หน้า 1 จากทั้งหมด 2
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 07, 2006 10:31 pm
โดย thawattt
อ่านหนังสือของปีเตอร์ ลินซ์ แล้วไปสะดุดความเห็นหนึ่งของปีเตอร์ลินซ์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเข้าไปซื้อหุ้นของ Volvo ในราคาหุ้นละประมาณ 30$ แต่บริษัทมูลค่าทรัพย์สินที่อยู่ในรูปทรัพย์สินเงินสดสูงถึงหุ้นละ 30$ เช่นกัน เท่ากับ การซื้อหุ้นบริษัทได้คืนเงินสดกลับมา แถมธุรกิจฟรี ๆ
เลยลองไปค้นบริษัทในตลาดดูว่า มีบริษัทอะไรหรือไม่ที่เป็นรูปแบบนี้ ไปเจอเข้าหนึ่งบริษัทคือ
ซื้อหุ้นบริษัทนี้ มีทรัพย์สินที่เป็นเงินสดและใกล้เงินสดเท่ากับราคาตลาดขณะนี้ โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่จะลงทุนในตราสารการเงินและตราสารหนี้ ทั้งที่ลงทุนเอง และลงทุนผ่านกองทุนเปิดตราสารหนี้ ทำให้มีรายได้ที่เป็น Fixed Income ส่วนหนึ่ง และรายได้ที่มาจากธุรกิจหลักอีกส่วนหนึ่ง โดยบริษัทนี้ยังเป็นธุรกิจที่ทำกำไรต่อเนื่องมาหลายปี ไม่มีการเพิ่มทุน มีหุ้นค่อนข้างน้อย ที่ผ่านมามีการจ่ายปันผลการดำเนินงานเกือบ 100% ของกำไรที่ทำได้ในแต่ละปี และจ่ายปันผลทุกปีมากบ้างน้อยบ้าง เคยจ่ายสูงสุด 3 ปีที่แล้ว 5 บาทต่อหุ้น ปีก่อนหน้านี้จ่าย 2.30 บาทต่อหุ้น (ย้อนหลัง 4 ปี 1.26 บาทต่อหุ้น 1.70 บาทต่อหุ้น 5 บาทต่อหุ้น และ 2.30 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ ) ปีนี้ก็ใกล้จะจ่ายปันผลเหมือนกัน โดย 9 เดือนมีกำไรประมาณ 1.31 บาทต่อหุ้น ถ้าจ่ายปันผล 100% ก็คาดว่าปีนี้อาจจ่ายได้ถึงประมาณ 5% ต่อปีเทียบกับราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน
เอาข้อมูลหุ้นตัวนี้มาให้ดูครับ
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด
(หน่วย : พันบาท)
31 พฤษภาคม 2549 31 สิงหาคม 2548
เงินสด 40 81
เงินฝากกระแสรายวันและออมทรัพย์ 126,708 364,588
เงินฝากประจำที่มีอายุคงเหลือไม่เกินกว่า 3 เดือน 230,500 430,000
ตั๋วเงินที่มีอายุคงเหลือไม่เกินกว่า 3 เดือน 1,040,000 1,060,000
รวมเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 1,397,248 1,854,669
หัก : เงินฝากในนามบริษัทฯเพื่อลูกค้า (248,456) (462,995)
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด - สุทธิ 1,148,792 1,391,674
ตอนนี้มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 1,148 ล้านบาท
เงินลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน
(หน่วย : พันบาท)
31 พฤษภาคม 2549 31 สิงหาคม 2548
ราคาทุน/ราคาทุน มูลค่า ราคาทุน/ราคาทุน มูลค่า
ตัดจำหน่าย ยุติธรรม ตัดจำหน่าย ยุติธรรม
เงินลงทุนชั่วคราว
หลักทรัพย์เผื่อขาย :-
ตราสารหนี้ภาคเอกชน 28,047 11,971 30,247 14,421
หลักทรัพย์รัฐบาล 10,151 10,158 10,387 10,546
ตราสารทุนจดทะเบียน 45,307 16,892 42,823 9,976
หน่วยลงทุน 1,036,343 1,006,516 1,041,689 1,008,687
รวม 1,119,848 1,045,537 1,125,146 1,043,630
บวก (หัก) : ค่าเผื่อการปรับมูลค่า 3,186 - (4,041) -
