Thai VI

งั้นผมเริ่ม ถามคุณหมอศรราม(สามัญชน)ก่อนละกัน

หุ้นที่ถืออยู่


เวลาหุ้นขึ้นทั้งกระดาน หุ้นของเราก็ไม่ขึ้นกับเขา
เวลาหุ้นลงทั้งกระดาน หุ้นของเราก็แดงไปกับเขา



จะขายก็เสียดาย
จะซื้อเพิ่มงบหมด


ขอคำแนะนำหน่อยครับว่าทำไงดี

แต่ห้ามตอบว่า...ทำใจ นะครับ อิอิ

ชิงตอบก่อนคุณหมอละกันครับ อิอิ

วิธีของผม

- หุ้นที่ซื้อไปแล้วก่อนหลุด 780 ให้ถือว่าเราพลาดไปแล้ว ให้ยอมติดดอยไปไม่ต้องขายออกมา ให้สาบานตนเป็นนักลงทุนระยะยาวไป ยกเว้นว่าจะเป็นกิจการที่ห่วยแตกจริงๆ ที่มีโอกาสล้มละลายได้ถ้าราคายังสูงอยู่ขายทิ้งให้หมด

- ช่วงนี้ห้ามซื้อเฉลี่ยเด็ดขาด อดทน อดกลั้น อดใจไว้ก่อน รอให้มันลงให้พอเลย โป๊ะที่เราไม่รู้ว่ามันรับน้ำหนักได้หรือเปล่าไม่ควรลองเหยียบ วิธีสังเกตว่าลงพอหรือยังก็ให้รอดูว่าเมื่อไรต่างชาติจะเริ่มซื้อสุทธิติดต่อกันหลายวัน หรือถ้าจะให้ชัวร์จริงๆ ควรรอดูด้วยว่าหลังประกาศกำไรไตรมาส 2 แล้วหุ้นยังตกต่อหรือไม่ แน่นอนว่าการรอไปเรื่อยๆ อาจเสียโอกาสถ้ามี rebound เกิดขึ้นแต่การซื้อหลัง rebound แล้วแพงไป 5% ก็ยังปลอดภัยกว่าซื้อก่อน rebound เพราะอย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่าน้ำลึกแค่ไหน เพียงแต่ผมเกรงว่าจะมีแต่ technical rebound กระปิดกระปอยเป็นระยะๆ มากกว่า ส่วน rebound จริงๆ น่าจะอีกนาน

ตอนนี้เป็นแค่ market correction ยังไม่ใช่ตลาดหมี แต่มีความเสี่ยงที่จะพัฒนาไปเป็นตลาดหมีได้ จึงไม่ควรผลีผลาม เสียดายดีกว่าเสียใจ

ส่วนเรื่อง x% ซื้อทีนั้น ไม่อยากให้ใช้เกณฑ์แบบนี้เลยครับ ในช่วงที่ยังไม่มีความเสี่ยงที่จะพัฒนาไปเป็นตลาดหมีอาจจะใช้วิธีนี้ได้ แต่ในช่วงที่มีความเสี่ยงที่จะพัฒนาไปเป็นตลาดหมี วิธีนี้นับว่าอันตรายอยู่ไม่น้อย

relative valuation ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น "ลงมา 50% แล้วแปลว่าถูก" หรือ "P/E ยังน้อยกว่า P/E เฉลี่ยของ sector แปลว่าถูก" ล้วนแล้วแต่มีอันตรายซ่อนอยู่ทั้งสิ้นแต่จะมองไม่เห็นจนกว่าจะเกิด market correction เพราะ sector ทั้ง sector อาจจะกำลังแพงอยู่ทั้ง sector ก็ได้ ดังนั้นของที่ถูกเมื่อเทียบกับของแพง ก็อาจจะเป็นของแพงก็ได้

ใช้ absolute valuation ปลอดภัยที่สุดครับ

"ถ้าไม่สามารถบอกตัวเองได้ว่าหุ้นลง15% จะซื้อเพิ่ม
และหากหุ้นลงไป25% จะไม่ขายทิ้ง
ก็ไม่สามารถจะทำได้ดีในการลงทุน "

