หน้า 1 จากทั้งหมด 2
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 7:36 am
โดย ลูกอิสาน
เพื่อนๆที่เคยผ่านเหตุการณ์ไม่คาดคิดอย่างนี้ ช่วยเล่าให้เพื่อนท่านอื่นๆหรือน้องๆที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ได้ฟัง เผื่อจะได้เป็นแนวทางให้ลดความเสียหายของพอร์ตการลงทุนครับ
ส่วนผมขอเล่าที่จำได้นะครับ
-2533 สงครามอ่าวเปอร์เซีย หุ้นตกลงค่อนข้างแรงประมาณ 170 จุดใน 2 วัน วันที่ 3 ก็เด้ง แต่หลังจากนั้นซึ่มยาวลดลงจากประมาณ 850-600 จุด สรุปปีนั้นหุ้นลง
-2534 ปฏิวัติสมัย รสช. ตอนนั้นผมยังไม่ได้ลงทุน แต่จำได้ว่าหุ้นตกลงไปประมาณ 50 จุด ดัชนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 700-800 จุด หลังจากทุกอย่างชัดเจน ได้รัฐบาลชุดคุณอานันท์ หุ้นก็ดีดกลับ สรุปปีนั้นหุ้นขึ้น
-พฤษภาทมิฬปี 2535 หุ้นตกไปประมาณ 65 จุด ดัชนีประมาณ 730 จุด หลังจากนั้น 2 วัน หุ้นกลับดีดกลับไปถึง 81 จุด (20+61) แต่หลังจากนั้นซึมลดลง 60-70 ใน 1-2 สัปดาห์ ปีนั้นหุ้นขึ้น
-2544 เหตุการณ์ 9-11 หุ้นตก 3 วันติดต่อกันประมาณ 60 จุด หรือ 20% เพราะดัชนีตอนนั้นประมาณ 300 จุด เข้าใจว่าตลาดหุ้นไทยตกมากที่สุดในโลก ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์มากนัก ซึ่งเป็นอาการของตลาดที่มีนักลงทุนรายย่อยสูง ตอนนั้นผมเข้าลงทุนแล้ว เกิดเหตุการณ์วันแรก ก็ตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นแล้ว ทั้งที่มาร์เชียร์ขาย ทำให้ได้หุ้นต้นทุนสูงเล็กน้อย หุ้นยังซึมไปอีกประมาณ 1-2 เดือน แต่หลังจากนั้นก็ขึ้นไม่กลับไปที่จุดนั้นอีกเลยในหลายปี
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 7:44 am
โดย ปรัชญา
มีโอกาสก็น่าซื้อครับ
บริษัทจดทะเบียนราคาหุ้น
ควรจะเป็นผลประกอบการ ปฎิรูปไม่นาน ก็เลือกตั้ง
พอประกาศผลประกอบการไตรมาส แล้วหุ้นก็จะขึ้นได้
เพื่อตอบรับเงินปันผลตอบแทน ปีหน้า
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 7:55 am
โดย ม้าเฉียว
ตามประสบการณ์ ดูดีๆ แล้วซื้อเลยครับ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 7:59 am
โดย ลูกอิสาน
* ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น สติและการตรึกตรองใช้เหตุและผลเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อย่าให้ใครมาว่าได้ว่านักลงทุน vi ที่มักใช้เหตุและผลในการตัดสินใจลงทุน แต่เวลาคับขันคิดอะไรไม่ออก ให้อารมณ์พาไป หรือเรียกว่าเก่งแต่ทฤษฎี แต่เวลาปฏิบัตอีกเรื่อง.. :lol:
คิดดูนะครับว่ากิจการที่เราลงทุน จะได้รับผลกระทบมากหรือน้อยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือที่จริงไม่ได้รับผลกระทบเลย กระทบแค่อารมณ์เท่านั้น ยังจำได้ว่าโรคซาร์สระบาดใกล้ๆบ้าน เมืองแทบทั้งเมืองแทบร้างเลยครับ อย่างนี้เกิดผลกระทบต่อเศรษกิจแน่นอนหากเกิดขึ้นยาวนาน เกิดความไม่แน่นอนเกิดขึ้น ลองคิดดูว่าคนยังต้องกิน ต้องใช้หรือเปล่า หรือใช้น้อยลง..