หัก : ค่าเผื่อการด้อยค่า (77,497) - (77,475) -
หลักทรัพย์เผื่อขาย - สุทธิ 1,045,537 1,045,537 1,043,630 1,043,630
เงินลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 1,119 ล้านบาท
รวมเงินสดและรายการใกล้เคียงเงินสดได้แก่ตราสารการเงินและตราสารหนี้เท่านั้น เท่ากับ 2267 ล้านบาท
ทรัพย์สินอื่น ๆ ก็เป็นที่ดินและอุปกรณ์ และลูกหนี้การค้าที่ได้รับดอกเบี้ยตามธุรกิจหลัก นอกเหนือจากรายได้ค่าธรรมเนียมของธุรกิจหลักของเขาด้วยครับ
สำหรับหนี้สินอื่น ๆ เป็นหนี้สินตามปกติของธุรกิจหลักของเขาทั่วไป ซึ่งเขาก็ไม่มีการกู้ยืมเงินทั้งระยะสั้นและระยะยาวก็เท่ากับปลอดหนี้ โดยหนี้การค้าก็มีอยู่ประมาณ 724 ล้านบาท
ทุนจดทะเบียนเท่ากับ 700 ล้านบาท หรือมีหุ้นทั้งหมดเพียง 70 ล้านหุ้น PAR 10 บาท
ส่วนผู้ถือหุ้น 3545 ล้านบาท หรือ มี Book Value เท่ากับ 51 บาทต่อหุ้น
หุ้นแบบนี้น่าซื้อลงทุนหรือไม่ ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน 33 บาทต่อหุ้น แต่ทรัพย์สินที่ใกล้เคียงเงินสด ประมาณ 32 บาทต่อหุ้น และมี Book Value อยู่ที่ 51 บาทต่อหุ้น ปันผลทุกปี ปีละ 1 ครั้ง จ่ายปันผลเกือบ 100% ของกำไรที่ทำได้ 2 ปีติดต่อกันแล้ว ธุรกิจมีกำไรต่อเนื่องหลายปีแล้ว ขึ้นลงตามวัฏจักรของธุรกิจ ปีไหนการค้าดี ก็กำไรเพิ่มมาก แต่ปีไหนไม่ดี ก็ยังมีกำไรที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับเงินฝากประจำของธนาคารครับ
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 07, 2006 11:00 pm
โดย Accidental Hero
ผมก็ดูอยู่ ว่าจะรอให้หลุด 30 บาทก่อน
ติอยู่นิดเดียว market share ลดลงเรื่อยๆ
จากปี 2004 market share 3.4%
2005 2.9%
ปีนี้ อยู่แถวๆ 2.5%
ผมคาดการณ์กำไร ไตรมาสสุดท้าย ประมาณ 11 ล้านบาท 0.15-0.2 บาทต่อหุ้น
คาดว่าปีนี้จะให้ปันผลประมาณ 1.4 บาท
ถ้ากำไรยังอยู่ระดับนี้ ปีหน้ากำไรจะต่ำกว่านี้อีก เลยยังลังเลไม่กล้าเข้า
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 2:22 am
โดย prin
ธุรกิจ หากเป็นแบบนี้ ไม่เปลี่ยนแปลงก็ไม่น่าสนใจครับ(สำหรับผม) หากคิดว่าจะรับเฉพาะปันผล 5% ก็ไม่น่าซื้อ ยิ่งอนาคตไม่รู้ว่าจะได้เท่าเดิมหรือไม่ เพราะส่วนแบ่งในตลาดน้อยมาก
หากเอารายการ ที่คุณ thawattt ว่ามา
"รวมเงินสดและรายการใกล้เคียงเงินสดได้แก่ตราสารการเงินและตราสารหนี้เท่านั้น เท่ากับ 2267 ล้านบาท "
มาหารด้วย 70 ล้านหุ้นแบบง่ายๆ จะได้เท่ากับ 32.38 บาท
ผมว่าดูความเปลี่ยนแปลงหน่อยดีกว่านะครับ ว่าจะมีอะไรบ้าง
หากมองความน่าสนใจทางเทคนิคยังดูไม่ค่อยน่าสนใจนักครับ
(ความเห็นส่วนตัวครับ)
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 7:38 am
โดย wj
มีหลายตัวครับในกลุ่มที่เกือบจะเป็นแบบตัวนี้ ในความคิดผมส่วนตัว การที่ซื้อได้ราคานี้ไม่มีความเสี่ยงครับ
ถึงคู้แข่งจะเยอะ แต่การซื้อขายนับวันนับปีจะมากขึ้นเรื่อยๆ ลองเอามูลค่าซื้อขายต่อปีย้อนหลังมาดูซิครับ
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 8:40 am
โดย thawattt
