Thai VI

weblog คืออะไรครับ

2 dogs เขียน:weblog คืออะไรครับ

สงสัยจะยัง

ว่าแต่ว่าเขาให้เหตุผลว่าไงอ่ะครับ  :?: แล้วคนที่พิมพ์ดีดไม่เป็นจะทำยังไง

สรุปก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร 8)

2 dogs เขียน:สรุปก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร 8)

http://en.wikipedia.org/wiki/Blog

thaivi เริ่มมาแนว weblog ได้ระยะหนึ่งแล้วครับ ดูตัวอย่างที่หน้าแรกได้เลย
www.thaivi.com รวมทั้ง blog ของเพื่อนๆนักลงทุนตามที่เคยเปิดรับแจ้งไป

Gates ไม่ได้พูดเปล่าๆ ..ในการนี้ Microsoft ออกโปรแกรม Live Writer ..พูดง่ายๆเป็น Word สำหรับ Weblog ออกมาแล้วครับ ใช้ .net 2.0 เป็น platform

ผมว่าคงยากครับ เหมือนตอนมีทีวี ก็บอกว่าวิทยุจะตาย
ตอนมีหนังสืออิเลกโทรนิค ก็บอกว่าหนังสือจะตาย

เค้าเรียกตัดไม้ข่มนามครับ

ขืนบอกว่ายังอยู่ จะได้เกิดเหรอ

การทำ Weblog ยังไงก็ต้องเหมือนโทรทัศน์ออนไลน์ โทรทัศน์ถึงจะเจ๊งได้ คนบ้านๆ คงไม่มาทำภาพเคลื่อนไหวคนเดียวให้คนอื่นดูอยู่แล้ว

จริงๆ แล้ว Weblog หรือ Blog และ PodCast
กำลังเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองที่สุดครับ

ใครสนใจจะมาบล็อกกันบ้างครับ
ตอนนี้เรากำลังวางแผนจะแจกบล็อกฟรี
ซึ่งคงจะเริ่มจากจำนวนจำกัดก่อน
(ติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ถ้าจะแจกทุกคน)

เทรนด์ของ blog มาแน่ๆครับ

คนในนี้ที่เขียนก็ไม่น้อย ไม่ว่าที่ต้องตามอ่านอย่าง yoyoway,myset(ไม่เคยคอมเมนต์นิสัยไม่ดี ) และอีกหลายๆคนครับ

เทรนด์ในตปท แสดงให้เห็นมาระยะหนึ่งแล้ว เช่น ceo ของ sun ติดต่อผ่าน weblog แทนการเปิดแถลงข่าว หัวหน้าฝ่ายเทคนิค linux ของ adobe ใช้ weblog รายงานความคืบหน้าของ โปรเจ็กซ์ปัจจุบัน

อย่างวันที่ 19 เมื่อข่าวสารทั้งหมดโดนตัด ก็เกิด http://19sep.blogspot.com/ เป็นบล็อกรายงานข่าวขึ้นทันควัน และได้รับการโปรโมทติดหน้าแรกของ blogspot ในฐานะแหล่งข่าวท้องถิ่น

คนทำแอบกระซิบผมว่า ยอดคนดูท่วมท้น ด้วย

มันไม่ฆ่า TV, นสพ หรอกครับ แต่มันจะทำให้ความน่าสนใจของธุรกิจลดลง เพราะมีสื่อใหม่เข้ามาหาร

ผมยังมองไม่ออกว่า เทรนด์นี้มันจะโตเต็มที่ไปในรูปไหน เพราะ blogger ดังๆบางคนก็อยู่ได้เพราะ blog อย่างเดียว เหมือนนักเขียน ทีมีคนจ่ายเงินเพื่ออ่านที่เค้าเขียน

แต่ที่เห็น และน่าจะเป็น คือเข้ามาเป็น แนวทางในการทำลูกค้าสัมพันธ์แบบใหม่ อย่างหนึ่ง และเป็นช่องทางในการบริหาร ความสัมพันธ์ภายในองค์กรอีกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะในสายไอที

คุณโอ๊ต อย่าดูถูกของฟรีนะ youtube น่ะฟรีแทบทั้งนั้นเลย หรือเว็ปข่าวอย่าง slashdot, digg นี่ก็ฟรี คนเขียนไม่ได้กะตังค์

ของไทยก็ www.blognone.com ไม่ได้ตังค์เหมือนกัน

มันต้องเอาแนวคิดแอมเวย์มาใช้ครับ "ชอบ แล้วบอกต่อ" แต่ใน internet คนที่ชอบ มันเยอะ ทำคนละนิด หลายๆคนมารวมกันก็ไม่นิดแล้ว

มันก็ยังทำบน internet นี่ครับ ทำไมถึงว่า internet จะหมดยุคไปด้วยล่ะ

ความน่าสนใจของ weblog มันต่างจากมืออาชีพครับ weblog ก็เหมือนอ่านเว็ปบอร์ด ที่มีคนมาเขียนอะไรให้อ่าน

แต่ด้วยความเป็นจริงผมยังว่าคนเราชอบภาพมากกว่าตัวอักษร เสพเสียงมากกว่าตัวอักษร ชอบภาพเคลื่อนไหวมากกว่าภาพนิ่ง

สิ่งเหล่านี้ทำให้คิดว่า weblog ตีไม่เข้าครับถ้ายังเป็นแค่คนปกติมาเขียน อย่างเก่งก็ทำได้แค่ แชร์ตลาดเล็กน้อย ทำให้คนดูทีวีน้อยลงไปอ่าน weblog มากขึ้น

แต่มันตี Internet ยังไงนี่ จะอ่าน weblog ก็ต้องต่อ Internet ไม่ใช่หรอ -_-'

แล้วผมยังสับสน weblog มันต่างจาก website ปกติยังไงเนี่ย ความหมายมันก็แค่ weblog คนเดียวเขียน website อาจจะมีหลายคนเขียน?

