Thai VI

เหตุผลอย่างหนึ่งที่อธิบายว่าทำไมหุ้น ค้าปลีก โรงแรม โรงพยาบาล ถึงวิ่งในช่วงทีผ่านมาคือ ธุรกิจเหล่านี้มีความสามารถในการผลักภาระต้นทุนไปให้ลูกค้าได้เร็วกว่าธุรกิจอื่นในเวลาที่ภาวะเงินเฟ้อ พวกนี้จึงรักษามาร์จิ้นไว้ได้

ดูเหมือนปีหน้าเงินเฟ้อต่ำ เลยไม่รู้ว่าการซื้อหุ้นกลุ่มนี้ในตอนนี้จะยังมี upside เหลืออีกหรือไม่ กำไรอาจเพิ่มต่อแต่ราคาหุ้นอาจไม่เพิ่ม

แชร์ไอเดียกันหน่อย

สุมาอี้ เขียน:เหตุผลอย่างหนึ่งที่อธิบายว่าทำไมหุ้น ค้าปลีก โรงแรม โรงพยาบาล ถึงวิ่งในช่วงทีผ่านมาคือ ธุรกิจเหล่านี้มีความสามารถในการผลักภาระต้นทุนไปให้ลูกค้าได้เร็วกว่าธุรกิจอื่นในเวลาที่ภาวะเงินเฟ้อ พวกนี้จึงรักษามาร์จิ้นไว้ได้

ดูเหมือนปีหน้าเงินเฟ้อต่ำ เลยไม่รู้ว่าการซื้อหุ้นกลุ่มนี้ในตอนนี้จะยังมี upside เหลืออีกหรือไม่ กำไรอาจเพิ่มต่อแต่ราคาหุ้นอาจไม่เพิ่ม

แชร์ไอเดียกันหน่อย

แต่ถ้าเขายังgrowth มากกว่า PE และความคาดหวังของตลาด ราคาหุ้นก็น่าจะไปต่อได้
แต่ถ้าตัวไหนพลาดโตน้อยกว่าความคาดหวังของตลาด ก็รับเละ :lol:

ธุรกิจคงพอไปได้ครับ แต่ผมว่า Capital gain คงยากที่จะได้แบบในปีที่ผ่านๆมา

หุ้นพวกค้าปลีก โรงแรม โรงพยาบาล ที่ผ่านมาเมื่อสัก 2-3 ปีก่อน

เป็นหุ้น volume น้อยทั้งนั้น ตอนนี้ volume เพิ่มขึ้นเยอะ

ผมมีหุ้นบางตัวอยากจะแนะนำ โดยมีคุณสมบัติดังนี้ครับ

1) เป็นหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจมาก มีการเปลี่ยนแปลงราคาน้อย หรือ น้อยกว่าผลกำไรที่น่าจะทำได้ในอนาคต

2) มีวอลุ่มเบาบาง มีกราฟแบบตกลงมาแล้วแน่นิ่งมานาน แล้วเพิ่งเริ่มผงกหัว

3) มีราคาต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ (exercise price) ของ Warrant ที่จะหมดอายุในไม่ช้า

4) วอลุ่มซื้อขายน้อย แต่มี Offer ไม้ใหญ่ขวางไว้ที่ราคาใดราคาหนึ่งเป็นพิเศษ

5) 05Q3 และ/หรือ 05Q4 มีกำไรตำกว่าปกติเป็นพิเศษ แต่กำไรไตรมาส 1 และ 2 ของ 2006 กลับมาเป็นปกติ หุ้นพวกนี้ แม้ P/E สูง แต่ลองสังเกตุดู P/BV จะพอรับได้ และ P/E จะลดลงอย่างมากในไม่ช้า

ให้สังเกตุการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ซึ่งจะมาก่อนการเปลี่ยนแปลงของราคา เป็นสำคัญ หุ้นดีมากๆ หลายตัวมาจากหุ้น  volume น้อยมากๆ พวกฟันหลอ Bid Offer ห่างกันหลายช่องนี่ บางตัวก็น่าสนใจนะครับ อาจมีคุณลักษณะแค่ 3 ใน 5 ข้อนี้ก็ OK แล้วครับ


ขอให้ทุกท่านโชคดี  :D


ผิดถูกขออภัย มีอะไรเพิ่มเติมโปรดชี้นำ ขอบคุณครับ

ธุรกิจรับจ้างน่าจะรุ่งนะ

hot เขียน:ธุรกิจรับจ้างน่าจะรุ่งนะ

เหตุผล ?