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 8:02 am
โดย ลูกอิสาน
ม้าเฉียว เขียน:ตามประสบการณ์ ดูดีๆ แล้วซื้อเลยครับ
ชัดเจนเหมือนเดิมนะครับท่านม้าเฉียว
ส่วนผมถือหุ้นเต็มพอร์ตเหมือนเดิม และคงใช้วิธีเดิมๆคือ หาโอกาสเปลี่ยนไปถือหุ้นตัวที่น่าสนใจมานาน เพราะหุ้นทุกตัวย่อมตกลงไม่เท่ากัน
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 8:14 am
โดย ม้าเฉียว
ผมก็มีครับ แต่โชคดีที่ยุทธศาสตร์หลักที่ใช้ในปีนี้ คือ ขายเอาเงินต้นออกหมดแล้วละครับ ที่เหลืออยู่เป็นส่วนหุ้นกำไรนะครับ (คิดถึงลุงโกศล) แต่ถ้าเทียบสัดส่วนก็ยังมากกว่าเงินสดที่มีอยู่ดีละครับ 555 ตั้งสติให้ดี ปรับกลยุทธ์อย่างรอบคอบแล้วกันนะครับ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 8:27 am
โดย ม้าเฉียว
จะไปหาอะไรทำไปพลางๆก่อนแล้วครับ ขอให้ทุกคนโชคดีครับ นานๆที่เข้ามา อดเป็นห่วงเพื่อนๆพี่ๆน้องๆไม่ได้ครับ
"ขอให้รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรนะครับ"
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 8:37 am
โดย ลูกอิสาน
การลงทุนในหุ้นระยะยาว สิ่งนึงที่ต้องเข้าใจ และรับรู้คือ
ตลอดช่วงการลงทุน ต้องผ่านวิกฤติ เหตุการณ์ต่างๆนาๆ ที่เข้ามากระทบการลงทุนมากบ้างน้อยบ้าง ถ้าทำใจไม่ได้ที่จะรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้ ก็ไม่ควรลงทุนในหุ้นแบบระยะยาวครับ ไปลงทุนในตราสารหนี้ หรือลงทุนแบบตีหัวเข้าบ้านดีกว่า
ไม่รู้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จในการลงทุน เช่น วอร์เรน เคยผ่านเหตุการณ์อย่างนี้มากี่ครั้ง กว่าจะมีวันนี้
ที่จริงเหตุการณ์ไม่คาดคิดอย่างนี้อาจจะไม่ทำให้เราเจ๊งหุ้นนะครับ แต่ถ้าเจอวิกฤติเศรษกิจเหมือนครั้งที่ผ่านมา เราอาจจะเจ๊ง ทั้งนี้เพราะวิกฤติที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อพื้นฐานของหุ้นอย่างชัดเจนนั่นเอง
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 8:43 am
โดย ลูกอิสาน
ถ้าพูดถึงการปฏิวัติครั้งนี้ แม้ขั้นต้นจะสำเร็จ
แต่ตอนจบ คงจบแบบไม่สวยเหมือนประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
อะไรที่ฝืนแนวโน้มของโลก ย่อมไม่เสถียรครับ
รอดูละกัน :lol:
เหมือนหุ้นนั่นละครับ เราเพียรมองหาหุ้นที่จะไปกับแนวโน้มของสังคมของโลก
และในที่สุดสื่อก็ได้เป้า(โจมตี) ใหม่แล้วครับ นายกทักษิณคงดีใจ ถ้ากลับมาเป็นนายกได้อีกครั้ง สงสัยต้องห้ามคบกับคนชื่อสนธิ!! :lol: :lol:
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 8:52 am
โดย Raphin Phraiwal
