Thai VI

สมมติว่าเราเก็งว่าดัชนีจะร่วงเราก็เลยล้างพอร์ต แต่พอล้างเสร็จดัชนีก็วิ่งขึ้นอย่างแรง เลยเหลือแต่หุ้นแพงๆ กับเงินสดเต็มมือ จะซื้อก็ซื้อไม่ได้ ถือเงินสดไว้ผลตอบแทนก็น้อย

มองดูให้ดี แบบนี้ก็เป็นการติดดอยชนิดหนึ่ง เหมือนกันนะครับ ว่ามั้ย  :roll:

ให้คำจำกัดความว่ากันเหวดีไหมครับตรงข้ามกับยอดดอย

จริง  ติดดอยเงินสดที่ไม่มีผลตอบแทน
ฮิ

วันนี้ลองไปอับบุค์เงินฝากประจำ  

เห็นดอกเบี้ย 1%

ด้วยแฮะ

ไม่คิดว่า  ผมจะมีบุญได้เห็น
แต่ตอนนี้ยัง3%

จริงด้วย

ฮิ


ขออยู่บนดอยเงินสดดีกว่า


ฮิ

4เดือนที่แล้วเอาเงินฝากแบงค์ได้ดอก5%ต่อเดือน
พอดัชนีลงมา650-680 ยังไม่ทันได้ดอก เอาเงินออกมากก่อน
อย่างนี้เรียกว่าผลตอบแทนติดลบซิ

ฮิ

713ไม่ผ่าน อย่าหวัง730 ผ่าน713 คิดว่าไม่ผ่าน730
ถ้าหุ้นไม่ลงมาให้ซื้อ ชาตินี้ก็อย่างหวังให้ผมซื้อเลย

ฮิ

ตอนนี้ติดดอยเงินสดเกิน50% แล้ว

ฮิ

:lol:  :lol:  :lol:

วันนี้ผมติดอีกดอยนึงครับ

ติดดอยผ้าออม

เล่น trading ตอน 3.12 - 3.16 วัดใจกัน

หันกลับมาอีกที ลงไปแตะ 3.02

โอ... แล้วคลานกลับมาปิดที่ 3.06

วันนี้เลยค้างดอยผ้าอ้อม เลยครับ

:lol:  :lol:  :lol:

ช่วงนี้ท่านคนขายของไม่ค่อยพูดถึงหุ้นตัวไหนเป็นพิเศษเลย ผมว่าเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งว่าช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยน่าจะมี upside ให้เล่นค่อนข้างน้อย  :D

ผ้าอ้อมถ้าลดราคาอีกหน่อยก็อาจจะน่าสน

หุ้นใหม่เปิดวันแรก เซลล์เลยทันทีนี่ ขอดูก่อนดีกว่าค่ะ คนขายกดลงมาไม่ใช่คนที่รับซื้อหุ้นจองแน่ๆ ที่อยู่ๆก็เกิดอารมณ์อยากขายขาดทุนขึ้นมา

เอ๊ะ แปลว่าคนที่เทขาย มีกำไร
อืม...แปลว่า ของที่เทมานี่ ไม่ใช่พวกหุ้นจองสิ ไม่งั้นขายได้ไง เททุกราคาแล้วได้กำไร


พอพี่เล่นเทเอาๆ ราคามันก็ต่ำจอง พอต่ำจอง คนจองก็ต้องหนี
พอคนจองหนี ก็ยิ่งต่ำลงอีก

อืม...งั้นรอพี่คนที่เขาเทขายแบบมีกำไร ขายให้พอใจก่อนดีกว่ามั้ยคะ ค่อยดูว่าอะไรคือเหมาะสม

ท่านแม่ทัพครับ

บรรยากาศประมาณนี้นี่ผมว่าคล้ายคนท้องอืด กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

แต่โดยส่วนตัว ผมว่ามีหุ้น Grade B ราคาดูดีหลายตัว

เพียงแต่ TIMING อาจยังไม่ใช่ คนส่วนใหญ่เลย Wait and See

เพราะ กันยา ตุลา นี่ เห็นว่ามีลดราคาบ่อยครั้งทุกๆปี ก็เลยเลยจดๆจ้องๆ กันอยู่

ผมเองก็รอหงายไพ่ Q2 ก่อนแล้วค่อยพิจารณาอีกรอบครับ แต่ช่วงนี้ port ผม

ไม่มี Blue Chip เลย เพราะกำลังเฝ้าดูหลายกิจการที่ขายของ/บริการแล้วรับเงินสดอยู่

คุณ 007 ครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ

จริงการลงวันแรกต่ำกว่า IPO อาจเป็นได้ทั้งดีมาก และ แย่มาก ผมคงต้อง

ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เพราะ บนดอย ... ลมมันเย็น.....อูย....หนาว  :D

[quote="สุมาอี้"]สมมติว่าเราเก็งว่าดัชนีจะร่วงเราก็เลยล้างพอร์ต แต่พอล้างเสร็จดัชนีก็วิ่งขึ้นอย่างแรง เลยเหลือแต่หุ้นแพงๆ กับเงินสดเต็มมือ จะซื้อก็ซื้อไม่ได้ ถือเงินสดไว้ผลตอบแทนก็น้อย

มองดูให้ดี แบบนี้ก็เป็นการติดดอยชนิดหนึ่ง เหมือนกันนะครับ ว่ามั้ย

คนขายของ เขียน: ไม่มี Blue Chip เลย เพราะกำลังเฝ้าดูหลายกิจการที่ขายของ/บริการแล้วรับเงินสดอยู่