ข้อสังเกตของผมเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้เพิ่มเติมก็คือ
ผมรู้สึกว่าหุ้นตัวนี้ ในช่วงตลาดขาลงของธุรกิจหลักของเขา เนื่องจากมีรายได้ที่เป็น Fixed Income เกือบเท่ากับ ส่วนของผู้ถือหุ้นทั้งหมด ทำให้แม้ธูรกิจหลักจะไม่ดีน้ก แต่การที่มีรายได้รองมาเสริม ทำให้ขาลงกำไรก็อาจลดลงไปบ้าง ปีที่แล้วที่กำไรแตกต่างจากปีนี้มาก เพราะมีกำไรพิเศษจากจากการขายเงินลงทุนไปได้กำไรไปกว่า 34 ล้านบาท
นอกจากนี้ เนื่องจาก Port ของเขาลงทุนในตราสารหนี้ ในช่วงนี้ ดอกเบี้ยเริ่มมีแนวโน้มทรงตัวและปรับลดลง Port ตราสารหนี้ก็มีแนวโน้มที่จะทำกำไรได้เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 ครับ
และถ้าปีหน้ามูลค่าการซื้อขายกลับมาเติบโตใหม่หลังสถานการณ์ที่ยำแย่ในปีนี้ และถ้าหากบริษัทสามารถพิ่ม Market Share ได้หลังจากตกต่ำมานาน บริษัทก็มี ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ส่งผ่านการทำธุรกิจหลักซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ต่างชาติที่มีชื่อเสียงมากด้วย ปีที่ผ่านมาก็ได้รายได้จากผู้ถือหุ้นใหญ่ดังกล่าวที่ส่งธุรกิจผ่านมาให้
แบบนี้ธูรกิจนี้ในช่วงตลาดขาขึ้น ดอกเบี้ยแนวโน้มลดลง ก็จะมีกำไร 2 ต่อจากธุรกิจหลักและรอง
แถมถ้าไปเป็นไปตามการคาดคะเน ในช่วงขาลงก็ยังมีรายได้ลองมาประคอง มีปันผลที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากบ้าง
ช่วงนี้หุ้นตัวนี้ก็มีการทำราคาทำ New Low ตามภาวะอุตสาหกรรมด้วย
ก็เป็นข้อมูลประกอบก็แล้วกันนะครับ เพราะดูแล้วก็เป็นหุ้นที่แปลก ๆ ดีครับ
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 9:07 am
โดย thawattt
ข้อมูลนี้คือการส่งผ่านธูรกิจจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต่างชาติ 2 ปีที่ผ่านมา ยังส่งธุรกิจผ่านบริษัทสม่ำเสมอดีครับ
รายการที่มีสาระสำคัญสามารถสรุปได้ดังนี้ :-
(หน่วย : พันบาท)
สำหรับงวดสามเดือน
สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม สำหรับงวดเก้าเดือน
สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม
2549 2548 2549 2548 นโยบายการคิดราคาระหว่างกัน
(สำหรับงวดปัจจุบัน)
รายการที่เกิดขึ้นในระหว่างงวด :
รายได้ค่านายหน้า
- Nomura Singapore Limited 14,866 11,977 43,301 42,540 อัตราค่านายหน้าที่คิดกับลูกค้าทั่วไป
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 9:11 am
โดย thawattt
สำหรับเงินลงทุนในตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนรวมและหุ้นสามัญมีดังนี้
ดังนี้ :-
(หน่วย : พันบาท)
31 พฤษภาคม 2549 31 สิงหาคม 2548
สัดส่วน มูลค่า สัดส่วน มูลค่า
ชื่อหลักทรัพย์ ประเภทธุรกิจ เงินลงทุน ราคาทุน ยุติธรรม เงินลงทุน ราคาทุน ยุติธรรม
ร้อยละ ร้อยละ
กองทุนเปิดอยุธยาธัญมงคล หน่วยลงทุน 99.91 458,593 462,252 99.94 699,845 698,355
กองทุนเปิดพัฒนสินตราสารหนี้ หน่วยลงทุน 94.05 167,468 162,509 96.34 291,565 283,884
กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ปันผล หน่วยลงทุน 56.01 170,000 166,321 - - -
