!!! ผมกลัววิกฤติเศรษฐกิจ แฮมเบอร์เกอร์(เลียนแบบต้มยำกุ้ง)!!!
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 08, 2006 10:12 pm
อ่านเจอข้อความนี้......
ธปท.มั่นใจทุนสำรองฯแข็งแกร่ง รับความผันผวนตลาดเงิน-ทุนได้ โดย กระแสหุ้น
ผู้ว่าการ ธปท. มั่นใจทุนสำรองระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งถึงกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สามารถรับมือได้กับทุกสถานการณ์ หากเกิดกรณีนักลงทุนเทขายหุ้นทิ้ง หรือคืนหนี้ระยะสั้นต่างประเทศทั้งหมด แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงหากตลาดหุ้นสหรัฐลดลงอย่างรุนแรง เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในการสัมมนาเรื่อง "ประเทศไทยกับพลวัตรการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ" ว่า ประเทศไทยจะไม่เกิดปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจเหมือนอดีต เพราะได้เรียนรู้ว่า การเปิดเสรี การเคลื่อนย้ายเงินทุน จะกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนตายตัวไม่ได้ แต่ต้องปล่อยลอยตัวไปตามแนวโน้มของโลก ซึ่งปัจจุบันค่าเงินบาทของไทยก็เริ่มปรับตัวแข็งค่าขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ทุนสำรองระหว่างประเทศก็สูงถึง 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 3 เท่า ของหนี้ระยะสั้นต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่ไม่ถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น แม้ว่าจะมีการเรียกคืนหนี้ระยะสั้นต่างประเทศทั้งหมด ทุนสำรองระหว่างประเทศก็มีเพียงพอ จึงไม่น่าเป็นห่วง
ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ปริมาณเงินทุนที่ไหลเข้าในตลาดหุ้นไทยยังมีต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2550 เนื่องจากสหรัฐใช้นโยบายดอลลาร์อ่อนค่าและกดดันให้เงินสกุลอื่นแข็งค่าขึ้น เพื่อลดปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่ขาดดุลมากถึง 7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ดังนั้น จึงมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากสหรัฐฯ โดยขณะนี้เงินที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยและตราสารหนี้สูงถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแม้ว่าจะเทขายหุ้นออกมาทั้งหมด ระบบเศรษฐกิจไทยก็ยังรองรับได้ แต่ก็มั่นใจว่า จะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะเศรษฐกิจมีพื้นฐานที่ดี ดังนั้น นักลงทุนจึงไม่มีเหตุผลที่จะเทขายหุ้นออกมา
"มั่นใจว่าทุนสำรองของประเทศจะไม่ลดลงเหลือ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เพราะ ธปท. ระมัดระวัง มองไปข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น และตั้งรับไว้ทุกทาง เราจะพยายามให้เงินไหลเข้าในประเทศไม่ผันผวน และไม่ไหลกลับเร็ว หรือหากไหลกลับเร็วก็สามารถรับมือได้ ซึ่งก็ต้องดูแลพื้นฐานให้ดีและมีศักยภาพ" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า สิ่งที่ ธปท. กังวลที่สุด คือ หากตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลงอย่างรุนแรง เพราะกองทุนเก็งกำไรจะขายหุ้นออกมาพร้อมกัน 4-5 เท่าตัว เพราะวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจ และปัญหาการขาดดุลของสหรัฐ ซึ่งยังนึกภาพไม่ออกว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไรต่อทั่วโลก แต่ก็ยังมั่นใจว่าการที่ไทยมีทุนสำรองกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ น่าจะช่วยประคับประคองสถานการณ์ได้ เพราะเงินสำรองมีการกระจายในเงินหลายสกุล ทั้งยูโร ดอลลาร์ และเยน
=====
ทำให้ผมกังวลมากเลยเพราะผมเพิ่งเริ่มลงทุนในตลาดโดยเฉพาะข่าวของหม่อมอุ๋ย บอกตรงๆว่ากลัวมาก เพราะรู้มาว่าทางสหรัฐเองก็มีปัญหาเรื่องอสังหาเหมือนกัน
แถมด้วยข่าว ที่ว่า รัฐบาลใหม่ไทย ต้องรับมือกับกลุ่มปัญหาทางการเมืองด้วย (ผมว่ามีแน่ๆ)และกลุ่มที่มีปัญหาปากท้องจากรัฐบาลชุดเก่าเรื่องหนี้สิน
เรื่องการเมืองนั้นในไทยเองมองว่าน่าจะโอเคกัน แต่ผมไม่แน่ใจนะ แต่ฝรั่งยังไม่โอเคแหง น่าจะรอดูท่าทีก่อน(ผมอาจคิดผิดก็ได้)
พร่งนี้ผมกะว่าจะโอนกองทุนหุ้นผมไปเข้ากองทุนพันธบัตรแล้วขายหุ้นในพอร์ททิ้งดีกว่าหักลบแล้วกำไรไม่ถึงพัน (ได้กำไร mcot) แล้วรอดูท่าทีทุกอย่างดีกว่าเพราะข่าวที่ออกมาต้องพูดในแง่ดีทุกอย่างอยู่แล้วแต่จริงๆแล้วข้างในดีไม่ดีต้องดูกันวิเคราะห์กันเอง (เหมือนกรณีลดค่าเงินบาทขนาดนายกออกมาพูดเองว่าไม่ลดแล้วเป็นไง)
พล่ามมาซะเยอะ......ขอถามเพื่อนๆนะ
