Thai VI

อยากทราบกลยุทธ์การจัดพอร์ตลงทุน 4ล้านบาท, 40ล้านบาท, 400ล้านบาท
เพื่อนๆจะจัดการต่างกันหรือไม่ อย่างไรครับ

เอาไว้ ผมมี 40 ล้านก่อน แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะ

เอาไว้ผมมี 4 ล้านแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะ

มี 400 ล้าน ผมไม่บริหารแล้วครับ ผมใช้อย่างเดียวครับ

สุมาอี้ เขียน:มี 400 ล้าน ผมไม่บริหารแล้วครับ ผมใช้อย่างเดียวครับ

หากว่ามีถึงขนาดนี้ ผมพอเพียง แล้วครับ ฝันอยู่ครับ  สักล้าน :lol: ยังไม่มีเลย

แหมมันก็ผ่านมานานหลายสิบปีแล้ว จำไม่ได้ครับ

ถ้าถามถึง 40000 อาจคิดออก

มีตัง 400 ล้านก็เอาไปลงทุนวิธีเดียวกับที่ได้มาแหละครับ ง่ายสุด
ส่วนเป็นผมก็เที่ยวรอบโลกด่วนนนน  :lol:

ตอนวัยรุ่น
พระธุดงเขมรมาปักกลดที่วัดสระเกศ
เคยทำนายว่าผมจะมี40ล้าน  :lol:

ผมว่าคนมี4ล้าน นึกออกว่าหากมี40ล้านจะจัดการยังไง
คนมี40ล้านก็นึกออกว่าหากมี400 จะใช้ จะลงทุนยังไง
แต่ที่นึกไม่ออกคือจะทำยังไงให้มีเท่านั้นจริงๆ  :lol:

ให้ผมมีถึง 4 ล้านแล้วจะบอก
เงินยิ่งเยอะหุ้นยิ่งซื้อยาก โดยเฉพาะหุ้นเล็กสภาพคล่องต่ำๆ

[quote="ต.หยวนเปียว"]ตอนวัยรุ่น
พระธุดงเขมรมาปักกลดที่วัดสระเกศ
เคยทำนายว่าผมจะมี40ล้าน

sunrise wrote

มีตัง 400 ล้านก็เอาไปลงทุนวิธีเดียวกับที่ได้มาแหละครับ ง่ายสุด

ลึกซึ้งครับ ๆ เห็นด้วยเต็มๆ เพราะเป็นวิธีที่เราพิสูจน์มาแล้ว ได้ผลแล้ว และใช้ได้กับตัวเราแล้ว  การเปลี่ยนวิธีจะเป็นการทิ้งจุดแข็งของเราไปหาแนวทางอื่นซึ่งเป็นแนวทางไหนก็ไม่รู้ จะได้ผลหรือเปล่าก็ไม่รู้ และเราไม่มีความชำนาญเพราะเราไม่เคยทำจนสำเร็จมาก่อน

ถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีก็ต้องมีสาเหตมาจากข้อจำกัดจากสิ่งอื่นที่ไม่ใช่จากตัวเรา

สำหรับผม 4 ล้านกับ 40 ล้าน ทำเหมือนกันครับคือเป็นพอร์ทโฟคัส  ตัวเดียวหรืออย่างมากอาจจะสองตัว

แต่ถ้า 400 ล้านจะมีข้อจำกัดขึ้นเยอะเพราะไม่สามารถซื้อตัวเดียว 400 ล้านได้  เพราะตลาดเราเล็ก และหุ้นที่ผมสนใจมักจะมีขนาดเล็ก

ถ้า 400 ล้านผมอาจจะต้องมีหุ้น 5-8 ตัวครับ

เหตุผลที่มี 5-8 ตัวไม่ใช่เพราะ มีเงินเยอะแล้วจึงต้องการการกระจายความเสี่ยง หรือเพราะอายุมากขึ้นจึงต้องวิ่งเหยาะๆแทนที่จะสปริ้นเร็วๆ

