หน้า 1 จากทั้งหมด 4
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 3:51 pm
โดย สุมาอี้
สมมติว่าท่านมีหุ้นตัวหนึ่งอยู่ 100,000 หุ้น ซึ่งซื้อมาที่ต้นทุนหุ้นละ 10 บาทซึ่งเท่ากับราคาตลาด ณ ปัจจุบันด้วย แต่ท่านต้องการซื้อหุ้นตัวนี้เพิ่มอีก 100,000 หุ้น
ในวันพรุ่งนี้จะมีการแถลงข่าวสำคัญของหุ้นตัวนี้ (เช่น แถลงผลประกอบการ เป็นต้น) คุณประเมินสถานการณ์แล้วสรุปได้ว่า
1. ความน่าจะเป็นที่ราคาหุ้นตัวนี้จะกลายเป็น 20 บาทหลังข่าวออกมาเป็นข่าวดีเท่ากับ 0.5
2. ความน่าจะเป็นที่ราคาหุ้นตัวนี้จะกลายเป็น 5 บาทหลังข่าวออกมาเป็นข่าวร้ายเท่ากับ 0.5
คุณจะซื้อหุ้นตัวนี้ ก่อน หรือ หลัง การแถลงข่าวครับ?
อยากทราบว่าแต่ละคนมีวิธีตัดสินใจในสถานการณ์แบบนี้อย่างไร ขอคำตอบพร้อมคำอธิบาย :roll:
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 4:11 pm
โดย Viewtiful Investor
ถ้าคิดตาม Prob ก็ได้ expected return = 10*0.5 + -5*0.5 = 2.5 Baht ต่อหุ้น แบบนี้ก็ควรลุยต่ออีก 100,000 หุ้น
แต่ถ้าเป็นผมตัวจริง จะอยู่เฉยๆ
เพราะถ้า Prob มันแค่ 50% แถมจริงๆแล้ว ไม่มีใครรู้ด้วยว่าราคาจะไปถึงไหน ใช้ความนิ่งเข้าสู้ดีก่า
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 4:16 pm
โดย GTA
ขายของเก่า 1 แสนหุ้นวันนี้เลย รอซื้อคืนที่ 5 บาทถ้ามันลง 4 แสนหุ้น
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 4:19 pm
โดย arica
รอ ดูสถานะการ์ณครับ
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 4:29 pm
โดย bennn
ยังไม่ทำอะไรครับ
ทบทวนก่อนว่าเหตุผลที่เราซื้อหุ้นตัวนี้เพราะอะไร
ทำไมต้องการซื้อเพิ่มอีก
ความเสี่ยงครึ่งๆอย่างนี้ เป็นไปได้ว่าเรายังไม่รู้จริงหรือยังไม่มีข้อมูลที่มากพอ ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย
คิดว่าคงไม่ซื้อเพิ่มอ่ะครับ
รอที่ชัวร์ๆมากกว่านี้ดีกว่า
ปล. เป็นไปได้ว่าเมื่อข่าวดีออกมาหุ้นอาจไม่ขึ้นไปที่ 20 บาท
หรือเมื่อข่าวร้ายออกมาหุ้นอาจไม่ลงมาที่ 5 บาทใช่ไหมครับ?
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 4:56 pm
โดย adi
ซื้อก่อน
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 5:03 pm
โดย น้ำครึ่งแก้ว
สมมติ ว่าเป็น tpipl ซิครับ จะได้ดูง่ายหน่อยว่าจะเอายังไง อิอิ
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 5:06 pm
โดย CK
(กำไร/ขาดทุน ลบ.)
