หน้า 1 จากทั้งหมด 1
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:06 pm
โดย hot
ถ้าบริษัท หมื่น ล้าน แสนล้าน
กำไรได้เท่ากับ
บริษัท พันล้าน ทำได้
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:15 pm
โดย Jeng
สมัยก่อนเคยดูยอดขาย มิซูบิชิ ของญี่ปุ่น
ก็ประมาณ 4 ล้านๆ แต่กำไร 0 บาท
อืม แต่นั้นหมายถึงการเลี้ยงชีวิตคนอีกหลายแสนคนทีเดียวนะ คุณ hot
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:19 pm
โดย hot
หมายถึง
บริษัทแสน ล้าน หมื่นล้าน
ยอมกำไรน้อย เพื่อ เลี้ยงคนให้มีงานทำ
หรือคับ
แต่องค์การแบบนี้จะยั่นยืนได้แค่ไหนคับ
เคยมีบริษัทแบบนี้อเมริกาที่ถูกแยกธาตุ
ท้ายสุด
คนตกงานเป็นแสน อยู่ดี
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:23 pm
โดย Jeng
คงอยากได้กำไรแหละ แต่ถ้ายังไม่ได้ ก็ต้องประคองตัวครับ
เช่น ถ้าบ้านเราผลิตรถยนต์ เพื่อขายเพื่อกำไร แต่ยังไม่ได้กำไร รัฐบาลก็ควรหนุนครับ
เพราะได้ประโยชน์หลายอย่าง ทั้งสร้างงาน ลดการนำเข้า กำไรไม่รั่วไหล
และยังมีความหวังในการส่งออก
ถ้ามองแต่กำไรอย่างเดียว คงไม่มีใครอยากผลิตรถยนต์ตอนนี้ เพราะตามเค๊าไม่ทัน
แต่ถ้าคิดแบบนี้ก็ไม่มีทางทันเลย
ดูจีนซิ เค๊ามีเป็น 10 ยี่ห้อแล้ว
ผมคิดว่าการมุ่งเน้นแต่กำไร จนกระทั่งละเลย อีกหลายเรืองอันตรายมากครับ
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:26 pm
โดย hot
แต่กิจการที่กำไรไม่เพียงพอกับองค์การ
จะถูก ซื้อ หรือ ทนต่างภาวะจากนี้ไปไม่ได้ซิคับ
จ้าง เพื่อเลิก
กับ
สู้ให้
เขาเลี้ยงตัวเองโดยไม่จ้างยัง
ดีกว่า
อีกนะ
ตกจากที่สูงไม่เรื่องน่าสนุกเอาเลย
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:30 pm
โดย Jeng
ผมคิดว่าเว็บเราเน้นการลงทุนอย่างเน้นคุณค่า
แต่สิ่งทีเราเน้นคือกำไร ซื้อต่ำกว่ามูลค่า
ส่วนตัวคุณค่าจริงๆ หายไปไหน
การสร้างงาน ระบบมาตรฐาน ISO หรือ ดร.เดมมิ่ง
หรือ การได้รับรางวัลอะไรบางอย่าง รู้สึกเราไม่ได้พูดถึงเลย
ไม่เคยพูด ไม่เคยนึก เท่าที่พวกเรานึกออกคือกำไรครับ
สุดท้ายการ focus เรืองกำไร
ในหลักดร.เดมมิ่งบอกว่า คุณภาพที่ดีขึ้นทำให้กำไรมากขึ้น
แต่กำไรที่มากขึ้น ไม่ได้ทำให้คุณภาพดีขึ้น
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:33 pm
โดย Jeng
การอยู่รอดที่คุณ hot บอกคือต้องมีกำไรที่มากพอ
ถูกต้องครับ
และกำไรที่มากพอมาจากคุณภาพที่ดีพอ และดียิ่งขึ้นไป
บริษัทในเมืองไทยเท่าที่ผมมองๆก็พ่อค้าทั้งนั้นครับ ทำกำไร อะไรไม่กำไร เลิก แล้วก็ไปหาตัวที่ทำกำไรครับ
แต่บริษัทต่างประเทศ ทำไมอยู่นานมาก เคยชนะแล้วกลับแพ้ สุดท้ายกลับมาชนะอีก
