หน้า 1 จากทั้งหมด 1
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 21, 2006 10:24 pm
โดย วัวแดง
มีหุ้นหลายตัวที่นิวโลว์
หลายตัวคนว่าตายแล้วอย่าไปยุ่ง แต่กลับกลายเป็นหุ้นทำเงินอย่างดี
มีหลายคนที่ต้องการซื้อหุ้นที่เล็ง แต่พอราคาลงเรื่อยๆกลับไม่ซื้อ พอมามองอีกทีเด้งขึ้นไปเยอะ ก็นั้งเสียดาย
หลายๆคน มีหลายๆเหตุผล แต่ผมว่าหุ้นที่ดีแต่ราคานิวโลว์ น่าสนใจซื้อครับ
ไม่ใช่พอราคาตกเยอะๆทำให้เปลื่ยนมุมมองว่าหุ้นตัวนั้นไม่ดี(ดีแล้วลงทำไมง่ะ)
ซุปเปอร์แมน ก็ยังมีวันป่วย อยู่ที่ว่าเราจะหาซุปเปอร์ป่วยเจอหรือปล่าว
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 21, 2006 10:30 pm
โดย วัวแดง
แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องซื้อหุ้นทุกตัวที่นิวโลว์นะครับ
ซื้อตัวที่คุณชอบในใจนะครับ ไม่ได้ซื้อทุกตัว
(ในใจผมหุ้นตัวนั้นควรเป็นเบอร์1ครับ)
และไม่ควรซื้อทีเดียวหมดมือ เพราะเราไม่รู้ว่าต่ำแล้ว จะมีต่ำอีกหรือปล่าว
ที่สำคัญต้องรู้ตัวเองนะครับ ว่าเราซื้อหุ้นตัวนั้นเพราะอะไร ไม่ใช่เห็นราคานิวโลว์แล้วกระโดดเข้าใส่ทันที ควรมีเหตุ และผลครับ
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 21, 2006 10:37 pm
โดย วัวแดง
ผมมีกรณีศึกษาเก็บไว้พอควรนะครับ
เพื่อนๆลองย้อนไปดูหุ้นอย่างse-ed ซิครับ ราคาตกเหลือ4.6 บาทเพราะอะไร
cpf เคยเหลือแค่ 3.2 เพราะอะไร
ผมใช้ข้อมูลแค่3ปี ที่ผ่านมาครับ
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 21, 2006 10:41 pm
โดย วัวแดง
ผมไม่พูดชื่อหุ้นดีกว่าครับ คิดว่าแสดงความคิดเห็นก็พอ ไม่เอ่ยชื่อหุ้น
เป็นอีกแนวทางที่น่าสนใจนะครับ ลองศึกษาดูครับ :D
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 22, 2006 12:33 am
โดย ฐิติ
วัวแดง เขียน:ผมมีกรณีศึกษาเก็บไว้พอควรนะครับ
เพื่อนๆลองย้อนไปดูหุ้นอย่างse-ed ซิครับ ราคาตกเหลือ4.6 บาทเพราะอะไร
cpf เคยเหลือแค่ 3.2 เพราะอะไร
ผมใช้ข้อมูลแค่3ปี ที่ผ่านมาครับ
เมื่อก่อนผมใช้กราฟ เกลียดหุ้นนิวโลว์ที่สุด ยิ่งตอนลงแล้วโวลุ่มหายขายไม่ได้ยิ่งช้ำ
แต่ตอนนี้ผมชอบไล่ดูหุ้นนิวโลว์แฮะ...