แต่เป็นเพราะข้อจำกัดเรื่องสภาพคล่องครับ

เงินยิ่งมาก

ทางเลือก ยิ่งมาก

การจัดการย่อมแตกต่าง

เลือก ทางที่ถนัด

คิดเหมือนคุณ สุมาอี้ครับ

เอาแค่ 200 ล้าน  ดอกแบงค์สำหรับเงินฝากก้อนใหญ่
5% หักภาษี 15%  เหลือ 4.25% ต่อปี  เป็นเงิน 8.5 ล้านบาทต่อปี
ตกเดือนละประมาณ  7 แสนบาท ก็ใช้เดือนละ 3 แสน ที่เหลือฝากกลับ
ก็สบายแล้วครับ  
แฮ่ ๆ ๆ  ๆ            ชีวิตไม่ต้องทำงาน สบาย แต่ไม่ค่อยมีคุณค่าถ้าคุณไม่
ใช้เงินให้ถูกทางครับ

[quote="ต.หยวนเปียว"]ตอนวัยรุ่น
พระธุดงเขมรมาปักกลดที่วัดสระเกศ
เคยทำนายว่าผมจะมี40ล้าน

[quote="Raphin Phraiwal"][quote="ต.หยวนเปียว"]ตอนวัยรุ่น
พระธุดงเขมรมาปักกลดที่วัดสระเกศ
เคยทำนายว่าผมจะมี40ล้าน

ท่านบอกว่า  ล้านแรกนี่หายากที่สุดในชีวิต  แต่ล้านต่อๆนี่ หาไม่ยาก เพราะประสบการณ์จะสอนเอง

  :lol:  :lol: ผมได้ล้านแรกมาง่ายๆๆๆเลย  ล้านต่อมากก้อเหมือนกัน และยังคงล้านต่อไปกินเข้าไปเยอะเลยเพราะ คิดมาก  อิอิอิ

ผมมี 4 แสนแล้ว จะฟังเปล่า  :lol:  :lol:

ถ้ามี 400 ล้านจริง ผมคงซื้อ PTTEP ซะครึ่ง แล้วอีกครึ่งซื้อพันธบัตร แล้วไม่ต้องทำอะไรแล้วล่ะครับ จะคิดมากทำไม

พี่เต่าหยวนเปียว น้องมัฟ ฝากขอบัตรลดร้าน Pump Up ด้วยครับ  8)  8)  8)

ตกลงกระทู้นี้ มีใครช่วยตอบเขาบ้างครับเนี่ย....

สำหรับผม นึกไม่ออกจริงๆ ถ้านึกออก คงพอได้ 4 ล้านแรกก่อนมั้ง  :P

ตอนเกือบจะล้านนี่ เห็นเครียดกันทุกคนครับ

พอล้านแล้วก็เฉยๆ โกนซะเลย เท่ห์ไปอีกแบบ

กระัทู้แนวนี้ชอบจริง

คลายเครียดดี

ฮิ

อ่ะๆ ไม่ออกนอกประเด็นแล้ว ช่วยตอบๆ เดี๋ยวอาจารย์ตัดคะแนน  :lol:

ผมจะไม่ใช้วิธีแบ่ง Capital Allocation ออกเป็น % ของพอร์ต เหมือนอย่างที่นิยมแนะนำให้ทำกัน

แต่ผมจะถามตัวเองว่า ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินในชีวิตผมจะต้องการเงินสดเท่าไร ส่วนที่เหลือจากนั้นทั้งหมดผมจะลงใน Equity ตลอดเวลาครับ เพราะหุ้นยิ่งถือนานยิ่งรวยครับ

คนที่ลง Equity ด้วยเงิน "เย็น" เท่านั้นที่จะได้เปรียบ เพราะหุ้นนั้นเราไม่มีวันรู้หรอกว่าโอกาสขายทำกำไรนั้นจะมาถึงเมื่อไร ถ้าเงินที่นำมาลงนั้นเป็นเงินที่มีโอกาสที่จะต้องใช้ด่วนละก็จะเสียเปรียบเป็นอย่างมาก เพราะเราอาจต้องขายในเวลาที่ไม่ควรจะขาย

