Thai VI

ชั้นหิน ใน กทม. ข้อมูลล่าสุด จากอาจารย์  AIT  บอกว่า อยู่ที่ ระดับลึก ประมาณ 450 เมตรครับ  
ส่วนใหญ่ เราจะให้อยู่บนชั้นทราย....

ในกรุงเทพชั้นหินลึกมากๆครับ เป็นร้อยเมตร
ปกติตึกสูงๆหรือโครงสร้างใหญ่ๆ ใช้เข็มเจาะกันลึกสุดก็ ประมาณ 60 เมตรครับ

แบบนี้เสี่ยงไหมคับสำหรับตึกเมื่อ10-40ปีก่อน

ดินเหนียวอยู่ประมาณ 0-20 เมตร
ดินทรายชั้นแรกอยู่ลึกประมาณ 20 เมตร
การสร้างตึกที่ใช้เข็มเจาะไม่จำเป็นต้องให้ลึกถึงดินทรายชั้นที่ 2(อาจจะลึกเกิน 50-60 เมตร) ครับ เพราะอยู่ระดับดินเหนียวแข็งก็เพียงพอครับ

กทม เป็นพื้นที่  ที่เกิดจากการสะสมตะกอนบริเวณปากแม่น้ำในอดิตมาเป็นหมื่น  แสน ปี   เพราะว่าอยู่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา   จึงมีชั้นดินเหนียวเยอะมากครับ  หนาโดยประมาณต่าเฉลี่ย  20  ม.  มีชั้นทรายอยู่ที่  20  เมตร  เหมือนที่คุณ  WJ. ว่าไว้

ชั้นดินเหนียวมีความน่ากลัวตรงที่เรื่องของแผ่นดินไหว  พฤติกรรมของชั้นดินเหนียวจะขยายหรือว่า เพิ่ม amplitude  ของแรงแผ่นดินไหวได้ คัรบ  โชคดีที่ กทม  อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว  epicenter  ครับ  เลยบรรเทาไปได้  แต่ใครจะคิดหล่ะครับ  สึนามิ  ที่ว่าไม่มีใครเคยเจอมาหลายชั่วคน  ไม่มีใครคิดว่าเกิดได้  ยังเกิดให้เห็นเลยครับ  

เมืองที่อยู่ใต้เขื่อนคงนอนไม่ค่อยหลับเท่าไร  พูดไปก็สงสารคนเมืองกาญจน์  รัฐน่าจะจัดงบประมาณมาทำแบบจำลองย่อส่วน  จำลองน้ำไหล  จำลองสภาพภูมิประเทศ  แล้วลองทำสภาพเขื่อนให้แตก  แล้วจะได้รู้ว่า  ถ้าเขื่อนแตก น้ำจะไหลไปทีได้บ้าง  ในเวลาเท่าไร  ระดับความสูงของน้ำเป็นอย่างไร  ณ.ตำแหน่งได  มีเวลาเท่าไรในการหนีไปสู่ที่ปลอดภัย ( การย่อส่วนนั้น ทำได้ทั้งทางด้าน  ขนาด  เวลา  ความเร็ว  ความหนืด )  แล้วทำการเผยแพร่ให้ชาวบ้านรู้  ความปลอดภัย  มีค่ามากกว่า เงินทองที่ลงไปมากๆๆๆ  ครับ
การจำลองแบบย่อส่วนในการทดสอบนั้น  เป็นวิทยาการง่ายๆ  ไม่ยากหรอกครับ  เพียงแต่จะทำรึไม่  แค่นั้นเอง  เทคโนโลยี่การทดสอบ ผมเองเชื่อว่า บ้านเราทำได้    ด้วยงบประมาณไม่มากด้วย