[quote="คนขายของ"]ธุรกิจคงพอไปได้ครับ แต่ผมว่า Capital gain คงยากที่จะได้แบบในปีที่ผ่านๆมา

หุ้นพวกค้าปลีก โรงแรม โรงพยาบาล ที่ผ่านมาเมื่อสัก 2-3 ปีก่อน

เป็นหุ้น volume น้อยทั้งนั้น ตอนนี้ volume เพิ่มขึ้นเยอะ

ผมมีหุ้นบางตัวอยากจะแนะนำ โดยมีคุณสมบัติดังนี้ครับ

1) เป็นหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจมาก มีการเปลี่ยนแปลงราคาน้อย หรือ น้อยกว่าผลกำไรที่น่าจะทำได้ในอนาคต

2) มีวอลุ่มเบาบาง มีกราฟแบบตกลงมาแล้วแน่นิ่งมานาน แล้วเพิ่งเริ่มผงกหัว

3) มีราคาต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ (exercise price) ของ Warrant ที่จะหมดอายุในไม่ช้า

4) วอลุ่มซื้อขายน้อย แต่มี Offer ไม้ใหญ่ขวางไว้ที่ราคาใดราคาหนึ่งเป็นพิเศษ

5) 05Q3 และ/หรือ 05Q4 มีกำไรตำกว่าปกติเป็นพิเศษ แต่กำไรไตรมาส 1 และ 2 ของ 2006 กลับมาเป็นปกติ หุ้นพวกนี้ แม้ P/E สูง แต่ลองสังเกตุดู P/BV จะพอรับได้ และ P/E จะลดลงอย่างมากในไม่ช้า

ให้สังเกตุการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ซึ่งจะมาก่อนการเปลี่ยนแปลงของราคา เป็นสำคัญ หุ้นดีมากๆ หลายตัวมาจากหุ้น

[quote="สุมาอี้"][quote="คนขายของ"]ธุรกิจคงพอไปได้ครับ แต่ผมว่า Capital gain คงยากที่จะได้แบบในปีที่ผ่านๆมา

หุ้นพวกค้าปลีก โรงแรม โรงพยาบาล ที่ผ่านมาเมื่อสัก 2-3 ปีก่อน

เป็นหุ้น volume น้อยทั้งนั้น ตอนนี้ volume เพิ่มขึ้นเยอะ

ผมมีหุ้นบางตัวอยากจะแนะนำ โดยมีคุณสมบัติดังนี้ครับ

1) เป็นหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจมาก มีการเปลี่ยนแปลงราคาน้อย หรือ น้อยกว่าผลกำไรที่น่าจะทำได้ในอนาคต

2) มีวอลุ่มเบาบาง มีกราฟแบบตกลงมาแล้วแน่นิ่งมานาน แล้วเพิ่งเริ่มผงกหัว

3) มีราคาต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ (exercise price) ของ Warrant ที่จะหมดอายุในไม่ช้า

4) วอลุ่มซื้อขายน้อย แต่มี Offer ไม้ใหญ่ขวางไว้ที่ราคาใดราคาหนึ่งเป็นพิเศษ

5) 05Q3 และ/หรือ 05Q4 มีกำไรตำกว่าปกติเป็นพิเศษ แต่กำไรไตรมาส 1 และ 2 ของ 2006 กลับมาเป็นปกติ หุ้นพวกนี้ แม้ P/E สูง แต่ลองสังเกตุดู P/BV จะพอรับได้ และ P/E จะลดลงอย่างมากในไม่ช้า

ให้สังเกตุการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ซึ่งจะมาก่อนการเปลี่ยนแปลงของราคา เป็นสำคัญ หุ้นดีมากๆ หลายตัวมาจากหุ้น

คุณนริศ

แต่ผมเจอตัวหนึ่งครับ และไม่ใช่ผมถืออยู่ตอนนี้
เอาไว้ผมซื้อเสร็จเมื่อไหร่จะบอกนะจ๊ะ