อย่าง โมโตโรล่า ตอนนี้เริ่มแซง โนเกียอีกแล้ว
ถ้ามองแต่กำไร สงสัย ยุบโมโตโรล่าทิ้งไปเลย ตอนกำไรน้อยๆครับ คุณ hot
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:33 pm
โดย hot
ในหลักดร.เดมมิ่งบอกว่า คุณภาพที่ดีขึ้นทำให้กำไรมากขึ้น
แต่กำไรที่มากขึ้น ไม่ได้ทำให้คุณภาพดีขึ้น
พี่เจ๋งกำลังจะบอกว่า
กำไรที่ถาวร
กับ
กำไรที่ไม่ถาวร
ใช่ไหมคับ
อันนี้ใช่ไหมที่แตกต่างระหว่าง
บริษัทหมื่นล้าน
กับ
บริษัทพันล้าน
ที่ทำกำไรได้เท่ากัน
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:37 pm
โดย Jeng
เท่าที่พอจะนึกออกนะครับ คุณ hot ผมคิดว่า บริษัทที่ใหญ่มากๆแล้วก็มีการยุบบริษัทย่อย และมีการริเริ่มบริษัทใหม่เหมือนกันนะครับ
แต่ว่า การตัดสินใจทำอะไรไปแล้วไม่ใช่เลิกได้ง่ายๆ เพราะเป็นเรืองของคนครับ
เลี้ยงดูกันมา หลายรุ่นคน จะเลิกไม่ใช่ง่ายๆ
แต่ถ้าไม่มีกำไรจริงๆก็ต้องเลิกครับ
เพียงแต่ ถ้ามีโอกาสสู้ ก็ต้องสู้ต่อครับ
เรืองกำไรจากขนาดบางทีก็ช่วยได้ เห็นบริษัทใหญ่ๆกำไรน้อยๆแต่ว่า
เมื่อเทียบกับบริษัทเล็กๆ เอะอะเพิ่มทุน นี่ก็ลำบาก
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:37 pm
โดย hot
อย่างตอนนี้ผมลองดูตลาดไอศรีม
บ้านเรา
ที่เห็นเด่นเด่นมากในตลาดมุมกว้าง
มีวอล์ กับเนล
แต่ถ้าพอไปเทียบกับ
ไอติมยี่ห้อหนึ่งของmint
ที่ดังมาก
สมมุติ
กำไรเท่ากัน
แต่มูลค่าบริษัทต่างกันมาก
ทำไม วอ หรือเนล
ถึงไอศรีม เกรด เดียวกับ
mint ไม่ได้
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:40 pm
โดย Jeng
ถ้ากำไรเท่ากัน บริษัทก็ควรจะมีมูลค่าเท่ากัน
ค่านิยมคงต่างกัน
mint คงเน้นขยาย aggressive กว่าครับ คุณ hot ทำให้ mint ราคาสูงกว่า
ตรงนี่คงมีรายละเอียดเยอะ
อย่างไรก็ตามบริษัทแสนล้าน กำไรเท่ากับบริษัทพันล้าน อย่างคุณ hot ว่าไว้
ถ้าให้เลือกความมันคงผมเลือกแสนล้านนะ
แค่เอาเศษที่ดินของบริษัทแสนล้าน มาขาย ก็สร้างโรงไฟฟ้าได้แล้วมั๊งครับ
สมบัติเก็บไว้นาน
กว่าจะเป็นบริษัทแสนล้านได้
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:47 pm
โดย hot
ปัญหาหลัก
การมีสินทรัพย์ที่มากกว่า
ก็เหมือนมีพาหนะดี ที่เดินทางได้เร็ว
การมีสินทรัพย์น้อยกว่า
เหมือนคนเดินเท้า
หรือขึ้นรถเมล์
เดินทาง
ทั้งที่จุดหมายเดินทาง ช้าเร็วก็คือที่เดียวกัน
แต่ถ้านำมันหมด
คนเดินทางเท้า
จะได้เปรียบหรือเปล่าพี่เจ๋ง
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:51 pm
โดย Jeng
ถ้าน้ำมันหมด คนที่มีสินทรัยพ์ก็ได้เปรียบอยู่ดีครับ คุณ hot
เอาสินทรัพย์ไปซื้ออะไรก็ได้ เช่น รถพลังไฮโดรเจน หรือเครืองบินพลังนิวเคลียร์
