Thai VI

28 กันยายน 2549


เรื่อง      การเข้าทำบันทึกข้อตกลงในการขายหุ้นสามัญของบริษัทของผู้ถือหุ้นรายใหญ่
เรียน      กรรมการและผู้จัดการ
         ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

     บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") ได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ("กลุ่มผู้ถือหุ้นราย
ใหญ่") เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2549 เกี่ยวกับการเข้าทำบันทึกข้อตกลงในการซื้อขายหุ้นสามัญของบริษัท
(Memorandum of Understanding: MOU)  กับนักลงทุนรายหนึ่ง ("นักลงทุน")    โดยนักลงทุนได้เสนอซื้อหุ้น
สามัญของบริษัทจากกลุ่ม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ในราคาเบื้องต้น
หุ้นละ 11.25 บาท (สิบเอ็ดบาทยี่สิบห้าสตางค์) ทั้งนี้ การซื้อขายและราคาซื้อขายขึ้นอยู่กับผลการตรวจสอบสถานะของ
บริษัท (Due Diligence) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2549

     อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ว่าไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อนักลงทุนได้ เนื่องจากขณะนี้
ยังมีความไม่แน่นอนในการทำรายการดังกล่าว และเป็นเงื่อนไขใน MOU ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ หากบริษัทได้รับทราบ
ความคืบหน้าเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นของบริษัทดังกล่าว รวมถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจและการดำรงสถานะเป็นบริษัท
จดทะเบียน  บริษัทจะดำเนินการแจ้งข้อมูลให้ผู้ลงทุนทราบโดยทั่วกัน

     จึงเรียนมาเพื่อทราบ


                                                    ขอแสดงความนับถือ


                                                ______________________
                                               (   นายสามารถ จิระดำรง  )
                                                   ประธานกรรมการ

บริษัท

ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น (หุ้น) % หุ้น

1 นายขรรค์ชัย บุนปาน  12,790,000 28.42

2 นายสามารถ จิระดำรง  4,060,000 9.02

3 ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  3,000,000 6.67

4 นายไพโรจน์ สายทุ้ม  1,540,000 3.42

5 นางสันทนา เนตรประภา  1,500,000 3.33

6 นายเกียรติชัย พงษ์พาณิชย์  1,450,000 3.22

7 นายอนุศักดิ์ อินทรภูวศักดิ์  1,370,000 3.04

8 นายกฤษนันทร์ พลาฤทธิ์  1,200,000 2.67

9 นายคลัง ตันติมงคลสุข  1,200,000 2.67

10 บริษัท เพลินจิตแอ็ดไวเซอรี่ จำกัด  1,000,000 2.22

11 กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว  952,000 2.12

12 นางชุติมา เหล่าจินดา  870,000 1.93

13 พลเอกสำเภา ชูศรี  640,000 1.42

14 นายแสงชัย อภิชาติธนพัฒน์  616,000 1.37

15 น.ส.สุทธิลักษณ์ ปาแก้ว  536,800 1.19

16 นายฐิติพงศ์ เศรษฐลิขิต  500,000 1.11

17 นายจักร์ ปัทมรังสรรค์  486,000 1.08

18 คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา  450,000 1.00

19 นายธีรพล ปัทมรังสรรค์  400,000 0.89

20 นายณฤทธิ์ เจียอาภา  378,000 0.84

21 กองทุนเปิด บัวหลวงธนคม  339,600 0.75

22 นายบันดาล ซื่อตรง  320,000 0.71

23 ม.ร.ว.ชาญวุฒิ วรวรรณ  300,000 0.67

24 นายสมชาติ อุบลชาติ  300,000 0.67

25 นางกิ่งเพ็ชร วรพิพัฒน์  300,000 0.67

26 นายเอกชัย สัตบงกช  258,800 0.58

27 นางนลิน คล้ายพงษ์พันธ์  235,300 0.52

ต้องทำเทนเดอร์กับรายย่อยไหมครับ

ต้องทำเทนเดอร์กับรายย่อยไหมครับ

น่าจะต้องทำนะเพราะเกิน 25% ใครติดอยู่คงได้หลุดกันก็คราวนี้ล่ะ :lol:

เย้ๆ ๆ ๆๆ ๆ ๆ ๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

3 ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  3,000,000 6.67

ไม่ค่อยแปลกใจว่า มีการแปลงเปลี่ยน
เพราะตอนนี้ตัวนี้ยังจัดทัพอยู่
ถ้าจะมีการขายหรือซื้ออะไรเพิ่มไม่ค่อยแน่แปลกใจ

แต่ที่น่าแปลกใจคือ มันยังไม่บอกว่า ควบเสร็จแล้ว
จะดำเนินการอะไรต่อ
มันน่าแปลกไหม ว่าจะเหลือกิจการอะไร หรือต้องการเพิ่มกิจการอะไร

บิ๊ก GL คาดได้ข้อสรุป ผถห.ใหญ่ขายหุ้น 25% ให้ นลท.รายหนึ่งในเดือน ต.ค.นี้ เผยจะเข้ามาเสริมด้านเงินทุน