จำได้คร่าวๆว่า พี่ปีเตอร์ลินท์ กล่าวไว้ในวันอัพฯ :lol:

สวัสดีครับเฮียปรัชญา คุณสุมาอี้

บัฟเฟตต์บอกว่า ให้ใช้ประโยชน์จากนายตลาดและอย่าเป็นนายตลาดเสียเอง


แต่ผมไม่เชื่อ ผมต้องลองเองรู้ด้วยตัวเองเท่านั้น แค่ฟังเขามาเฉยไผมไม่ถือว่ารู้ โห....ดับไหนแล้ว จะให้เชื่อง่ายๆได้อย่างไร อิอิ

ผมซื้อ ssi ตอนเจ็ดบาท(ก่อนแตกพาร์)วันนั้นงบออกปุ๊บผมเห็นก่อนใคร คืนนั้นนั่งวิเคราะห์จนเกือบตีสอง ดูๆแล้วตัวนี้เจ๋งมากกำไรโตมาก เหล็กกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น รุ่งเช้าก็ซัดเลยครับเต็มปอดตัวเดียวเนื้อๆ ราคา 7 บาท

ผ่านไปเดือนครึ่ง ราคาไม่ไปไหน แถมยังลงเรื่อยๆ ผมดูเทคนิคแล้วบอกว่าต้องขาย แล้วก็มีแรงขายเยอะมากทั้งวอลุ่มมหาศาลราคาติด top losser ผมก็ผสมโรงขายไปกับเขาขาดทุนอื้อเลยครับ แต่หวังว่าจะซื้อกลับคืนที่ราคาต่ำกว่าเดิมมากๆ

พอผมขายหมดก็วันนั้นเลยอ่ะครับ ราคาขึ้นไปเรื่อยๆมาถึง 7 บาท ผมก็เลยเซ็งไม่ได้ดูราคาอีกเลย ประมาณ 6 เดือนได้มั้งบังเอิญเห็นบนตัววิ่งแว็บๆ ราคาอยู่ที่ 35 บาท ห้าเด้งเลยทีเดียวครับที่ผมพลาดไป

หลังจากนั้นผมก็พัฒนากลยุทธ์เรื่อยๆ ผมเริ่มฝึกจับชีพจรหุ้น แบบว่าสังเกตบ่อยๆหุ้นจะขึ้นจะลงพอบอกได้เลยหละ ไม่ถูกหมดแต่ก็ถูก 80 %ขึ้น

แล้วผมก็ขาย pranda-w 3.2 บาท (ต้นทุน2.1)เพราะชีพจรบอกว่าราคาขึ้นมามากแล้ว ขายเสร็จยังไม่ทันครบชั่วโมงดี โน่นไปถึง 3.8 ได้ยังไง ก็ที่ผ่านมาชีพจรไม่เคยแกว่งแรงขนาดนี้นี่นา แล้วก็ไปถึง 4+ บาทจนได้ ผมได้แต่มองตาปริบๆ

แล้วก็หุ้นก้นบุหรี่ cph ตอนนั้นผู้บริหารเป็นอย่างไร ไม่รู้เลยครับ เห็นแต่กำไรออกมาเยอะ(จากปรับโครงสร้างหนี้ด้วยซ้ำ) และpb ต่ำมาก ผมซื้อตอนเปิดตลาดเลยครับเต็มพอร์ทตัวเดียวโดดๆราคาเฉลี่ย 10 บาทถ้วน ราคาซึมอยู่พักใหญ่ๆแต่ยังดีที่เกิน 10 บาทสงสัยคนปั่นยังเก็บหุ้นไม่ครบ พอเก็บครบก็เริ่มลาก ลากไปลากมาราคาก็ถึง 15 บาท ผมดูอาการแล้วระยะสั้นต้องขายให้หมด เพราะเจ้ามือจะออกของแล้ว ผมก็ขายที่ 15 บาทหมดเกลี้ยง ยังดีที่มีคนมาปั่นเลยได้กำไร แต่ราคาไม่ได้เป็นไปตามคาด คนลากๆขึ้นไปถึง 23 บาท โอ....พระเจ้ากำไรหายไปอีกแล้ว มันยังไงกันเนี่ย......ทำไมผิดอยู่เรื่อย แต่ก็ยังดีที่ตอนหลังราคาร่วงจาก 23 มา 4 บาท โอ.......ถ้าผมยังถืออยู่จะเกิดอะไรขึ้น

