Thai VI

ไม่ค่อยเห็นพูดถึงมากเลยครับ แต่ผมมองว่าเป็นธุรกิจที่มองถึงที่มาที่ไปต่างๆง่ายนะ เพียงแต่เรื่องหนี้ npl จะมาเป็นจุดให้หวั่นไหวกันบ้าง ผมมองว่า bay กับ scib น่าซื้อถือไว้นะ ท่านอื่นว่าอย่างไรบ้าง

คุณ harry

ผมเห็นด้วยที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง ไม่รู้เพราะว่าอะไรเหมือนกัน
ผมเข้าว่า VI พันธุ์น่าจะให้น้ำหนักมากเรื่องของ DCA และ consumer monopoly
แต่หลายคนก็ในไปปฏิบัติที่แตกต่างกันไป เคร่งครัดบ้าง หย่อยหยานบ้าน
แล้วแต่โอกาสและสถานการณ์

สำหรับ Bay และ Scib นั้นก็อาจจะน่าสนใจอย่างที่ว่า
ผมไม่ได้ศึกษาละเอียด แต่ดูรอบข้างแล้วไม่มีสาขาของทั้งสอง
อยู่ในระยะใกล้หรือสะดวกที่ผมไปทำธุรกรรมได้เลย
ก็เลยขอข้ามไปก่อน
อีกอย่าง อุตสาหกรรมนี้หาความแตกต่างกันได้ลำบาก

คุณ harry คิดว่าทั้งสองตัวน่าสนใจ อย่างไร
ช่วยบอกที บางทีผมจะได้ตามไปดูบ้างนะ

ส่วนตัวแล้วหุ้นแบงค์ไม่ใช่แนวแมรี่ บัพเฟต

เหตุผลคือ

1. เราฝากเงิน กู้เงินแบงค์ไหนก็ได้ขอให้เราได้รับ เงื่อนไขที่ดี หมายถึงธุรกิจนี้น่าจะเป็น price war

2. ปัจจุบัน เอาบริษัทเข้าตลาดระดมทุน ก็สามารถหาแหล่งเงินทุนได้

3. ธุรกิจแบงค์ ได้ส่วนต่างดอกเบี้ย แต่ความเสี่ยงที่ไม่ได้เงินต้นคืนนั้นสูงมากเกินไป เพราะแบงค์ปล่อยกู้หลายกิจการ แบงค์จึงเป็นศูนย์รวมของความเสี่ยงหลายกิจการ

หมายเหตุกิจการที่กำไร ดีจริงๆ จนกระทั้งเหลือเงินสดมากมาย กิจการนั้นๆก็ไม่อยากเสียดอกเบี้ยให้แบงค์ ผลคือ แบงค์เองก็ต้องปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เพื่อรักษาฐานลูกค้าชั้นดีไว้

ข้อดี คือเรายังไม่ได้เปิดเสรีแบงค์จริงๆ ทำให้มีแบงค์จำนวนน้อย ตรงนี้ ถ้ารัฐบาล จะช่วยแบงค์ก็ไม่ยาก ก็แค่ขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งไม่สามารถทำได้ในปัจจุบัน

ก็วิจารณ์แบบคนไม่เคยทำงานแบงค์นะครับ

ผิดตรงไหนช่วยแก้เลยครับ ผมจะได้รู้มากขึ้น

โดยส่วนตัว ไม่ชอบธุรกิจเสือนอนกินครับ อะไร อะไร ก็ผลักภาระให้ลูกค้า

อีกหน่อย ถ้าสินเชื่อไม่ขยายตัว (ซึ่งสาเหตุก็เป็นเพราะความงกของนายแบงค์ทั้งหลายนั่นแหละ) ก็คงไล่เก็บค่าธรรมเนียมสารพัดอย่างเท่าที่นึกออกจากลูกค้านั่นแหละครับ ทั้งค่าธรรมเนียม การฝาก การถอน การโอน การกด ATM การแลกเงิน การเข้าไปขอตากแอร์ (แฮะ แฮะ อันนี้ก็เวอร์ไปหน่อย)