Thai VI

เมื่อหุ้นแนว VI ที่คุณถือ มีคนพูดถึงน้อยลง เราควรจะคิดอย่างไร

*คำถามนี้ ขอถามในฐานะผู้ที่เริ่มเดินทางบนถนนแนว VI ครับ

อารัมภบทก่อนนิดหนึ่ง
การที่เราลงทุนในหุ้นแนว VI หนึ่งตัวในช่วงที่มันยังไม่อยู่ในสายตาของกองทุน หรือ นักลงทุนรายย่อยทั่วไป หรือนักวิเคราะห์ ถือว่าเป็นช่วงที่น่าลงทุนที่สุด หุ้นตัวนี้ได้ผ่านช่วงนั้นมาแล้ว มีกองทุนเก็บแล้ว รายย่อยซื้อตามบทวิเคราะห์แล้ว ราคาได้ปรับขึ้นไปถึง (หรือใกล้เคียง) ราคาเป้าหมายที่โบรก/นักวิเคราะห์เชียร์แล้ว (แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น) ราคาปัจจุบันได้ลดลงมาตามอารมณ์ ของ Mr. Market (เหมือนที่ว่ามันได้ขึ้นไป แต่ผลประกอบการก็ดีจริง)

ช่วงนี้ ชาว VI พูดถึงหุ้นตัวนี้อย่างประปราย
ผมเชื่อว่าพี่ๆ ที่เป็น VI ตัวจริงคงต้องเคยถือหุ้นที่อยู่ในระยะนี้มาแล้ว ช่วยแบ่งปันประสบการณ์หน่อยครับ
1. หุ้นตัวนี้ผ่านระยะ(phase หรือ period)ที่ VI สนใจ ผ่านระยะที่โบรกเชียร์ ผ่านระยะที่กองทุน+รายย่อยซื้อ น่าจะผ่านระยะที่รายย่อยขายทำกำไรไปบ้างด้วย ไม่ทราบว่าตอนนี้น่าจะอยู่ในระยะอะไรครับ
2. การที่ราคาลดลงมาในช่วงนี้ไม่ได้ทำให้ผมตกใจ ตรงกันข้ามผมได้ซื้อเพิ่มไปบ้างแล้ว และจะซื้อเพิ่มอีกถ้ายังเหลือเงิน แต่สิ่งที่สงสัยคือการที่ VI ไม่กล่าวถึงตัวนี้เหมือนแต่ก่อน ผมควรคิดอย่างไร (เหมือนแฟนเคยโทรมาแล้วอยู่ๆเลิกโทร :lol: ทำให้ผมนึกถึงวลีภาษาอังกฤษ : Silence is deafening (ความเงียบที่หนวกหู (=ความเงียบที่น่าอึดอัด)))
ต้องขออภัยด้วยถ้าคำถามนี้ฟังดูไร้สาระ แต่ผมว่ามันมีประโยชน์ในการฝึกใจให้เป็น VI ครับ

ไม่เลยครับ ผมชอบคำถามนี้มากเลยครับ เหมือนเดียวดายอ้างว้างผู้คนประมาณนั้นนะครับ

ไม่รู้จะใช่ไอ้ตัวที่ผมถืออยู่รึเปล่านะครับ ลองเดาๆเอา
ผมว่าที่ไม่ค่อยเอามาพูดคุยก็อาจจะเป็นเพราะว่าทีผ่านมามันเป็นหุ้นที่ถูกยกมาคุยเยอะมาก แล้วโบรกเกอร์ก็ออกบทวิเคราะห์มาเยอะ จนทำให้ไม่มีอะไรใหม่ๆมาคุยสำหรับหุ้นตัวนี้แล้ว มันก็เลยเงียบไปเป็นเรื่องธรรมดา จะมีคุยกันบ้างประปรายก็เรื่องที่ว่าราคาลงมาเยอะน่าซื้อรึยัง แต่ตัวธุรกิจ คงไม่ค่อยจะมีใครอยากฉายๆหนังซ้ำกันเท่าไหร่
สรุปว่าการที่คุยกันน้อยลงก็ไม่ได้หมายความว่าหุ้นมันแย่ลง แต่เพียงแค่บอกว่ามันไม่มีอะไรใหม่แล้วตะหาก .
แต่การที่พี่ Raphin Phraiwal ซื้อกลับเข้าไปได้โดยไม่ตกใจผมว่าแบบนี้หัวใจเป็น vi เต็มที่เลยครับ :lol:

ไม่รู้จะใช่ไอ้ตัวที่ผมถืออยู่รึเปล่านะครับ ลองเดาๆเอา :lol:

ถ้าคุณพรานมั่นใจ ว่าธุรกิจ เขาน่าจะดี ไม่ได้มีผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่เราเห็น

ณ ปัจจุบัน ราคาตก ก็เป็นโอกาสให้ซื้อเพิ่มถ้ามีเงิน (แต่น่าจะตกต่อได้อีกนะ :lol: )


ส่วนไม่ค่อยมีคนพูดถึง อาจเพราะเขาขายไปหมดแล้ว (ก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา)

หรือ ไม่มีอะไรใหม่ พูดไปก็ซ้ำเก่าครับ

อยู่เงียบ ๆ อย่างงี้สิดี

ไม่ต้องห่วง มีเรื่องใหม่มาที จะได้วิ่งแรง ๆ

ไม่ขึ้น ก็ลงน่า ....

แต่ผมขอขายก่อนกองทุนนะ

เดี๋ยวนี้แปลก...

ไอ้หุ้นที่คนพูดถึงมากๆ หรือ นิยมมากๆ ไม่อยากไปยุ่งกับเค้า
ดูแล้วมันวุ่นวายพิกล แม้ว่าจะมีโอกาสเก็งกำไรสูงก็ตามที

มันก็เหมือนไปเที่ยวงานแสดงสักแห่ง แล้วปรากฏว่า ผู้คนแห่มาเข้า
งานจนล้นหลามนั่นแหละครับ คุณชอบไปเดินในงานแบบนั้นหรือเปล่า?
ถ้าชอบก็เชิญตามสบายครับ

แต่ผมขอ บายดีกว่า...อยากอยู่สงบๆ ไม่วุ่นวายกับผู้คนมากมายนัก!! 8)

สำหรับผมแล้ว การคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัทก็เป็นสิ่งที่ยากมากแล้ว

การที่ต้องมานั่งคาดการณ์ถึงจิตใจนักลงทุนผู้อื่นในตลาดอีก เป็นสิ่งที่ทำให้ผมเป็นทุกข์ในการลงทุนครับ จิตวุ่นวายตลอดเวลา

ผมลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนจากผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นหลัก

ถ้านักลงทุนรายอื่นให้ความสนใจ ซื้อหุ้นของบริษัทมากๆ ราคาหุ้นสูงจนเกินราคาพื้นฐาน ผมก็ขายให้

ถ้านักลงทุนรายอื่นเลิกสนใจ ขายหุ้นของบริษัทมากๆ ราคาหุ้นลดต่ำจนมี Margin of Safety มากๆ ผมก็ซื้อ

เอาเวลาที่มานั่งคิดเรื่องคนอื่น มาคิดค้นหาปัจจัยพื้นฐานของบริษัทดีกว่าครับ

ในอดีต ผมเคยลงทุนบริษัทหลายแห่งที่ไม่มีใครสนใจเลย เช่น MANRIN หรือแม้กระทั่ง WG ผมก็ไม่เคยเห็นจะมีบทวิเคราะห์จากที่ไหนเลย และไม่เคยคาดหวังว่าจะมีด้วย

ขอบคุณทุกๆท่านมากครับ