แบบนี้ ไม่ฟังไม่ได้แล้ว พ่อค้าปลีกตัวจริงในวงการมา Post เอง แบบนี้ที่คุณนริศบอก Inside เดี๋ยวคงได้แปลงเป็น Insight อีกทีครับ

ต้องขอติดตามผลงานกันหน่อยแล้วครับ อิ อิ แต่อย่าบอกช้าเกินไปนะครับ เดี๋ยวราคาขึ้นไปรับแล้ว ซื้อไม่ทันใจครับ  :lol:

พี่ สุมาอี้ ทำไมคิดว่า กลุ่มโรงแรมมีความสามารถในการผลักภาระต้นทุนไปให้ลูกค้าเร็วกว่ากลุ่มอื่นละครับ

ผมเห็นโรงแรมอื่นๆ หลังปฏิวัติยอดพักตกเยอะเลยครับ cancel เยอะด้วย

พี่นริสเก็บเสร็จเมื่อไหร่กระซิบบอกน้องๆด้วยนะครับ ... เดี๋ยวจะช่วยดันให้   :lol:

kotaro เขียน:พี่ สุมาอี้ ทำไมคิดว่า กลุ่มโรงแรมมีความสามารถในการผลักภาระต้นทุนไปให้ลูกค้าเร็วกว่ากลุ่มอื่นละครับ

ผมเห็นโรงแรมอื่นๆ หลังปฏิวัติยอดพักตกเยอะเลยครับ cancel เยอะด้วย

อึม เห็นด้วยครับ คือว่าเขาว่ากันอย่างนั้นก็เลยว่าตาม เหอๆ

สุมาอี้ เขียน: อึม เห็นด้วยครับ คือว่าเขาว่ากันอย่างนั้นก็เลยว่าตาม เหอๆ

เค้าบอกว่า ภาระต้นทุน ไม่ใช่ยอดขายนี่ครับ
เท่าที่ผมสังเกตุโรงแรมส่วนใหญ่ รับเป็น $อยู่แล้วแล้วได้ปรับราคา
ขึ้นครับ และยิ่งถ้าเป็นโรงแรมที่มีรายได้หลักจาก Fastfoodหรืออาหาร
ก็ไม่ต้องห่วงครับเพราะเค้าปรับราคาอาหารได้

yoyo เขียน:พี่นริสเก็บเสร็จเมื่อไหร่กระซิบบอกน้องๆด้วยนะครับ ... เดี๋ยวจะช่วยดันให้   :lol:

หุหุหุ งี้ต้องบอกโอ๊ตก่อนแล้วค่อยบอกพี่โยนะ ช่วยคนอายุน้อยกว่าก่อน

สุมาอี้ wrote:


อึม เห็นด้วยครับ คือว่าเขาว่ากันอย่างนั้นก็เลยว่าตาม เหอๆ

น้องสุมาอี้โดนหมอโคทาโร่แซวซะแล้ว  อิอิ  
ผมก็ชอบแซวคนดังนะ  หนุกดี 555

ผมเห็นด้วยกับคุณ Rocker นะครับ

และก็การปฏิวัติเป็นปัจจัยในเรื่องความปลอดภัย ดังนั้นที่เขา cancel จึงไม่ใช่เป็นเพราะเรื่องเงินเฟ้อหรือภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น  จึงเอามาปนกันไม่ได้

ขออภัยครับที่แซวด้วยอีกคน  เหอ เหอ

ทีนี้เข้าสู่ประเด็นสำคัญของเรื่อง

เรื่องการผลักภาระได้หรือไม่ได้ที่น้องสุมาอี้ยกมาตั้งกระทู้  ผมว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่นักลงทุนควรจะตระหนักให้ดี  และจะมีผลต่อกำไรหรือขาดทุนค่อนข้างมากและมักจะเป็นแบบไม่ทันตั้งตัวเสียด้วย  คือกว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้วถ้าเราไม่ได้คิดเผื่อไว้ก่อน

