Thai VI

อันไหนง่ายกว่า

มีเพื่อนผมมาชวน  เล่นอนุพันธ์

เพราะมีแค่2 ตัวเลือก  ไม่ขึ้นก็ลง

ง่ายง่าย

กับ

มองกำไรบริษัท   มองได้มากกว่า2แบบ
ทรงตัว  ลดลงแบบบริษัท เลิกกิจการ เพิ่มขึ้น  เพิ่มขึ้น
แบบก้าวกระโดด


มองอันไหนยากกว่ากันคับ

warrent buffet กับ peter lynch เคยบอกว่า future กับ option
ไม่ต่างอะไรไปจากการพนันครับ

ผมก็เห็นด้วยเพราะแค่ให้เดาว่า set จะ + หรือ จะ - ผมยังเดาไม่เคยถูกเลย

แต่ผมว่า มองกำไรขาดทุนบริษัทน่าจะง่ายกว่านะ


เพราะการมอง  ขึ้นลงของดัชนี
คือการเลือกข้าง  เลยนะ

มันยากจัง

การเดาการขึ้นลงของอนุพันธ์ เหมือนการเล่น slot ไม่ต้องคิดมาก แทงเร็ว ได้เร็ว เสียเร็ว

การเดาราคาของหุ้นรายตัว เหมือนการเล่น dummy ต้องดูไพ่ในมือตัวเอง และเดาไพ่เจ้ามือด้วย

การคาดการผลประกอบการบริษัท ถ้าท่าน ดร.ก็จะว่าเหมือนการเล่น  ตีแตก  แต่ถ้าท่าน ลินซ์ ก็จะว่าเหมือน โปกเกอร์ ครับ

IT  IS  JUST  TOY  STORY

ถึงปากจะชอบพูดว่าเดาดัชนียากมากๆ(เหมือนที่ VI คนอื่นชอบพูดกัน)
แต่ในใจลึกๆของผมก็คิดว่า มันจะไปยากอะไรวะ
แค่คาดการดัชนีขึ้นหรือลงแค่เนี่ย


ตอนนี้ผมไม่ได้ login เข้าเกม TFEX ของฟิลลิปมา3-4วันทำการแล้ว
เพราะไปชอร์ตไว้จนหมดวงเงินเลย ก่อนที่หุ้นจะขึ้นเที่ยวนี้
   

ถ้าคิดจะเล่น TFEX นะครับ

ถ้าคุณเริ่มเดาว่ามันจะขึ้นหรือลง

ก็แหย่ขาเข้าไปในหลุมศพข้างนึงแล้วครับ


แต่ถ้าคุณตัดสินใจตามสิ่งที่เกิดขึ้น
โดยไม่ใช้อารมณ์ ทั้งโลภและกลัว

ควบคุมวงเงินที่เล่นให้เหมาะสม
เช่นไม่เกิน 1 สัญญาต่อวงเงิน 1 ล้านบาท

ตัดขาดทุนอย่างเด็ดขาด เมื่อตลาดเปลี่ยนทาง

โอกาสเจ๊งแทบไม่มีเลยครับ


เหมือนกันเป็นวีไอล่ะครับ

ถ้าคุณเริ่ม "เดา" ว่า ผลการดำเนินงานจะดีขึ้นหรือแย่ลง

คุณอาจจะเป็นวีไอจำเป็นได้โดยไม่รู้ตัว

เหอๆ


เคล็ดลับการลงทุนที่ประสบความสำเร็จของทุกสำนัก

จะมีอย่างหนึ่งเหมือนกันครับ

"ออกรบเพื่อให้ได้ชัยชนะ ไม่ใช่หวังชัยชนะ"

ก็แหย่ขาเข้าไปในหลุมศพข้างนึงแล้วครับ

ชอบคำนี้จัง