ขอบคุณพี่ๆที่เข้ามาเตือน+ชี้แนะครับ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 8:55 am
โดย thawattt
ทุกอย่างไม่แน่นอนจริง ๆ ครับ
ที่ผมเคยแสดงความเห็นไว้ในเรื่องความเสี่ยงนั้น
มันก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น ความเสี่ยง คือความไม่แน่นอนของเหตุการณ์ที่เราคาดไว้ไม่ถึงที่จะกระทบกับการดำเนินงานตามเป้าหมายของเรา และจะกระทบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นั้น ๆ ครับ
ใน Port ของผม จึงพยายามเน้นเรื่อง บริษัทที่ถือ ควรมีฐานะการเงินที่มั่นคง DE น้อย ผมเห็นบางบริษัทจะ Aggressive ในการกู้เงินถูก ๆ มาบริหารงานได้ แต่อาจมีความเสี่ยงดอกเบี้ยสูง หรือถ้ากู้นอกก็มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคตเป็นต้น พวกนี้เราก็ต้องระวัง
ผมจึงชอบบริษัทที่สามารถสร้างกระแสเงินสดที่มาก ขายสด ใช้เครดิต Supplier มาลงทุน ยิ่งสามารถใช้เงินคนอื่นมาดำเนินการพวกต้นทุนคงที่ยิ่งดี ประเภท ให้ลิขสิทธิ์ แฟรนไชส์ หรือเครือข่ายมาก ๆ ยิ่งดี เพราะพวกนี้อาจเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้เสมอ เพราะสามารถแปลง Fixed Cost ตัวเองเป็น Variable Cost ขายไม่ดี ก็ยังได้ค่า Feeคงที่ รายได้แน่นอน และถ้ายิ่งขายดีก็ได้ Fee และรายได้ค่าขายมากขึ้นครับ
เหมือนหุ้น Asset Play ตัวหนึ่ง คือหุ้นหลักทรัพย์ตัวหนึ่ง เงินเยอะมาก แบบนี้ตอนหุ้นตกหนัก ๆ ก็คงเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้มากขึ้นในระยะยาวที่อาจจะเปลี่ยนตราสารการเงินและตราสารหนี้เป็นตราสารทุนในระยะยาวได้
แต่ในระยะสั้นคนคงกลัวและหวั่นไหวเรื่องหุ้น ระยะสั้นก็อาจเปลี่ยนการลงทุนในตราสารทุนที่มีความเสี่ยงระยะสั้นสูงไปเข้าตราสารการเงินและตราสารหนี้มากขึ้น Port ตราสารการเงินและพันธบัตรก็น่าจะดีขึ้น ก็เลยเป็นโชค 2 ชั้นไปเลย เสียดาย เพราะพวกหุ้น Conservative มักจะมี ก้อก 2 และ ก้อก 3 ให้เล่นได้ ไม่เปิดไพ่ไปทั้งหมดครับ เสียดายวิเคราะห์ไว้แล้วยังไม่ซื้อตัวนี้เลย เพราะดันลงไม่ถึงอีกสัก 5% ถึง 15% จะได้เก็บแล้ว ตอนนี้ตัวนี้เลยขึ้นไปกว่า 20% เสียดายจังเลย แต่ไม่เป็นไร ค้นใหม่ครับ ได้ความรู้ดีครับ ได้เห็นของจริงที่ในหนังสือบอกไว้ ซึ่งไม่เคยคิดว่าจะมี แล้วมีจริง ๆ ตามที่หนังสือบอกไว้ ก็สนุกในการค้นหา และประยุกต์ใช้ดีครับ :lol:
วิกฤตตรงนี้ จึงต้องดูว่าบริษัทที่ผู้บริหารได้บริหารความเสี่ยงในภาวะการณ์ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี หุ้นที่เป็นสุดยอดแบบนี้หละครับจะได้พิสูจน์ฝีมือตรงนี้กันว่า เก่งจริงเฉพาะกาล หรือเก่งในทุกสถานการณ์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์สร้างความได้เปรียบการแข่งขันในทุกโอกาส และบริหารงานและบริหารความเสี่ยงแบบมี ก้อก 2 และ ก้อก 3 มาเล่นได้เมื่อเหตุการณ์ปรับเปลี่ยนไม่ตรงกับที่คาดหวังครับ