กองทุนเปิดธนสาร หน่วยลงทุน 34.39 190,000 190,387 - - -
บริษัท วัฒนาการแพทย์ จำกัด (มหาชน) การแพทย์ 15.33 45,277 16,862 15.54 42,793 9,946
จะเห็นได้ว่ามีการ Mark to Market ตามราคาตลาดทุกไตรมาส ผมคิดว่าไตรมาสที่ 4 จากที่ขาดทุนจะเริ่มมี Capital Gain ในไตรมาสนี้ เพราะ Yield Curve ของ Government ระยะยาวเริ่มปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าพันธบัตรในราคายุติธรรมน่าจะขยับสูงขึ้นด้วยครับ
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 9:14 am
โดย jaychou
ตัวนี้ผมรอซื้อพร้อมเฮียปรัชญาครับ
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 9:31 am
โดย thawattt
เอาข้อมูลส่วนแบ่งตลาดมาให้ดู ปีที่ทำกำไรสูงสูงและจ่ายปันผล 5 บาทนั้น บริษัทนี้สามารถทำส่วนแบ่งการตลาดพร้อมกันไปกับ Volumn ตลาดที่สูงขึ้น แต่เมื่อตลาดขาลง ส่วนแบ่งการตลาดก็ลดลงมาบ้าง สำหรับข้อมูลปีปัจจุบัน ส่วนแบ่งตลาดก็อยู่ประมาณ 2%กว่า ๆ ไว้ค่อยเอามา Post ทีหลังครับ
จะเห็นได้ว่า Elasticity ช่วงขาขึ้น จะมีกำไรสูงมากครับ
ส่วนแบ่งการตลาดตามมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯตามประเภทลูกค้าและตามลักษณะการซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้า(บัญชีเงินสดหรือบัญชี Margin) ใน 3 รอบปีบัญชีที่ผ่านมา ตามตารางต่อไปนี้
หน่วย : ล้านบาท
มูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ ปีบัญชี 2548* ปีบัญชี 2547* ปีบัญชี 2546*
- ของตลาดหลักทรัพย์ฯ 4,449,831 6,315,988 2,285,653
- ของบริษัทฯ 258,640 454,165 176,396
ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทฯ 2.91% 3.60% 3.86%
ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
* รวมมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ด้วย
หน่วย : ล้านบาท
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 10:27 am
โดย วัวแดง
ชอบโลว์กว่านี้ครับ
หุ้นกลุ่มนี้ค่อนข้างถูกทีเดียวเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชี
แต่กำไรมันตกเยอะตามมูลค่าการซื้อขายที่ลดลง
ถ้าสนใจลงทุนจริงๆต้องถือนานพอสมควร เมื่อไหร่ที่ผลกระทบจากการเมืองจบ ผมว่าเมื่อนั้นล่ะ
มองหลายๆตัวนะครับ มีอีกเยอะ ยังไงไฟมันก็ต้องร้อน

ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 10:35 am
โดย thawattt
เวลาหุ้น New Low มาก ๆ
ทำให้เราสามารถคัดเลือกหุ้นได้สบายใจขึ้นครับ
ไม่ต้องแย่งซื้อ
ไม่ขายลดราคาลงมาก ๆ ก็คอยได้
ยิ่งลดราคาลงมาก ๆ ยิ่งดี
Vi ก็คงชอบครับ
เห็นด้วยกับหลาย ๆ ท่านครับ
ลงมาอีกนิดสัก 10% - 20% ก็จะสบายใจขึ้น
Margin Of Safety จะได้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 10:47 am
โดย wj
แต่สิ่งที่ผมมองเรื่อง เสี่ยงที่เงินจะไม่โต คือ ถ้าบริษัทไม่โต หรือต้องรอกระทิงตัวใหญ่ถึงจะมีกำไร อาจจะทำให้การลงทุนไม่คุ้มค่าสำหรับการรอ
อย่าลืมนะครับ กระทิงต้องใช้เวลาเป็นปี แต่หมี 1-2 เดือนเท่านั้น
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 11:19 am
