Thai VI

ในการ แถลงต่อสภาคองเกรซรอบครึ่งปีของปี 2549นี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯนาย เบน เบอร์นันเก้ ได้ออกมายืนยันถึงทิศทางของนโยบายการเงินเหมือนกับแถลงการณ์ในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยรายละเอียดของถ้อยแถลงของมุมมองคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯมีดังนี้ แม้ว่าการคาดการณ์ของเรานั้นเป็นไปเพื่อให้ระดับอัตราเงินเฟ้ออยู่ในอัตราที่ปกติ แต่คณะกรรมการยังเห็นถึงปัจจัยความเสี่ยงของปัญหาเงินเฟ้อบางประการปรากฏอยู่ โดยปัจจัย 4 ปัจจัยที่จะถูกพิจารณาในการดำเนินนโยบายครั้งต่อไป คือ

(1)     ทิศทางของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งรวมไปถึงราคาพลังงาน  -  โดยโอกาสในการขึ้นของราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์เป็นปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญสุดต่อทิศทางปัญหาเงินเฟ้อ
(2)     ต้นทุนแรงงาน - เป็นปัจจัยสำคัญเนื่องจากเป็นองค์ประกอบหลักของต้นทุนทางธุรกิจ โดยมาตรการหลักคือรักษาการเติบโตในระดับปานกลางเพื่อให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
(3)     การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ - มาตรการดูแลอัตราเงินเฟ้อในระยะยาวซึ่งเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ลดลงและเริ่มมีขอบเขตจำกัด
(4)     ความแข็งแกร่งของอุปสงค์มวลรวม -  คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯคาดว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจะอยู่ในอัตราปานกลางใกล้เคียงกับระดับที่จะรักษาศักยภาพในการเติบโตในช่วงปี 2549-2550

เนื่องจากปัจจัย 3 ประการในจำนวน 4 ประการนั้นดูเหมือนจะไม่อันตรายในขณะนี้ โดยปัจจัยความเสี่ยงที่เรากำลังจับตาดูอยู่ก็คือ ระดับราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป แต่สิ่งสำคัญกว่าที่จะต้องทำคือการลดระดับอัตราดอกเบี้ยคาดการณ์ขั้นสูงที่อาจจะไปถึง 6% โดยตอนนี้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯจะอยู่ที่ 5.5% และน่าจะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งถ้าเป็นไปตามกรณีนี้ก็จะไม่แตกต่างมากนักในมุมมองของเราและไม่ควรที่จะไปเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของประเทศต่างๆในภูมิภาคนี้    


Kim Eng regional economist

ที่มา: KIM ENG