ไม่รู้จะจุดใต้ตำตอมองตัวเดียวกันอยู่หรือเปล่า เหอๆ

[quote="สุมาอี้"]สมมติว่าเราเก็งว่าดัชนีจะร่วงเราก็เลยล้างพอร์ต แต่พอล้างเสร็จดัชนีก็วิ่งขึ้นอย่างแรง เลยเหลือแต่หุ้นแพงๆ กับเงินสดเต็มมือ จะซื้อก็ซื้อไม่ได้ ถือเงินสดไว้ผลตอบแทนก็น้อย

มองดูให้ดี แบบนี้ก็เป็นการติดดอยชนิดหนึ่ง เหมือนกันนะครับ ว่ามั้ย

Boring Stock Lover เขียน:
อย่างนี้ก็ขาดทุนกำไรมากกว่า Buy and Hold เพราะขายแล้วหุ้นขึ้น เป็นการตัดสินใจผิด 2 ครั้ง หรือมากกว่า

ผมเริ่มเห็นข้อดีของการมีหุ้นเต็มพอร์ตตลอดเวลา และ buy-and-hold แล้วล่ะ  :idea:

โดยปกติแล้วผมเต็ม port ตลอดเวลา แต่จากประสพการณ์ ผมพลาดหลาย

ครั้งตอนที่ผมทำ switching คือ เพราะตอนขายแล้วได้กำไรมามาก ทำให้หึกเหิม

ทำให้ประมาท ขาดความรอบคอบ รีบซื้อโดยยังไม่ได้ไตร่ตรองให้ดี

ลืมว่าหุ้นเป็น Dynamic ที่เราศึกษาเมื่อ Q ที่แล้ว กับ Q นี้ อาจไม่เหมือนเดิม

.....ซัดไปซะ........ ฮาตรึม

ทำให้ได้คิดว่า ถึงจะถือหุ้น 100% ซะส่วนใหญ่ แต่คงไม่ต้องถือ 100% ทุก

วินาที ประเภทขายปุ๊บ ซื้อปั๊บ เคยมีฝรั่งบอกว่า กำไรแล้วก็ Take a Break...

ผมก็เห็นด้วยว่า ควรเว้นวรรคบ้าง ใจเย็นๆ แล้วค่อยมองหาโอกาส

ผมว่าโอกาสมีอยู่เสมอ ทุกเวลา ในตลาดหุ้น

แต่ความรู้เราจะมากพอที่จะเห็นโอกาสหรือเปล่า

[quote="chatchai"]


การลงทุนถ้าเราคิดมากไป

ตอนนี้ติดดอยจริงๆอยู่ จึงยังไม่มีโอกาสติดดอยแบบนี้  อยากติดบ้างจัง 8)

ไม่รู้ซิ ถ้าผมตั้งใจแบ่งเงินไว้ซื้อหุ้น ผมมักถือหุ้น100%.......

เงินสดไม่ค่อยมี ถ้าตัวไหนถูกใจและมั่นใจสุดๆ ก็ไม่ควรรอช้าที่จะขายทุกตัวมาซื้อมัน......

ดังนั้นไม่ว่าดัชนีขึ้น หรือลง มันก็เหมือนกัน เพราะมีหุ้น100% ตลอดเวลาและผมไม่ค่อยชอบไล่ซื้อหุ้น ชอบให้หุ้นมาอ้อนให้ผมซื้อ(เพราะมักมาพร้อมข้อเสนอที่ดี)

คนขายของ เขียน:โดยปกติแล้วผมเต็ม port ตลอดเวลา แต่จากประสพการณ์ ผมพลาดหลาย

ครั้งตอนที่ผมทำ switching คือ เพราะตอนขายแล้วได้กำไรมามาก ทำให้หึกเหิม

ทำให้ประมาท ขาดความรอบคอบ รีบซื้อโดยยังไม่ได้ไตร่ตรองให้ดี

คล้ายๆผมเลยครับ ต่างกันก็แต่ผม switch in ก่อน switch out ครับ ถูกบ้างผิดบ้าง  :lol:

คนขายของ เขียน:ทำให้ได้คิดว่า ถึงจะถือหุ้น 100% ซะส่วนใหญ่ แต่คงไม่ต้องถือ 100% ทุก

วินาที ประเภทขายปุ๊บ ซื้อปั๊บ เคยมีฝรั่งบอกว่า กำไรแล้วก็ Take a Break...

ผมก็เห็นด้วยว่า ควรเว้นวรรคบ้าง ใจเย็นๆ แล้วค่อยมองหาโอกาส

ผมว่าโอกาสมีอยู่เสมอ ทุกเวลา ในตลาดหุ้น

แต่ความรู้เราจะมากพอที่จะเห็นโอกาสหรือเปล่า

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

ช่วงนี้ผม ฝ่อๆ ครับ คุณคนขายของ

upside ยังคงพอหาได้บ้างแต่ก็น้อยแล้วเลยไม่อยากเสี่ยง เสียดายตรงที่ยังมีหุ้นไม่เต็มพอร์ต

ยอมซื้อแพงและขายที่ราคาแพงกว่าครับ

 แต่เกรงว่า เวลานำเงินสด ไปซื้อ หุ้นที่แพงแล้ว จะติดดอยจริงๆ อะจิครับ