ข่าวดี ข่าวร้าย
ซื้อก่อน +2.0 -1.0
ซื้อทีหลัง +1.0 -0.5
ถ้าต้องการ minimize loss ก็ต้องซื้อหลังประกาศ
ถ้าต้องการ maximize profit ก็ต้องซื้อก่อนประกาศ
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 5:10 pm
โดย Boring Stock Lover
ถ้าเป็นหุ้นแบบนี้จริง บวกลบมากๆเพราะข่าวๆเดียว ก็คงไม่ซื้อตั้งแต่แรกครับ
ตั้งแต่ซื้อมามีแต่ข่าวดีที่ทำให้บวกมากๆก็คือการ tender
แต่ตัวที่เจ็งไม่เคยเจ็งเพราะข่าว แต่เจ็งเพราะไม่มีข่าว อยู่ดีๆก็ร่วงวันสองวัน เด้งขึ้นมาหลอก แล้วร่วงใหม่ ทรงๆให้เบื่อ หันมามองอีกที หายไปเป็นครึ่ง
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 5:20 pm
โดย sunrise
ปัญหาคือจะรู้ได้ไงครับ ว่าความน่าจะเป็นถูก
แต่ถ้าเป็นสถานะการณ์จริงๆ
ผมต้องถามก่อนว่า เงินทั้งหมดของผมเป็นเท่าไหร่
เพราะว่าถ้ามีเงิน 2 ล้าน ผมก็คงไม่กล้า speculate ทั้งหมด แม้ว่ามีโอกาส win มากกว่าเพราะว่าผมไม่สามารถ เสียเงินมากๆ อย่างนี้ได้ครับ
และรอ ดีกว่า เพราะน่าจะเป็น win-win พอสมควร
เพราะถ้าไม่ซื้อ แล้วข่าวออกมาดี ก็หมายความว่า ถ้าเป็น + เรากำไรทันที
แต่ถ้าข่าวออกมาไม่ดี เราก็ค่อยซื้อ ได้หุ้นเยอะขึ้น ด้วยสุดท้ายเดี๋ยว ราคาหุ้นก็กลับไปสู่ราคาที่แท้จริงของมันเอง
แต่ถ้าผมมีเงิน 20 ล้านขึ้นไป ผมซื้อครับ เพราะ probability มันบอกว่าเป็น speculate ที่มีโอกาส win มากกว่า
นานๆ จะมีเกมส์ที่มี risk premium ให้ชอบๆ ครับ
แต่จะกล้าลงทุนมากกว่านี้ถ้ามีเหตุการณ์อย่างนี้เยอะๆ ให้เลือกเพื่อลดความเสี่ยงครับ
เพราะเราอาจwin ครั้งเดียวก็ cover lost ในเหตุการณ์อื่นๆได้ครับ
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 5:41 pm
โดย MO101
ผมคงซื้อหลัง ข่าวร้าย แล้วรอมันดีดกลับไปเป็น 10 บาท
เสี่ยงน้อยกว่า อาศัยความอดทน
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 6:06 pm
โดย keng56
vi จะไม่ทำอะไรที่เสี่ยงไม่ใช่หรือ
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 6:09 pm
โดย keng56
นักเก็งกำไรเท่าน้นที่ชอบเสี่ยง 8)
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 6:42 pm
โดย Accidental Hero
อืม...
ถ้าซื้อแล้วต้องขายถึงจะได้กำไร ผม "ไม่" ซื้อ
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 7:11 pm
โดย สามัญชน
ดูเหมือนท่าสุมาอี้จะลืมกฎทองข้อสำคัญของบัฟเฟตต์ ที่จริงผมว่าคงไม่ลืมแต่อาจจะลองคิดเล่นๆสนุกๆเฉยๆ แต่คิดบ่อยๆอาจจะเผลอทำไปโดยลืมตัวก็ได้นะครับ
กฎทองเขาบอกว่า
1.อย่าขาดทุน (ผมชอบกฎข้อนี้มาก เพราะว่าการขาดทุนทำให้การเติบโตของพอร์ทถดถอยลง และต้องได้กำไรในเปอร์เซนต์ที่สูงกว่าจึงจะเสมอตัว)
2.ถ้าสงสัยกรณีใดๆก็ตามให้ย้อนไปดูกฎข้อ 1.
กรณีนี้มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนถ้าเป็นไปตาม โอกาสข้อ2.ซึ่งมีโอกาสสูงถึง 50/50
2. ความน่าจะเป็นที่ราคาหุ้นตัวนี้จะกลายเป็น 5 บาทหลังข่าวออกมาเป็นข่าวร้ายเท่ากับ 0.5
ดังนั้นวิธีซื้อก่อนหรือซื้อหลังก็ตาม
คุณจะซื้อหุ้นตัวนี้ ก่อน หรือ หลัง การแถลงข่าวครับ?
จึงไม่ผ่านกฎทองของบัฟเฟตต์ครับ........
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 7:15 pm
โดย CK
สามัญชน เขียน:
จึงไม่ผ่านกฎทองของบัฟเฟตต์ครับ........
อาจจะเป็นได้ว่า ข่าวที่ออก ถ้าเป็นข่าวร้าย จะเป็นข่าวร้ายชั่วคราว
ผลการดำเนินงานในระยะยาว จะกลับมาดีเหมือนเดิม?
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 8:12 pm
โดย สามัญชน
อาจจะเป็นข่าวร้ายชั่วคราวก็ได้ครับท่าน ck ซึ่งจะทำให้เราได้กำไร
หรือถ้าเป็นข่าวดีก็ทำให้ราคาหุ้นขึ้นไป 20 บาท ซึ่งเราก็ได้กำไร
แต่ก็ไม่คุ้มอยู่ดี ......