เป็นพลังที่สี่ของปรมาจารย์ ไมเคิล อี พอร์ทเตอร์เลยทีเดียว

ใครสนใจรายละเอียดลองหาอ่านดูครับ

สามกลุ่มนี้ผมว่า โรงบาลมีพลังที่สี่สูงที่สุด

เราไม่ค่อยเห็นลูกค้าจะต่อรองค่ารักษาว่า ผ่าตัดสมองขอลดเหลือหกหมื่นแปดไม่ได้เหรอ  หกหมื่นเก้าแพงเกินไปอ่ะ

หรือ  ทำไมเราต้องตรวจเลือดหา amylase  หา BUN ไม่ได้เหรอ ราคาถูกกว่าตั้งเยอะ  เป็นต้น

เพราะสินค้าโรงบาลเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มวิชาชีพ และถ้าหมอบอกให้ซื้อลูกค้าก็มักจะต้องซื้อเสียด้วย ซึ่งต่างจากสินค้าทั่วๆไปที่ลูกค้ามีความรู้ความเข้าใจได้อย่างดี อย่างพวกเสื้อผ้า  ขนมปัง ไอติม

ส่วนค้าปลีกและโรงแรมพลังที่สี่จะมีมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับผลลัพภ์จากการต่อสู้กันของพลังที่ 1, 2 และ 3

ปีหน้า sector ไหนจะเป็นม้ามืดครับ เห็น sector ที่แรงสุดเป็นม้ามืดทุกปีเลย

ปี 48 พลังงาน
ปี 49 โรงพยาบาล
ปี 50 ????

ปีนี้ Growth Stock มาแรงจริงๆ

ปีหน้า หุ้นไม่มี Growth กำไรตกปีนี้เพราะน้ำมันแพง PE ต่ำๆ จะกลับมาในฮิตในปีหน้าเพื่อลุ้นกำไรให้กลับมาเป็นปกติหรือเปล่า

ท่านคนขายของครับ ตัวที่ท่านว่ามีความเสี่ยงที่จะมีการเพิ่มทุนขนาดไหนครับ ผมกลัวจุดนี้จุดเดียว จุดอื่นผมว่าเด็ด

ท่านแม่ทัพครับ จริงๆ ผมไม่ได้หมายถึงตัวใด ตัวหนึ่งเป็นพิเศษหรอกครับ

มีหลายๆ ตัวที่ผมว่าปีหน้าน่าจะดีกว่าปีนี้

ไม่ว่าจะด้วย สาขาใหม่, กำลังผลิตใหม่, โรงงานใหม่, กลยุทธ์ใหม่ .....

และหุ้นที่ดีมากๆ ส่วนใหญ่มาจากหุ้นที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ วอลุ่มเบาบางมากๆ

แต่ก็ต้องระวัง เพราะพวก "บ้า" กับ "อัจฉริยะ" หน้าตาบางทีคล้ายกันมาก

ต้องอาศัยอ่าน หนังสือพิมพ์ ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด



ผมไม่แน่ใจว่าตัวที่ท่านถามเรื่องความเสี่ยงการเพิ่มทุน จะเป็นตัวเดียวกันกับ

ที่ผมเข้าใจหรือเปล่า ถ้าเป็นตัวที่ผมเข้าใจ ผมว่ามีโอกาสครับที่จะเพิ่มทุน

แต่อาจเป็นแบบ PP มากกว่า



ตัวที่ผมสนใจจริงๆ ตอนนี้บางวันแทบไม่มีการซื้อขายเลยครับ เป็นหุ้นหนี้น้อย

กระแสเงินสดเป็นบวกดูดี และไม่มี W แต่ PE สูงน่ะครับ เพราะ กำไร Q3 กับ

Q4 ปีที่แล้วต่ำผิดปกติ

ผมอ่านเจอมาบอกว่าธุรกิจไฟฟ้าปีหน้าจะรุ่ง

แต่ผมว่าธุรกิจอะไรที่ต้นทุนต่ำ มากเท่าไหร่ยิ่งดี ยิ่งแข่งขันได้สบาย และน่าจะทำกำไรได้ดีแม้ว่าจะไม่กระโดดให้เตะตา

คนขายของ เขียน: ตัวที่ผมสนใจจริงๆ ตอนนี้บางวันแทบไม่มีการซื้อขายเลยครับ เป็นหุ้นหนี้น้อย