ก็ไปได้เร็วกว่าเดินเท้าอยูดีครับ
ล้อเล่นนะ ไม่ได้เถียงหัวชนฝา
ธุรกิจรุ่นใหม่ ผมเองรู้สึกว่า เค๊ากร่างๆยังไงไม่รู้ ทำกำไรได้แล้วก็โตเอาโตเอา
โห แค่กำไรลดนิดเดียว รับรองแย่เลย
เพราะฐานเค๊าไม่ค่อยดีอะครับ
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 7:55 pm
โดย hot
ธุรกิจรุ่นใหม่ ผมเองรู้สึกว่า เค๊ากร่างๆยังไงไม่รู้ ทำกำไรได้แล้วก็โตเอาโตเอา
โห แค่กำไรลดนิดเดียว รับรองแย่เลย
เพราะฐานเค๊าไม่ค่อยดีอะครับ
อันนี้ผมเห็นด้วยคับ
การทำกำไรควรควบคู่กับการ
สร้างสินทรัพย์ การคงเงินสด
ในภาวะที่ต้นทุนการเงินที่แพงขึ้น
มีหลายบริษัทเมื่อปีที่ผ่านมา
1.เพิ่มทุน
2.ตั้งกองทุนอสังหา
3.ระดมทุนกจากผู้ถือหุ้นรายใหม่
แต่จากนี้ไป
ใครมีหน้าตัก มาก แต่ไม่รู้สักใช้
ใครมี หน้าตักน้อย แต่ไม่รู้ วิธี หาหน้าตักเพิ่ม
คงต้องลำบากหน่อยนะผมว่า
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 8:01 pm
โดย hot
ใครลงทุนน้อยก็ได้ส่วนแบ่งชิ้นเนื้อไปน้อย...ใครลงทุนมากก็ได้ส่วนแบ่งชิ้น
เนื้อไปมาก!!!"
ลงทุนตามอัตภาพ "แสนเดียว"...จะได้แบบพวก ลงทุน "100 ล้าน" ได้ยังไง?
มันถึงเกิดปัญหาเรื่องชนชั้นทางสังคม อย่างทุกวันนี้ไงครับ
- ชนกรรมาชีพ!
- ชนชั้นกลาง!
- ชนชั้นปกครอง!
- ชนชั้นปัญญาชน!
และอีกมากมาย...
หรือข้อความนี้คือคำตอบของกระทู้นี้คับ
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 10:22 pm
โดย por_jai
8) คุณเจ๋งกะพี่hot
สมมุติว่าคุณพ่อกะคุณแม่ผมไม่ค่อยสบายพร้อมกัน
มาพักฟื้นที่บ้านราคา10กว่าล้านของผม
ผมมีลูก3คนนะครับ12-14-16ปีตามลำดับ
ครอบครัวผมอบอุ่นดี
แต่พอทั้ง2ท่านมา
ทีนี้ปรากฏว่าแฟนผมดันไปสิครับ
ปกติเธอจะทำหน้าที่รับส่งดูแลเด็กๆ
ดูแลเรื่องเสื้อผ้าอาหารการกิน
เธอออกไปตั้งกะเช้ากลับมาก็หลังจากผมกลับบ้านแล้ว
ผมถามเธอว่าไปหาแม่มา
เธอไม่ทำไรเลยครับ
ผมก็ไปปรึกษาเพื่อนๆ
ปรากฏว่าเพื่อนๆทะเลาะกันบ๊งเบ๊งเรื่องผมใหญ่เลยครับ
แบ่งเป็น2ฝ่ายเลยครับ
อยู่ฝั่งแฟนผมส่วนนึง
อ้างทฤษฎี ควีนบี ว่าในรังหนึ่งจะมีนางพญาผึ้งตัวเดียวเท่านั้น
เห็นว่าแฟนผมทำไม่ถูกส่วนนึง
ด้วยว่าแฟนผมเห็นแก่ตัวไม่เห็นใจผมเลย
ว่าเป็นคนกลาง
ถ้าพี่เจ๋งกะพี่ฮอทเป็นผม
จะทำไงดีครับ
ผมจะบ้าตายอยู่แล้ว
ยิ่งมาเห็นพี่ๆ2คนบู๊ๆกันเหมือนเพื่อนๆผมเลย
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสมมุตินะครับ
เป็นเรื่องจริงๆที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้
เพียงแต่ผู้แสดงไม่ใช่ผมอย่างที่สมมุติเท่านั้นเอง
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 10:25 pm
โดย hot
