Thai VI

ใช่ใต้หวันหรือเปล่าคับ

ประเทศที่มีพื่นที่น้อย ประชากรน้อย อย่าง สิงคโปร์ น่าจะแก้ง่ายสุด

ประเทศไทยไง เมื่อรากหญ้าตายหมดแล้ว ในที่สุดก็จะไม่เหลือคนจนอีก

ประเทศไทยแก้ยาก คนมันเยอะ แผ่นดินมันกว้าง

รัฐบาลไทยก็พยายามช่วยๆกันไป  
ได้เห็นความทุกข์ยากของผู้ด้อยโอกาส
ถึงแก้ไม่ได้หมดตามความตั้งใจ
ก็ยังดีที่ได้พยายามช่วยเหลือ ให้เขามีโอกาส

ตอนนี้รัฐบาลโหลดหนี้ไว้เต็มกระเป๋ารากหญ้าแล้ว รอดอกเบี้ยขึ้นอย่างเดียว

รัฐบาลนอร์เวย์ มีสวัสดิการให้กับคนระดับรากหญ้า ด้วยครับ
ไม่ต้องทำงาน ก้อมีเงินเดือนให้ใช้

แซงหน้าประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว สำหรับประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ...

beammy เขียน:รัฐบาลนอร์เวย์ มีสวัสดิการให้กับคนระดับรากหญ้า ด้วยครับ
ไม่ต้องทำงาน ก้อมีเงินเดือนให้ใช้

แซงหน้าประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว สำหรับประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ...

ถ้าอย่างนี้แสดงว่า...
สวัสดิการสังคม มีความสัมพันธ์กับอัตราค่าครองชีพหรือเปล่าครับ

ยอมจ่ายภาษี 60 % หรือเปล่าคะ
ถ้ายอมก็ไปแถบสแกนดิเนเวียเลยย

ผู้หญิงลาคลอดเลี้ยงลูกไปเลย 2 ปี
ผู้ชายไปช่วยคลอดได้ ปีหนึ่ง
กลับมาที่ทำงานเดิมต้องรับเข้า
เป็นตำแหน่งงานเดิมด้วย

แก่ตัวก็ใช้สวัสดิการรัฐ เที่ยวอย่างเดียว

ประเทศไหนที่ทุ่มเทในเรื่องของการศึกษามากๆ (ทั้งคุณภาพ และปริมาณ) ผมก็ว่าประเทศนั้นหล่ะครับ

เห็นด้วยครับ ว่าการศึกษาสำคัญที่สุด
ประเทศไหน พัฒนาด้านการศึกษาได้ดี  คนจนจะค่อยๆหมดไป
เพราะรายได้ แปรผันตรงกับการศึกษา
ไม่ใช่เฉพาะการศึกษาในระบบนะ รวมถึงการศึกษานอกระบบ เช่น พัฒนาความรู้ให้เกษตร ให้สามารถ เพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ และสามารถพัฒนาต่อไปได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเดียว

ถ้าจะแก้จน เห็นด้วยนะครับ ถ้าจะดูตัวอย่างแถวสแกนดิเนเวีย
ประเทศสังคมนิยม อย่างเดนมาร์ก

สวัสดิการดี มีระบบสาธารณูปโภครองรับทุกอย่าง
การศึกษา สาธารณสุข ประกันว่างงาน ทุกอย่าง

แต่ประชากรไม่เยอะ

ถ้าจะทำได้ต้องมีระบบภาษีที่เป็นธรรมให้ได้ก่อน
เก็บให้หมด ภาษีที่ดิน ภาษีมรดก ยิ่งรวยยิ่งจ่ายภาษีเยอะ

หวังว่า เมืองไทยจะเป็นแบบนั้นได้สักวัน

สุมาอี้ เขียน:ตอนนี้รัฐบาลโหลดหนี้ไว้เต็มกระเป๋ารากหญ้าแล้ว รอดอกเบี้ยขึ้นอย่างเดียว

8) ไม่ใช่รากหญ้าอย่างเดียว
     เมื่อสักครู่ฟังรายการเงินทองต้องรู้
     เห็นอ.วีระว่ารัฐออกพันธบัตรไปแล้วรวมกัน
     700,000กว่าล้าน

woddy wrote

ประเทศไหนที่ทุ่มเทในเรื่องของการศึกษามากๆ (ทั้งคุณภาพ และปริมาณ) ผมก็ว่าประเทศนั้นหล่ะครับ