บิ๊ก GL คาดได้ข้อสรุป ผถห.ใหญ่ขายหุ้น 25% ให้ นลท.รายหนึ่งในเดือน
ต.ค.นี้ แต่ไม่ตอบว่า 'ขรรค์ชัย บุนปาน' ที่ถือหุ้นอันดับ 1 สัดส่วนกว่า 28% คือคนที่จะ
ขายหุ้นใช่หรือไม่ เผยหลัง ผถห.ใหม่เข้ามาจะเสริมในด้านเงินทุน ยันโครงสร้างบริหาร
ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนราคาขายหุ้น 11.25 บ. เป็นราคาที่เหมาะสมกับศักยภาพบริษัทฯ
ขณะที่ราคากระดานต่ำกว่าพื้นฐาน พร้อมคาดรายได้ปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 397 ลบ.
หลังโดนผลกระทบจากการเมือง-ศก. ส่วนคาด Gross Profit Margin ปีนี้ไม่หนี
ปีก่อนที่ 30%
นายอำนาจ ประเสริฐวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.กรุ๊ปลีส (GL) เปิดเผยกับ
eFinanceThai.com ถึงกรณีที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทฯให้
นักลงทุนรายหนึ่งในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ว่า ในเบื้องต้นคาด
ว่าจะได้ข้อสรุปประมาณเดือนตุลาคม หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกินเดือนพฤษจิกายนนี้ โดยการทำ
ดีลดิลิเจนท์คงจะพิจารณาสถานะของบริษัทฯแต่คงไม่ลงในรายละเอียดมากนัก เนื่องจากผล
ประกอบการของ GL ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี
'หลังจากทำดิวดิลิเจนท์แล้วก็คงจะมีการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์' นายอำนาจ กล่าว
อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ทั้งในส่วนของผู้ที่ต้องการซื้อหุ้นและผู้ที่ต้องการขายหุ้น GL ยัง
ไม่ต้องการที่จะเปิดเผยว่าเป็นใคร และปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่านายขรรค์ชัย บุนปาน ซึ่งเป็นผู้
ถือหุ้นรายใหญ่อันดับที่ 1 ของ GL โดยถือหุ้นอยู่ 28.42% นั้นจะเป็นผู้ที่ขายหุ้นออกมาหรือไม่
ทั้งนี้ หลังจากที่ผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามานั้น จะช่วยเสริมธุรกิจของ GL ในด้านของเงิน
ทุน โดยโครงสร้างของผู้บริหารยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งยังเป็นผู้บริหารชุดเดิม
สำหรับการกำหนดราคาขายหุ้น GL ให้กับนักลงทุนรายหนึ่ง เบื้องต้นที่หุ้นละ 11.25
บาทนั้น แม้ว่าจะเป็นราคาที่สูงกว่าราคาบนกระดาน  แต่ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมกับศักยภาพ
และผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งราคาบนกระดานในขณะนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปัจจัย
พื้นฐานของบริษัทฯ
เขากล่าวต่อว่า คาดว่ารายได้ในปีนี้จะออกมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้อยู่
ที่ 397.56 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงภาวะ
เศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อการขอสินเชื่อให้ชะลอตัว
ทั้งนี้ คาดว่า Gross Profit Margin ในปีนี้จะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงปีก่อนที่ประมาณ
30% โดยการขยายสินเชื่อก็ยังคงมีอยู่ แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปีก่อน เพราะภาวะ
เศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงสถานกาณ์ทางการเมืองส่งผลต่อจิตวิทยาการขอสินเชื่อ
ในขณะเดียวกัน บริษัทฯคาดว่าในปีนี้จะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้
ตามนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ  ส่วนอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของ
บริษัทฯ อยู่ที่ประมาณ 1.5-1.6 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก หากเทียบกับอุตสาหกรรมที่
เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.5 เท่า
ล่าสุดเวลาประมาณ 10.22 น. ราคาหุ้น GL อยู่ที่ 10.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
หรือ 7.14% มูลค่าการซื้อขาย 2.62 ล้านบาท

หุ้นตัวนี้มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่จริงๆมีแค่คนเดียวเองครับ (ประมาณ 28%)
ผู้ถือหุ้นรายย่อยมีสัดส่วนค่อนข้างเยอะคล้ายๆกับ TTA
ถ้าจะ tender ออกจากตลาดจริงๆคงต้องให้ราคาแบบ"ถึงใจ"กันหน่อยล่ะ
ถ้าให้ราคาจิ้บๆชิวๆคงไม่มีใครขายให้แน่ รอดูราคาที่จะ tender offer ในอนาคตแล้วกัน