ยังเสียดายse-edเลย
คุณวัวแดงพอจะเล่าให้ฟังได้มั้ยครับ ว่าตอนนั้นse-edเกิดปัญหาอะไร ราคาถึงตกลงมาเยอะ
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 22, 2006 1:22 am
โดย pawiga
มันก็จริงน่ะผมก็ดูบางตัว แต่ ก็คงต้องดูว่า มันนิวโล เพราะอะไร ก่อน
เช่น cei ก็นิวโล แต่สงสัยจะไม่ได้เกิด
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 22, 2006 11:45 am
โดย pongo
ยกตัวอย่าง ลากูน่าครับ ที่ขาดทุนเพราะเหตุซึนามิ (จริงๆ ซึนามิต้องใข้ ซ นะครับ เพราภาษาญี่ปุ่นใช้ตัว tsu เหมือน ซึบาสะอ่ะครับ) พอเก็บกวาดความเสียหายเสร็จ นักท่องเที่ยวกลับมาเหมือนเดิม ไตรมาสแรกปีนี้ก็เลยพลิกกลับมามีกำไร ราคากระฉูด เสียดายจริงๆ
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 22, 2006 12:40 pm
โดย วัวแดง
ใช่ครับ..... หลายๆปัญหาดูน่ากลัว แต่มันอาจจะไม่น่ากลัวขนาดนั้นซะหน่อย
หวัดนก .....คนเลิกกินไก่ แต่ผ่านมาซักหน่อยคนก็กินไก่ ยังไง ก็ฟื้น
ซินามิ....... คิดว่าโรงแรมเจ้งแน่ๆเลย สุดท้ายราคาหุ้นพุ่งขึ้นมากเลย
ตอนนี้.....หุ้นที่โดนผลกระทบจากราคาน้ำมันผมว่าน่าสนใจครับ
ยังไงน้ำมันก็ลง
หุ้นที่โดนผลกระทบดอกเบี้ย แล้วทำให้นิวโลว์ สุดท้ายดอกเบี้ยก็ต้องหยุดขึ้น เมื่อนั้นล่ะครับ
ส่วนหุ้นที่ขึ้นเพราะข่าวดีมากๆ ผมไม่ชอบครับ
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 22, 2006 12:47 pm
โดย วัวแดง
[quote="pawiga"]มันก็จริงน่ะผมก็ดูบางตัว แต่ ก็คงต้องดูว่า มันนิวโล เพราะอะไร ก่อน
เช่น cei ก็นิวโล
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 22, 2006 12:54 pm
โดย สุมาอี้
วัวแดง เขียน:ปัญหาคือคุณ เสริม ขายหุ้นครับ เพราะต้องเอาไปจ่ายค่าอะไรซักอย่างนี่ล่ะครับ ราคารูดมหาราชครับ เหตุเพราะมีคนขายมากกว่าซื้อ สุดท้ายคุณเสริมเลิกขาย ราคาก็กลับมา
แหม อย่างนี้ก็รอลุ้น GRAMMY ขายได้อีกสิครับสำหรับตัวนี้ :D
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 22, 2006 1:00 pm
โดย วัวแดง
ตอนนี้มีหุ้นนิวโลว์เยอะครับ ลองหาดู
การเมือง จะเลิกอึมครึมมั้ย...... ถ้าเลิก กลุ่มไหนได้ประโยชน์ล่ะ
ถ้าการเมืองนิ่ง ปริมาณการซื้อขายหุ้นเพิ่มขึ้นมั้ย ......ถ้าเพิ่มใครได้ประโยชน์
แล้วหุ้นที่โดนผลกระทบ นิวโลว์มั้ย ถ้านิวโลว์น่าสน แต่ถ้าโดนผลกระทบแต่ราคาขึ้น ผมผ่านครับ
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 22, 2006 1:03 pm
โดย วัวแดง
หลายคนไม่ชอบวิธีการนี้ครับ ทนเห็นราคาโลว์เรื่อยๆ ไม่ได้ถ้าซื้อผิดจังหวะ นักเทคนิคจึงไม่ค่อยชอบ vi บางท่านก็ไม่ชอบ เหตุเพราะบอกพื้นฐานเปลื่ยน แล้วมันเปลื่ยนนานแค่ไหน จริงหรือปล่าว