บางทีการศึกษากับความจนก็ไม่ไปด้วยกัน ขึ้นกับการศึกษานั้นๆพาไปทางไหน

เคยอ่านพ่อรวยสอนลูก  

พ่อรวยไม่ได้จบการศึกษาสูงส่งอะไรเลยแต่วิธีคิดของเขาเยี่ยมมาก

ในขณะที่พ่อจนมีการศึกษาสูงมากแต่หลังเกษียณต้องลำบากเพราะทำธุรกิจไม่เป็น  สุดท้ายใช้เงินก้อนสุดท้ายมาเปิดร้านอะไรสักอย่างแล้วก็ขาดทุนซ้ำเข้าไปอีก

ผมเห็นด้วยกับคนเขียนนะว่า ระบบการศึกษาส่วนใหญ่ในโลก  สอนให้คนเป็นลูกจ้าง มีน้อยที่สอนให้คนเป็นเจ้าของกิจการ

แสดงว่าการมีเงิน ทุน แต่ใช้ไม่เป็น
ก็ยังจนอยู่หรือคับ

สามัญชน เขียน:woddy wrote

บางทีการศึกษากับความจนก็ไม่ไปด้วยกัน ขึ้นกับการศึกษานั้นๆพาไปทางไหน

เคยอ่านพ่อรวยสอนลูก

ประเทศ Tuvalu ครับ

มีประชากรเพียงหมื่นนิดๆ

หลายปีก่อน ขายสิทธิในการจดทะเบียนโดเมน .tv

รับเงินเฉลี่ยต่อปีเกือบ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยประมาณ

เทียบกับจำนวนประชากร เท่ากับได้เงินไปคนละ $180 ต่อปี
หรือราวๆ 7,000 กว่าบาท โดยไม่ต้องผลิตอะไรเลย


หลายปีก่อน เห็นว่าลาวเอาอย่าง ขายสิทธิสำหรับ .la
ให้บริษัทไรไม่รู้ เอาไปขายพวกที่มีนิวาสถานใน Los Angeles
ได้มีชื่อเท่ห์ๆ กัน

root cause ของบ้านเราที่ทำให้พัฒนาได้ช้าคืออะไรครับ? ขอโหวตหน่อย

1. คนเยอะ ประเทศใหญ่
2. การศึกษาไม่สูงพอ
3. วัฒนธรรม สังคม ความเชือ ธรรมเนียม (วิธีคิดแบบพี่ไทย ว่างั้น)

ผมโหวตข้อ 3 นะ

ผมว่าถ้าเปลี่ยนข้อนี้ไม่ได้ ไงๆก็เปลี่ยนอย่างอื่นไม่ได้

หรือท่านๆมีข้ออื่นที่ผมไม่ได้ระบุ เชิญเพิ่มเติมเลยครับ

jody4003 เขียน:root cause ของบ้านเราที่ทำให้พัฒนาได้ช้าคืออะไรครับ? ขอโหวตหน่อย

1. คนเยอะ ประเทศใหญ่
2. การศึกษาไม่สูงพอ
3. วัฒนธรรม สังคม ความเชือ ธรรมเนียม (วิธีคิดแบบพี่ไทย ว่างั้น)

ผมโหวตข้อ 3 นะ

ผมว่าถ้าเปลี่ยนข้อนี้ไม่ได้ ไงๆก็เปลี่ยนอย่างอื่นไม่ได้

หรือท่านๆมีข้ออื่นที่ผมไม่ได้ระบุ เชิญเพิ่มเติมเลยครับ

หรือเป็นเพราะเราไม่ยอมเสียเอกราชในสมัย ร.4

หรือเป็นเพราะเราไม่เป็นฝ่ายแพ้ในสงครามโลก

หรือ....