พ่อแม่เลี้ยงมา เรามา เคยบ่นไหมคับ เวลามีปัญหา
เมีย เลี้ยงลูกให้เรา เคยบ่นไหม เวลามีปัญหา
เรา เลี้ยงพ่อแม่ เคยคิดบ่นไหม
เรา ดูแลเป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแลคนในบ้านเคยบ่นไหม
ถ้าเคยบ่น ก็เจ๋า กันไป
ถ้าไม่เคยบ่น แสดงว่า คนเป็นหัวหน้าครอบครัว
ต้องเป็นนักแก้ปัญหาด้วยตนเองมากกว่าพึงคนอื่นฮิ
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 10:35 pm
โดย hot
ปัญหามักมา
จาก
เราฟัง เวลาคนบ่น ไหม แล้วเราบ่นไหม
บางครั้งเรามีข้อแก้ตัว กับปัญหาทุกปัญหาที่
ประดังเข้ามา
บางครั้งเราไม่รับปัญหา คนอื่น เพราะคิดว่า
ปัญหาเราสำคัญกว่า
บางครั้งมีคนอยากบอกปัญหา แต่เรามัวแต่ว่า
ปัญหาคนอื่นไม่สำคัญ
ทุกปัญหาแก้ไขได้ ถ้าเรากล้าจะยอมรับปัญหาคน
อื่นก่อน ก่อนแก้ปัญหาของตนเอง
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 10:39 pm
โดย por_jai
8) พี่hot ตอบเป็นปรัชญาเลย
คนเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอง
ตอบแล้วเหมือนไม่ได้ตอบเลยครับ
รอคุณเจ๋งอีกเสียงถ้าจะดี
แล้วค่อยสรุปไปคุยกะพรรคพวกอีกทีที่คอร์ตแบด
เรื่องพวกนี้บางทีมันมาปรึกษาเรา
แล้วเราไม่แยกแยะข้อดีข้อเสียให้มันฟังบ้าง
มันก็ว่าเรานะครับว่าเป็นเพื่อนกันยังไง
ส่วนเรื่องตัดสินใจยังไงก็ต้องเป็นตัวมันเอง
อย่างที่พี่hotว่าแหละครับ
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 07, 2006 12:38 am
โดย freemind
วันนี้กำไรเท่ากัน แต่วันหน้าล่ะครับ...
วันหน้าน่าเชื่อว่าเมื่ออะไรๆเปลี่ยนไป เปลี่ยนมา
โดยเฉลี่ยแล้ว ส่วนใหญ่นี่
บริษัทแสนล้าน น่าจะทนต่อการกระเพื่อม ความเปลี่ยนแปลง
ได้ดีกว่าบริษัทร้อยล้านพันล้านที่ได้กำไรเท่ากัน
แต่ถ้าบริษัทหมื่นล้านแสนล้านแห่งไหน
ที่ทำกำไรก็ได้เท่าบริษัทร้อยล้านพันล้าน
แถมกระเพื่อมพอกัน เสถียรน้อยพอกัน
ก็ต้องพิจารณาตัวเองกันยกใหญ่ล่ะครับ
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 07, 2006 1:05 am
โดย ksnk
เอ ถ้าต้องซื้อทั้งบริษัท คุณจะซื้อบริษัทไหน

จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 07, 2006 1:08 am
โดย ksnk
สมมุติว่าคุณพ่อกะคุณแม่ผมไม่ค่อยสบายพร้อมกัน
มาพักฟื้นที่บ้านราคา10กว่าล้านของผม
ผมมีลูก3คนนะครับ12-14-16ปีตามลำดับ
ครอบครัวผมอบอุ่นดี
แต่พอทั้ง2ท่านมา
ทีนี้ปรากฏว่าแฟนผมดันไปสิครับ
ปกติเธอจะทำหน้าที่รับส่งดูแลเด็กๆ
ดูแลเรื่องเสื้อผ้าอาหารการกิน
เธอออกไปตั้งกะเช้ากลับมาก็หลังจากผมกลับบ้านแล้ว
ผมถามเธอว่าไปหาแม่มา
เธอไม่ทำไรเลยครับ
ผมว่าทุกปัญหามันต้องมีเหตุ

จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 07, 2006 6:50 am
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
คุณเจ๋งกะพี่hot
สมมุติว่าคุณพ่อกะคุณแม่ผมไม่ค่อยสบายพร้อมกัน
มาพักฟื้นที่บ้านราคา10กว่าล้านของผม
ผมมีลูก3คนนะครับ12-14-16ปีตามลำดับ
ครอบครัวผมอบอุ่นดี
แต่พอทั้ง2ท่านมา
ทีนี้ปรากฏว่าแฟนผมดันไปสิครับ
ปกติเธอจะทำหน้าที่รับส่งดูแลเด็กๆ
ดูแลเรื่องเสื้อผ้าอาหารการกิน
เธอออกไปตั้งกะเช้ากลับมาก็หลังจากผมกลับบ้านแล้ว
ผมถามเธอว่าไปหาแม่มา
เธอไม่ทำไรเลยครับ
เป็นเรืองของคำว่า จาคะ ซึ่งแปลว่าเสียสละ ที่ต้องถูกอบรมสั่งสอนมาแต่เด็ก และตอนโตขึ้นก็ต้องมีการเสียสละบ้างครับ
คนที่เห็นแก่ตัวเสียสละไม่เป็น ใช้เหตุผลอะไรก็ไม่มีประโยชน์มีแต่ทำให้เรืองเสียครับ
ผมว่า คุณพ่อบ้าน ก็ต้องทำใจ แบกรับปัญหาไปครับ ทำไปเรือยๆ ส่วนคุณภรรยาที่ไม่ยอมปรนนิบัติ คุณพ่อ คุณแม่ สามี ในที่สุด ก็จะได้รับทุกอย่างที่สมควรได้เองครับ
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 07, 2006 7:09 am
โดย Jeng
ปัญหาทุกอย่างในโลกแก้ด้วย จาคะ ครับพี่พอใจ คือการเสียสละ
ซึ่งต้องถูกอบรมมาตั้งแต่เด็กๆ โดย คนที่เลี้ยงทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เพียงคำพูด ไม่ได้ช่วยอะไร
แม่ที่มีแต่ให้ญาติๆ แล้ววันๆมาบ่นให้ลูกๆฟังทุกวัน เดาได้เลยว่าลูกๆโตขึ้นมา ก็มีแต่กลัวคนมาเอา
แม่บางคน ให้ข้าวลูก ตอนเช้า เทียง ตอนเย็นไปหากินเอง
เพื่อนหมอบางคนโดนไล่ออกจากราชการ เพราะไปเรียกเงินคนไข้ คนไข้ ฟ้องแพทย์สภา
เรืองแบบนี้ มีให้เห็นอยู่เรือยๆ
ถ้าจะให้เริ่มเสียสละ คงต้องเริ่มจาการทำบุญแล้วรู้สึกสุขใจครับ ให้คุณพ่อท่านนั้นพาภรรยาไปทำบุญครับ ทำบ่อยๆ รู้จักทำบุญ ให้ทาน แล้วในที่สุด ปัญหาใหญ่จะกลายเป็นเล็ก ปัญหาเล็กจะไม่มี
แต่ก็อยู่ที่ตัวสามีด้วย ว่าไปทำอะไรไว้ เพราะว่า ถ้าสามีเองนี่แหละไม่มีจาคะ ภรรยาก็ทนไม่ไหว ออกเช้ากลับดึก ประชดไปเลย
คงเป็นเรืองที่ทุกอย่างมีสมดุลครับ อยู่กันได้ก็อยู่กันไป อยู่กันไม่ได้ ก็เลิกกันไปครับ พี่พอใจ
อีกเคสตัวอย่างของความเสียสละ
สามี เป็นอดีตผู้จัดการแบงค์ เส้นโลหิตในสมองแตก นอนอยู่บนเตียงมา 2 ปี ภรรยาเคยทำขายตรง เก็บเงินได้ 2 ล้าน ดูแลสามีจนกระทั่งเงินหมด ภรรยาก็บอกว่า อืม ตอนนี้เงินใกล้หมด ต้องหาทางแล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ดูแลสามีได้
อีกคน สามี เดินไม่ได้ ต้องคลานตลอด ภรรยาก็คอยดูแล
แม่คนนึงถ้าทางมีเงิน ในระดับนึง แต่ลูกเป็นออทิสติก ชอบวิ่ง อยู่ไม่สุข และพูดไม่รู้เรือง ดูแล้วเธอก็อดทนมากเลย