Port VI จึงต้องใส่ใจกับการบริหารความเสี่ยงของหุ้นที่เราลงทุนให้ดี อย่ามองเหรียญเพียงด้าน Growth อย่างเดียว แต่เหรียญอีกด้านคือความเสี่ยง เป็นอย่างไร เพราะเราลงทุนระยะยาว หวังผลตอบแทนระยะยาว ความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ต้องละเอียดรอบคอบในการลงทุนครับ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 9:10 am
โดย Saran
ในเมื่อวันนี้ตลาดปิด เลยอยากขอคำแนะนำจากพวกพี่ๆ ในเวปนี้ด้วยครับว่าผมจะทำอย่างไรดี เนื่องจากตอนนี้ผมไม่มีเงินสดเลยครับ ลงทุนอยู่ในหุ้นทั้งหมด (มี PTT PTTEP HMPRO SE-ED S&P)
ถ้าผมคิดว่า ก็ปล่อยมันไปไม่ต้องขาย แล้วค่อยๆ เก็บเงิน(อันเล็กน้อย)ทยอยซื้อหุ้นตัวเดิม คิดว่าดีไหมครับ
ขอบคุณมากครับ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 9:14 am
โดย booklover
ขอบคุณพี่ๆสำหรับคำแนะนำที่มีค่าครับ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 9:21 am
โดย poppo
ผมคงถือหุ้นต่อเป็นเพื่อนคุณ saran เพราะไม่รู้และไม่มีประสบการณ์ในการบริหารพอร์ทในภาวะแบบนี้ครับ อาเฮีย สุมาอี้ เฮียฉัตรชัย เฮียวิบูลย์ เฮียมนช่วยอ้วยก๊าบ :lol: :(
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 9:27 am
โดย nanchan
ดูเหมือนคนทั่วไป ไม่ได้ตื่นเต้นมากเกินไป
ทุกคนยังอยู่ในความสงบ ก็ไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง
ทำใจสบายๆไว้ครับ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 9:33 am
โดย น้ำครึ่งแก้ว
อืมมม ถือหุ้นดีก็ไม่โดนกระแทกมากนักนะครับผมว่า ส่วนตัว
ทำใจยอมรับ คลื่นลูกใหญ่ที่เข้ามากระแทกแบบ อึ้ง เซ็ง เล็กน้อย
เพราะทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้จะทำยังไงเพราะไม่เคยเจอ แบบนี้
แต่ตลาดนี่ ตัวหลักๆโดนแน่นอน ptt pttep tpi advanc shin sc sattel
และ ในเครืออีก ประมาณ 3-4 ตัว รวมถึงตัวที่ พี่ๆน้องๆ ท่านนายกสิงสถิตย์
อยู่
ส่วนตัวผมไม่มีสักตัว แต่คิดว่าถ้าหุ้นหลักๆพวกนี้ลง ยังไงในระยะสั้น
คงโดนหางเลขไปด้วยแน่นอนครับ เห็นใจผู้ลงทุนทุกคน ทั้ง VS VI
จริงๆ ไม่ค่อยชอบแบบนี้เลย เหมือนเมืองไทยถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
แต่จะเป็นการถอยเพื่อ ก้าวไปข้างหน้ารึเปล่า ต้องมาดูกันอีกที
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 9:36 am
โดย MisterK