เดาครับ ผมไม่รู้ แต่เชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อย ก็อยากก้าวหน้า

ถ้าเราเรียนรู้จากประเทศที่ทำสำเร็จ

เราจะสำเร็จตามเขาไหมคับ

jody4003 เขียน:root cause ของบ้านเราที่ทำให้พัฒนาได้ช้าคืออะไรครับ? ขอโหวตหน่อย

1. คนเยอะ ประเทศใหญ่
2. การศึกษาไม่สูงพอ
3. วัฒนธรรม สังคม ความเชือ ธรรมเนียม (วิธีคิดแบบพี่ไทย ว่างั้น)

ผมโหวตข้อ 3 นะ

ผมว่าถ้าเปลี่ยนข้อนี้ไม่ได้ ไงๆก็เปลี่ยนอย่างอื่นไม่ได้

หรือท่านๆมีข้ออื่นที่ผมไม่ได้ระบุ เชิญเพิ่มเติมเลยครับ

เรื่องที่2กับ3 แทบจะแยกจากกันไม่ออกนะครับ

เรื่องที่สำคัญที่สุดคือเรื่อง การจัดการการวางแผนและบริหารประเทศ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว .....แต่เรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิผลก็ต่อเมื่อเรื่องข้อ2และข้อ3ได้รับการส่งเสริมและแก้ใขในระดับภาคประชาชนให้ดีกว่านี้

การศึกษาที่ควรให้ความสำคัญ ไม่ไช่เฉพาะเรื่องความรู้ทางอาชีพ แต่ควรให้การศึกษาในแง่การเมือง-การปกครองควบคู่ไปด้วย....ภาคประชาชนจะมีโอกาสเข้าใจถึงการใช้สิทธิของตนเองให้เกิดผลดีที่สุดในการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมมาทำหน้าที่บริหารจัดการประเทศ พร้อมทั้งเข้าใจหลักการในการประเมิณผลติดตามการตรวจสอบและถ่วงดุล ไม่ใช่เพียงการใช้สิทธิทุก4ปีเท่านั้น....เรื่องนี้เท่ากับเป็นการพัฒนาด้านการจัดการบริหารประเทศโดยผ่านการคัดสรรผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถพัฒนาด้านอื่นๆเป็นวงจรต่อเนื่องแตกแขนงออกไปในหลายๆทิศทาง

ส่วนข้อ1 คนเยอะ ประเทศใหญ่.....จะกลายเป็นเรื่องเล็ก เมื่อเราได้คนที่มีประสิทธิภาพมาบริหารจัดการ (โดยยังคงต้องมีการตรวจสอบ+ถ่วงดุลย์ควบคู่กันไป ไม่ว่าเค้าจะเป็นคนดีหรือไม่ก็ตาม)

เพื่อน เขียน: เรื่องที่2กับ3 แทบจะแยกจากกันไม่ออกนะครับ

เรื่องที่สำคัญที่สุดคือเรื่อง การจัดการการวางแผนและบริหารประเทศ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว .....แต่เรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิผลก็ต่อเมื่อเรื่องข้อ2และข้อ3ได้รับการส่งเสริมและแก้ใขในระดับภาคประชาชนให้ดีกว่านี้

การศึกษาที่ควรให้ความสำคัญ ไม่ไช่เฉพาะเรื่องความรู้ทางอาชีพ แต่ควรให้การศึกษาในแง่การเมือง-การปกครองควบคู่ไปด้วย....ภาคประชาชนจะมีโอกาสเข้าใจถึงการใช้สิทธิของตนเองให้เกิดผลดีที่สุดในการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมมาทำหน้าที่บริหารจัดการประเทศ พร้อมทั้งเข้าใจหลักการในการประเมิณผลติดตามการตรวจสอบและถ่วงดุล ไม่ใช่เพียงการใช้สิทธิทุก4ปีเท่านั้น....เรื่องนี้เท่ากับเป็นการพัฒนาด้านการจัดการบริหารประเทศโดยผ่านการคัดสรรผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถพัฒนาด้านอื่นๆเป็นวงจรต่อเนื่องแตกแขนงออกไปในหลายๆทิศทาง

ส่วนข้อ1 คนเยอะ ประเทศใหญ่.....จะกลายเป็นเรื่องเล็ก เมื่อเราได้คนที่มีประสิทธิภาพมาบริหารจัดการ (โดยยังคงต้องมีการตรวจสอบ+ถ่วงดุลย์ควบคู่กันไป ไม่ว่าเค้าจะเป็นคนดีหรือไม่ก็ตาม)