ดังนั้นคำตอบผมก็คือ ถ้าเงินฉุกเฉินเท่ากับ X

มี 4 ล้านก็ให้ลงทุนหุ้น 4-X
มี 40 ล้านให้ลงหุ้น 40-X
มี 400 ล้านให้ลงทุนหุ้น 400-X

ง่ายๆ แบบนี้เลย ส่วนใหญ่แล้ว X ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง ดังนั้นยิ่งมีทุนมากเท่าไรก็ยิ่งต้องลงหุ้นให้มากเท่านั้นครับ

---------------------------------
นอกเรื่อง

ผมมานั่งคิดว่า X ผมมีค่าเท่าไร คำตอบคือ 0 เพราะถ้าฉุกเฉินจริงๆ ผมกะจะแบมือของพ่อแม่เอา ดังนั้นผมควรมีหุ้น 100% แต่ผมยังไม่ได้ทำเนื่องจากผมยังหาโอกาสซื้อหุ้นเพิ่มในราคาที่เหมาะสมไม่ได้

ถ้ามีโอกาสเมื่อไรจะขอลงให้เต็มปอดแล้วครับ

แต่ยังถ้าไม่มี "โอกาส" ก็ฝากแบงก์ไว้ก่อน

แหม พ่อแม่พี่สุมาอี้ใจดีจังเลยครับ เป็นพ่อผมนะ บอกมึงโตแล้วไปหาเอาเองสิว่ะ กูส่งมึงเรียนมาตั้งกี่ปีแล้ว

CK เขียน:ตอนเกือบจะล้านนี่ เห็นเครียดกันทุกคนครับ

พอล้านแล้วก็เฉยๆ โกนซะเลย เท่ห์ไปอีกแบบ

อดขำม่ายด้าย ขอขำหน่อยนะพี่  

hongvalue เขียน:แหม พ่อแม่พี่สุมาอี้ใจดีจังเลยครับ เป็นพ่อผมนะ บอกมึงโตแล้วไปหาเอาเองสิว่ะ กูส่งมึงเรียนมาตั้งกี่ปีแล้ว

พี่หมายถึงเฉพาะกรณีฉุกเฉินน่ะครับน้อง hongvalue ถ้าเป็นยามปกติพ่อแม่ก็คงอยากให้ลูกรับผิดชอบตัวเองให้เป็น

ทำไมไม่มีใครใจบุญตั้งกองทุนเพื่อการศึกษากันบ้างเลยครับ สาวๆสวยๆที่มะมีค่าเทอมยังมีอีกเยอะนะครับ อ้อ อย่างพี่ซีเคเป็นลูกค้าภัทรนี่ วงเงินขั้นต่ำสามล้านนี่ครับ บอกว่ามีมะถึงสี่ล้านนี่ ไม่เชื่อครับ

ถ้ามี 400 ล้านนะ  จะซื้อ  ....  ให้หมดเลย

[quote="chatchai"]ถ้ามี 400 ล้านนะ

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบครับ ทั้งเพือความรู้และความบันเทิง

ถ้ามีเงิน 4 แสน ก็ลงทุนในหุ้นอย่างทุกวันนี้
  ถ้ามีเงิน 4 ล้าน ก็ลงทุนในหุ้นอย่างทุกวันนี้
  ถ้ามีเงิน 40 ล้าน ก็ลงทุนในหุ้นอย่างทุกวันนี้
  ถ้ามีเงิน 400 ล้าน ก็เอาเงิน 40 ล้าน มาลงทุนในหุ้นอย่างทุกวันนี้  ที่เหลือฝากธนาคารกินดอกเบี้ยดีกว่า  หรือไม่ก็ลองซื้อบริษัทมาบริหารก็ได้ ฮิฮิ