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 22, 2006 1:42 pm
โดย naris
ถ้าประยุกต์จากคุณวัวแดงก็ต้องบอกว่า
เลือกหุ้นที่ผู้บริหารซื่อสัตย์ บริษัทเข้มแข็ง รอจังหวะราคาลงมาหาจุดที่เราต้องการ คือมี margin of safety พอสมควร
หรืออีกวิธีคือ จงเป็นหนูตัวที่2 ให้ผลประกอบการเริ่ม turn around แล้วซื้อ
ใช่ไหมครับ
ถ้าใช่ พวกหุ้นเน่า หุ้นปั่น หุ้นการเมือง หุ้นพื้นฐานเปลี่ยน หุ้นผู้บริหารเป็นป.อ.บ ห้ามยุ่งใช่ไหมครับ
และที่สำคัญอีกข้อคือ หุ้นวัฏจักร ที่เริ่มเข้าสู่ขาลง รับรองครับ ยังมี โลวแล้ว โลวอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.อีกจนทนไม่ไหวเลยครับ
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 23, 2006 10:55 am
โดย BHT
พอหุ้นลงเยอะ เราจะเริ่มเขวว่าหุ้นมันดีจริงหรือเปล่า
ผมจะศึกษาตัวธุรกิจก่อนว่า มีอะไรเปลี่ยนไปหรือไม่ ถ้าแย่ลง จะดีขึ้นได้หรือไม่
ถ้าดูแล้วทำให้ผมมั่นใจว่าจะกลับมาได้ ผมก็จะเริ่มทยอยซื้อ และที่ผมเจอแบบนี้ก็มีไม่กี่ตัว เพราะผมรู้ดีไม่กี่ตัวเท่านั้น
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 23, 2006 1:55 pm
โดย 007-s
ก็เห็นด้วยค่ะ กรณีเรื่องที่ว่า ..."หลายปัญหาอาจน่ากลัว(ทำให้เกิดหลุดแนวรับ) แต่มันอาจไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น(ราคาลงมาที่นิวโล)ซักหน่อย"
ราคาที่เข้าสู่เขตสีขาว...ก็มักจะคือราคาที่หลุดแนวรับบ่อยๆไป
ราคาที่เข้าสู่เขตสีดำ...ก็อาจเป็นราคายอดเขานิวไฮทะลุฟ้าก้เป็นได้
แต่มองยาก ที่ว่าตรงไหนดำปี๋ หรือ ขาวจั๊วะ
ดังนั้น เด็กเทคนิค จึงไม่ใส่ใจ นิวโล หรือ ดอยไฮ ว่ามันเป็นเท่าไหร่ แต่จะเน้นสนใจว่า "เมื่อไหร่"
เหมือนๆกันคือ เด็กแวยู่ ก็ไม่ค่อยลงมือ ใน นิวโล หรือ ดอยไฮ แต่มักเน้นที่ "เข้าใจ"
วีไอ หลายๆท่าน ดิฉันว่า คงชอบมาก เมื่อยามที่ ราคาอยู่ตรงจุดที่น่าเบื่อสุดๆ
คือไม่ไปไหนเล้ยย ไม่ขึ้นไม่ลง หมีแบบหมอบราบคาบ ไม่ไหวติง
ซึ่งมันมักจะใช้เวลา ยาวนาน ระดับนึงเลย นานพอที่จะมีเวลาขบคิดและติดตาม จนไปถึงตัดสินใจ
อย่าง ดร.นิเวศน์ ว่าไว้บ่อยๆว่า "ไม่ชอบเป็นชาวไล่ หรือ ชาวสวน" ก็แปลตรงๆ น่าจะเป็น ชอบเวลาที่ นิ่งๆ มากที่สุด
ส่วนมุมมอง หนูตัวที่สอง อย่างคุณ นริศกล่าว ก็เป็นกลยุทธ ที่เหมาะสม อีกทางหนึ่ง
คือเป็นพวก ลงมือในดาบสอง ,ประเภทอาจจะ เข้าใจอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่แน่ใจมากนัก งั้นรอหน่อย ขอดูเพื่อนก่อนเพื่อนจะว่าไง ...ถ้าเพื่อนซัดเป้าหมาย เสยขึ้น เราค่อยเสียบดาบสอง เข้าที่เป้าหมาย ไม่จำเป็นต้องมีวรยุทธเลิศ เป็นดาบแรก แต่เป็นดาบสอง ที่แม่นยำ ไงไงเหรียญเงินก็โอเค พอใจแล้ว