เพราะมีโอกาสที่ไม่ใช่ข่าวร้ายชั่วคราวตามทฤษฎีแมลงสาบที่ท่าน ck เคยพูดถึง และราคาจะตกลงไปถึง5บาทก็มีอยู่สุงมาก
นั่นคือมีโอกาสขาดทุนสูงมากถึง 50/50 ถ้าน้อยมากๆก็พอยอมรับได้
ที่จริงหุ้นที่มีโอกาสที่จะดิ่งนรกหรือขึ้นสวรรค์พอๆกันแบบนี้ ก็ไม่ควรซื้อตั้งแต่ต้น เพราะเสี่ยงขาดทุนจริงๆ
การขาดทุนเป็นอะไรที่เจ็บปวด ถ้าเราจะขาดทุนด้วยปัจจัยอื่นๆที่เราคาดไม่ถึงก็พอยอมรับได้ เพราะว่าเราคาดไม่ถึงและอนาคตเองก็มีความไม่แน่นอนโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
แต่การเล่นหุ้นแบบนี้เท่ากับเราไปเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวเราเอง ทวีคูณเข้าไป(จากแค่ธรรมชาติอย่างเดียว)อีก และเป็นการเพิ่มโดยที่ตัวเราก็รู้อยู่แล้วว่ามีความเสี่ยงสูง ทำทั้งๆที่รู้ไม่สมควรให้อภัยครับ ถ้าไม่รู้ยังให้อภัยได้ อิอิ 555 ล้อเล่น.....
เล่นแบบนี้เท่ากับเราเชื่อและชอบในเรื่อง high risk higs return ซึ่งผมก็เชื่อแต่ผมไม่ชอบ เพราะผมเชื่อว่ามันมี low risk high return อยู่จริง การค้นหาอาจจะลำบากเพราะมันมีน้อยและยังไงก็มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าเจอมันก็คุ้ม
วิธีแบบนี้ผมมองว่าเป็นการพนันอ่ะครับ ไม่ใช่การลงทุน
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 8:31 pm
โดย chatchai
ถ้าคุณคิดจะเก็งกำไรเรื่องข่าวต่างๆ คุณควรระวัง
เรามักจะคิดว่า ถ้าเป็นข่าวดี ราคาหุ้นมักจะตอบสนองทางบวก
หรือถ้าเป็นข่าวร้าย ราคาหุ้นมักจะตอบสนองทางลบ
แล้วเราก็มานั่งคิด นั่งเก็งว่า ข่าวที่จะประกาศจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย
บ่อยครั้งที่เราเก็งว่าเป็นข่าวดี จึงซื้อดักไว้ก่อนประกาศข่าว หวังจะขายหลังประกาศข่าว
เมื่อข่าวได้ถูกประกาศ เป็นข่าวดีตามที่เราคาดครับ
แต่ ราคาหุ้นไม่ตอบสนองทางด้านบวก แต่กลับตรงข้ามไปทางด้านลบ
นักวิเคราะห์ก็มักจะออกมาพูดว่า เป็นการขายทำกำไร เพราะราคาหุ้นขึ้นมารับข่าวล่วงหน้าแล้ว (ประโยคอมตะ)
ตรงกันข้าม หลายครั้งที่ประกาศข่าวร้าย แต่ราคากลับไม่ลง แต่สวนขึ้น
แล้วก็ตามมาด้วยประโยคอมตะของเหล่านักวิเคราะห์ ราคาหุ้นลงมารับข่าวล่วงหน้าแล้ว
:lol: :lol: :lol:
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 8:34 pm
โดย สามัญชน
ผมว่าสุมาอี้ก็ไม่เล่นนะ ดูจากม็อตโต้แล้ว บ่งบอกว่าระมัดระวังสุดๆ ไม่ได้เล่นหุ้นพร่ำเพรื่อเลย.........
โอกาสที่เห็นแล้ว
เท่านั้นถึงจะน่าซื้อ
ผมจะซื้อเฉพาะหุ้นที่ ไม่ซื้อก็บ้าแล้ว
หุ้น ถ้าต้องขายถึงจะมีกำไร ผมจะไม่ซื้อ
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 8:37 pm
โดย Doramon007
ผมว่าถ้าความเสี่ยง 50/50 ผมว่าไม่น่าเสี่ยงครับ สำหรับนักลงทุนแบบ VI ถ้าจะลงทุนโอกาสน่าจะมากกว่า 70% ครับ ถึงจะได้น้อยก็ไม่เป็นไร ในความคิดของผมน่ะครับ
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 8:37 pm
โดย สามัญชน
นักวิเคราะห์ก็มักจะออกมาพูดว่า เป็นการขายทำกำไร เพราะราคาหุ้นขึ้นมารับข่าวล่วงหน้าแล้ว (ประโยคอมตะ)
ตรงกันข้าม หลายครั้งที่ประกาศข่าวร้าย แต่ราคากลับไม่ลง แต่สวนขึ้น
แล้วก็ตามมาด้วยประโยคอมตะของเหล่านักวิเคราะห์ ราคาหุ้นลงมารับข่าวล่วงหน้าแล้ว
ถูกใจครับท่านฉัตรชัย ผมเจอกับตัวเองบ่อยมากเลยครับ
ผมเข็ดแล้วครับ.......
