Thai VI

อ่านบทความ ดร.นิเวศน์ เรื่อง "หลุมพรางของ RMF-LTF "

สงสัยว่า ดิฉันเข้าใจผิด หรือ ดร.เขียนผิด ที่ว่า กองทุน ltf ต้องถือไว้ สามปี จึงขายได้  :?:

ตามที่สอบถามมา ltf ต้องถือไว้ จนครบระยะ 5 ปี(จำนวนที่จะสามารถขายได้ให้นับปีปฏิทิน) จึงสามารถขายได้ (หากขายก่อนจะต้องคืนสิทธิภาษี) แต่ไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี และไม่มีกำหนดขั้นต่ำในการลงทุน

ส่วน rmf กำหนดขั้นต่ำลงทุน 3% ของรายได้ในปีนั้น และต้องถือไว้จนผู้ถือหน่วย มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์(นับวันชนวัน) และต้องลงทุนทุกปีติดต่อกัน (ยกเว้นกรณีไม่มีรายได้ที่ต้องเสียภาษี) และอีกข้อคือ ต้องลงทุนมาแลวครบห้าปี เป็นต้นไป จึงจะครบกำหนดขายหน่วยได้ทั้งจำนวน

บทความ ดร. เขียน:ในกรณีของ LTF นั้น คุณต้องถือหน่วยลงทุนไว้เพียง 3 ปีกับอีกประมาณ 4-5 วันถ้าคุณต้องการ

5 ปีปฏิทินมีความหมายแบบนี้ครับ
สมมติว่าเราซื้อ LTF ประมาณปลายเดือน ธ.ค. ปี 2549
ต้นเดือน ม.ค. 2553 เราก็สามารถทำการขายได้โดยไม่ผิดกติกามารยาท  :lol:
ลองนับช่วงเวลาจริงๆมันก็แค่ 3 ปีกับอีกไม่กี่วันอย่างที่ ดร.ท่านว่าไว้นั่นแหละครับ
แต่ถ้านับเป็นปีปฏิทินก็ 49, 50, 51, 52, 53 ห้าปีพอดี
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องตรวจสอบช่วงเวลาซื้อคืนของกองทุนดังกล่าวด้วย  :D

HVI เขียน:

5 ปีปฏิทินมีความหมายแบบนี้ครับ
สมมติว่าเราซื้อ LTF ประมาณปลายเดือน ธ.ค. ปี 2549
ต้นเดือน ม.ค. 2553 เราก็สามารถทำการขายได้โดยไม่ผิดกติกามารยาท

คือเป็นห่วง ถ้าใครขายตาม ดร.ว่าไว้ จะต้องเจอกฏการเรียกคืนสิทธิทางภาษีนะคะ

และสรรพากร ไม่มีทางพลาดค่ะ สอบถามมาได้ความว่า ระบบของสรรพากรจะไม่พลาดไปแน่นอนที่จะเรียกคืน เพราะกองทุนทุกกองทุนจะต้องรายงาน ระยะเวลาการถือครองไปยัง สรรพากรทุกปีค่ะ



อ้อ และอย่าซื้อเกินสิทธิ 15% นะคะ เพราะส่วนที่เกิน เมื่อขายได้ส่วนต่างกำไร จะต้องนำไปคำนวนเสียภาษีรายได้ค่ะ

ขอให้สังเกตว่ากฎหมายใช้คำว่า 5 ปีปฏิทิน มิได้ใช้คำว่า 5 ปี เหมือนกรณีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ฉะนั้น การนับระยะเวลาถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว 5 ปี จึงนับตามปี พ.ศ. มิได้นับ 5 ปีเต็ม เหมือนกรณีถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ดังนั้น การถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาวเพียง 3 ปีเศษ ก็ไถ่ถอนได้