ต่างครับต่าง
การศึกษาผมหมายถึงเรื่องทางวิชาการ การสร้างคนให้มี skill ครับ
ขณะที่ข้อ3ผมหมายถึงสังคมที่ปลูกฝังให้เราวิถีความเชื่อแบบไทยๆครับ

ประเทศที่มีคนขยัน ใช้ความรู้ที่มี ให้เกิดประโยชน์ สูงสุด ใช้ทรัพยากรที่มีได้อย่างคุ้มค่า

ต้องทำให้คนในประเทศนั้น ๆ เป็นอย่างนี้ ประเทศถึงเจริญ
มีความรู้ ความขยัน มีความดี
สามารถเผชิญกับทุกปัญหา ได้อย่างไม่ต้องกังวล...

ประเทศที่มีรัฐสวัสดิการณ์สูงๆกำลังจะเหี่ยวตาย เพราะประชาชนจ่ายภาษีเยอะ เพื่อไปเลี้ยงคนที่ไม่ทำงาน ประมาณว่างานไหนให้ค่าจ้างน้อยกว่ารัฐจ่าย พี่ก็จะไม่ทำนอนๆกินๆ ไม่งั้นก็ทำงานที่รับจ้างทั่วไป เลี่ยงภาษีเอา + รับสวัสดิการณ์ไปด้วย

สภาพสังคมก็เปลี่ยนไป คนมีลูกน้อยลง หรือไม่มีเลย 30 ปีผ่านไป ก็ไม่มีคนรุ่นใหม่ ไม่มีเลือดใหม่มาต่อสายป่าน จะลดสวัสดิการณ์คนก็ด่ารัฐบาล ไม่ลดก็ถังแตก Prisoner Dilemma

เนี่องจากภาษีสูง สวัสดิการณ์คนงานดี สหภาพฯมีพลัง ทำให้ต้นทุนการจ้างงานสูง บริษัทก็ย้ายฐานมาแถวๆนี้แหละ

ผมอยากจะรู้ว่าต่อไปประเทศพวกนี้จะเหลืออะไร ประเทศเป็นประเทศได้ก็เพราะมีคนเชื้อชาตินั้นๆอยู่ ผมมองว่าสุดท้ายก็ต้องรับคนต่างชาติไปเป็นแรงงาน ให้เข้าไปตั้งถิ่นฐานเหมือน usa ทุกประเทศก็กลายเป็นจับฉ่ายไปหมด คิดแล้วปวดหัวแทน

Viewtiful Investor เขียน:ประเทศที่มีรัฐสวัสดิการณ์สูงๆกำลังจะเหี่ยวตาย เพราะประชาชนจ่ายภาษีเยอะ เพื่อไปเลี้ยงคนที่ไม่ทำงาน ประมาณว่างานไหนให้ค่าจ้างน้อยกว่ารัฐจ่าย พี่ก็จะไม่ทำนอนๆกินๆ ไม่งั้นก็ทำงานที่รับจ้างทั่วไป เลี่ยงภาษีเอา + รับสวัสดิการณ์ไปด้วย

สภาพสังคมก็เปลี่ยนไป คนมีลูกน้อยลง หรือไม่มีเลย 30 ปีผ่านไป ก็ไม่มีคนรุ่นใหม่ ไม่มีเลือดใหม่มาต่อสายป่าน จะลดสวัสดิการณ์คนก็ด่ารัฐบาล ไม่ลดก็ถังแตก Prisoner Dilemma

เนี่องจากภาษีสูง สวัสดิการณ์คนงานดี สหภาพฯมีพลัง ทำให้ต้นทุนการจ้างงานสูง บริษัทก็ย้ายฐานมาแถวๆนี้แหละ

ผมอยากจะรู้ว่าต่อไปประเทศพวกนี้จะเหลืออะไร ประเทศเป็นประเทศได้ก็เพราะมีคนเชื้อชาตินั้นๆอยู่ ผมมองว่าสุดท้ายก็ต้องรับคนต่างชาติไปเป็นแรงงาน ให้เข้าไปตั้งถิ่นฐานเหมือน usa ทุกประเทศก็กลายเป็นจับฉ่ายไปหมด คิดแล้วปวดหัวแทน

