Thai VI

เพราะสามารถมีวิธีเพิ่มมูลค่าเป็นพันวิธี

นั่นสิครับ
ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกัน
สำหรับคนทั่วไปอย่างผมคิดว่าเงินสดดีกว่าอยู่แล้ว
เพราะผมมองไม่ออกเหมือนผู้ที่มีวิสัยทัศน์ดี

เห็นนักธุรกิจ ผู้มีเงิน ถึงรวยจากอย่างอื่น ก็มักจะโดดไปทำอสังหา
หรือโครงการต่างๆนาๆ
เศรษฐีบ้านเราก็รวยจากอสังหากันเยอะ

สงสัยจะมีเสน่ห์จริงๆแหละครับ

แล้วแต่คนชอบมั้งครับ

ADI เขียน:แล้วแต่คนชอบมั้งครับ

ครับ

น่าจะบอกว่าแล้วแต่ถนัดด้วยนะ

บางคนซื้ออสังหาแล้วก็ไม่รู้จะเอาไปทำไร

บางคนมีเงินก็ไม่รู้จะทำไรเหมือนกัน

ก็แล้วแต่ดวงอีกเหมือนกัน

บางคนซื้ออสังหาแล้วขึ้น
แต่มีเงินสดไม่ค่อยได้ ใช้หมด

สำหรับผมชอบมีเงินมากกว่า เสน่ห์ของเงินคือเอาไปซื้ออสังหาเมื่อไรก็ได้
ส่วนอสังหาแปลงเป็นเงินค่อนข้างใช้เวลา
แต่ที่ดีๆ บางทีก็โดนคนจับจองไปหมดเหมือนกัน
ถ้าคิดจะหาอสังหาเพื่อทำการค้า เสน่ห์อสังหาก็อาจจะดีกว่าเงิน
เพราะบางทีมีเงินแต่ก็หาที่ดีๆไม่ได้เหมือนกัน

ดูเหมือนช่วงนี้จะเป็นช่วงโอนบ้านกันคับ

บางคนกลุ้มหนัก  กู้ไม่ผ่านเยอะเหมือนกัน

เพราะเงินผ่อนเพิ่มขึ้น   แต่ฐานรายได้เท่าเดิม

กำลังนึกว่าเขามีวิธีเพิ่มมูลค่าไง

ในเมื่อยึดหลัก  

ซื้อถูกขายแพง

ผมเคยอ่านหนังสือของดร. นิเวศน์ แกเขียนไว้ว่าลงทุนในอสังหามีแต่เอาเงินไปจม...แต่ผมว่ามันแล้วแต่ทำเลและการคาดการณ์อนาคตของพื้นที่นั้นๆ
และถ้ามีเงินเย็นก็น่าสนใจกว่าครับ...  :shock:  :shock:

เงินสดนั้น  ยังไงก็เหมือนกันครับ  จริงไหม

แต่ที่ดิน  ไม่มีแปลงไหนเหมือนกันเลย  บางครั้งมีเงินก็วื้อไม่ได้ครับ

กลุ่มเซ็นทรัลเลยให้ราคาที่ดินแปลงสถานทูตอังกฤษ  ถึงตร.ว.ละ 950,000 บาท

ต่อไปมีเงินก็อาจจะซื้อที่ดินแปลงใหญ่ๆใจกลางเมืองไม่ได้ครับ

แต่ซื้อมาแพงขนาดนั้นจะมีวิธีเพิ่มมูลค่าเป็น
100เท่าได้หรือคับ
เว้นแต่  โซนนั้นมีอะไรที่น่าสนใจกว่า
สยามพารากอน หรือ  มาบุญครอง