อีกคน คอยดูแลคุณแม่ ที่หลงแล้ว ชอบเอาอุจาระมากิน มาทาตัว ขับถ่ายไม่เป็นเวลา เหม็นไปหมด แต่คุณลูกก็น่ารัก คอยดูแลคุณแม่ตลอด คุณแม่ 95 แล้ว
สังคมมีตัวอย่างที่ดี และไม่ดีมากมายครับพี่พอใจ
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 07, 2006 10:19 am
โดย por_jai
8) ขอบคุณหลายๆครับ
ทั้งคุณเจ๋งและพี่hot
ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าผมอยู่ฝั่งไหน
ผมถือข้างแฟนเพื่อนผมอยู่ครับ
ครอบครัวนี้กะผมสนิทกันมาก
ผมคิดว่ามันเป็นสิทธิของเธอเหมือนกันที่จะตัดสินใจ
อย่างหนึ่งอย่างใด
ตามที่เธอคิดว่ามันเหมาะกับครอบครัวของเธอ
เพื่อนผมมันว่าพ่อกะแม่มันก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน
แบบว่าสะใภ้ทำอะไรก็ไม่ถูกใจ ว่างั้น
ผมแนะนำเพื่อนไปว่าให้หาคนมาเบาแรง
คือพยาบาลมาทำงานปรนนิบัติทั้ง2ท่าน
เพราะมันก็จัดว่ามีตัง
จะได้เป็นกันชนให้เมียมันด้วย
เค้าจะได้ไม่รู้สึกกดดันมากไป
ฟังคุณเจ๋งพูดเรื่องจาคะ เนี่ยผมหน้าม้านเลยยย...
ผมเห็นใจมันมาก
มันว่าเรื่องพวกนี้ไม่เกิดกับมรึงๆไม่รู้หรอกว่ามันลำบากใจ
แต่ผมว่ามันก็เก่งนะ
มันว่าอย่างไรมันก็เลือกพ่อแม่
เมียทำอะไรมันก็ทนได้ทั้งนั้น
เมื่อก่อนพอเล่นแบดเสร็จก็นั่งซดเบียร์กันคนละขวดก่อนกลับ
ตอนนี้มันเผ่นตลอด ว่าต้องไปผัดกับข้าวให้พ่อกะแม่
คนอื่นทำ ท่านไม่กิน
ผมละเห็นใจมันจริงๆ
แต่ผมบอกมันนะ มรึงต้องคิดว่ามรึงโชคดีนะ
มีพระอรหันต์ประจำตัว2องค์มาให้บูชาถึงบ้าน
ก้มหน้าก้มตาปรนนิบัติไปเหอะ
แล้วบุญที่ทำก็จะทำให้เมียมรึงเข้าใจเองแหละ..
อ้อเดี๋ยวจะว่าคุยไม่เกี่ยวกับหุ้นเลย
เพื่อนผมคนนี้เค้าเล่นหุ้นเป็นนักลงทุนด้วยนะครับ
แต่ไม่รู้จัดอยู่ประเภทไหนดี
แบบว่ามันมีตังอ่ะครับ
แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้
มีเพื่อนในกลุ่มคนนึงที่เค้าเก่งกว่าเพื่อนและเล่นอยู่
วันดีคืนร้าย มันก็บอกว่าฝากเล่นให้หน่อยเถอะ
แบบว่า7หลัก
ตอนนั้นต้นปี47มั๊งครับ
แฮะๆๆก็ติดดอยมาถึงตอนนี้แหละครับ
จะเหนื่อยสร้างบริษัท หมื่นล้าน แสนล้านอยู่ทำไม
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 07, 2006 10:36 am
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ผมละเห็นใจมันจริงๆ
แต่ผมบอกมันนะ มรึงต้องคิดว่ามรึงโชคดีนะ
มีพระอรหันต์ประจำตัว2องค์มาให้บูชาถึงบ้าน
ก้มหน้าก้มตาปรนนิบัติไปเหอะ
แล้วบุญที่ทำก็จะทำให้เมียมรึงเข้าใจเองแหละ..
เค๊าโชคดีแล้วพี่พอใจ ไปเห้นใจทำไม หลายๆคนไม่มีโชคแบบนี้นะ
บางคนเรียนดร.ทำงานอยู่เมกา แต่เป็นมะเร็งตาย ก็ไม่เคยได้มีโอกาสดูแลพ่อแม่
เรืองนี้ไม่มีใครถูกใครผิด
ดูแลคุณพ่อคุณแม่ ทดแทนพระคุณ แล้วพาภรรยาเข้าวัด น่าจะดีครับ