กระแสเงินสดเป็นบวกดูดี และไม่มี W แต่ PE สูงน่ะครับ เพราะ กำไร Q3 กับ

Q4 ปีที่แล้วต่ำผิดปกติ

ยังหาไม่เจอเลย ไม่รู้ท่านหมายถึงตัวไหน  :'O

ส่วนตัวที่ผมพูดถึงนั้นเป็นตัวนึงที่ท่านเคยพูดถึงมาก่อน ถ้าเขาสามารถอึดไปได้ถึงปีหน้าโดยไม่มีการเพิ่มทุนเลย คงมีเฮ เพราะปีหน้าถ้าบรรยากาศของตลาดหุ้นดีขึ้น เขาน่าจะสามารถขายของที่อยากจะขายเต็มแก่เข้ากองทุนได้เป็นผลสำเร็จ

ผมรู้สึกว่า Growth Stocks มองเห็นง่าย เข้าง่าย แต่ออกถูกจังหวะยาก  Value Stocks มองเห็นยาก ทำให้อาจไม่ได้เข้า  แตุ่้ถ้าเข้าแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องออกในเวลาอันใกล้เท่าไร

ดูๆแล้ว ตอนนี้ผมมองเห็น Growth Stocks อยู่หลายตัว (เพราะมองเห็นได้ง่าย) มีอยู่ในพอร์ตก็หลายตัว  แต่ยังมองหา Value Stocks ตัวใหมยังไม่เจอครับ (ตัวเก่าๆที่อยู่ในพอร์ต ก็ไม่รู้ว่าเป็นตัวปลอมหรือเปล่า)   ตอนนี้กำลังค้นอยู่อย่างเต็มที่ (เท่าที่มีเวลาครับ)

นอกจากนี้ก็กำลังฟังทุกท่านอยู่อย่างตั้งใจครับ

[quote="nanakorn"]ผมรู้สึกว่า Growth Stocks มองเห็นง่าย เข้าง่าย แต่ออกถูกจังหวะยาก

[quote="yoyo"][quote="nanakorn"]ผมรู้สึกว่า Growth Stocks มองเห็นง่าย เข้าง่าย แต่ออกถูกจังหวะยาก

โรงแรมไทยโคม่าราคาต่ำสุด2ปีติด [ โพสต์ทูเดย์, 23 ม.ค. 55 ]

วิกฤตน้ำท่วมทุบราคาโรงแรมห้องพักในประเทศไทยโคม่า ทีเอชเอ ระบุถูกสุดในอาเซียนเชื่อปีมังกร
ราคากระเตื้องยาก

นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสมาคมท่อง
เที่ยวอาเซียนได้ประเมินสถานการณ์ราคาโรงแรมห้องพักของประเทศในกลุ่มอาเซียน พบว่าประเทศไทยมี
อัตราการเข้าพักและราคาห้องพักปี2554 เฉลี่ยต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน เนื่องจากได้รับผลกระทบต่อ
เนื่องจากวิกฤตทางการเมืองและปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่รอบ 50 ปีในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งให้ผู้ประกอบ
การจัดรายการส่งเสริมการขายต่อเนื่อง

ค้าปลีกเร่งปู2ปั้นความเชื่อมั่นบริหารจัดการอย่างเป็นระบบย้ำเอกชนไปได้ขอแค่นโยบาย [ โพสต์ทูเดย์, 23 ม.ค. 55 ]

สมาคมผู้ค้าปลีกไทยจี้ "ครม.ปู 2" ฟื้นเชื่อมั่นเศรษฐกิจประเทศ หวั่นปมการเมืองยุ่ง สะดุดกำลังซื้อ
ค้าปลีกปี 2555

น.ส.บุษบา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่าเรื่องเร่งด่วนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)
ชุดใหม่ โดยเฉพาะกระทรวงที่เกี่ยวข้องในภาคเศรษฐกิจต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วคือ สร้างความเชื่อ
มั่นประเทศไทยให้ฟื้นคืนกลับมาโดยเร็วที่สุด หลังจากที่ไทยเพิ่งผ่านพ้นวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ไปเมื่อปลายปี 2554
ที่ผ่านมา รวมถึงการให้ความมั่นใจกับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในมาตรการรักษาความปลอดภัย
จากกระแสข่าวเหตุก่อการร้ายในไทย ฯลฯ