แล้วมันมีอะไรต่างกับ website หรือครับ
ถ้าต่อ internet เข้ามาหาข้อมูลเหมือนๆกัน?

อีกอย่างคือ ทำไมผมถึงต้องอยากเขียน blog ด้วยหรือครับ
จะได้ benefit อะไรจากตรงนี้บ้าง ?

ถามแต่คำถามตอบยากๆ -_-!

คนเขียน ถ้าเขียนส่วนตัวไม่ได้ benefit หรอกครับ แต่ community ของ blog น่ะ benefit
youtube , blogspot หรือ exteen ของไทย ไม่มี content ที่สร้่างเองเลย ดังนั้นต้นทุนดำเนินการต่ำมาก
แต่ยอดคนดูสูง คือคนอ่าน(อย่างเดียว) คนเขียน ก็มักจะอ่านด้วย มีน้อยรายที่เขียนอย่างเดียวโดยไม่อ่าน

ดูง่ายๆว่า youtube ขายกิจการให้กูเกิ้ลไป 1.65 พันล้านดอล โดยไม่มีคอนเท้นต์ของตัวเองเลย มีพนักงานแค่
 67 คน คิดว่าต้นทุนดำเนินการเค้าต่ำแค่ไหนครับ?
 
จาก  http://www.blognone.com/node/3180 เห็นได้ว่า digg ซึ่งเป็นเว็ปข่าวแบบมีส่วนร่วมกำลังจะกลืน ส่วนแบ่งของ CNet แล้ว

digg ไม่มีนักข่าว ไม่สร้างคอนเทนต์ แต่ให้คนดูทุกคนช่วยกัน submit ข่าวเข้าไป
เป็นสำนักข่าวที่มีแต่เรื่องที่คนใน digg สนใจ ต้นทุนต่ำมาก ความภักดีผู้ชมสูงมาก(ก็โพสต์เอง)
 เว็ปไซต์แบบเก่าๆ ที่สร้างเนื้อหาเองจะไปรอดได้ไง?
 
 ถ้าเปรียบเทียบคือเว็ปแบบเก่าก็เหมือน นสพ เว็ปมาสเตอร์ หาเนื้่อหามาลง เว็ปบล็อก หรือ
  social community อื่นๆ ก็เหมือน รายการที่เอาข่าวไปอ่านออกอากาศ
 
  เว็ป เจ๊งมั้ย ไม่! ต้นทุนสูงกว่ามั้ย ชัวร์
 
  สำหรับว่ามันต่างจากเว็ปไซต์ยังไงลองไปดู google read ครับ ผมสามารถ "ดูด" ข่่าวจากบล็อกที่ผมสนใจ
  ไปทำสรุป เลือกอ่านเฉพาะหัวข้อ หรือเนื้อหาเต็มก็ได้ โดยไม่ต้องเข้ามาที่เว็ปเลย โปรแกรมมันทำให้หมด
   นี่รออยู่ว่าเ้มื่อไหร่ thaivi จะทำบ้าง
   
   ตอนนี้ในลิสต์ผม มีของพี่โยโย กับคุณม้าเฉียวเรียบร้อยแล้ว แจ้งเตือนทันที เมื่อทั้งสองท่านอัฟเดตข้อมูลใหม่ น่าเสียดายหลายๆคนที่ไปเขียนที่ bloggang เพราะมัีนไม่ซัฟพอร์ตเทคโนโลยีตัวนี้
   
   มันไปถึงขนาดโพสต์ข่าว ผ่าน e-mail ได้แล้วนะครับ ผมอ่านผ่าน feed reader(google read) เก็บรูป ใน flickr เขียนผ่าน email แล้วโพสต์ส่ง
   
   โดยไม่ต้องเข้าหน้าเว็ปเลยซักครั้ง

   ช่วงนี้เป็นยุคเปลี่ยนผ่านครับ ยังไม่ค่อยชัดเจน แต่เทรนด์ มาแน่ๆครับ

website ในปัจจุบันมันมีอะไรซับซ้อนมากครับ อย่างไทยวีไอเนี่ยเห็นเรียบๆง่ายๆ แต่เบื้องหลังนี่มีโปรแกรมวิ่งอยู่เพียบ และมีมืออาชีพอย่างท่านนายกสมาคมฯต้องอดหลับอดนอนดำเนินการอยู่

ส่วน weblog หรือ blog เป็นเวบไซต์ที่ออกแบบมาให้ใช้ง่ายครับ สามารถดำเนินการได้เพียงแค่เขียนๆๆๆ แล้วก็มีระบบจัดการเช่นลบ แก้ไข แบบง่ายๆ ด้วยความง่ายทำให้ ปริมาณของ blog เกิดขึ้นได้มากและเร็วกว่า

เอามาลงให้ดูครับ ผมอ่านงานเขียนพี่โยโย่ได้ โดยไม่ต้องไปไหนจา่ก greader เลย

งั้นหุ้นตัวไหนทำเรื่อง weblog อย่างเดียวมั่งครับใน NYSE หรือ NASDAQ
ไม่อ้อมค้อมละ  :)

ผมเขียนเองยังเพิ่งรู้เลยว่ามีดูดเข้ามาใน google ได้ด้วย