Thai VI

ผมเป็นน้องใหม่ครับ เพิ่งศึกษาแนวทางของ VI ได้ไม่นาน อยากรบกวนพี่ๆ ในห้องนี้ช่วยแนะนำด้วยครับ
------------

ปกติถ้าหุ้นตัวไหนออกวอร์แรนท์ จะทำให้เกิด ไดลูท

แต่ถ้าเป็นการเอาเงินไปลงทุนเพิ่มเพื่อกำไรที่มากขึ้นในอนาคตแล้วเราควรจะทำยังไงดีครับ ขาย หรือถือ (เช่น MINT CENTEL)

สมมติว่ากำไรสะสมมีไม่พอ บริษัทที่ดีในมุมมองของ VI ควรจะมีวิธีหาเงินลงทุนยังไงดีครับถ้าเค้าจะลงทุนเพิ่ม

แล้วบริษัทที่ซื้อหุ้นคืน หรือ จ่ายปันผลมากขึ้นเพราะไม่รู้จะเอากำไรสะสมไปทำอะไรดี จะมองว่าไม่มีความสามารถในการเพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาวหรือไม่

ตามทฤษฎีแล้ว ถ้าบริษัทต้องการลงทุนเพิ่ม บริษัทควรใช้เงินสะสมของตัวเองก่อน ถ้าเงินไม่พอก็ให้กู้ยืม ถ้าหาแหล่งเงินกู้ไม่ได้แล้วก็ค่อยออกหุ้นเพิ่มทุน เนื่องจากแหล่งเงินทุนแต่ละแบบมีต้นทุนที่แตกต่างกันไป

ถ้าบริษัทมีการออกหุ้นเพิ่มทุน เวลาคำนวณหากำไรต่อหุ้น ก็ต้องคำนวณแบบ fully dilute แต่การลงทุนเพิ่มย่อมทำให้กระแสเงินสดในอนาคตเพิ่มขึ้นด้วย เมื่อปรับลดกลับมาก็ทำให้มูลค่าต่อหุ้นเพิ่มขึ้นมาครับ

จากประสบการณ์อันน้อยนิดการเพิ่มทุนจะทำให้กำไรต่อหุ้นลดลงอย่างฮวบฮาบ
ถ้าออกหุ้นใหม่ 1:1 กำไรต่อหุ้นก็ลดลงไป 50%
ถ้าออกหุ้นใหม่ 1:2 กำไรต่อหุ้นลดลงทันที 25%

ถ้าออก warrant กำไรต่อหุ้นจะลดลงน้อยกว่า เพราะ warrant ไม่ได้แปลงเป็นหุ้นทั้งหมด ยกตัวอย่าง pranda-w กำไรต่อหุ้นค่อยๆลดลงจากหุ้นที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น

บริษัทที่ดีจะเพิ่มทุนแบบข้างบนแค่ทีเดียวครับ ถ้าเพิ่มทุนบ่อยๆจะเป็นการประจานตัวเองว่าทำอะไรที่เกินตัวและเอารัดเอาเปรียบผู้ถือหุ้นอย่างน่าเกลียดด้วยครับ  :evil:

สุดท้ายถ้าบริษัทออกหุ้นเพิ่มทุนผมจะขายหุ้นตัวนั้นทิ้งทันที ถือว่าพื้นฐานเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง

nowkung เขียน: ถ้าออกหุ้นใหม่ 1:1 กำไรต่อหุ้นก็ลดลงไป 50%
ถ้าออกหุ้นใหม่ 1:2 กำไรต่อหุ้นลดลงทันที 25%

ถ้า 1:2 นี่ แค่ 25% เองหรือครับ

ยกตัวอย่างง่าย ๆ นะครับ
อย่าง   bcp กำไร ร้อยล้าน
ถ้ามีร้อยหุ้น
ก็แบ่งหุ้นละ 1 ล้านบาท
แต่ถ้าออกวอร์แรน 1 ร้อยหุ้น
ก็เพิ่มตัวหารเข้าไปอีก
เพิ่มทุนเข้ามา 1 ร้อยหุ้น
ก็จะเพิ่มตัวหารเข้าไปอีก
ทำให้กำไรต่อหุ้นลดลง
นี่ยังไม่นับ dr อีกนะ

คือถ้าเป็นแบบนี้จะทำให้กำไร
ต่อหุ้นในอนาคตลดลงครับ

แล้วบริษัทที่ซื้อหุ้นคืน หรือ จ่ายปันผลมากขึ้นเพราะไม่รู้จะเอากำไรสะสมไปทำอะไรดี จะมองว่าไม่มีความสามารถในการเพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาวหรือไม่

มองอย่างนั้นก็ได้ครับ ก็ถูกเหมือนกัน

หรือจะมองอีกแง่หนึ่งก็ถูกเหมือนกัน  เช่น

บริษัทจ่ายปันผลมากขึ้นเพราะไม่รู้จะเอากำไรไปทำอะไรดี  ก็เลยโอนภาระให้ผู้ถือหุ้นเป็นฝ่ายเลือกเอาว่าจะเอาเงินไปทำอะไรดี  แบบนี้ผมชอบ

หลายๆบริษัทมีเงินเหลือเยอะและไม่มีโครงการอะไร  แต่ชอบที่จะเก็บเงินสดไว้เยอะๆเพราะบริหารง่ายดี  หรือไม่ก็ไม่อยากให้รายย่อยได้เงินไปก็ใช้วิธีผ่องถ่ายด้วยสารพัดวิธี อย่างนี้ไม่ดี ไม่ค่อยชอบ

ส่วนการซื้อหุ้นคืนนั้นเป็นสัญญาณบวกครับ อาจจะมีลบบ้างในกรณีที่เจ้าของใช้เพื่อดันราคาหุ้นเฉยๆเพื่อออกของเอง

แต่ส่วนใหญ่จะเป็นบวก  เพราะจำนวนหุ้นจะลดลงเรื่อยๆ กำไรต่อหุ้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  และที่สำคัญเป็นไปได้ว่าผู้บริหารเห็นว่า  บริษัทกำลังจะเติบโตมาก ลงทุนในหุ้นตัวเองคุ้มที่สุด

แต่ทั้งสองวิธีนี้ บัฟเฟตต์ชอบทั้งคู่และให้ความสำคัญอย่างมากด้วยครับ

สมมติหุ้น เพิ่มทุน 3หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่

เดิมมี 72ล้าน ออกเพิ่ม 24ล้าน สมมติกำไร 1.33/หุ้น

คิดซะว่าเดิมหุ้น 100% เพิ่มมาอีก 33% กำไรก็ถูก  dilute 1.33/1.33=1/หุ้น

เท่ากับ dilute ไป 0.33/1.33=25%

ถ้า 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ก็ถูกdilute ไป 33%

ถ้า 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่       ก็ 50%

ง่า....ท่าน จขกท. เรียกว่าหุ้น VI ทำให้ทีมงานโดนคุณ Eyore ติ....

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=18491

ไม่ได้ตำหนิท่านนะครับ แต่อยากให้อ่านว่าทำไมไม่มีหุ้นที่เป็น "หุ้น VI"

กรณีเพิ่มทุน ถ้าท่านเห็นว่าไม่สมควร ท่านก็ควรขายครับ