ถ้าเป็น VI ที่เน้นปันผลและผลประกอบการเป็นหลักคงอยู่เฉย ๆ เหมือนเจ้าของกิจการมั้งครับ แต่ VI ผสม VS ตามอัตราส่วนมากบ้างน้อยบ้างคงปวดหัวน่าดู
ปกติเวลาเกิดวิกฤตการณ์จะเกิด panic sell ลงแล้วเกิดการ rebound ช่วง rebound น่าจะเป็นช่วงที่ทุกคนตั้งสติแล้วคิดถึงผลกระทบที่เกิดกับหุ้นในมือตัวเองว่ากระทบในแง่ดีหรือร้าย มากหรือน้อย แล้วตัดสินใจว่าจะทำยังไงดี
มั่ว ๆ เอานะครับ ไม่เคยเป็น Vi จริง ๆ อย่างท่าน Chatchai ท่านลูกอีสาน พี่ครรชิต ฯลฯ ซักที
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 9:42 am
โดย charnengi
ผมว่าน่าจะเป็นข่าวดีนะครับ ถึงขาดทุนไปบ้างแต่แนวทางของประเทศชาติก้จะมีความชัดเจนมากขึ้น ล้างพอร์ตไม่ทันก็ต้องทำใจเหมือนกัน แต่ลงเยอะจะถอนเงินมาซื้อเพิ่มครับ เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ พี่ๆ VI ทุกคน
SCC EGCOMP MBK KBANK ลงมา floor สิ จะเก็บเท่านี้ตังมีเล้ย -"-
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 9:43 am
โดย CK
บางคนมองเป็นวิกฤติ บางคนมองเป็นโอกาส
แม้จะถือหุ้นเดียวกัน ก็คิดไม่เหมือนกันครับ
บางคนก็ทำให้วิกฤติกลายเป็นโอกาส
คงเป็นโอกาสอันดีที่นักลงทุนแต่ละคน
จะกลับไปทบทวนตัวเองครับ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 9:46 am
โดย big15096
ผมอยากทราบว่าพี่ๆ ที่เป็น VI เเท้ๆทำไงครับนี่ พี่เคย short หุ้นกันมั้ยครับ
เเบบว่าไม่เคยผ่านเหตุการณ์เเบบนี้มาก่อนเลยครับ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 10:02 am
โดย naris
วอร์เรน บัฟเฟตต์ได้เรียกปรากฎการณ์นี้ว่า "ปรากฎการณ์ข่าวร้าย"
สำหรับวอร์เรนแล้ว เมื่อการคิดแบบสั้นๆของตลาดหุ้นรวมกันเข้าเป็นปรากฎการณ์ข่าวร้าย มันก็เสมือนของขวัญที่หลั่งไหลกันเข้ามาไม่หยุดเลยทีเดียว
เหตุการณ์ในลักษณะนี้นี่เองที่ก่อให้เกิดโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นครั้งแล้ว ครั้งเล่า ปีแล้วปีเล่า ทศวรรษแล้วทศวรรษเล่าให้กับเขา และมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาร่ำรวยกว่า30พันล้านเหรียญ
บทความจากหนังสือ the new buffetology โดย marry buffet & david clark แปลโดยพี่พรชัย
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 10:09 am
โดย Doramon007
สงสัยผมคงต้องเตรียมรับมือว่าจะเจ็บตัวเท่าไหร่ล่ะครับ เพราะถือหุ้นเต็มที่เลย กลัวจะยิ้มไปร้องไห้ไป 55555 แต่คิดว่าเราเองก็ไม่มีทางรู้เลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น คงต้องจับพวงมาลัยรถให้แน่นแล้วครับ ไม่รู้รถจะไปชนหนักขนาดไหน :?