โดย jaychou
ช่วงนี้ผมว่าเป็นตลาดไซด์เวย์มากกว่าหมีนะครับ
ลองดูว่าถ้าช่วงหมีตัวใหญ่ๆ
แบบว่า SET หลุดไปต่ำกว่า 500
หุ้นตัวนี้จะยังน่าซื้อลงทุนแบบ VI อยู่หรือเปล่า
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 11:41 am
โดย thawattt
ถ้าตลาดหุ้นลงไปถึง 500 จุดจริงนะครับ
ถามว่าเงินตรงนี้ จะไปอยู่ที่ไหน
ถ้าเข้าตลาดการเงินและตราสารหนี้ หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น
หุ้นตัวนี้ก็น่าจะกระทบกับผลการดำเนินงานในส่วนของธุรกิจหลักที่อาจจะขาดทุนจากผลการดำเนินงาน
แต่ส่วนของมูลค่าเงินลงทุนในตราสารหนี้ อาจอาจช่วยชดเชยผลขาดทุนได้บ้าง
ทำให้กำไรลดลงบ้าง
และการที่บริษัทมี Buffer เป็นเงินสดและทรัพย์สินใกล้กับเงินสด
บริษัทอาจเปลี่ยนกลยุทธ์ไปลงทุนในตราสารทุนในอนาคตถ้าหุ้นตกหนัก ๆ จริง เพื่อเก็บเกี่ยวผลตอบแทนในระยะยาวก็ได้ครับ
เหมือนกับที่ปีเตอร์ ลินซ์ เคยทำสมัยที่บริหารกองทุนครับ
ดังนั้น การมีเงินสดหรือทรัพย์สินใกล้เงินสดจำนวนมาก เป็นเกาะกันความเสี่ยงระดับหนึ่ง ทำให้มีก๊อก 2 เล่นต่อได้
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ครับว่าจะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เมื่อถึงเวลานั้นหรือไม่
แต่ช่วงนี้ลงทุนในตราสารหนี้จำนวนมากในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
ผมว่าก็เป็นกลยุทธ์ที่ถูกครับ เพราะอย่างน้อยก็ยังมี Fixed Income มาประคอง
และถ้าเศรษฐกิจแย่ก็มีก๊อก 2 ให้เล่น
แต่ถ้าดีขึ้น ก็โชค 2 ชั้นครับ
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 11:52 am
โดย thawattt
เอาข้อมูลการจ่ายปันผลมาให้ดูครับ ตัวนี้จะจ่ายปันผลประมาณเดือน ธันวาคมของทุกปีครับ ตอนนี้อยู่ระหว่างรอดูผลงานไตรมาส 4 อยู่ครับ ปันผล 2 ปี จ่ายไป 523 ล้านบาท เทียบกับทุนจดทะเบียน 700 ล้านบาท ใครถือหุ้นตอน PAR 10 บาท ก็ถือว่าเป็นหุ้นห่านทองคำไปแล้วครับ เพราแทบจะคืนทุนไปหมดแล้วครับ
ในระหว่างงวด บริษัทฯได้ประกาศจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ :-
อนุมัติโดย จำนวนเงินปันผล ที่ประกาศจ่าย เงินปันผลที่ ประกาศจ่ายต่อหุ้น
(ล้านบาท) (บาท)
เงินปันผลจ่ายจากผลการดำเนินงานประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2548 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีครั้งที่ 1/2548 เมื่อวันที่
16 ธันวาคม 2548
จำนวนเงินที่จ่าย 165 ล้านบาท ปันผลหุ้นละ 2.30 บาท
เงินปันผลจ่ายจากผลการดำเนินงานประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2547 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีครั้งที่ 1/2547 เมื่อวันที่
17 ธันวาคม 2547
จำนวนเงินที่จ่าย 358 ปันผลหุ้นละ 5.00 บาท
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 12:47 pm
โดย น้ำครึ่งแก้ว
เงินสดเยอะมากครับ ถือเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอ ในอัตราที่ถือว่าสูง
มากทีเดียว ถ้าเทียบกับในหมวดเดียวกันแล้ว