ต่อมาก็หุ้นเติบโต MK
อ่ะหาาาา......กำไรโตจริงๆตอนนั้นรู้สึกจะปิดงบปี 47 (ปีสุดท้ายของยุคทองอสังหา) pb ต่ำมากๆเลย อื้อหือ ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว เหมือนเดิมครับ ตัวเดียวหมดพอร์ท ได้หุ้นปันผลมาด้วย อิอิ ต้นทุนเฉลี่ยหลังได้หุ้นปันผลอยู่ที่ 3.8 บาท แต่ว่า เอ๊ะ...ไอ้หยา.....อะไรนั่น....เฮ้ย....โอ้โห.......ราคาทำไมมันร่วงลงไปเรื่อยๆ

แต่คราวนี้ผมเปลี่ยนไปแล้วไม่.......เหมือนเดิม อิอิ ผมเรียนรู้ว่าที่ผ่านมาผมพลาดมาตลอด แล้วพลาดแบบเยอะมาก....วิธีแก้รึ.... ฮ่าๆ ง่ายนิดเดียว ถ้าสัญชาติญาณบอกให้ขายเราต้องซื้อ ถ้าบอกให้ซื้อเราต้องขาย โฮ่ ๆ ๆ ๆ ก็ซ้อนกลซะเลยไง แบบวางหมากสองชั้นอ่ะ หมู ๆ อู๊ด ๆ ๆ

ราคาร่วงไปถึง 1.9 บาท ขาดทุน 50% สัญชาติญาณบอกให้ซื้ออย่างแรง.....โฮ่ ๆ ๆ ๆ ผมก็ต้องขายอย่างอย่างแรงสิครับ ผมขายไปหมดพอร์ท ขาดทุนจิ๊บจ้อย แค่ 50 % เอง หลังจากนั้นราคา mk ไม่เคยลงไปถึง 1.9 อีกเลย

ผมก็งงสิครับ เอ......เอาไงดี เชื่อชีพจรเชื่อสัญชาตญาณ ก็ผิดเกือบหมด ครั้นทำตรงกันข้ามกับสัญชาตญาณก็ผิดหมดอีก ฮ่วย......

ระหว่างที่ไม่ได้ข้อสรุป ผมไปซื้อ ram 137 บาท ขายไปที่ 180+ ราคาวิ่งต่อไปจน 260 บาทมั้งไม่ได้ตามแล้ว ก็ยังพลาดอยู่ดี

ล่าสุดซื้อไอที 4.2 บาท ขายไปหมดแถวๆ 4.7 บาทก่อนที่จะวิ่งต่อไป 10+ บาท แต่ตัวนี้ไม่เสียใจเพราะว่าโยกไปซื้อป๋าแดง 18.2 บาท แล้วขึ้นไปถึง 42 บาท เทียบกันแล้วถ้ายังถือไอทีก็พอๆกับป๋าแดง แต่ตอนนี้สิครับ ป๋าแดงร่วงมาเรื่อยๆ

จากอดีตที่ผ่านมาผมว่าตัวผมไม่เหมาะกับการเล่นสั้น เพราะพลาดเยอะมาก และคาดเดาก็ไม่ถูกสักที

บัฟเฟตต์เองก็ยังบอกว่า ภายในหนึ่งหรือสองปี หุ้นที่เขาซื้ออาจจะลงก็ได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก ผมก็ว่าใช่นะ สำคัญที่ระยะยาวต้องดูให้แม่นๆ อันนั้นแหละที่จะมีผลกับขนาดของปอดเราเยอะจริงๆ