Viewtiful กล่าวไว้ดีแล้ว  


ว่าแต่ว่าจะย้ายไปทำที่ไหนเนี่ย

อืมกลับมาคิดใหม่

เรามีคนจนอาจไม่ไช่เรื่องเลวร้าย

เช่น
1.มีคำว่าลูกจ้างกับนายจ้างต่อไป
2.ทำให้ลดแรงงานต่างชาติ
3.มีงานสร้างตึกมากมายที่เกิดจากฝืมือพวกเขา
4.เกษตรกร ก็ยังอยู่สังคมเราไปอีกนาน


ปัญหาอย่าให้มีแบบนี้ในสังคม
1.เป็นโจร เพราะความจน
2.เป็นคนพาล  เพราะจะได้รวยเร็วขึ้น
3.เป็นนักพนัน เพราะอยากรวย
4.เป็นคนไร้น้ำใจ  เพราะต้องเหยียบคนอื่นขึ้นไป
สู่ความรวย


บางทีความรวยจน  อาจไม่สำคัญ

ถ้าแต่ละคนแต่ละ ส่วน ทำหน้าที่ของตนเองดีที่สุด
มีศีลธรรม แต่ก็ไม่ควรเชื่ออะไรที่ผิดเพราะคนหมู่มาก
โดยการไตร่ตร่อง  กล่าวคือ ต้องคิดเป็น  ทำเป็น
แล้ว

ความจนรวย  อาจเป็นแค่นามธรรม

Viewtiful Investor wrote

ประเทศที่มีรัฐสวัสดิการณ์สูงๆกำลังจะเหี่ยวตาย เพราะประชาชนจ่ายภาษีเยอะ เพื่อไปเลี้ยงคนที่ไม่ทำงาน ประมาณว่างานไหนให้ค่าจ้างน้อยกว่ารัฐจ่าย พี่ก็จะไม่ทำนอนๆกินๆ ไม่งั้นก็ทำงานที่รับจ้างทั่วไป เลี่ยงภาษีเอา + รับสวัสดิการณ์ไปด้วย

ถูกต้องนะคร้าบบบบบบบ.........

รัฐสวัสดิการถ้าเยอะไปก็ไม่ดี  นอกจากประเทศแถบสแกนแล้วออสเตรเลียก็ตามไปติดๆ  แต่ยุโรปอิตาลีฝรั่งเศสกำลังพยายามลดลงแม้จะยังสูงอยู่บ้างก็ตาม

แต่น้อยไปก็ไม่ดี  ก็มนุษย์ตาดำๆด้วยกัน  จะทำใจแข็งไม่ช่วยไหวรึ
ถ้าน้อยไปความทุกข์ก็มากขึ้น  การเห็นแก่ตัวก็มากขึ้น คอรัปชั่นมากขึ้น อาชญากรรมก็มากขึ้น

จุดพอดีๆน่าจะอยู่ตรงที่

1.สมดุลระหว่างรายรับกับรายจ่ายของประเทศ  โดยต้องมีส่วนที่ต้องเอาไปลงทุนเพิ่มด้วย
2.อย่างน้อยๆเรื่องที่จำเป็นต่อการเอาชีวิตรอดเช่น ปัจจัยสี่ ควรจะได้รับการดูแล
3.อยู่ในกฏเกณฑ์ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว  โดยเพิ่มโอกาสให้ทุกคน คนขยันย่อมสมควรประสบผลสำเร็จได้มากกว่า  คนเก่งย่อมสมควรประสบผลสำเร็จได้มากกว่า  คนดีย่อมสมควรมีความสุขมากกว่า เป็นต้น

ผมว่า  เมกา ครับ

ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น  เขาใช้อำนาจจากทุนนิยมและเทคโนโลยี่  และจากการที่เป็นผู้กำหนดกติกาและเป็นผู้ควบคุมเกม  เป็นเครื่องมือทำให้เขาได้เปรียบคนอื่นเสมอครับ

