Thai VI

เป็นยังไงมั่งครับตอนนั้น ???

ผมเล่นตอนนั้นนะ แต่ผมไม่ได้ถือผ่านครับ อยากรู้ว่ามี VI ถือข้าม 911 มามั่งเป่าครับ

ยังเทรดไม่เป็นเลยครับตอนนั้น

ตอนนั้นผมยังไม่สนใจตลาดหุ้น มนุษย์เงินเดือนเยอะแต่เครียดโคดๆ :lol:

ไปย้อนกราฟดูซิครับ .....

แล้วจะคิดได้ว่าแล้วมันก็จะผ่านไป ... ทำไมตอนนั้นตูไม่ถือยาวหว่า 55555 :lovl:

เห็นตลาดตกต่ำทีไร วอเรนเหลือเงินทุกที

อืม วอเรนไม่ขายแล้วเอาเงินมาจากไหน

สงสัยวอเรนไม่ใช่ VI

Jeng เขียน:เห็นตลาดตกต่ำทีไร วอเรนเหลือเงินทุกที

อืม วอเรนไม่ขายแล้วเอาเงินมาจากไหน

สงสัยวอเรนไม่ใช่ VI

นั่นซิพี่เจ๋ง เห็นเวลาหุ้นตกๆๆ บอกก็ซื้อเพิ่มซิ ซื้อเพิ่มๆ ไม่รู้เสกเงินมาจากไหนหว่า :lovl:

พี่บอกให้คนอื่นซื้ออะ ประจำเลย เพราะที่ผ่านมาเล่นแก้เหงา ปัญส่วนตัวเยอะ

เหอๆ คนฟังดีก็ดีไปเท่านั้นเอง

ตอน 911 ผมถือไว้เต็ม ไม่ขายเลย
ไม่นานก็กลับเข้าที่ครับ

แต่เสียดายโอกาส น่าจะเทออกในวันแรกให้
หมดไปเลยตอนนั้น

คราวนี้โชคดีที่เพิ่งล้างพอร์ดไปเกือบหมด
เพราะคาดว่าจะต้องเกิดเรื่องวันใดวันหนึ่ง
แต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ (เลยยังล้างไม่เกลี้ยง)

ส่วนมากเปลี่ยนไปเห็น Capital Protected Fund
(SET50 linked) ซึ่งเหมาะกับช่วงความเสี่ยงสูงแบบนี้

ถามว่าจะกลับเข้าไปช้อนใหม ก็คงจะตอบว่า ช้อนแน่ๆ
แต่ไม่รีบครับ

ตอนนั้นยังถือหุ้นอยู่เต็มพอร์ต และเป็นหุ้นท่องเที่ยวด้วยครับ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร

เคยถือ PPPC จาก 48 >>> 36 บาท
APRINT มันก็ไหลรูดลงมาเลยครับ
แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรหุ้นก็ขึ้นกลับมาเอง

สมัยนั้นใครกล้าช้อนหุ้นรวยเละเลยครับ

เห็นตลาดตกต่ำทีไร วอเรนเหลือเงินทุกที

อืม วอเรนไม่ขายแล้วเอาเงินมาจากไหน

สงสัยวอเรนไม่ใช่ VI

ผมคิดว่าเงินที่มา มาจาก 2 ทาง หนึ่ง

1 ขายหุ้นที่มีมูลค่าน้อยกว่า แล้วไปซื้อหุ้นที่มีมูลค่ามากกว่า ประเด็นนี้ผมได้แนวคิดจากอาจารย์ใหญ่ ดร.นิเวศน์ ที่พูดถึงหุ้นตัวหนึ่ง ที่ท่านขายออกไป เพราะไม่ใช่หุ้นตก แต่ท่านขายเพื่อที่จะเอาเงินไปซื้อหุ้นที่น่าสนใจมากกว่า หุ้นตกจึงไม่ใช่เกณฑ์ในการตัดสินใจขายหุ้น แต่การขายหุ้นเพราะมีเหตุผลในการรองรับมากกว่าหุ้นตกครับ

2 สำหรับกรณีของปีเตอร์ ลินซ์ ในบางช่วงที่ราคาหุ้นขึ้นไปสุงมาก ๆ เขาก็จะขายแล้วเอาไปฝากไว้ที่ตราสารหนี้

พอราคาหุ้นมันตกลงมาถึงจุดน่าสนใจก็ขายตราสารหนี้เพื่อไปลงทุนในหุ้น

การพักเงินไว้ที่ตราสารหนี้นั้น จึงเป็นการพักเงินไว้ชั่วคราวเนื่องจาก ตราสารทุนในช่วงบางเวลานั้น สูงเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานมาก ๆ ครับ