ระยะสั้นแม้จะทำถูกบ้างผิดบ้าง แต่ก็ไม่มีผลกับปอดนัก ต่อให้เดาถูกขายแพงแล้วย้อนมาซื้อถูก ขนาดของปอดก็ไม่โตขึ้นอย่างมากมายอะไร แต่ถ้าเดาผิด ปอดอาจจะแฟบได้ง่ายๆ

ตอนนี้ผมเชื่อแล้วครับกับคำๆนี้


ให้ใช้ประโยชน์จากนายตลาดและอย่าเป็นนายตลาดเสียเอง

คราวหน้าโยกไปใส่ตัวไหนอีก กระซิบบอกกันบ้างนะครับพี่ศรราม... :lol:

แต่ห้ามตอบว่า...ทำใจ นะครับ อิอิ

ทุกข์ มันเกิดที่ใจ เพราะสิ่งภายนอกไม่เป็นไปดังใจอยากของเรา เราจึงทุกข์

ดับทุกข์ ก็ต้องดับที่ใจ สิครับ น้องปรัชญา :lol: :lol:

สามัญชน เขียน:จากอดีตที่ผ่านมาผมว่าตัวผมไม่เหมาะกับการเล่นสั้น เพราะพลาดเยอะมาก และคาดเดาก็ไม่ถูกสักที

คงไม่ใช่พี่สามัญชนคนเดียวครับ

นักเล่นหุ้นกว่า 90% ก็คงไม่เหมาะกับการเล่นสั้นครับ

ผลตอบแทนคงไม่ได้ ได้แต่ความกลุ้ม ความเครียด และความทุกข์ใจครับ

อืมม์ ผมปลอบใจตัวเองง่ายๆ ครับ

ว่าที่ผ่านมา เพิ่งจะลงเล็กๆ น้อยๆ เองครับ

ของจริง คงจะต่อจากนี้ไป...

VALUE INVESTOR IS SUPERMAN :lol: :lol: :lol: :lol:

CK เขียน:อืมม์ ผมปลอบใจตัวเองง่ายๆ ครับ

ว่าที่ผ่านมา เพิ่งจะลงเล็กๆ น้อยๆ เองครับ

ของจริง คงจะต่อจากนี้ไป...

อันนี้เค้าเรียกปลอบใจเหรอครับ

เห็น post ของคุณหมอสามัญชนแล้วสะท้อนใจตัวเองยังไงก็ไม่รู้
ขายหมูเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับผมเลย
จังหวะเวลามันไม่ค่อยได้ ซื้อเร็ว ปล่อยก่อน หมูวิ่งเต็มพอร์ต ตลอด
TICON นี่ตัวล่าสุด ปล่อยหมูไปที่สิบห้ากว่าๆ มาเก็บอีกตัว โห ผมซื้อเสร็จ นิ่งเลย พี่ไทแกไปต่อถึงสิบแปด ทำใจไปหลายวัน แต่ว่าวันก่อนลงมา 14 กว่าๆ คริ คริ นายตลาดนี่เดาใจยากจัง

งวดต่อไปผมว่าถ้าจะซื้อจะขายผมขอดูผลสอบแต่ละ Q ก่อนดีกว่า
แต่ว่าทรมานดีนะครับ กว่าจะหมดแต่ละ Q
แบบว่าซื้อแล้วลุ้นบริษัทมันจะเป็นอย่างที่เราคิดหรือเปล่า
ถ้ามีนาฬิกาเรื่องเวลาถ้าจะดี กริ๊ก ละ Q ไปเลย

8) 8) 8) 8) 8)

ผมกลับคิดไปอีกแบบนะครับ

มันต้องมีตกหนัก ๆ อย่างนี้สิ ถึงจะทำให้ชาว vi อย่างเรา ๆ ทั่น ๆ อยู่รอดได้อ่ะคับ ไม่งั้นต้องรอถึงเมื่อไหร่ถึงจะได้เป็นเจ้าของกิจการกันเนอะ