1. มีความเสี่ยงแค่ไหนเรื่องกองทุนสหรัฐจะทำแบบนั้น ทำไมหม่อมอุ๋ยถึงกังวลแล้วพูดออกมา
2. ผมปอดแหกไปไหมครับ ถามจริงๆ
ธปท.มั่นใจทุนสำรองฯแข็งแกร่ง รับความผันผวนตลาดเงิน-ทุนได้ โดย กระแสหุ้น
ผู้ว่าการ ธปท. มั่นใจทุนสำรองระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งถึงกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สามารถรับมือได้กับทุกสถานการณ์ หากเกิดกรณีนักลงทุนเทขายหุ้นทิ้ง หรือคืนหนี้ระยะสั้นต่างประเทศทั้งหมด แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงหากตลาดหุ้นสหรัฐลดลงอย่างรุนแรง เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในการสัมมนาเรื่อง "ประเทศไทยกับพลวัตรการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ" ว่า ประเทศไทยจะไม่เกิดปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจเหมือนอดีต เพราะได้เรียนรู้ว่า การเปิดเสรี การเคลื่อนย้ายเงินทุน จะกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนตายตัวไม่ได้ แต่ต้องปล่อยลอยตัวไปตามแนวโน้มของโลก ซึ่งปัจจุบันค่าเงินบาทของไทยก็เริ่มปรับตัวแข็งค่าขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ทุนสำรองระหว่างประเทศก็สูงถึง 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 3 เท่า ของหนี้ระยะสั้นต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่ไม่ถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น แม้ว่าจะมีการเรียกคืนหนี้ระยะสั้นต่างประเทศทั้งหมด ทุนสำรองระหว่างประเทศก็มีเพียงพอ จึงไม่น่าเป็นห่วง
ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ปริมาณเงินทุนที่ไหลเข้าในตลาดหุ้นไทยยังมีต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2550 เนื่องจากสหรัฐใช้นโยบายดอลลาร์อ่อนค่าและกดดันให้เงินสกุลอื่นแข็งค่าขึ้น เพื่อลดปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่ขาดดุลมากถึง 7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ดังนั้น จึงมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากสหรัฐฯ โดยขณะนี้เงินที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยและตราสารหนี้สูงถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแม้ว่าจะเทขายหุ้นออกมาทั้งหมด ระบบเศรษฐกิจไทยก็ยังรองรับได้ แต่ก็มั่นใจว่า จะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะเศรษฐกิจมีพื้นฐานที่ดี ดังนั้น นักลงทุนจึงไม่มีเหตุผลที่จะเทขายหุ้นออกมา
"มั่นใจว่าทุนสำรองของประเทศจะไม่ลดลงเหลือ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เพราะ ธปท. ระมัดระวัง มองไปข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น และตั้งรับไว้ทุกทาง เราจะพยายามให้เงินไหลเข้าในประเทศไม่ผันผวน และไม่ไหลกลับเร็ว หรือหากไหลกลับเร็วก็สามารถรับมือได้ ซึ่งก็ต้องดูแลพื้นฐานให้ดีและมีศักยภาพ" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า สิ่งที่ ธปท. กังวลที่สุด คือ หากตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลงอย่างรุนแรง เพราะกองทุนเก็งกำไรจะขายหุ้นออกมาพร้อมกัน 4-5 เท่าตัว เพราะวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจ และปัญหาการขาดดุลของสหรัฐ ซึ่งยังนึกภาพไม่ออกว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไรต่อทั่วโลก แต่ก็ยังมั่นใจว่าการที่ไทยมีทุนสำรองกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ น่าจะช่วยประคับประคองสถานการณ์ได้ เพราะเงินสำรองมีการกระจายในเงินหลายสกุล ทั้งยูโร ดอลลาร์ และเยน
=====
ทำให้ผมกังวลมากเลยเพราะผมเพิ่งเริ่มลงทุนในตลาดโดยเฉพาะข่าวของหม่อมอุ๋ย บอกตรงๆว่ากลัวมาก เพราะรู้มาว่าทางสหรัฐเองก็มีปัญหาเรื่องอสังหาเหมือนกัน
แถมด้วยข่าว ที่ว่า รัฐบาลใหม่ไทย ต้องรับมือกับกลุ่มปัญหาทางการเมืองด้วย (ผมว่ามีแน่ๆ)และกลุ่มที่มีปัญหาปากท้องจากรัฐบาลชุดเก่าเรื่องหนี้สิน
เรื่องการเมืองนั้นในไทยเองมองว่าน่าจะโอเคกัน แต่ผมไม่แน่ใจนะ แต่ฝรั่งยังไม่โอเคแหง น่าจะรอดูท่าทีก่อน(ผมอาจคิดผิดก็ได้)
พร่งนี้ผมกะว่าจะโอนกองทุนหุ้นผมไปเข้ากองทุนพันธบัตรแล้วขายหุ้นในพอร์ททิ้งดีกว่าหักลบแล้วกำไรไม่ถึงพัน (ได้กำไร mcot) แล้วรอดูท่าทีทุกอย่างดีกว่าเพราะข่าวที่ออกมาต้องพูดในแง่ดีทุกอย่างอยู่แล้วแต่จริงๆแล้วข้างในดีไม่ดีต้องดูกันวิเคราะห์กันเอง (เหมือนกรณีลดค่าเงินบาทขนาดนายกออกมาพูดเองว่าไม่ลดแล้วเป็นไง)
พล่ามมาซะเยอะ......ขอถามเพื่อนๆนะ
1. มีความเสี่ยงแค่ไหนเรื่องกองทุนสหรัฐจะทำแบบนั้น ทำไมหม่อมอุ๋ยถึงกังวลแล้วพูดออกมา
2. ผมปอดแหกไปไหมครับ ถามจริงๆ