เป็นข้อคิดเห็นนะครับ

ผมก็ยังไม่เข้าตลาดเหมือนกันตอนนั้น

แบบว่าตอนนั้น  ยังสะกดคำว่าหุ้นไม่เป็นเลย

ตอนนั้นถือ LANNA บริษัทเดียวเต็มพอร์ตครับ

ดูเหตุการณ์ผ่าน CNN แล้วก็ตกใจและตื่นเต้น

แต่สำหรับการลงทุน  ไม่รู้สึกอะไรเลย  ไม่ได้ซื้อเพิ่ม  เพราะไม่มีเงินสด  และไม่ได้ขายออกเลย

รู้สึกว่าราคาหุ้น LANNA ก็ตกบ้างนะครับ  แต่จำไม่ค่อยได้

ไม่รู้สึกทุกข์และกระวนกระวายเลย

ไม่เหมือนสมัยพฤษภา  ตอนนั้นยังเป็น VS อยู่

วุ้นวายใจมาก  แถมขายล้างพอร์ต  แล้วหุ้นดันขึ้นซะอีก  กลุ้มเลย

Jeng เขียน:เห็นตลาดตกต่ำทีไร วอเรนเหลือเงินทุกที

อืม วอเรนไม่ขายแล้วเอาเงินมาจากไหน

สงสัยวอเรนไม่ใช่ VI

เค้ารุจักเตรียมพร้อมมากกว่าครับ วอร์เรนเคยบอกว่า การลงทุนนั้นก็เหมือนการจับช้างป่าหายาก ที่วิ่งได้อย่างว่องไว คุณต้องมีกระสุนอยู่เสมอ ซึ่งเค้าเองก็เตรียมกระสุนไว้สำหรับโอกาสอันยิ่งใหญ่จริงๆเท่านั้น ไม่ซี้ซั้วซื้อเพียงเพราะมีเงินเหลือครับ เห็นได้จากรายงานประจำปีล่าสุดเค้ามีเงินสดสี่หมื่นกว่าล้านเหรียญเลยทีเดียวครับ นี่คงเป็นข้อแตกต่างระหว่างนักลงทุนธรรมดากับนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่กระมังครับ

ที่ Buffett มีเงินสดเหลือ  ก็คงเนื่องมากจาก  Port มีมูลค่าที่ใหญ่มาก  ดังนั้นการจะหาบริษัทลงทุนก็คงไม่ง่าย

ในขณะที่เรามี Port ที่เล็ก  ซื้อจนเงินหมด  ราคาก็ยังไม่ขยับเลย  เลยไม่ค่อยมีเงินเหลือ

การลงเงินสดไว้  เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน  ก็คงจะดีที่มีเงินซื้อเพิ่ม

แต่ถ้าหุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ  การถือเงินสดก็คงเป็นการเสียโอกาส

เข้าตลาดหลังจาก 911 ประมาณ  1 เดือนครับ เลยอดถือผ่าน

[quote="ba_2l"]ผ่าน 919 ไปแล้ว -9.99 เอง

ซื้อbblไว้ตอนนั้น ห้าสิบบาท ไม่ค่อยแน่ใจ มันขึ้นลงๆแถวนั้นแหละ

ถือ metco อยู่ 60%+ ครับ ตอนนั้น

ทุนราวๆ 115 บาท ราคาก่อน 911 ประมาณ 120 กว่าๆ มั้ง

หล่นไปเหลือเท่าๆ ทุน แต่ไม่ได้ขาย
เพราะมันยังไม่ขาดทุน อิอิ

ไปขายหมดก็ตอน 300 พอผลการดำเนินงาน peak out

ถือ PTTEPครับ มันส์มาก พุ่งสองวันติดกันเลย

เก็บ APRINT, SSC ครับ

วอร์เรน มีเงินเข้ามาให้ลงทุนใหม่เรื่อยๆครับ เพราะ ธุรกิจหลักของ วอร์เรน คือ "ประกัน" ซึ่งก็มีเบี้ยประกันรับเข้ามาระหว่างปีเรื่อยๆ จีงมี Cash Flow ไปลงทุนต่อเนื่องได้

ก็คงเหมือนเพื่อนๆที่ทำงานประจำ  หรือทำธุรกิจส่วนตัว  ที่มีเงินสดมาลงทุนเพิ่มขึ้นทุกๆเดือน