ผิดเป็นครูครับ ผมก็ยังคงกอดหุ้นแน่นเหมือนเดิมอ่ะคับ พอร์ตแดงงามดังอัญมณีเลยแหล่ะ ว่าแต่คุณจดบันทึกรึยังครับว่าเที่ยวนี้แดงเพราะอะไร? ^_^

ทุกอย่างอยู่ที่ใจครับ ก็เมื่อเราปวารณาตัวเป็น vi ก็ต้องเจอแบบนี้อยู่แล้วแหล่ะครับ ตอนนี้แหล่ะวัดกันจริง ๆ ว่าใครเป็น vi รึเป่า (หวังว่าจะไม่จบลงด้วยการเป็น HIV นะคับ อิอิ ขอกัดหน่อย)

ดูแล้วพรุ่งนี้น่าจะตกอีกครับ ไปวัดก็น่าจะดี

ป.ล. ให้ไปทำสมาธิ วิเคราะห์บริษัทนะครับ ไม่ใช่ไปเผา --"

ของผมปิดจอครับ เพราะปกติเลือกหุ้นที่เน้นกินไข่ทองคำอยู่แล้ว
ยกเว้นแค้ว่าสุขภาพห่านจะอ่อนแอครับ ถึงจะขายทิ้ง

ถ้าช่วงนี้ไม่มีเงินซื้อเฉลี่ยก็ปิดจอครับไม่จำเป็นต้องเฝ้าราคาอยู่แล้ว

หาอย่างอื่นทำสบายกว่าเยอะเลย

ต.หยวนเปียว เขียน:"ถ้าไม่สามารถบอกตัวเองได้ว่าหุ้นลง15% จะซื้อเพิ่ม
และหากหุ้นลงไป25% จะไม่ขายทิ้ง
ก็ไม่สามารถจะทำได้ดีในการลงทุน "

จำได้คร่าวๆว่า พี่ปีเตอร์ลินท์ กล่าวไว้ในวันอัพฯ :lol:

มะแน่ใจว่า ปู่บั๊ฟ เคยพูดไว้หรือไงอ่ะค่ะ จำมะได้แน่ชัดค่ะ :lol:
ว่า ถ้าทนต่อความเหวี่ยงไหวราวๆ 50% ไม่ได้ ไม่ควรเป็นนักลงทุน




หวังว่า ดิฉันจะจำตัวเลขมาผิดแล้วกันนะ :lovl: :lovl: :lovl:

วันนี้ ดร.นิเวศน์ก็เขียนไว้ในกรุงเทพธุรกิจครับ ในประวัติศาสตร์หุ้นไทย ปีที่ลง 30-40% มีอยู่หลายปีมากจนถือว่าเป็นปกติของหุ้นไทยครับ ถ้าทำใจให้เจอปีที่ติดลบ 30%-40% ต่อปีไม่ได้ เล่นหุ้นไม่ได้ครับ

ในอีกมุมหนึ่ง ตั้งแต่ชน 800 เมื่อสามปีก่อน SET ก็ติดลบติดต่อกันมาทุกปีเลย แสดงว่าสามปีที่ผ่านมาโดยเฉลี่ยแล้วคนที่เล่นหุ้นยังไม่ได้อะไรกลับมาเลย

เวลาวิเคราะห์หุ้นได้ราคาที่จะเข้าซื้อมาแล้ว มันถูกกว่าราคาตลาดมากพอควรเลย

แต่มือบอนซื้อไปซะนี่ ไอ้ตอนไม่ซื้อดันไม่ลง พอซื้อแล้ว ลงเอาลงเอา

ซื้อจนหมดเงินแล้ว

อยากมีเงินเยอะๆเหมือนพี่ๆในเว็บนี้ครับ จะได้ซื้อให้มันสะใจไปเลย

เที่ยวนี้รายย่อยช่วยเหลือประเทศไทยไว้ครับ ยิ่งปิดตลาดมาฉลอง60ปีพ่อหลวง ยิ่งได้กำลังใจมาเยอะครับ ยิ่งตอนที่กล่าวทรงพระเจริญแล้วมีคนร้องไห้เนี่ย ได้ใจผมเลยครับ

