Thai VI

โค้ด: เลือกทั้งหมด

  รายได้รวมสำหรับงวด 6 เดือน ปี 2549 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,666 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 37% รายได้ที่เพิ่มขึ้น 
นั้นเป็นผลมาจาก รายได้ดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงินและรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีสัดส่วนคิดเป็น 67% และ 
29% ของรายได้รวม และสำหรับในไตรมาสที่ 2 นี้ บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 1,951 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 37% จากช่วง 
เดียวกันของปีที่ผ่านมา 
?     รายได้ดอกเบี้ยรับรวมค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในไตรมาสนี้เติบโต 17% จากไตรมาสที่ผ่านมา หรือ 33% เมื่อ 
เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน  โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อ 
บุคคล KTC Cash เป็นหลัก 




                                        ปี 2545          ปี 2546          ปี 2547          ปี 2548          ครึ่งปี 2549 


รายได้รวม (ล้านบาท)            1,295              2,607            4,125             5,883               3,666 
ลูกหนี้สุทธิรวม (ล้านบาท)         8,177            13,204          21,409          27,881             33,609 
จำนวนบัญชี  (ล้านบัญชี)          0.63                 0.85              1.17            1.37                 1.58 




?     ค่าใช้จ่ายรวม(โดยรวมดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้) มีอัตราการเติบโตในไตรมาสที่ 2 นี้เท่ากับ 18% เมื่อเทียบกับไตร 
มาสที่แล้วมา  โดยมีค่าใช้จ่ายหลักที่เพิ่มขึ้นและมีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทที่สำคัญ 3 รายการ คือ 
?     ส่วนแรกเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการจัดหาสมาชิกใหม่ในการขยายฐานลูกค้าใน 
ส่วนบัตรเครดิต และ KTC Cash Revolve  ทั้งนี้จะแสดงค่าเพิ่มขึ้นในส่วนของค่าใช้จ่ายทางการตลาด  บริษัทมีค่าใช้จ่าย 
สำหรับการหาสมาชิกใหม่ที่ต้องตัดจ่ายทันทีในแต่ละเดือน  ขณะที่รายได้ที่จะเกิดขึ้นจากฐานลูกหนี้ใหม่นี้จะเกิดขึ้นใน 
อนาคตและต้องอาศัยระยะเวลาหนึ่ง  นอกจากนี้บริษัทยังมีค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาและค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้แก่บุคคลภายนอก 
(Outsource)ที่เพิ่มขึ้นด้วยตามจำนวนรายการทางการค้าที่สูงขึ้น  โดยสัดส่วนของค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่อรายได้ 
(Cost to Income Ratio) ในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 เท่ากับ 57%   
?     รายการที่สองคือ ค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของลูกหนี้รวมและจากการเพิ่มฐาน 
สมาชิก ทำให้เริ่มมีการบันทึกลูกหนี้ใหม่เข้าสู่พอร์ต จึงมีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มตามไปด้วย 
?     รายการค่าใช้จ่ายที่สำคัญส่วนสุดท้ายคือ ดอกเบี้ยจ่ายที่มีมูลค่าสูงขึ้น  เนื่องจากผลกระทบในการเปลี่ยนแปลงของ 
อัตราดอกเบี้ยโดยรวมของตลาดที่มีความผันผวนและปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีภาระต้นทุนทางการเงินที่ 
สูงขึ้น เช่นเดียวกันกับผู้ประกอบการอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน   ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (Repurchase 
Rate)  ได้เพิ่มจาก 4.00% ณ สิ้นปี 2548  เป็น 5.00%  ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2549  ทำให้ในครึ่งปีแรกนี้ บริษัทมีต้นทุน 
ทางการเงินเท่ากับ 4.41%