แบงค์ชาตินี่แหละเป็นคนบังคับให้ต่างชาติเทขาย
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 12, 2003 6:32 pm
นักการธนาคารกล่าวในวันนี้ว่า ความวิตกเกี่ยวกับการสร้างความไม่พอใจต่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งผลกดดันการซื้อขายสัญญาเงินบาทล่วงหน้าแบบ non-deliverable forward (NDF) ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดสิงคโปร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ ธปท.ระบุในหนังสือเวียนว่า ไม่สนับสนุนให้มีธุรกรรม NDF และห้ามธนาคารไทยชี้นำให้ลูกค้าเข้าสู่ตลาดดังกล่าวเพื่อเก็งกำไรการปรับตัวของบาท
NDF เป็นธุรกรรมซื้อขายเงินตราต่างประเทศแลกเงินบาทล่วงหน้าโดยไม่มีการส่งมอบเงินตามสัญญา แต่จะจ่ายเฉพาะส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างอัตราตามสัญญาและอัตราตามตลาด เป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเมื่อครบอายุสัญญา
ตลาด NDF เริ่มเปิดการซื้อขายในสิงคโปร์หลังจากที่ธปท.ออกมาตรการต่างๆเพื่อควบคุมการเก็งกำไรค่าเงินบาทซึ่งปรับตัวขึ้น 8 % เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้
แต่ดีลเลอร์คาดว่า มูลค่าการซื้อขายต่อวันจะอยู่ที่เพียง 2-5 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่การขาดสภาพคล่องและความโปร่งใสทำให้นักลงทุนรายใหญ่ไม่เข้าลงทุน
เจ้าหน้าที่ไทยไม่มีอำนาจในตลาดต่างประเทศ แต่พวกเขาสามารถลงโทษธนาคารที่เข้าไปมีส่วนร่วม
นอกจากนี้ ทางการไทยยังสามารถสร้างความกดดันต่อธนาคารต่างประเทศที่ต้องการผลักดันธุรกิจในไทยซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย
ในทางตรงกันข้าม ตลาด NDF สกุลเงินหยวน มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลาดสัญญาเงินวอนเกาหลีใต้มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์ระบุว่า ธนาคารต่างๆจะประเมินความเสี่ยงเหล่านี้ก่อนตัดสินใจว่าจะเข้าซื้อขายในตลาด NDF หรือไม่
ภาคส่งออกของไทยอาจสูญเสียความได้เปรียบด้านการแข่งขัน ถ้าเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้น และธปท.ได้ออกมาตรการควบคุมเงินทุนเพื่อพยายามชะลอการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทแล้ว
หนึ่งในมาตรการดังกล่าวคือมาตรการควบคุมบัญชีเงินบาทของผู้ที่มีถิ่นฐานอยู่นอกประเทศให้มียอดคงค้าง ณ สิ้นวันไม่เกิน 300 ล้านบาทต่อราย และมาตรการควบคุมบัญชีที่ไม่ได้เกิดจากการทำธุรกรรมการค้าหรือการลงทุน
นายเจมส์ มัลคอล์ม นักวิเคราะห์จากเจพี มอร์แกน เชส ในสิงคโปร์ กล่าวว่า มูลค่าการซื้อขายประจำวันในตลาดสปอตเงินบาทออฟชอร์ลดลงเหลือ 20-50 ล้านดอลลาร์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากราว 250-500 ล้านดอลลาร์ในช่วงกลางปีนี้
ดีลเลอร์ในกรุงเทพระบุว่า มูลค่าการซื้อขายในตลาดเงินบาทในประเทศลดลงครึ่งหนึ่งจากระดับเฉลี่ย 0.8-1 พันล้านดอลลาร์
ด้านนายคลอดิโอ ไพรอน นักวิเคราะห์ของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดในสิงคโปร์ ตั้งคำถามถึงความจำเป็นของตลาด NDF เนื่องจากนโยบายใหม่ด้านควบคุมเงินทุนมีเป้าหมายควบคุมการเคลื่อนไหวของเงินทุนระยะสั้นเท่านั้น
ทั้งนี้ ธปท.ระบุในหนังสือเวียนว่า ไม่สนับสนุนให้มีธุรกรรม NDF และห้ามธนาคารไทยชี้นำให้ลูกค้าเข้าสู่ตลาดดังกล่าวเพื่อเก็งกำไรการปรับตัวของบาท
NDF เป็นธุรกรรมซื้อขายเงินตราต่างประเทศแลกเงินบาทล่วงหน้าโดยไม่มีการส่งมอบเงินตามสัญญา แต่จะจ่ายเฉพาะส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างอัตราตามสัญญาและอัตราตามตลาด เป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเมื่อครบอายุสัญญา
ตลาด NDF เริ่มเปิดการซื้อขายในสิงคโปร์หลังจากที่ธปท.ออกมาตรการต่างๆเพื่อควบคุมการเก็งกำไรค่าเงินบาทซึ่งปรับตัวขึ้น 8 % เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้
แต่ดีลเลอร์คาดว่า มูลค่าการซื้อขายต่อวันจะอยู่ที่เพียง 2-5 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่การขาดสภาพคล่องและความโปร่งใสทำให้นักลงทุนรายใหญ่ไม่เข้าลงทุน
เจ้าหน้าที่ไทยไม่มีอำนาจในตลาดต่างประเทศ แต่พวกเขาสามารถลงโทษธนาคารที่เข้าไปมีส่วนร่วม
นอกจากนี้ ทางการไทยยังสามารถสร้างความกดดันต่อธนาคารต่างประเทศที่ต้องการผลักดันธุรกิจในไทยซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย
ในทางตรงกันข้าม ตลาด NDF สกุลเงินหยวน มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลาดสัญญาเงินวอนเกาหลีใต้มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์ระบุว่า ธนาคารต่างๆจะประเมินความเสี่ยงเหล่านี้ก่อนตัดสินใจว่าจะเข้าซื้อขายในตลาด NDF หรือไม่
ภาคส่งออกของไทยอาจสูญเสียความได้เปรียบด้านการแข่งขัน ถ้าเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้น และธปท.ได้ออกมาตรการควบคุมเงินทุนเพื่อพยายามชะลอการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทแล้ว
หนึ่งในมาตรการดังกล่าวคือมาตรการควบคุมบัญชีเงินบาทของผู้ที่มีถิ่นฐานอยู่นอกประเทศให้มียอดคงค้าง ณ สิ้นวันไม่เกิน 300 ล้านบาทต่อราย และมาตรการควบคุมบัญชีที่ไม่ได้เกิดจากการทำธุรกรรมการค้าหรือการลงทุน
นายเจมส์ มัลคอล์ม นักวิเคราะห์จากเจพี มอร์แกน เชส ในสิงคโปร์ กล่าวว่า มูลค่าการซื้อขายประจำวันในตลาดสปอตเงินบาทออฟชอร์ลดลงเหลือ 20-50 ล้านดอลลาร์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากราว 250-500 ล้านดอลลาร์ในช่วงกลางปีนี้
ดีลเลอร์ในกรุงเทพระบุว่า มูลค่าการซื้อขายในตลาดเงินบาทในประเทศลดลงครึ่งหนึ่งจากระดับเฉลี่ย 0.8-1 พันล้านดอลลาร์
ด้านนายคลอดิโอ ไพรอน นักวิเคราะห์ของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดในสิงคโปร์ ตั้งคำถามถึงความจำเป็นของตลาด NDF เนื่องจากนโยบายใหม่ด้านควบคุมเงินทุนมีเป้าหมายควบคุมการเคลื่อนไหวของเงินทุนระยะสั้นเท่านั้น