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 10:25 pm
โดย yoyo
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ ก็ซื้อก่อนประกาศไม่เกิน 20% ของ port ที่ราคา 10 บาท
หลังจากประกาศแล้ว expected price อยู่ที่ .5*20+.5*5= 12.5 บาท ผมจะมีกำไรที่คาดหวังประมาณ 25% แบบนี้น่าเล่น
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 10:38 pm
โดย yoyo
yoyo เขียน:ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ ก็ซื้อก่อนประกาศไม่เกิน 20% ของ port ที่ราคา 10 บาท
หลังจากประกาศแล้ว expected price อยู่ที่ .5*20+.5*5= 12.5 บาท ผมจะมีกำไรที่คาดหวังประมาณ 25% แบบนี้น่าเล่น
ขอเพิ่มเงื่อนไขเพิ่มอีกนิด ...
หลังจากประกาศข่าวออกมา ไม่ว่าราคาหุ้นจะเป็นเท่าไหร่ 20 หรือ 5 บาท ผมขายทุกราคา เพราะไม่รู้ว่าราคาเหมาะสมของหุ้นควรเป็นเท่าไหร่หลังจากประกาศ
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 10:42 pm
โดย miracle
ตลาดขึ้นSPและHไว้ก่อนประกาศ
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 12, 2006 11:33 pm
โดย prin
ไม่คิดมากครับ หากไปเทียบความจริงมากจะตอบลำบาก
ผมคิดว่าถ้าเรามีอยู่แล้ว 100,000 หุ้น แน่นอนครับว่าเราลงทุนแบบ VI ดังนั้น
ถือไว้ก่อน รอหลังข่าว
ถ้ามันขึ้น เราก็จะได้ gain 100,000 บาท แล้วค่อยมาดูกันว่าราคามันเกินพื้นฐานหรือยัง? หากเกินก็ขายตอนนี้ครับ
ถ้ามันลง เราจะขาดทุนไป 50,000 บาท แล้วพิจารณาว่าพื้นฐานยังดีหรือเปล่า ถ้าตอบสนองชั่วคราว ก็ซื้อเพิ่มได้อีกตั้ง 200,000 หุ้นครับ
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 13, 2006 12:29 am
โดย Rocker
แล้วแต่นิสัยของแต่ละท่าน
ส่วนตัวคงซื้อหลังประกาศข่าว เพราะสถาณการณ์แบบนั้นเคยเจอเช่นกัน
คือประกาศแล้วดูทิศทางราคาว่าจะตอบสนองหรือไม่บางที
ออกทั้งข่าวดี ก็ไม่สนองหรือ ร้ายก็ไม่สนอง
ผมเอาsureๆดีกว่าครับ เกลียดการล้างจานหลังงานเลิก
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 13, 2006 1:19 am
โดย ksnk
เห็นด้วยครับตาม game theory ควรซื้อก่อน
(กำไร/ขาดทุน ลบ.)
ข่าวดี ข่าวร้าย
ซื้อก่อน +2.0 -1.0
ซื้อทีหลัง +1.0 -0.5
แต่ถ้าแนว vi เราไม่ควรมองผลประกอบการรายไตรมาส น่าจะดูพื้นฐานบริษัทในระยะยาวๆๆๆ...... และราคาที่เราซื้อที่มี margin of safety
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 13, 2006 2:47 am
โดย HIP=POPURUS
โดยส่วนตัวผมว่าซื้อก่อนประกาศครับ เพราะว่าบริษัทที่เราลงทุนแล้วต้องผ่านเกณฑ์การคัดสรรมาอย่างดี และถึงแม้ว่างบจะออกมาไม่ดีดังที่เราคาดเราก็ต้องวิเคราะห์ดูว่าไม่ดีเพราะอะไรเป็นการชั่วคราวหรือเปล่า และถ้าบริษัทนี้มีผลการดำเนินงานเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ จากตอนแรกที่เราซื้อ ถ้าใช่ก็คงต้องขายทิ้งอย่างเดียว
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 13, 2006 7:44 am
โดย สุมาอี้
ช่วยกันคิดไปเรื่อยๆ ก็เริ่มได้คำตอบที่เข้าเค้าแล้วล่ะครับ
ปริศนาการลงทุน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 13, 2006 8:03 am
โดย jiras
ขายของเก่าทิ้งเปลี่ยนตัวลงทุน