เช่น ผู้ลงทุนซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาววันที่ 30 ธันวาคม 2547 ไถ่ถอนหน่วยลงทุนวันที่ 2 มกราคม 2551 ถือเป็นการไถ่ถอนหน่วยลงทุนที่ชอบ เพราะเป็นการไถ่ถอนหลังจากถือหน่วยลงทุนมาแล้วรวม 5 ปีปฏิทิน แม้ความจริงจะถือเพียง 3 ปี 3 วัน ก็ตาม

http://www.tax-thai.com/viewgossip.asp?cid=129

ไม่รู้ว่าใครน่าห่วง ระหว่าง บทความ ดร. กับ น้องมาร์กองทุนแห่งหนึ่งที่คุณ 007-s ใช้อ้างอิง ...  :lol:

HVI เขียน:

http://www.tax-thai.com/viewgossip.asp?cid=129

ไม่รู้ว่าใครน่าห่วง ระหว่าง บทความ ดร. กับ น้องมาร์กองทุนแห่งหนึ่งที่คุณ 007-s ใช้อ้างอิง ...

ที่ ดร. บอกถูกต้องแล้ว ครับ เพราะถือกันจริงๆแค่ 3 ปี อีกไม่กี่วันเท่านั้นเอง

สงสัยพนักงาน SCB บอกผิดแล้วหล่ะครับ หรือถ้าไม่แน่ใจ ถาม ก.ล.ต. ก็ได้ครับ
(ฝากให้พนักงานคนนั้นไปถามให้ก็ได้นะ )

ยืนยันข้อมูลด็อกเตอร์ถูกต้องครับ

HVI เขียน: 5 ปีปฏิทินมีความหมายแบบนี้ครับ
สมมติว่าเราซื้อ LTF ประมาณปลายเดือน ธ.ค. ปี 2549
ต้นเดือน ม.ค. 2553 เราก็สามารถทำการขายได้โดยไม่ผิดกติกามารยาท  :lol:
ลองนับช่วงเวลาจริงๆมันก็แค่ 3 ปีกับอีกไม่กี่วันอย่างที่ ดร.ท่านว่าไว้นั่นแหละครับ
แต่ถ้านับเป็นปีปฏิทินก็ 49, 50, 51, 52, 53 ห้าปีพอดี
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องตรวจสอบช่วงเวลาซื้อคืนของกองทุนดังกล่าวด้วย  :D

  ยืนยันนั่งยัน นอนยันหนุนน้องเอชอีกคนครับ ว่าแบบที่บรรยายไว้ถูกต้องแน่นอนครับ เพราะเป็นข้อได้เปรียบมากของ LTF ซึ่งเป็นการลงทุนในหุ้นเท่านั้น ต่างจาก RMF ครับที่มีกองตราสารหนี้ต้องถือยาว ช่วงหลังคนเลยไม่ค่อยซื้อ RMF ครับเพราะต้องลงทุนนานมาก และเป็นจุดขายของ LTF เลยนะครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ซื้อ LTF มา 2ปีแล้ว แต่ไม่ได้ซื้อ RMF เลยครับ และรอไถ่ถอนกองทุนปี 2551 ครับ(ผมซื้อกองทุน LTF ครั้งแรกปลายปี 2547 และเป็นของ SCBนี่หละ่ครับ เรื่องข้อมูลพวกนี้เท่าที่ผมสังเกตนะครับ บางครั้งเราจะรู้มากกว่าเจ้าหน้าที่ที่ขายกองทุนเสียอีกครับ อย่างที่ผมซื้ออยู่ จะใช้ของทหารไทยและ SCB เจ้าไหนคุยไม่รู้เรื่องไม่ต้องไปซื้อครับ ผมเคยไปคุยกับเจ้าหน้าที่ ของ AJF ที่แบ๊งค์กรุงศรี่ นว.ไม่รู้เรื่องเลยครับ ต้องโทรไปถามส่วนกลางทุกเรื่อง แถมยังบอกอีกว่า ถ้าผมจะมาซื้อจริงๆ ให้โทรบอกล่วงหน้าด้วยเพราะจะได้เตรียมตัวทัน แล้วตอนนี้ได้ข่าวว่า ผู้บริหารกองทุนก็ลาออก AJF ก็ต้อง rebranding ไปเลย 8)

ได้ยินว่า rmf อาจจะเปลี่ยนนโยบายให้เหมือน  ltf นะครับ
ไม่รู้ว่าเป็นจริงสถานใด