อิอิอ  แต่ไม่ทำ  

ข้อเสียของดินเหนียวอีกเรื่องที่เจอประจำคือ เมื่อมีการใช้เสาเข็ม   แล้วมีแรงกระทำต่อเสาเข็ม  ดินจะต้านแรงที่กระทำโดยการหนีบเสาเข็มไว้  เรียกว่าต้านโดยแรงเสียดทาน  ถ้าปลายเสาเข็มวางอยู่บนชั้นทราย ชั้นทรายจะช่วยยันที่ปลายเสาเข็มไว้อีกด้วยเป็นแรงต้านอีกตัว  
โดยเฉพาะเสาเข็มสั้นที่ไมได้วางบนชั้นทราย    เสาเข็มจะมีการทรุดตัวมาก    ดังนั้น  ถ้าหากว่า มีใครคิดจะต่อเติมบ้าน เล็กๆ  แล้วใช้เสาเข็มสั้น  เช่น  เสาเข็ม 6 เหลี่ยม   15 ซม.  ยาว 6 เมตร  ที่ใช้คนตอกนะครับ  ถ้าเป็นแบบนั้น  อย่าเอาแต่พิจารณาว่าเสาเข็มรับ น้ำหนักปลอดภัยได้เท่าไร  ใฟ้ห้พิจารณาค่าการทุรดตัวของเสาเข็มด้วยนะครับ  ว่าอย่าให้มากเกินไป  ไม่งั้น บ้านส่วนที่ต่อเติม ทรุดตัว เห็นมาเยอะแยะครับ พูดง่ายๆ  ใส่เสาเข็มแบบนี้ เยอะๆ เข้าไว้นะครับ  ....  อิอิอิ  เรื่องรูปหล่อเป็นรองครับ

และนั่นคือเหตุผลว่า ทำไมอาคารขนาดเล็กๆทั่วไป  ส่วนใหญ่จึงต้องใช้เสาเข็มขนาดความยาว  20-25 เมตร  เพื่อให้ปลายเสาเข็มลงไปยืนที่ชั้นทราย  เพื่อจะได้ลดการรุดตัว  และมีการรับน้ำหนักที่ดีครับ

แต่ถ้าน้ำหนักกระทำต่อเสาเข็มมีมากกกกก  ก็ต้องลงไปชั้นทรายชั้นถัดไป  คือชั้นที่ 2 ครับ

ตึกแถวรุ่นก่อนๆ  ถ้าใช้เสาเข็มไม้  แล้วถ้าไม้เสื่อสภาพเมื่อไร  ตึกจะทรุดจนอยู่ไมได้เองครับ  ตึกแถว..แถวท่าพระที่อยู่ติดถนนตามแนวอุโมงค์ท่าพระนั้น  ก็ใช้เสาเข็มไม้ครับ  รุ่นก่อนๆนะครับ  

บ้านญาติผม ที่เคยใช้เสาเข็มไม้  ตอนหลังเสาเข็มไม้เสื่อสภาพ  ก็เละครับ  บ้านทรุดจนอยู่ไม่ได้  กลัวเรื่องความปลอดภัย  เลยต้องทุบครับ

ถ้าเสาเข็มคอนกรีต  ก็คงไม่น่ากลัวอะไร  อายุเสาเข็มมีเท่าไร  อยากรู้หมือนกันว่านานเท่าไรถึงเสื่อม  ( หมายถึงเหล็กในเสาเข็มหมดสภาพไปเลย เนื่องจากอยู่ในน้ำ )   น่าจะเกิน  100  ปี มังครับ  ใครรู้บอกที

นอกนั้นบอกได้ว่า  ตึกสูงมากๆ  ในบ้านเรา  หรือว่า สะพานแขวนต่างๆ  ที่ข้ามเจ้าพระยานั้น  ก็ ปลายเสาเข็มวางอยู่บนชั้นทรายครับ  เรื่องความปลอดภัยนั้น  ให้พิจารณา
1...  ออกแบบ ตามมาตรฐานการออกแบบ  
2...  การก่อสร้าง  ตามมาตรฐานการก่อสร้าง  

ถ้า ทั้ง 2 ขั้นตอน  ได้ควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว  ก็ไม่ต้องห่วงนะครับ