ที่สำคัญ ผมว่า ผู้บริหารชาวญี่ปุ่นค่อนข้างมีธรรมาภิบาลใช้ได้เหมือนกันครับ
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 1:57 pm
โดย ลูกอิสาน
ขอบคุณมากครับ คุณธวัช
เป็นหุ้นที่น่าสนใจติดตามครับ
ถึงผมจะชาตินิยมหน่อยๆ แต่เวลาใช้บริการโบรคเกอร์ ผมจะซื้อขายที่ cns บ่อยที่สุดครับ เพราะคิดค่าคอมมิสชั่นแบบยุติธรรม โดยคิดขั้นต่ำจากรายการทั้งหมด ไม่เหมือนกับ tisco ที่จะคิดค่าคอมขั้นต่ำทุกรายการซื้อขาย
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 2:23 pm
โดย Accidental Hero
ลูกอิสาน เขียน:ไม่เหมือนกับ tisco ที่จะคิดค่าคอมขั้นต่ำทุกรายการซื้อขาย
โห...มีโบรกเกอร์โหดๆแบบนี้ด้วยหรือครับ
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 3:08 pm
โดย jaychou
ตกลง CNS นะครับ
เอางบการเงิน Q ล่าสุดมาให้ดูครับ
รายได้
ค่านายหน้า 122,806
ค่าธรรมเนียมและบริการ 12,900
กำไร (ขาดทุน) จากการซื้อขายหลักทรัพย์ (3,726)
ดอกเบี้ยและเงินปันผล 34,798
ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ 13,958
รายได้อื่น 879
รวมรายได้ 181,615
ค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมเงิน 2,995
ค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย 4,187
หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ (โอนกลับ) 29
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน 92,646
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์ 32,196
ค่าภาษีอากร 970
ค่าตอบแทนกรรมการ 302
ค่าใช้จ่ายอื่น 18,973
รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 145,087
รวมค่าใช้จ่าย 152,298
กำไรก่อนภาษีเงินได้ 29,317
ภาษีเงินได้ 7 (4,017)
กำไรสุทธิสำหรับงวด 25,300
กำไรต่อหุ้น
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน
กำไรสุทธิ (บาท) 0.35
คิดว่าปีนี้ปันผลได้เท่าไหร่ดีครับ
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 3:14 pm
โดย artvr4
อ้าว บริษัทเก่า ผมเอง
ผมว่าผุ้บริหารที่นี่รวมถึงชาวญี่ปุ่น ค่อนข้างแฟร์กับพนักงานนะครับ
ขนาดเพื่อนผมตอนนี้ทำยอดไม่ cover ยังไม่ตัดเงินเดือนครับ
เห็นว่า บริษัทยังกัดฟันไม่ตัดเงินเดือนพนักงาน ให้ขั้นต่ำ 15000เหมือนเดิม
ดีต่อพนักงาน แต่ไม่รุ้ผุ้ถือหุ้นว่าไง

ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 5:11 pm
โดย thawattt
เรียน คุณartvr4 ครับ
ผมคิดว่าที่ดีกับพนักงานมาก ๆ เพราะเขาคงเข้าใจการทำธุรกิจมีขึ้นมีลง ช่วงขาลงก็ต้องรักษาพนักงานที่มีคุณภาพไว้ รอโอกาสธุรกิจข้างหน้า และเมื่อพนักงานเขารู้สึกว่าบริษัทดีต่อเขา เวลาที่ธุรกิจดีขึ้น บริษัทก็คงหวังให้เขาอยู่ทำงานกับบริษัทนานขึ้นนะครับ
สำหรับดีกับผู้ถือหุ้นหรือไม่ ต้องบอกว่า น่าจะดีกับผู้ถือหุ้นด้วยนะครับ เพราะที่ผ่านมากระแสเงินสดมีมาก เมื่อไม่ได้ลงทุนอะไรเพิ่ม เวลาทำกำไรในแต่ละปีที่ได้มาก ก็จ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น 100% แถม ยังบริหาร Conservative ไม่นำเงินของผู้ถือหุ้นที่ทำกำไรไว้ในอดีตไปลงทุนอะไรที่เสี่ยงมาก ๆ ดูจากคุณภาพของสินทรัพย์ที่เอาไปลงในตราสารหนี้เกือบทั้งหมดครับ