แล้วก็เป็นประเทศที่เปิดมากสำหรับคนที่ขยัน  ถ้าไม่ขี้เกียจ แล้วก็ไม่เอาแต่กินเกงินเดือน  ผมว่ารวยทั้งนั้นคัรบ  ที่ เมกา  แต่ถ้าถามถึงคนพวกผิวดำ  ก็ขี้เกียจก็เยอะ   ถ้าแบบนั้น ยังไงก็จน

ดูคุณภาพชีวิตของคนเขาสิคัรบ  ให้ดูค่าเฉลี่ยนะครับ

ทั้งทางด้านการรักษาพยาบาล
ทั้งทางด้าน  ค่าใช้จ่าย  เห็นมั๊ยคัรบ ว่ามีแต่คนขายของถูกๆให้เขาใช้  ไทย  จีน  ญี่ป่น  
ทั้งทางด้าน เงินเดือน ที่ได้รับ ดูสิ  คนพึ่งจบของเขา เงินเดือนตัง้เท่าไร  ขอเราเท่าไร
ทั้งทางด้านที่อยู่อาศัย  พื้นที่กว้างขวางมาก  ไม่แออัดแบบญี่ปุ่น

ญี่ป่นเงินเดือนเยอะก็จริง  แต่ว่าที่อยู่แออัด ยัดเยียด  ทำงานกันจนหัวใจวายตายก็เยอะ  อย่างนี้คุณภาพไม่ดีเท่าไร  คนญี่ป่นถูกส่งมาอยู่เมืองไทย  ดีใจกันทุกคนแหล่ะครับ

คิดว่าภูฐานครับ ประเทศเล็กๆ  มีประชากรน้อยแค่ราวๆ หกแสนคน แต่เป็นผู้นำด้านการคิดดัชนีชี้วัดความเติบโตของประเทศแบบใหม่
ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในการบริหารประเทศอย่างแท้จริง
การแก้ปัญหาความจนของภูฐานอาจจะเรียบง่ายด้วยหลักการที่ว่า ไม่คิดว่าจน ก็ไม่จน ในเมื่อมีกิน มีอยู่ ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร
( อ่านจากที่นี่ครับ http://www.fringer.org/?p=40 น่าสนใจมากๆ )


นอกจากนั้นทำเลที่ตั้งประเทศอยู่ในแถบเทือกเขาหิมาลัย
(ผมเดาเอาว่า ถ้าคนจนถึงขั้นไม่มีบ้านจะอยู่ จะหนาวตายไปเองในหน้าหนาว )

ที่ Australia นี่เค้าจะมีที่ที่ให้คนตกงานมารับเบี้ยเลี้ยงครับ ชื่อไรจำมะได้แระ เป็นเหมือน Branch ที่คนจะเข้ามารับ check อ่ะครับ

คือ สถานที่เนี่ย จะมี facility สุดครบครันสำหรับหางาน เช่น internet, brochure ต่างๆ และก็มีเครื่อง touch screen ด้วย จิ้มๆตาม menu เพื่อหาตำแหน่งงานว่าง สามารถ serch ได้หลายแบบ by-location, by-skill, by-salary range, ไรทำนองเนี้ย มีเอกสารให้ศึกษาหลายเรื่องรวมถึงด้านการให้กำลังใจคนให้อยากสู้ชีวิต

ลองมองมุมนี้นะ ไอ้สิ่งเหล่าเนี้ย น่าจะทำให้คนหลายๆไม่ท้อที่จะสู้ชีวิตแล้วกลับมา drive economy ของประเทศ ลดขโมยขโจรได้ด้วย ผมว่าไม่เยอะหรอกที่อยากจะแบมือขอเงินหลวงอ่ะถ้าไม่จนตรอกจิง หรือ loser สุด (อื่ม แต่ที่จิงพวกอ้อสซี่ นี่ก็ loser เยอะนะ วันๆรับเงินแล้วก็แทงม้าเช้าจรดเย็น ที่นู่น outlet รับพนันนี่ เยอะกว่า 7-11)

jody4003 เขียน:ที่ Australia นี่เค้าจะมีที่ที่ให้คนตกงานมารับเบี้ยเลี้ยงครับ ชื่อไรจำมะได้แระ เป็นเหมือน Branch ที่คนจะเข้ามารับ check อ่ะครับ

อ๋อ จำได้และ Center Link