เรื่องชั้นหินที่อยู่ลึกไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว


เมืองใหญ่ที่มีลักษณะชั้นดินเหนียวหนาเหมือนบ้านเราคือ  เม็กซิโกซิตี้ คัรบ

นอนหลับสบายเถอะครับ  

ฝันเผื่อชาวเมืองกาญจน์ด้วยก็ดีครับ  
ฝันว่าจะได้มีงบออกมาในเรื่องการทดสอบการไหลของน้ำเมื่อเขื่อนแตก  แล้วเผยแพร่ให้ชาวบ้าน  ทุกคนได้มีสิทธิ์รับรู้    ผลกระทบจากสิ่งก่อสร้างที่รัฐสร้างเอาไว้ครับ   ..........ไม่แพงแล้วก็ไม่ยากอย่างที่คิดหรอกครับ

สงสัยว่า ช่างสมัยก่อนทำยังไง ทำไมวัดพระแก้ว และวัดเก่าๆในเขตเมืองเดิม ไม่ทรุด

เคยได้ยินมาว่าเขาใช้ วิธีทำให้ลอยอยู่บนโคลน จริงหรือเปล่าครับ

ฮิฮิ ได้โอกาส ขอถามพี่ san เป็นความรู้หน่อยนะครับ สมัยก่อนตอนเรียนอยู่มัธยมต้น มาสเตอร์เคยบอกว่าตึกที่เราเรียนกันอยู่นี่ข้างล่างใช้ระบบน้ำ ฟังแล้วผมก็ยังไม่เข้าใจมาจนถึงทุกวันนี้รบกวนช่วยไขความกระจ่างให้หน่อยนะครับ

ถามอีกอย่างคับ

ชั้นทรายกับชั้นดินเหนียว

เวลาแผ่นดินไหว

จะมีผลต่างกันไหมคับ

ขออนุญาตตอบนะครับ
เท่าที่ได้ยินเล่ากันมา
มีโอกาสจะผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้นะครับ

ตึกอาคารเก่า ๆ จะไม่มีเข็มครับ
แต่ว่าจะสร้างอยูบนแพขอนไม้
คือเอาขอนมาวางทับ ๆ กันเป็นแพ
แล้วสร้างตึกไว้บนแพนั้น

บ้านผมเองใกล้น้ำ ใกล้คลอง
ถ้าตอกเข็มต้อง 15-20 เมตรครับ
แต่ว่าเข็มจริงบ้านผม 10 เมตร
เพราะว่าแต่ละเสารองรับด้วยเข็มไม้
ตอกลงไปเป็นบล็อก 5 คูณ 5
แรงเสียดทานกับดินก็จะพอพยุงตัวบ้านอยู่ได้

นี่ก็ 20 ปีแล้วครับ
เริ่มหวาด ๆ ...............
มีปีนึง ไอ้พวกร่อนทองริมคลอง
มันมุดท่อเข้ามาใต้บ้านผม มาร่อนทอง
พวกล่อขุดเอาดินออกไปด้วย
จำได้ว่าตอนขนดินกลับมาโปะ
ต้องใช้ดินประมาณ 2 คันรถสิบล้อ
กับซีเมนต์อีกหลายสิบถุง......  :shock:



ที่ท่านพี่ woody พูดถึงนี่คือตึกแดงใช่ไหมครับ
เคยมองลงไปข้างล่าง เห้นเป็นคานปูนและท่อนซุง
เลยเดาว่าน่าจะใช้ระบบแพซุงกระมังครับ

เด็ก ๆ เคยโดนหลอกด้วยแหละ
บอกกันว่าเป็นคุกขังเด็กมั่ง
บอกว่าข้างล่างมีจรเข้มั่ง
ไอ้ตอนนั้นด้วยความเด็ก ไอ้เราก็กลัวจริง ๆ  :lol:

เท่าที่รู้นะครับ   เขาเอาไม้มาวางนอนเรียงเป็นแถว แล้วชั้นถัดขึ้นมาก็วางเป็นแถว  แต่วางในแนวที่ตั้งฉากกับแนวที่ชั้นก่อนหน้านี้  (  เป็นแนวกริดนะครับ )  ส่วนว่าจะวางขึ้นมากี่ชั้น    ไม่รู้จริงๆ  ครับ  การทำแบบนั้น  คล้ายๆกันทำเป็นแพ     มันจะเท่ากับ  เป็นการกระจายน้ำหนัก จากเสาลงดิน     โดยเป็นการเพิ่มพื้นที่เพื่อการกระจายน้ำหนักลงดิน  ทำให้หน่วยแรงกดจากน้ำหนักเสาที่กระจายลงดินลดลงครับ  ตัวอย่างวิธีเดียวกันคือ  รองเท้าที่เดินบนหิมะคัรบ  ที่ทำให้มีพื้นที่รองเท้าที่กดลงบนหิมะเพิ่มขึ้นนะครับ  
อันนี้ผมเองก้ต้องขอประทานโทษด้วยครับ  ไม่เข้าใจเหมือนกัน


เทคโนโลยี่ ที่น่าศึกษาตอนนี้  คือ สะพานที่เชื่อมจากปักกิ่งไป ทิเบต ครับ

ความรู้ใหม่......  ที่ว่าทำยังไงให้  ฐานรากสะพานที่วางอยู่บนน้ำแข็ง  ไม่มีปัญหา  เมื่ออุณหภูมิ เปลี่ยนไป  เมื่อเป็นหน้าร้อน  หน้าหนาว     ผมเองก็ยังไม่เข้าใจ  แต่ว่า  นักวิทย์ของ จีน เขาคิดแล้วก็ทำไว้  ต้องศึกษารายละเอียดของวิธีการอีกทีครับ  ถ้าใครเข้าใจ  วานอธิบายทีครับ

[quote="Capo"]

ที่ท่านพี่ woody พูดถึงนี่คือตึกแดงใช่ไหมครับ
เคยมองลงไปข้างล่าง เห้นเป็นคานปูนและท่อนซุง
เลยเดาว่าน่าจะใช้ระบบแพซุงกระมังครับ

เด็ก ๆ เคยโดนหลอกด้วยแหละ
บอกกันว่าเป็นคุกขังเด็กมั่ง
บอกว่าข้างล่างมีจรเข้มั่ง
ไอ้ตอนนั้นด้วยความเด็ก ไอ้เราก็กลัวจริง ๆ

เรียนถามพี่ san ครับผม

เพิ่งได้อ่านคำตอบของพี่ san ก่อนหน้า
เรื่องเกี่ยวกับเข็มไม้ ....ก็เลยชักหวั่น ๆ แล้วครับ  :(

ไม่ทราบว่าโดยทั่วไป เข็มไม้นี่จะมีอายุการใช้งานประมาณกี่ปีครับพี่

ขอบคุณครับ

บอกตามตรง   เรื่องที่ว่าเข็มไม้ มีอายุประมาณเท่าไร  อันนี้ ไม่รูข้อมูลที่แท้จริงเลยครับ

ของบ้านญาติ นั้น  ประมาณ 40 ปี  แล้วอาคารมันค่อยๆ ทรุด  จนท้ายที่สุดตัวอาคารเกิดการทรุดตัวไม่เท่ากันแล้ว แยกออกจากกัน  โดยมีรอยแยกประมาณ  เกือบ  5-10  ซม  เลยติดสินใจทุบทิ้ง  สร้างใหม่เลย

ยังไงก็ตามอย่าไปคิดมากเลยครับ  เครียดป่าวๆ  เพราะว่า  เรื่องแบบนี้ มันแก้ไขยาก  เพราะว่าอาคารได้ถูกสร้างในรุปแบบที่ว่าไปแล้ว

ที่ว่าไม่ควรเครียดเพราะว่า  ถึงอย่างไร  ถ้าเสาเข็มไม้มันเสื่อมสภาพ  มันจะทรุดตัวก็จะกินระยะเวลาซักพักนึง  คือเป็นเวลาหลายเดือนๆ นะครับ    