เกริ่นซะยาว แค่เตือนความจำครับ บริษัทในไทยพื้นฐานยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อ Q1/49 เลยนะครับ เดี๋ยวมันก็ต้องกลับไปที่จุดที่มันควรเป็นอยู่ดี กอดให้แน่น ๆ ครับ

ฝรั่งขาย เราคนไทยซื้ออีก ลงทุนให้คนไทยน้อยกว่านี้ได้ไง ใครเงินหมด ก็ปิดหน้าจอไปหาตังค์เพิ่ม แล้วกลับมาซื้ออีกครับ

ไว้วันไหนท่านศาสตราจารย์ดร.นิเวศน์ออกมาร้องว่าไม่ไหวแล้วค่อยขายก็ยังไม่สายครับ สู้โว้ย ^_^

VI ต้องไม่เครียด ok ok...

คุณ สามัญชน เล่าเรื่องได้มันส์จริงๆครับ

จากกำไร70000 เหลือกำไร10000แล้ว แย่จังนายตลาดนี่

สำหรับผมปีนี้หน้าหนาวมาถึงเร็วจังเลย อูย....หนาวเหลือเกิน

จะหายหน้าไปได้ไงกัน เดี๋ยวหาว่าหุ้นลงแล้วหายหัว

ตอนนี้ปอดยังเข้มแข็งสม่ำเสมอครับ แต่ว่าตอนออกรายการคอหุ้น ผมมี 60%แต่พอผ่านมาอีกเดือนผมมีเกือบ 100% ตอนนี้กลับไปที่ประมาณ 40%

ยังไงก็ยังOK มามะเรามาอยู่เป็นเพื่อนกัน

วันเสาร์ที่แล้วเสี่ยวิบูลย์หนีเมียมาซ่อนตัวที่บ้านผมยังบ่นกลุ้มใจเลย แก่ว่าตอนหุ้นขึ้นเงินสดเหลือบานเลย แต่พอหุ้นลงแกไม่ค่อยมีเงิน ก็พวกเล่นซื้อแบบเอาเป็นเอาตาย ยังเหลืออีกไหมหนอ เพื่อนยากคนนี้จะพยายามหาก้นบุหรี่มวนโตๆที่เหล่านักเล่นหุ้นคายทิ้งไปฝากเน้อ

BHT เขียน:อยากมีเงินเยอะๆเหมือนพี่ๆในเว็บนี้ครับ จะได้ซื้อให้มันสะใจไปเลย

มีเงินมากเท่าไรก็ไม่พอหรอกครับ เวลาหุ้นตก

แต่คนที่มีเงินเยอะๆ เวลาจะซื้อหุ้นแต่ละครั้งก็ลำบากนะครับ

yutarng เขียน:บริษัทในไทยพื้นฐานยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อ Q1/49 เลยนะครับ

แน่ใจหรือครับว่าไม่เปลี่ยน อย่างน้อยก็คงมีบางบริษัทที่เปลี่ยนไปบ้างละครับ เพียงแต่มากหรือน้อย

yutarng เขียน:เดี๋ยวมันก็ต้องกลับไปที่จุดที่มันควรเป็นอยู่ดี

แล้วจุดที่มันควรจะเป็นนะ อยู่ข้างบน หรืออยู่ข้างล่าง ใครรู้บ้าง

chatchai เขียน: มีเงินมากเท่าไรก็ไม่พอหรอกครับ เวลาหุ้นตก

แต่คนที่มีเงินเยอะๆ เวลาจะซื้อหุ้นแต่ละครั้งก็ลำบากนะครับ

คริคริ พี่ฉัตรชัยยอมรับว่ามีเงินเยอะจริง ๆ อ่ะ ;P