เขียน:ผมว่า อ่าน บทวิเคราะห์ม้าแข่ง ยังดีกว่าเลย อย่างมาก ก็ได้รู้ คอก สายพันธุ์ ผลการวิ่ง คู่แข่งตัวอื่นๆ

เขียนแบบนี้ พอๆ กับ เอาผลหวยเก่า มาปั้นสูตร หลอกขายให้คนข้างถนนเลย

เป็นไปได้ก็ไม่อยากให้มีการพลาดพิงถึงวิธีการอื่น...จะทำให้รู้สึกไม่ดีกันเปล่าๆ

ความคิดเห็นที่ 6
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 03774.html

ความคิดเห็นที่ 17
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 46862.html

เก็บไว้อ่านขำๆ ครับ  :drink: เพราะวิเคราะห์เหมือนกันเลย  

ปล ความคิดเห็นด้านบนให้ลองสังเกตที่ วันที่ ครับ

[quote="tech"]
ขอพิสูจน์ความเป็น กาก ให้คุณดูเป็นครั้งสุดท้ายครับ

ไม่ว่าเย็นนี้จะถึง 719 หรือไม่

เป้าหมาย

จัดแข่งทายราคาปิดสัก 10 วันสิครับ ทุกวันให้ผู้แข่งขันส่งคำทายก่อนปิดตลาดช่วงเช้าว่าวันนี้ตอนปิดตลาดช่วงบ่ายดัชนีจะปิดบวกหรือปิดลบ ใครทายถูกบ่อยที่สุดชนะ

ถ้าคนที่ชนะทายถูกเกิน 8 ใน 10 วัน นี่น่าจะถือได้ว่าเรื่องแบบนี้ทายได้จริงๆ แต่ถ้าคนชนะทายถูกน้อยกว่า 6 ใน 10 วันก็จะได้รู้ว่าการทายทิศทางราคานั้นมันยากขนาดไหน

พิสูจน์ไปเลยไม่ต้องมานั่งเถียงกัน

สุมาอี้ เขียน:จัดแข่งทายราคาปิดสัก 10 วันสิครับ ทุกวันให้ผู้แข่งขันส่งคำทายก่อนปิดตลาดช่วงเช้าว่าวันนี้ตอนปิดตลาดช่วงบ่ายดัชนีจะปิดบวกหรือปิดลบ ใครทายถูกบ่อยที่สุดชนะ

ถ้าคนที่ชนะทายถูกเกิน 8 ใน 10 วัน นี่น่าจะถือได้ว่าเรื่องแบบนี้ทายได้จริงๆ แต่ถ้าคนชนะทายถูกน้อยกว่า 6 ใน 10 วันก็จะได้รู้ว่าการทายทิศทางราคานั้นมันยากขนาดไหน

พิสูจน์ไปเลยไม่ต้องมานั่งเถียงกัน

น่าจะเป็นที่ทราบกันดีว่า ยิ่งใช้ระยะเวลาสั้นเท่าไร มันก็จะยิ่งเสี่ยงมากเท่านั้น

แลไม่ต่างอะไรกับการ เล่นการพนัน

..............................................
การวิเคราะห์ทางเทคนิค ก็บอกอยู่แล้วว่ามันต้องใช้แนวโน้ม

หรือว่า ผมเข้าใจผิด  :roll:

ต้องไปขอความเห็นของ กลุ่มเล็กๆ ที่ใช้แนวคิดทางด้าน โหราศาสตร์ มาวิเคราะห์ตลาดหุ้น ประกอบ อาจได้มุมมองที่กว้างขึ้น
ใน อนาคต ถ้าการซื้อขายหุ้นเป็น เรื่องที่ง่ายมาก จนมีคนเล่นมากขึ้น
อาจมีแนวคิด เรื่องการเสียดสีของพื้นผิวมาทำการวิเคราะห์หุ้นด้วย
กล่าวคือ ไปขัดถู ต้นไม้ใหญ่ ให้ปรากฏเป็น ตัวอักษร ปริศนา หาหุ้นจากเทพารักษ์
หรือ กลุ่ม ทำนายฝัน แปลความฝันเป็น รหัส ตัวอักษร

ล้อเล่นนะพี่ๆ  :lol:

[quote="teetotal"]ต้องไปขอความเห็นของ กลุ่มเล็กๆ ที่ใช้แนวคิดทางด้าน โหราศาสตร์ มาวิเคราะห์ตลาดหุ้น ประกอบ อาจได้มุมมองที่กว้างขึ้น
ใน อนาคต ถ้าการซื้อขายหุ้นเป็น เรื่องที่ง่ายมาก จนมีคนเล่นมากขึ้น
อาจมีแนวคิด เรื่องการเสียดสีของพื้นผิวมาทำการวิเคราะห์หุ้นด้วย
กล่าวคือ ไปขัดถู ต้นไม้ใหญ่ ให้ปรากฏเป็น ตัวอักษร ปริศนา หาหุ้นจากเทพารักษ์
หรือ กลุ่ม ทำนายฝัน แปลความฝันเป็น รหัส ตัวอักษร

ล้อเล่นนะพี่ๆ

ไปขูดหาอักษรย่อครับ :lol:  :lol:

ผมเป็นคนนึงที่ศึกษาเรื่องเทคนิคมาพอสมควรครับ
แต่ผมก็ไม่เคยสนใจในบทวิเคราะห์ที่ลงใน นสพ.เลย ส่วนใหญ่จะอ่าน แล้วก็มา screen ซ้ำอีกทีครับ

จริงๆแล้วการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพียงอย่างเดียวนั้นไม่สามารถทำให้ชนะตลาดได้หรอกครับ จะต้องมีอีกหลายอย่างประกอบด้วย เช่น Money Management and Discipline ครับ ถ้าขาดสองสิ่งนี้ไป ต่อให้วิเคราะห์ถูก 80% ก็ยังคงขาดทุนได้ครับ

ในไทยนั้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ "ดี" ครับ แต่ต่างประเทศแม้แต่บางมหาวิทยาลัยก็มีการเปิดสอนเป็นคอร์สเลยครับ ผู้จัดการกองทุน Hedge fund ก็ใช้กันเป็นจำนวนมาก

Anyway วิชาทุกวิชามีคุณค่าอยู่ในตัวของมันเองครับ อยู่ที่ผู้ใช้งานต่างหากที่จะนำวิชานั้นมาประยุกต์อย่างไร แล้วก็พึงระลึกเสมอว่า ไม่มีอะไรสามารถบอกอนาคตได้ถูกต้อง 100% หรอกครับ ไม่ว่าพี้นฐานหรือเทคนิค ดังนั้นวิเคราะห์อะไรก็ตามต้องเผื่อทางหนีทีไล่ให้ตัวเองด้วยครับ