มุมมองเทคนิค เก็งกำไร ก็คือ รอหยุ่นๆ (นิ่งๆ) น่าเบื่อ (แต่น่าสนใจ) แล้วเมื่อเวลามาถึง ...จะตัดขึ้นหรือตัดลง ...เดี๋ยวเห็นเอง
จึงเป็นที่มาของ ประโยคที่ว่า
...มีดยังไม่ปักเขียง อย่าเอามือเข้าไปรับ
...จงดูมันทำ
...ซื้อเมื่อหุ้นขึ้น ขายเมื่อหุ้นลง ถือเมื่อหุ้นยังอยู่ในไลน์ขึ้น (ก็อยู่ที่เล่นแนวโน้มไหน สั้น,ยาว,กลาง)
...ดูที่วอลลุ่ม (อำนาจเงินที่ใหญ่กว่า จะเป็นผู้ลากหรือทุบ)
ฯลฯ
ถึงแม้เราประกาศตัวว่า เป็น วีไอ หรือไรก็ตาม
แต่ก็ไม่ผิด หากเราลองศึกษา วิธีคิด ของวีเอส หรือ วีอื่นๆ
ทุกกลยุทธ มีประโยชน์ทั้งสิ้น ถ้าเราทำความเข้าใจในความหมาย ของมันดีพอ
แม้กลยุทธ ซื้อที่นิวโล ของท่านวัวแดงเอง ก็มีแง่ดี ถ้าคิดให้ถี่ถ้วนจริง
เพราะถ้าเราพร้อมที่จะสมัครเป็นเพชรฆาต ดาบแรก แล้วนั้น ย่อมต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อนว่า ดาบที่เราตวัดออกไปนั้น คมกริบเพียงใด
นั่นคือ ย้อนกลับไปที่ ..."คมกริบ" เทียบเท่า "เข้าใจ" นั่นเอง
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 23, 2006 2:04 pm
โดย yoyo
ตอนนี้.....หุ้นที่โดนผลกระทบจากราคาน้ำมันผมว่าน่าสนใจครับ
ยังไงน้ำมันก็ลง
มันจะลงจริงๆหรือครับ ... ผมไม่มั่นใจเอาซะเลย
ปัญหาคือคุณ เสริม ขายหุ้นครับ เพราะต้องเอาไปจ่ายค่าอะไรซักอย่างนี่ล่ะครับ ราคารูดมหาราชครับ เหตุเพราะมีคนขายมากกว่าซื้อ สุดท้ายคุณเสริมเลิกขาย ราคาก็กลับมา
ผมเข้าใจว่า se-ed ที่ราคารูดลงมาสาเหตุหลักน่าจะมาจากกำไรที่ลดลงมากกว่านะครับ เพราะผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ขายหุ้น se-ed เพราะสาเหตุนี้เหมือนกัน (ตอนนั้นผมก็ถืออยู่เยอะ) ส่วนเรื่องคุณเสริมสินขายนั้นมีผลเหมือนกัน แต่ไม่น่าจะแรงเท่ากำไรที่ลดลง
ส่วนตอนนี้ที่ราคาพลิกกลับขึ้นมาได้ก็น่าจะเพราะว่ากำไรที่กลับตัวดีขึ้น และอีกสาเหตุคือ pe กลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติกาล เช่น BIGC IT เลยเป็นเหตุทำให้ PE ของ se-ed ถูกค่าเฉลี่ยกลุ่มพาขึ้นไปด้วย
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 23, 2006 7:54 pm
โดย คัดท้าย
yoyo เขียน:
ส่วนตอนนี้ที่ราคาพลิกกลับขึ้นมาได้ก็น่าจะเพราะว่ากำไรที่กลับตัวดีขึ้น และอีกสาเหตุคือ pe กลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติกาล เช่น BIGC IT เลยเป็นเหตุทำให้ PE ของ se-ed ถูกค่าเฉลี่ยกลุ่มพาขึ้นไปด้วย
อืมมม เพิ่งเคยเจอ VI คิดแบบนี้(แล้วโพสต์ด้วย) เป็นครั้งแรก
บางที ผมรู้สึกว่าหุ้นนี่ บางทีมันก็เหมือนแฟชั่นเลยนะ บางทีตลาดก็ให้ราคาหุ้นบางกลุ่มแพงขึ้น บางทีก็ให้มันถูกลง ทั้งๆที่ที่ผ่านมา ผมก็เห็นมันก็โตของมันเรื่อยๆมานานแล้ว รพ อีกกลุ่ม งง..
