เปรียบมวยระหว่าง PL กัย KCAR
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 07, 2006 11:23 am
หุ้น 2 นี้ดูคล้ายๆแต่ไม่เหมือนครับ เลยเอามาเปรียบเทียบเพื่อช่วยในการตัดสินใจ (ข้อมูลอาจไม่ถูกต้อง 100%)
1.ลักษณะของธุรกิจ
อันนี้ทั้ง 2 ตัวเป็น operative lease (หารถมาให้เช่า) เหมือนกัน
คะแนน pl 10 kcar 10
2. ลักษณะการลงทุน
pl ออกหุ้นกู้ + ตั๋วเงินระยะยาว มาซื้อรถให้ลูกค้าเช่า
kcar ใช้เงินกู้ระยะสั้นอายุ < 1 ปี จะกู้เงินมาซื้อรถก็ต่อเมื่อมีลูกค้าเท่านั้น
3. ลูกค้า
pl นิติบุคคลอย่างเดียว ระยะเวลาเช่า 3-5 ปี
kcar นิติบุคคล 82.5% บุคคลธรรมดา 17.5% ระยะเวลาเช่า 1-3 ปี
จากข้อ 2-3 ดังนั้น kcar จึงควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า
คะแนน pl 9 kcar 10
4. ขนาดของสินทรัพย์
pl สินทรัพย์(รถเช่า) ประมาณ 4000 ล้าน
kcar สินทรัพย์(รถเช่า) ประมาณ 1525 ล้าน แต่มีแนวโน้มสูงขึ้น
คะแนน pl 10 kcar 9
5. อัตรากำไรสุทธิ
pl 11.6% ลูกค้าบางส่วนสามารถซื้อรถจาก pl ได้เมื่อสิ้นสุดสัญญา
kcar 22.6% เนื่องจาก kcar มีบริษัทขายรถมือสองเป็นของตัวเองประกอบกับ kcar จะได้รถเช่าคืนมาทั้งหมด
คะแนน pl 8 kcar 10
6. ลักษณะของกำไร (ปี 2548)
pl กำไรจากการขายรถเก่า 50 ล้าน จากการให้เช่า 131 ล้าน
kcar กำไรจากการขายรถเก่า 78ล้าน จากการให้เช่า 86 ล้าน
7.การเติบโต (ปี 46-48)
pl กำไรขึ้นกับอัตราดอกเบี้ย ดอกเบี้ยต่ำ >> ออกหุ้นกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ >> margin ดีขึ้น ส่วนดอกเบี้ยสูงก็ตรงกันข้าม
kcar ใช้วิธีคล้ายๆกินส่วนต่างของ ค่าเช่า - ดอกเบี้ยเงินกู้ margin เลยค่อนข้างคงที และกำไรโต 3 ปีซ้อน
คะแนน pl 9 kcar 10
8. ค่า p/e (กำไรต่อไตรมาสสม่ำเสมอเลยใช้วิธี *2 กับ *4)
pl ประมาณ 6.25
kcar ประมาณ 7.14
9. dividend yield
pl จ่าย 50% ของกำไรสุทธิ คาดว่าจะจ่าย 0.4/2 = 0.2 บาท ประมาณ 8%
kcar จ่าย 60% ของกำไรสุทธิ คาดว่าจะจ่าย 0.7*0.6 = 0.4 บาท ประมาณ 8% (กำไรคิดจาก 0.17*4)
คะแนน pl 10 kcar 10
สรุปจากความเห็นของผม
kcar เป็นคู่แข่งโดยตรงของ pl ซึ่งโดยรวมแล้ว kcar บริหารธุรกิจได้ดีกว่า น่าจะมีอัตราการเติบโตสูงกว่า แต่ ถ้าอัตราดอกเบี้ยเริ่มลดลง pl จะมีกำไรดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมากกว่า kcar จาก margin ที่ต่ำกว่า และกำไรขึ้นกับอัตราดอกเบี้ยมากกว่า
1.ลักษณะของธุรกิจ
อันนี้ทั้ง 2 ตัวเป็น operative lease (หารถมาให้เช่า) เหมือนกัน
คะแนน pl 10 kcar 10
2. ลักษณะการลงทุน
pl ออกหุ้นกู้ + ตั๋วเงินระยะยาว มาซื้อรถให้ลูกค้าเช่า
kcar ใช้เงินกู้ระยะสั้นอายุ < 1 ปี จะกู้เงินมาซื้อรถก็ต่อเมื่อมีลูกค้าเท่านั้น
3. ลูกค้า
pl นิติบุคคลอย่างเดียว ระยะเวลาเช่า 3-5 ปี
kcar นิติบุคคล 82.5% บุคคลธรรมดา 17.5% ระยะเวลาเช่า 1-3 ปี
จากข้อ 2-3 ดังนั้น kcar จึงควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า
คะแนน pl 9 kcar 10
4. ขนาดของสินทรัพย์
pl สินทรัพย์(รถเช่า) ประมาณ 4000 ล้าน
kcar สินทรัพย์(รถเช่า) ประมาณ 1525 ล้าน แต่มีแนวโน้มสูงขึ้น
คะแนน pl 10 kcar 9
5. อัตรากำไรสุทธิ
pl 11.6% ลูกค้าบางส่วนสามารถซื้อรถจาก pl ได้เมื่อสิ้นสุดสัญญา
kcar 22.6% เนื่องจาก kcar มีบริษัทขายรถมือสองเป็นของตัวเองประกอบกับ kcar จะได้รถเช่าคืนมาทั้งหมด
คะแนน pl 8 kcar 10
6. ลักษณะของกำไร (ปี 2548)
pl กำไรจากการขายรถเก่า 50 ล้าน จากการให้เช่า 131 ล้าน
kcar กำไรจากการขายรถเก่า 78ล้าน จากการให้เช่า 86 ล้าน
7.การเติบโต (ปี 46-48)
pl กำไรขึ้นกับอัตราดอกเบี้ย ดอกเบี้ยต่ำ >> ออกหุ้นกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ >> margin ดีขึ้น ส่วนดอกเบี้ยสูงก็ตรงกันข้าม
kcar ใช้วิธีคล้ายๆกินส่วนต่างของ ค่าเช่า - ดอกเบี้ยเงินกู้ margin เลยค่อนข้างคงที และกำไรโต 3 ปีซ้อน
คะแนน pl 9 kcar 10
8. ค่า p/e (กำไรต่อไตรมาสสม่ำเสมอเลยใช้วิธี *2 กับ *4)
pl ประมาณ 6.25
kcar ประมาณ 7.14
9. dividend yield
pl จ่าย 50% ของกำไรสุทธิ คาดว่าจะจ่าย 0.4/2 = 0.2 บาท ประมาณ 8%
kcar จ่าย 60% ของกำไรสุทธิ คาดว่าจะจ่าย 0.7*0.6 = 0.4 บาท ประมาณ 8% (กำไรคิดจาก 0.17*4)
คะแนน pl 10 kcar 10
สรุปจากความเห็นของผม
kcar เป็นคู่แข่งโดยตรงของ pl ซึ่งโดยรวมแล้ว kcar บริหารธุรกิจได้ดีกว่า น่าจะมีอัตราการเติบโตสูงกว่า แต่ ถ้าอัตราดอกเบี้ยเริ่มลดลง pl จะมีกำไรดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมากกว่า kcar จาก margin ที่ต่ำกว่า และกำไรขึ้นกับอัตราดอกเบี้ยมากกว่า