ที่น่าสนใจก็คือ  แปลงนั้นอยู่ใกล้กับเซ็นทรัลชิดลมครับ

ถ้าต่อยอดตรงนี้ก็มีเหตุผลนะผมว่า  

หรือ การทำสำนักงานให้เช่า มีความต้องการเพิ่มขึ้น

ก็เพราะเขาทำ valuation จาก "best use" ของเขาไงครับ ซึ่งตรงนี้แต่ละคนคงไม่เท่ากันครับ เอาเป็นว่าจากการทำ valuation ของเขาเนี่ย สงสัยจะได้มูลค่าเยอะจริงๆ ทิ้งห่างกลุ่มที่ 2 ที่ 3 กระจุยกระจาย

ที่ดินมีเสน่ห์ในตัวมันเองครับ

แล้วแต่ละคนก็ตีค่าไม่เหมือนกัน

เช่นถ้ามีที่ตาบอดอยู่สัก 30 - 50 ไร่
แล้วที่ติดถนนข้างหน้าบอกขายสัก
5 เท่าของราคาบกติ ซัก  1-2 ไร่
เราอาจต้องซื้อครับเพราะว่าทำให้ที่ดินเรามีค่ามากขึ้นมากๆ

ดังนั้นมันก็มีวิธีที่ทำให้ค่ามันมากขึ้นได้ หลายๆ แบบน่ะครับ  :D
เงินจมแต่ว่า ส่วนใหญ่ที่ดินนี่มีความเสี่ยงเรื่อง liquidity เท่านั้นน่ะครับ
เพราะว่าถ้าถือเกิน 10 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่ก็กำไรทุนคนโดยไม่ต้องใช้ความรู้มากนัก

sunrise เขียน:ถ้าถือเกิน 10 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่ก็กำไรทุนคนโดยไม่ต้องใช้ความรู้มากนัก

คงมีกรณียกเว้น  ถ้าซื้อเมื่อปี 39   ปัจจุบันอาจจะยังขาดทุนอยู่ก็ได้  ยิ่งถ้าเป็นที่ดินต่างจังหวัด

I agreed with Khun Chatchai. I bought 1 piece of land in Bangkok at 2 million Baht in 1996. I just sold this land at 1.5 million Baht this year and this is the best price that I could get as I tried to sell this land for more than 3 years. I also had to pay 3% commission and transfer fee which is total around 80,000 Baht. So, I got only 1.42 million Baht.

Beside liquidity, another big problem of land is transaction costs which are minimum around 6% (transfer fee 2%, specific tax 3.3% and income tax ?%). So, the minimum return should be more than 10%.

เราเคยได้ยินบ่อยว่าคนโน้นคนนี้รวยจากที่ดิน แต่ใครจะรู้บ้างว่า จริงๆ แล้วแค่ซื้อเฉยๆ โอกาสรวยแทบเป็นศูนย์

คนกว้างขวางในท้องถิ่นสามารถรวยจากการซื้อที่ดินได้ ด้วยการซื้อที่ดินแปลงห่วยๆ ถูกๆ มา แล้วก็วิ่งเต้นให้รัฐฯ ตัดถนนเข้ามา พอตัดเสร็จก็ค่อยขาย

ถ้าคุณไม่มี "ตัวช่วย" แบบนี้ กำไรยากมากครับ ต้อง "ฟลุ๊ค" จริงๆ เท่านั้น

นายตัน รู้จักกับนายวันชัย มีอยู่วันหนึ่งนั่งรถผ่านที่แปลงหนึ่งในชลบุรีด้วยกัน นายวันชัยพูดให้นายตันฟังว่า ที่แปลงนี้สวยมากเหมาะที่จะขึ้นห้างเซ็นทรัล ภายในสองอาทิตย์ นายตัน ไปคุยกับเจ้าของที่ทุกแปลงมาให้เรียบร้อย และซื้อแปลงข้างๆ ไว้ด้วย นายตัน เสนอขายให้เซ็นทรัลแบบไม่เอากำไร แต่บอกนายวันชัยตรงๆ ว่าที่ทำให้ก็เพราะหวังจะได้กำไรจากแปลงข้างๆ  

