Thai VI

เรียนถามพี่ๆทุกท่านครับ
ด้วยเหตุผลอะไรบ้างครับที่เราควรสมควรต้องปรับพอร์ท
ภาวะบริษัท ภาวะตลาด ภาวะเศรษฐกิจ อื่นๆ

โดยส่วนตัวนะครับ
1. หุ้นในพอร์ตบางตัวมีแนวโน้วในการทำกำไรที่ลดลง หรือ
สูญเสียส่วนแบ่งในการตลาดไป
ผมชอบหุ้นที่เป็นผู้นำตลาด เช่น IRC แต่ในระยะเวลาอันใกล้นี้จะมีหุ้นที่ชื่อ ฮั้งฟง หรืออะไรประมาณนี้ที่ลักษณะของผลิตภัณฑ์คือผลิตยางนอกของมอไซด์ ชื่อทางการค้า DUNLOP เข้ามาในตลาดซึ่งมีส่วนทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของ IRC ลดลง
2.ถ้าเรามั่นใจว่าเจอหุ้นที่ดีกว่าหุ้นในพอร์ต เช่น ผมได้อ่านประวัติของคุณ ประกิต รู้สึกประทับใจในตัวของผู้บริหาร เลยลองอ่านลักษณะการทำธุรกิจของ P-FCB ดูแล้วระยะยาว ธุรกิจโฆษณาก็น่าจะไปได้เรื่อยๆตามอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ก็เลยทำการปรับพอร์ตเปลี่ยนหุ้นบางตัวออกแล้วมาถือ P-FCB แทน
3.หุ้นที่เราเลือกลงทุนเพราะคิดว่าราคาถูกกว่าความเป็นจริง เช่น SPSU ตอนที่ผมซื้อลงทุนราคาประมาณ 11 บาท(ตอนนั้น พาร์ 10 บาท) ค่าP/E ,P/B ตอนนั้นถูก ประกอบกับคาดว่ายอดขายมอไซด์ที่จะเพิ่มมากขึ้นปัจจุบันเป็นพาร์ 5 บาท ราคาในตลาด 16 บาทถ้าคิดราคาที่พาร์ 10 บาทก็จะเป็นราคา 32 บาท ประกอบกับแนวโน้มการทำกำไรที่ลดลง สูญเสียส่วนแบ่งไปเยอะ เมื่อราคาขึ้นมาก็ปรับไปตัวอื่นแทน
***ทั้งหมดเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว

การปรับพอร์ต เป็นเทคนิคการลงทุนของเพื่อนๆนักลงทุนแต่ละคน
ผมก็ชอบตบแต่งพอร์ตให้ดูสบายตาเช่นกัน

ถ้าเรารอคอยความหวังว่าโดยให้เวลาผ่านไป แล้วดูผลว่าพอร์ตจะโตขึ้นสักแค่ไหน ก็เป็นเทคนิคการลงทุนที่น่าสนใจแบบหนึ่ง

ใครชอบลงทุนเชิงรุก ก็คงใช้เทคนิคการลงทุนมากกว่าการจะซื้อหุ้นมา
ถือไว้เฉยๆ อย่างแน่นอนครับ

การบริหารพอร์ตเล็กๆ ก็เหมือนบริหารTIME กับ MONEY ในกระเป๋าตัว
เองไปเรื่อยๆ คงไม่มีใครจะตัดสินใจได้ดีเท่ากับตัวของเราเองว่า อยาก
ให้มันเติบโตในแบบไหน เร็วช้าแค่ไหน ใครทำเร็วมากไป เค้าก็อาจหา
ว่า "ปั่นหุ้น"

ถ้าใคร ทำให้พอร์ตตัวเองเน่าเฟะ ผมไม่เห็นมีใครสนใจสักนิด นอกจาก
เจ้าของพอร์ตตาดำๆ แค่นั้นเอง