ไม่น่าจะทรุดแบบเฉียบพลัน

ถ้ามันเริ้มมีอาการทรุดแบบไม่หยุด  เช่นใน  1  ปี  มัน ทรุดเรื่อยๆ  ไม่มีอาการว่าหยุดเลย   โดยทรุดวันละนิดวันล่ะหน่อย สังเกตุยากนิดนึง   แต่ถ้าเรา  ขีดเส้น mark  เอาไว้  แล้วเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว  เราจะเห็นว่ามีการทรุดตัวต่างกันเท่าไร ถ้าใน  1  ปี ทรุด เกิน  1  นิ้ว  ก็น่าจะมีปัญหาแล้ว ครับ

มีความรู้เท่านี้ครับ  อิอิอิ

ซื้อบ้านเก่า 30 ปีมาหลังนึง  แต่งใหม่ไปแล้ว  ยังแข็งแรงดี

แต่ห้องน้ำเล็กมาก

ผมอยากต่อเติมห้องน้ำ เพิ่มเข้าไปติดห้องน้ำเดิมเป็นห้องขนาด 4*4

คิดว่า ตอกเสาด้วยแรงคน

แต่พอมาอ่านกระทู้นี้เลยทราบว่าจะทรุดภายหลัง

สงสัยต้องเอารถตอกเสาเข็มออ้มเข้าไปหลังบ้าน ซึ่งคงเข้าไม่ได้

หรือควรทำอย่างไรดีครับ

การทรุดตัวของอาคารนั้นขึ้นอยู่กับน้ำหนักของอาคารและคุณสมบัติของดินครับ การต่อเติมโดยปกติแล้วอาคารใหม่มีโอกาสทรุดมากกว่าอาคารเก่า เพราะอาคารเก่ามันทรุดไปก่อนแล้ว แต่ถ้าอาคารใหม่ที่สร้างต่อเติมมีพื้นที่ไม่มาก ก็ไม่่น่าจะมีผลมากนักถ้ามีการตอกเข็มยาวหน่อย และยังต่อดูสภาพแวดล้อมด้วยครับ เช่น ถนน คลอง การถ่มดิน เป็นต้น

ส่วนเข็มไม้ในดินนั้นไม่น่าเป็นห่วงหรอกครับเพราะมัีนไม่ผุ

   
ขอบคุณพี่ san ขอบคุณพี่ wj มั่ก ๆ ครับ

จริงหรอครับ เสาเข็มไม้ในดินไม่ผุ

อืมคงต้องดูเเล้วว่าอยู่เเถวไหน ถ้าโดนเเช่น้ำตลอดเวลาคงไม่โดนปลวก เเต่ถ้าไปบนเขาที่เป็นดินลูกรังถม รับรอง ปลวกยกทั้งหลังเลยครับ

ขอบคุณครับ

ระดับน้ำใต้ดินในกรุงเทพและรอบๆ อยู่สูงครับ ดังนั้นเสาเข็มไม้จะอยู่ที่ชั้นดินเหนียวอ่อนมาก มีค่าความชื้นสูงครับ ปลวกไม่กินครับ

คุณ  Suriya   คงไม่ต้องกังวลมาหรอกครับ โอกาสเกิดขึ้นคงไม่มากเท่าไร เพราะว่าอย่างที่หลายท่านบอกมา  ไม้ในน้ำไม่ผุครับ

แต่................

ระดับน้ำใต้ดินถ้ามันคงระดับตลอดเวลาคงง่าย  เพราะว่าจมน้ำตลอดเวลาไม่มีปัญหาอย่างที่พูดกัน    แต่สิ่งที่น่าห่วงไม่ใช่ส่วนล่างหรือส่วนลำเสาเข็มครับ กลับเป็นส่วนหัวเข็มว่า  สูงรึว่าต่ำ  โดยเฉพาะเมื่อปีไหนแล้งมาก  หัวเข็มโผล่พ้นน้ำรึป่าว  ทำให้เกิดสภาวะแห้งหรอืว่า ชื้น สลับเปียกรึป่าว    ผุง่ายก็ตอนนั้นแหล่ะครับ  รวมทั้งตอนนั้นมีปลวกอยู่แถวนั้นรึป่าว  