ถ้าคุณไม่มี "ตัวช่วย" แล้วคุณมีวิธีคิดแบบนายตันหรือเปล่า ถ้าซื้อแบบนอนรอโชคอย่างเดียว เลิกคิดไปได้เลยครับกับการซื้อที่ดิน

ก็แล้วแต่ความถนัด
ไม่ว่าอสังหาหรือหุ้นก็ต้องวางแผนสำรองไว้ว่าถ้าไม่เป็นไปตามที่คิดไว้จะทำอย่างไร ถ้าหุ้นก็ทำได้แค่ cut loss หรือถือไว้ แต่อสังหามีวิธีเพิ่มมูลค่าได้หลายแบบ ช่วงราคาขายและเช่าจะค่อนข้างกว้าง
อีกอย่างอสังหามันดีตรงที่กู้เงินมาลงทุนได้เยอะ อสังหาที่เป็นที่อยู่อาศัยสำเร็จรูปกู้ง่ายมากถ้าเที่ยบกับการกู้เงินไปลงทุนแบบอื่น
ส่วนตัวผมคิดว่าอสังหานี่ถ้าฝึกไปเรื่อยๆแล้วสามารถทำกำไรได้มากกว่าหุ้นเยอะครับ

เคยได้ยินเรื่อง  คนพยายามบริจาคที่ดินของตนเองให้มหาวิทยาลัยไหมครับ

คนเหล่านั้นบริจาคที่ดินบางส่วนของตน  เพื่อให้ที่ดินส่วนที่เหลือรอบๆมีราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในอนาคต

งานนี้ได้ทั้งชื่อเสียงและเงินทอง

[quote="chatchai"]เคยได้ยินเรื่อง

เวลาถือเงินสดอยู่นี้มันยากจริงๆ นะครับ เพราะมันจะเกิด wishy washy thoughts ตลอดเวลา ว่าตัวนั้นตัวนี้ซื้อได้

มีโอกาสเมื่อไรต้องรีบมีหุ้นให้เต็มพอร์ต หึ่ม  :x

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ หรือ บ้านและที่ดิน...

ผมยอมรับว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และสำคัญมาก คนเราในโลกต้องมีบ้าน
และที่อยู่อาศัยกันทั้งนั้น ถ้ามองเฉพาะประเทศไทย ทุกคนก็ต้องการ
มีบ้านพักไว้หลับนอนอยู่อาศัยเช่นกัน มันเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยสี่ คือ
เสื้อผ้า, อาหาร, ที่อยู่, และ ยารักษาโรค!!

แต่อย่าลืมว่า เมื่อเรามีพร้อมด้วยปัจจัยสี่แล้ว เรามักมองหาปัจจัย
อื่นๆในการดำรงชีวิตต่อไป เช่น มีเงินทองไว้จับจ่ายซื้อของใช้ต่างๆ
ทั้งจำเป็นและฟุ่มเฟือย

ส่วนหุ้นเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของพ่อมดทางการเงินและธุรกิจ มันอาจ
ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตเราโดยตรง แต่ก็ดูเหมือนจะหนีไม่พ้นเหมือนกัน!!!

แล้วแต่ความชอบจริงครับ

มีที่ดินซักผืน หรือ คอนโดให้เช่าใว้มันก็ภูมิใจดีนะ เวลาขับรถผ่านก็ชี้อวดเพื่อนได้ "เฮ้ย กูมีห้องให้เช่าอยู่ตึกนี้ด้วย สวยมะ" และก็จะเป็นtopicคุยกันได้ต่อเพราะคนเข้าใจง่าย

เปรียบเทียบ "เฮ้ย กูมีหุ้นWGด้วย แสนหุ้น" เพื่อนคง "เหรอๆ" แล้วก็จบ ไม่มีใครถามต่อ

เหอๆ แซวเล่นคับ