ใช่ธนชาตหรือเปล่า
http://www.msnth.com/msn/money/stocksnews/article1.asp

nowkung เขียน: 06/10/2549

แบงก์ธนชาตซุ่มกลืนลีสซิ่งมอเตอร์ไซด์ต่อยอดธุรกิจเพิ่ม  พร้อมเตรียมซื้อพอร์ตสินเชื่อจากลิสซิ่งอื่นเพิ่มอีกล็อตใหญ่  เชื่อความเสี่ยงต่ำกว่า ส่วน 9 เดือนแรก ปีนี้สินเชื่อทะลุ 6.6 หมื่นล้านบาท มองไตรมาส 4/2549 ตลาดเช่าซื้อรถยนต์มีแววฟื้นตัวดีขึ้น หลังน้ำมันลดลง  พร้อมลุยขยายฐานเงินฝากออมทรัพย์เพิ่ม ลดต้นทุนเงินฝากประจำ

นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) TBANK เปิดเผยว่าธนาคารมีแผนจะไปซื้อกิจการลีสซิ่งเพื่อมาเสริมธุรกิจในส่วนที่ขาด โดยจะเน้นบริษัทลีสซิ่งที่เป็นผู้นำด้านเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ แต่ปัจจุบันยังอยู่ศึกษา และยังไม่ได้เริ่มเจรจากับบริษัทใด หลังจากที่ผ่านมาเคยเจรจากับพันธมิตรไปแล้ว 1 รายแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้ ธนาคารมีแผนจะซื้อพอร์ตสินเชื่อจากบริษัทลีสซิ่งอื่น โดยปัจจุบันได้ลงนามเรียบร้อย ซึ่งการซื้อครั้งนี้จะมีจำนวนมากกว่าครั้งก่อนที่เคยซื้อมาจากลีสซิ่งแห่งอื่นมูลค่า 500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามปัจจุบันการซื้อพอร์ตสินเชื่อมาจากบริษัทอื่นไม่ได้ให้ผลตอบแทนสูงกว่าสินเชื่อปล่อยใหม่เหมือนครั้งก่อน แต่เป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำเพราะบริษัทลีสซิ่งเดิมได้มีการตรวจสอบหนี้เสียมาแล้ว อีกทั้งช่วยบริหารสภาพคล่องที่ดี

สำหรับยอดปล่อยสินเชื่อ 9 เดือนแรกของปีนี้เติบโต 43% สูงกว่าเป้าที่ตั้งทั้งปีจะโต 6% โดยปีนี้ปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 66,393 ล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 7,400 ล้านบาท สูงกว่าปี 2548 เฉลี่ยเดือนละ 5,150 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3/2549 สินเชื่อเช่าซื้อไม่เติบโตมากเมื่อเทียบกับต้นปีที่ผ่านมา แต่ใกล้เคียงไตรมาส 2/2549

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าไตรมาส 4/2549 ตลาดเช่าซื้อรถยนต์จะปรับตัวดีขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงเกือบ 20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จึงตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อได้ 88,000 ล้านบาท หรือเติบโต 28-29% จากปี 2548

ปัจจุบันธนาคารมีพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ 160,000 ล้านบาท โดยเป็นการปล่อยสินเชื่อให้กับรถใหม่ 71% หรือจำนวน 113,000 คัน ส่วนสินเชื่อรถเก่าอยู่ที่ 29% หรือจำนวน 46,029 คัน ส่งผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ทั้งรถเก่าและรถใหม่ โดยรถใหม่มีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 30% ส่วนรถเก่ามีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 20%

นายบัณฑิตกล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าครึ่งปีแรกของปี 2550 จะเพิ่มส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ที่ 3% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 2% กว่า เนื่องจากปีนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายเริ่มนิ่งและคาดว่าจะลดลงในปีหน้า อีกทั้งจะขยายฐานเงินฝากออมทรัพย์ที่มีต้นทุนต่ำกว่าเงินฝากประจำที่มีต้นทุนเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ 4%

ซึ่งถ้าเพิ่มเงินฝากออมทรัพย์ได้จะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ธนาคารยังมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อได้อีก 0.10%  นอกจากนี้ในสิ้นปี 2549 ธนาคารจะเพิ่มสัดส่วนเงินฝากออมทรัพย์เป็น 20% หรือคิดเป็นยอดเงินฝาก 44,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีอยู่ 14.5% หรือคิดเป็นยอดเงินฝาก 30,000 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ทางเทคนิค บริษัท หลักทรัพย์ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองกลยุทธ์ทางเทคนิค TBANK ที่แนวต้าน 9.60 บาท แนวรับที่ 8.60 บาท ราคาหุ้นมีการเคลื่อนไหวน้อย สัญญาณยังไม่มีการเคลื่อนไหว TBANK (5 ต.ค.) ปิดที่ 9.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.56%



บทความจาก หนังสือพิมพ์ทันหุ้น
รู้ลึก รู้ไว ทันใจนักลงทุน  

ปล
อาจจะไม่ใช่ก็ GL ได้ครับ เค้าอาจหมายถึง TK


ฟังหูไว้หูนะครับ

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน)
จำนวนหุ้นจดทะเบียน 45000000
โดยนักลงทุนได้เสนอซื้อหุ้น
สามัญของบริษัทจากกลุ่ม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ในราคาเบื้องต้น
หุ้นละ 11.25 บาท

ใช้เงินประมาณ 506.25 ล้านบาท