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 10:50 am
โดย pongo
เมื่อวาน ผมขายไปส่วนหนึ่งแล้วครับ เหลือแต่ตัวที่ไม่กระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
(เจ้าที่บ้านผมนับถือ เค้าเตือนตั้งกะ 10 วันก่อนน่ะครับ ว่า อั๊วไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นนะ แต่เห็นสีเขียวๆ ออกมาเดินไปเดินมา ผมเชื่อหูไว้หู เลยขายไปบางส่วนที่ไม่ชัวร์ แล้วแต่ความเชื่อนะครับ)
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 10:54 am
โดย big15096
สีเขียวๆ ที่ว่านี่ ตามกระดานป่าวครับ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 2:45 pm
โดย charun
ผมคิดว่าไม่น่าจะลงแรงๆแบบติดพื้นเหมือนในอดีต เพราะดูจากเหตุการณ์ไม่รุนแรงถึงขั้นสูญเสียเลือดเนื้อ สำหรับผมหุ้นตัวที่พื้นฐานดีถ้าลงมาก็เป็นโอกาสซื้อเพิ่มเหมือนหลายๆท่านครับ สำหรับตัวที่ถืออยู่คิดว่าไม่น่าจะลงมากเพราะไม่ได้เป็นหุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ เหตุการณ์ครั้งนี้ก็เป็นบทเรียนอีกบทหนึ่งของการลงทุนครับ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 5:07 pm
โดย nanakorn
สำหรับผมตอนนี้ถือหุ้นอยู่เกือบ 100% โดยส่วนตัว ผมมั่นใจมากว่าหุ้นที่มีอยู่ถ้าตกลงไปก็จะกลับขึ้นมาโดยเร็ว ดังนั้นความเป็น Value Investor ก็จะบอกผมว่า ไม่ต้องทำอะไร อยู่เฉยๆ
อย่างไรก็ตาม ความเป็น Speculator ในตัวผม ก็บอกว่า ให้รีบขาย แล้วช้อนซื้อกลับภายหลัง ก็จะได้ประโยชน์ แต่ถ้าจังหวะไม่ดี งุ่มง่าม ก็อาจจะเหนื่อยเปล่า
นั่งคิดๆดู ไอ้ความเป็น Speculator อันนี้ มันดูเหมือนว่าจะมาพร้อมกับความโลภ วิเคราะห์ตัวเองแล้วเห็นว่าที่ผมยังไม่แน่ใจว่าจะขายดีหรือไม่ ไม่ได้เกิดจากความกลัว แต่เกิดจากการที่ไม่อยากเสียโอกาส หรือความอยากได้กำไรอย่างง่ายๆ
ถ้าใครถือเงินสดอยู่มากๆ ความเห็นผมคือ ถ้าลงมาจนพอใจ ก็ซื้อเลยครับ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 5:15 pm
โดย Mon money
เปิดมาคงมีคนขาย หุ้นคงลง แต่ผมเชื่อว่าไม่มากหรอก คนเริ่มชินแล้ว
ใจจริงอยากให้ปิดอีกหนึ่งวัน เพราะรู้สึกวันนี้ยังไม่ได้ข้อมูลที่มากเพียงพอเลย ค่อนข้างตอนข่าวเอาไว้นะนี่
ขายไประวังเสียของนะ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 5:29 pm
โดย Dr.T
short against port เป็นคำตอบสุดท้ายของผมครับ (ไม่รู้จะว่างมาเทรดหรือเปล่า) 8)
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 5:32 pm
โดย khun_parinya
ควรลงทุนโดยดูจากความเสี่ยงครับ
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 20, 2006 6:25 pm
โดย rungtiwa
พรุ่งนี้มีประชุมตอน 9.30 น.ด้วยสิ คงซื้อขายไม่ได้แล้วละมั้ง สาธุ
จะขึ้นจะลง ก็แล้วแต่บุญวาสนาเถอะ เฮ้อ