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 11:00 pm
โดย thawattt
ก็ขอ update ส่วนแบ่งตลาดย้อนหลัง 4 ปีจนถึงปัจจุบันครับ
มูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ ปีบัญชี 2548* ปีบัญชี 2547* ปีบัญชี 2546*
- ของตลาดหลักทรัพย์ฯ 4,449,831 6,315,988 2,285,653
- ของบริษัทฯ 258,640 454,165 176,396
ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทฯ 2.91% 3.60% 3.86%
โดยปัจจุบันปี 49 เป็นดังนี้
ปี 49 ยอดรวมการซื้อขายทั้งหมด 7,797,568,384,416.64 ล้านบาท
Mkg Share 2.61% โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด 203,598,128,348.93 ล้านบาท
โดย 3 เดือนสุดท้าย มียอดรวมการซื้อขาย 252,123,334,365.72 ล้านบาท
และมี Mkg Share 2.62% ครับ
ส่วนแบ่งตลาดลดลง ทำให้ยอดการซื้อขายก็ลดลงเมื่อเทียบกับปี 48 ครับ โดย 3 เดือนสุดท้ายสามารถทำส่วนแบ่งตลาดได้ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยทั้งปีครับ
ดังนั้น คาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจากการซื้อขายจะลดลงต่ำกว่าปี 48 แต่จะได้รับการชดเชยจากรายได้ตราสารหนี้ในไตรมาสที่ 4 ค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นไตรมาสที่ yield Curve ของ Government Bond ขยับลดลงมากพอควร ทำให้ตราสารหนี้คงมีกำไรจาก Capital Gain มาชดเชย รวมถึงรายได้จากดอกเบี้ยรับการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ครับ 8)
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 11:24 pm
โดย thawattt
ขออภัยด้วยครับ
ผมกดช่วงเวลาผิดใน Setsmart ที่ถูกเป็นดังนี้ครับ
Update การซื้อขายทั้งหมด
Sep-05 To Aug-06
ปี 49 ยอดรวมการซื้อขายทั้งหมด 7,797,568,384,416.64 บาท
Mkg Share 2.61% โดยมีมูลค่าการซื้อขายของบริษัท 203,598,128,348.93 บาท
Jun-06 To Aug-06
โดย 3 เดือนสุดท้าย มียอดรวมการซื้อขาย 1,414,546,750,946.88 ล้านบาท
และมี Mkg Share 2.58% โดยมีมูลค่าการซื้อขายของบริษัทคือ 36,526,403,668.62 ครับ
ตัวเลข 3 เดือนสุดท้ายลดลงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปีเล็กน้อยครับ
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 11:38 am
โดย Frankie
หลังจากเฉลยชื่อหุ้นกันแล้วมาดูราคาล่าสุดกันครับ
ตอนนี้ลงมาที่ 32.75 บาทปรับตัวลดลง 75 สตางค์
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 12:00 pm
โดย BHT
ผมเคยโพสต์กระทู้บริษัทหลักทรัพย์อีกบริษัทหนึ่งไว้ ในลักษณะประเด็นคล้ายๆกัน
อยากทราบว่า น่าสนใจสู้บริษัทนี้หรือไม่ อย่างไรครับ
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 1:52 pm
โดย artvr4
BHT เขียน:ผมเคยโพสต์กระทู้บริษัทหลักทรัพย์อีกบริษัทหนึ่งไว้ ในลักษณะประเด็นคล้ายๆกัน
อยากทราบว่า น่าสนใจสู้บริษัทนี้หรือไม่ อย่างไรครับ
ใช่ บริษัทที่ขึ้นต้นด้วย S ลงท้ายด้วย S หรือเปล่าครับ
