อุตสาหกรรมรถยนต์ยังคงหอมหวล แล้วเกี่ยวอะไรกับ AMATA
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 29, 2003 9:20 pm
"ซูมิโตโม"ขนเงิน3พันล.ลงทุนไทยเพิ่ม
เน้นขยายอุตฯยานยนต์ตั้งเป้า3ปีโตเพิ่ม25%
นายมาซาโยชิ มัตสึโมโตะ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซูมิโตโม อิเล็คตริก อินดัสตรีส์ ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจะขยายการลงทุนในประเทศไทยเพิ่ม มูลค่าการลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี เน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ คิดเป็นสัดส่วน 50% ของมูลค่าการลงทุน เพราะไทยมีอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์สูง ส่วนที่เหลือจะกระจายลงทุน ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 15% อีก 25% ลงทุนในอุตสาหกรรมที่เป็นสินค้าใหม่ เช่น พีแอลซี หรือโมเดมสื่อสารเพื่อใช้กับระบบอินเตอร์เน็ต และอุตสาหกรรมอื่นๆ อีก 10%
นายมัตสึโมโตะกล่าวว่า การลงทุนเพิ่มครั้งนี้จะเน้นหนักในการสร้างโรงงานแห่งใหม่ เนื่องจากบริษัทมีที่ดินสำรองสำหรับการสร้างโรงงานมาก ซึ่งล่าสุดบริษัท ซูมิโตโม อิเล็คตริก ไวริ่ง ซิสเต็ม (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ได้ขยายกิจการโดยเปิดโรงงานแห่งใหม่บนเนื้อที่ 44 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ จ.ระยอง เพื่อดำเนินการผลิตชิปสายไฟสำหรับรถยนต์และอุปกรณ์ประกอบ รวม 2 แห่ง มูลค่า 800 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนเพื่อนำสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่ายในไทย คือแผงวงจรไฟฟ้าแบบอ่อนที่ทันสมัยเข้ามาประกอบและจำหน่าย ขณะนี้กำลังขออนุมัติสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ.) หากได้รับการอนุมัติแล้วคาดว่าจะทำให้บริษัทขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศได้มากขึ้น และเตรียมสำรองเงินทุนสำหรับโครงการในอนาคต คือ ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ใหม่ คือพีแอลซี และระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรเพื่อลดปัญหาการจราจรในไทย
"สาเหตุที่บริษัทขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นในไทย เพราะไทยเป็นตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ รองจากประเทศจีน ทั้งนี้บริษัทคาดหวังว่าจากการลงทุนเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท จะช่วยผลักดันยอดขายบริษัทเพิ่มขึ้น 20-25% และหากฝ่ายบริหารของบริษัทในไทย ซึ่งมีรวม 23 บริษัทมีความตั้งใจทำงานใน 3 ปีนี้อาจจะลงทุนมากกว่า 3,000 ล้านบาท"
เน้นขยายอุตฯยานยนต์ตั้งเป้า3ปีโตเพิ่ม25%
นายมาซาโยชิ มัตสึโมโตะ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซูมิโตโม อิเล็คตริก อินดัสตรีส์ ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจะขยายการลงทุนในประเทศไทยเพิ่ม มูลค่าการลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี เน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ คิดเป็นสัดส่วน 50% ของมูลค่าการลงทุน เพราะไทยมีอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์สูง ส่วนที่เหลือจะกระจายลงทุน ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 15% อีก 25% ลงทุนในอุตสาหกรรมที่เป็นสินค้าใหม่ เช่น พีแอลซี หรือโมเดมสื่อสารเพื่อใช้กับระบบอินเตอร์เน็ต และอุตสาหกรรมอื่นๆ อีก 10%
นายมัตสึโมโตะกล่าวว่า การลงทุนเพิ่มครั้งนี้จะเน้นหนักในการสร้างโรงงานแห่งใหม่ เนื่องจากบริษัทมีที่ดินสำรองสำหรับการสร้างโรงงานมาก ซึ่งล่าสุดบริษัท ซูมิโตโม อิเล็คตริก ไวริ่ง ซิสเต็ม (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ได้ขยายกิจการโดยเปิดโรงงานแห่งใหม่บนเนื้อที่ 44 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ จ.ระยอง เพื่อดำเนินการผลิตชิปสายไฟสำหรับรถยนต์และอุปกรณ์ประกอบ รวม 2 แห่ง มูลค่า 800 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนเพื่อนำสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่ายในไทย คือแผงวงจรไฟฟ้าแบบอ่อนที่ทันสมัยเข้ามาประกอบและจำหน่าย ขณะนี้กำลังขออนุมัติสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ.) หากได้รับการอนุมัติแล้วคาดว่าจะทำให้บริษัทขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศได้มากขึ้น และเตรียมสำรองเงินทุนสำหรับโครงการในอนาคต คือ ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ใหม่ คือพีแอลซี และระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรเพื่อลดปัญหาการจราจรในไทย
"สาเหตุที่บริษัทขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นในไทย เพราะไทยเป็นตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ รองจากประเทศจีน ทั้งนี้บริษัทคาดหวังว่าจากการลงทุนเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท จะช่วยผลักดันยอดขายบริษัทเพิ่มขึ้น 20-25% และหากฝ่ายบริหารของบริษัทในไทย ซึ่งมีรวม 23 บริษัทมีความตั้งใจทำงานใน 3 ปีนี้อาจจะลงทุนมากกว่า 3,000 ล้านบาท"