เรื่องนี้สร้างปัญหา อย่างที่ เกิดกับบ้านญาติผม  เขาอยู่แถวพาหุรัด เข้าไปในซอย  เป็นบ้านแบบบ้านหลังเดี่ยว   แต่ก็ไม่ได้สังเกตุว่าแล้ว บ้านข้างเคียงทำไมไม่ทรุดนะครับ  เพราะว่าไม่รู้ว่าของเขาใช้เข็มอะไร  ซ่อมหมดไปเป็นล้าน  ต้องเริ่มที่ฐานรากใหม่หมดเลย  อาจเป็นเพราะว่าเฮงก็ได้มังครับ  ถึงแจ๊คพ๊อตมาแตกที่บ้านญาติ

เมื่อก่อนท่าพระเป็นสามแยก  แต่ตอนขุดอุโมงค์เมื่อปี 43 มั๊ง...ตอนนั้นเป็นสี่แยก   ตอนขุดอุโมงค์ท่าพระ   แนวที่ขุดจึงผ่านบริเวณที่มีเคยมีอาคารอยู่    สภาพเสาเข็มไม้ที่ขุดขึ้นมาแล้วเห็นนั้น   ยังมีสภาพดีอยู่เลยครับ  แม้ว่าอาคารรุ่นนั้นจะมีอายุนานแล้ว

ถ้าจะเป็นห่วง   ก็โอกาสที่ว่า  เสาเข็มไม้ส่วนบนสุดจะแห้งสลับชื้น หรือว่าชื้นสลับเปียก   ตรงนี้ใน กทม ระดับน้ำสุง  ก็คงจะมีโอกาสน้อย  คงขึ้นกับว่า ระดับบนสุดของเสาเข็มอยู่ลึกหรือว่าอยู่สูงขึ้นมา    ถ้าอยู่ลึกจมน้ำตลอด   ก็คงไม่น่ากลัวซักเท่าไร    แต่ถ้าอยู่สูง   แล้วบอกว่าไม่ผุเลย  ..คิดเอาเองดีกว่า....ผมอยากเน้นที่ตำแหน่งส่วนบนสุดของเสาเข็มว่า..โอกาสชื้นหรือว่าแห้งสลับเปียกมีมากแค่ไหน    แล้วมีปีไหนแล้งมาก..   ความน่าจะเป็นที่ว่าเสาเข็มจะเสื่อมภาพ .. จะอยู่ที่ตรงนั้นครับ

คุณ Suriya  อย่ากังวลคัรบ
ที่เล่าให้ฟังกันในนี้  เป็นกรณีเลวร้ายสุดนะครับ   เป็นเกร็ดความรู้อ่ะครับ
วันหลัง  เผื่อมีใครพูดเรืองนี้  จะได้รู้ประเด็นว่า.....อะไรที่ควรกังวล    แล้วมีโอกาสมากมั๊ยนะครับ

ส่วนใหญ่คนในนี้จะอยู่ภาคกลางกัน คงไม่ต้องกังวลเรื่องปลวกมากเท่าไหร่ กะปัญหาเสาเข็มไม้

ส่วนปัญหา wet and dry ที่หัวเข็ม ถ้าเเก้ง่ายๆก็เอามอร์ต้าร์ไปเทรอบๆ ในกรณีที่เป็นบ้านยกลอยนะครับ หรือว่าบ้านริมน้ำก็ตาม

คารวะครับ ท่านจอมยุทธ์........SHANGHAI  

เยี่ยมๆๆๆ.........ท่านจอมยทธ์....ทะเลบน  อิอิอิ ( ซ่าง =บน  ,  ไห่ = ทะเล   , การแปลคำนามของจีนแปลเหมือนภาษา E  คือจากหลังมาหน้า  )

ต้าเกอ  หนีห่าว .... หนี่หุ้ยซัวจงเหวินมา......   จ้ายเจี้ยน  จ้ายเจี้ยน

 :o  :o  :o  :o

xiexie ni
weishenme xin pengyou ?
wo hui shuo de,,,,,he he he he!!!

88