งง แต่ซื้อ :lovl: :lovl: :lovl:
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 23, 2006 8:09 pm
โดย yoyo
เรื่อง pe กลุ่มนี่ผมว่าก็เป็นกับดัก VI ได้เหมือนกันนะครับ ถ้าเกิดว่าการประเมิณราคาหุ้นใช้ pe เป็นตัวกำหนด (ผมคนนึงก็ชอบใช้) ถ้าเกิดว่าหุ้นที่เราซื้อโดยคำนวณราคาเหมาะสมกับ pe อยู่ดีๆตลาดลดค่า pe ของกลุ่มลงเอาดื้อๆ สมมติว่า กลุ่มค้าปลีกกับ โรงพยาบาล ลด pe ลงมาเหลือเฉลี่ยซัก 10 แบบนี้ราคาของหุ้นที่เราซื้อก็คงหนีไม่พ้นภาวะเดียวกัน ราคาคงต้องปรับลงมาตาม ...
ยังดีที่ผมไม่เคยเจอ
บางที ผมรู้สึกว่าหุ้นนี่ บางทีมันก็เหมือนแฟชั่นเลยนะ บางทีตลาดก็ให้ราคาหุ้นบางกลุ่มแพงขึ้น บางทีก็ให้มันถูกลง ทั้งๆที่ที่ผ่านมา ผมก็เห็นมันก็โตของมันเรื่อยๆมานานแล้ว รพ อีกกลุ่ม งง..
ขอแซวพี่คัดท้ายหน่อยครับ บรรทัดเดียว "บางที" ไป 4 รอบ :lol: ไม่ได้ว่าอะไรพี่คัดท้ายนะครับ เพราะ
บางทีผมก็เป็น :oops:
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 23, 2006 9:00 pm
โดย สุมาอี้
[quote="yoyo"]
ขอแซวพี่คัดท้ายหน่อยครับ บรรทัดเดียว "บางที" ไป 4 รอบ
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 23, 2006 9:26 pm
โดย สุมาอี้
ที่จริงสิ่งที่วัวแดงพูดถึงก็คือสิ่งที่ทาง behavioral finance เรียกว่า loss aversion (ไม่ใช่ risk aversion นะคนละอย่างกัน)
loss aversion เป็น bias ของการลงทุนชนิดหนึ่ง กล่าวคือ นักลงทุนไม่ชอบเห็นหุ้นในพอร์ตเป็นสีแดง จึงทำให้นักลงทุนชอบซื้อหุ้นเมื่อราคาเป็นขาขึ้น และขายเมื่อราคาเป็นขาลง แทนที่จะดูว่าราคาหุ้นถูกหรือแพงเมื่อเทียบกับพื้นฐาน
นักลงทุนระยะยาวจึงสามารถฉวยโอกาสจาก loss aversion ได้ ด้วยการซื้อหุ้นที่ประสบปัญหาในระยะสั้นจนทำให้ราคาเป็นขาลง ถือไว้ยอมตัวแดงสักพักและรอให้มันกลับมาใหม่ในระยะยาว
แต่ต้องแน่ใจนะว่าราคาที่เข้าเป็นราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าแล้ว ไม่งั้นก็จะติดดอยแบบถาวรเหมือนกัน
หุ้นนิวโลว์ ใช้ว่าจะตายซะหน่อย........
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 25, 2006 11:21 am
โดย วัวแดง
นั่นคือ ย้อนกลับไปที่ ..."คมกริบ" เทียบเท่า "เข้าใจ" นั่นเอง
ชอบคำนี้จังครับ
ถึงแม้ผมจะทู่ ก็ตาม