ผมก็เคยดูอยู่เหมือนกัน แต่ว่า ดูแล้ว CNS ยังมีมาร์เก็ตแชร์มากกว่าหน่อย
และผมว่าที่นี่เรื่อง ธรรมาภิบาล ดีกว่า
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 5:10 pm
โดย thawattt
วันนี้ลงมาประมาณ ซัก 5% แล้วครับ
อยากให้ลงอีกซักนิดก็ดีครับ อีก สัก 5% ถึง 15% จะได้มี Margin of Safety ให้มากกว่านี้หน่อยครับ :lol:
ช่วงนี้ ตลาดหลักทรัพย์ก็เป็นใจเสียด้วย Set ทะยอยลงเรื่อย ๆ และ Volumn Trade ก็น้อย ๆ ดีครับ ทั้งอุตสาหกรรมก็เลยปรับลดลงเรื่อย ๆ ครับ

ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 5:26 pm
โดย metro
ผมว่าถ้าเป็น ธุรกิจหลักทรัพย์ แล้วจะซื้อโบรกใหญ่ ผมว่าก็ไม่น่าสนใจเท่าไร
เพราะว่า
1. ธุรกิจพวกนี้ไม่สามารถปรับราคาตามภาวะเงินเฟ้อได้ ทำงานได้เงินเท่าเดิม แต่มูลค่าเงินลดลงไปเรื่อย
ในต่างประเทศการเทรดหุ้น ค่าคอมมิชชั่นแทบจะไม่เสียกันเลย จะไปเสียกันในส่วนของค่าธรรมเนียมอื่นๆมากกว่า ระบบนี้อีกไม่นานน่าจะเข้าสู่ประเทศไทยไม่ช้าก็เร็วครับ ซึ่ง ตอนนี้ ตลท ก็ยังมีแนวโน้มที่จะไม่ให้คงอัตราค่าคอมมิชชั่นที่ 0.25 เปอร์เซ็นต์เอาไว้นะครับ ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม เงินเฟ้อ และปัจจัยภายนอกรุมเร้า กำหนดราคาสินค้าไม่ได้ ผมว่าก็ไม่น่าสนเท่าไร
2. ธุรกิจอิงพนักงานมากเกินไป และแนวโน้มการย้านงานจะเสรีมากขึ้น โบรกใหญ่ๆอย่าง CNS จะมีโอกาสเสียพนักงานให้กับโบรกเล็กๆที่ต้องการซื้อตัวได้ เช่น กรณีที่ ASP เสียมาร์ของตนเองให้กับ BFIT
อย่างตอนนี้ผมเป็นมาร์ที่โบรกเกอร์แห่งนึง ถ้ามีคนมาดึงตัวผมไปโดยให้เงินค่าย้าย ถามว่าผมจะไปมั้ย ผมไปแน่นอนครับ เพราะผมรู้ว่าอนาคตในธุรกิจนี้แทบจะไม่มี เพราะถ้าลดคอมมิชชั่น มาร์ก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นน้อยลง มันจะดีมั้ยถ้าย้ายงานจากที่นึง ไปอีกที่นึง รูปแบบงานเหมือนเดิมทุกอย่างแต่ได้เงินในกระเป๋ามาอีกก้อนนึง ผมต้องเห้นแก่ตัวไว้ก่อนครับเพื่อปากท้องของตัวเองครับ
ขอบคุณครับ :D
3.
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 5:54 pm
โดย Accidental Hero
metro เขียน:อย่างตอนนี้ผมเป็นมาร์ที่โบรกเกอร์แห่งนึง ถ้ามีคนมาดึงตัวผมไปโดยให้เงินค่าย้าย ถามว่าผมจะไปมั้ย ผมไปแน่นอนครับ เพราะผมรู้ว่าอนาคตในธุรกิจนี้แทบจะไม่มี เพราะถ้าลดคอมมิชชั่น มาร์ก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นน้อยลง มันจะดีมั้ยถ้าย้ายงานจากที่นึง ไปอีกที่นึง รูปแบบงานเหมือนเดิมทุกอย่างแต่ได้เงินในกระเป๋ามาอีกก้อนนึง ผมต้องเห้นแก่ตัวไว้ก่อนครับเพื่อปากท้องของตัวเองครับ
ขอโทษนะครับ ถ้าออกความเห็นตรงๆ
เพราะ มาร์เกือบทุกคนมีความคิดเหมือนๆกัน เลยทำให้ธุรกิจหลักทรัพย์มีปัญหาอย่างขณะนี้
เปรียบเหมือน กวางที่อยู่ในป่า กินใบไม้ที่ปกคลุมจนหมด ในที่สุดก็ไม่มีป่าที่ใช้อยู่อาศัย
ช่วงหุ้น new Low ไปเจอหุ้นตัวหนึ่งเข้า ซื้อทั้งบริษัทได้เงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 6:25 pm
โดย jaychou
โบรกเล็กที่ไหนน่าสนใจบ้างครับ ในสายตาของมาร์
ขอบคุณครับ