ผมดูธุระกิจของsuc แล้วไม่เข้าใจในธุระกิจเขาคับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 12:28 pm
สหยูเนี่ยนถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสิ่งทอของเมืองไทย
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาทางบริษัท ได้มีปรับปรุงเรื่องประสิทธิภาพการผลิต นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้มากขึ้น และพยายามส่งสินค้าขายเข้าประเทศจีนให้ได้มากขึ้น
จากการที่ได้เริ่มเข้าไปทำธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้า ในชื่อบริษัท ยูเนี่ยน เอ็นเนอร์ยี่ (ไชน่า) จำกัด ในจีนในช่วง 11 ปีที่ผ่านมานั้น บริษัทเริ่มเห็นรายได้ที่เด่นชัดขึ้น และธุรกิจมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นด้วย เศรษฐกิจของจีนมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 8-9% เท่ากับอัตราการขยายของเศรษฐกิจไทย ก่อนวิกฤติเศรษฐกิจ และรายได้จากจีนจะเข้ามาชดเชยรายได้สิ่งทอในไทยที่ลดลงไปได้
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย จากนี้ไปจะให้ความสำคัญในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มขึ้น ตามการเติบโต และขยายตัวของอุตสาหกรรม ที่คาดว่าจะมีรายได้จากกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ประมาณ 1,700 ล้านบาท เทียบกับสิ้นปี 2546 ที่มีรายได้รวม 1,300 ล้านบาท
ขณะ
ธุระกิจที่มีกระแสเงินสดเยอะขนาดนี้ทำไมยัง
ไม่ทิ้งกลุ่มสิ่งทอ โดยการขายทิ้งไปละคับ
แต่ภายหลังจากวิกฤติเศรษฐกิจต่อเนื่องมา อุตสาหกรรมสิ่งทอของบริษัทถือเป็นธุรกิจที่ไม่ขยายตัวนักอาจเรียกได้ว่าอยู่ในช่วงขาลงซึ่งตลาดหดตัวไปกว่า 30% อันเป็นผลมาจากปัจจัยการผลิตที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เจ้าของแบรนด์สินค้า หันไปสั่งสินค้าจากจีนแทน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเคยมีรายได้จากอุตสาหกรรมนี้ถึงปีละกว่า 3,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาทางบริษัท ได้มีปรับปรุงเรื่องประสิทธิภาพการผลิต นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้มากขึ้น และพยายามส่งสินค้าขายเข้าประเทศจีนให้ได้มากขึ้น
จากการที่ได้เริ่มเข้าไปทำธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้า ในชื่อบริษัท ยูเนี่ยน เอ็นเนอร์ยี่ (ไชน่า) จำกัด ในจีนในช่วง 11 ปีที่ผ่านมานั้น บริษัทเริ่มเห็นรายได้ที่เด่นชัดขึ้น และธุรกิจมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นด้วย เศรษฐกิจของจีนมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 8-9% เท่ากับอัตราการขยายของเศรษฐกิจไทย ก่อนวิกฤติเศรษฐกิจ และรายได้จากจีนจะเข้ามาชดเชยรายได้สิ่งทอในไทยที่ลดลงไปได้
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย จากนี้ไปจะให้ความสำคัญในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มขึ้น ตามการเติบโต และขยายตัวของอุตสาหกรรม ที่คาดว่าจะมีรายได้จากกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ประมาณ 1,700 ล้านบาท เทียบกับสิ้นปี 2546 ที่มีรายได้รวม 1,300 ล้านบาท
ขณะ
สหยูเนี่ยน เน้นย้ำถึงแผนการลงทุนในจีน โดยจะดูจากโอกาสทางธุรกิจและการเปิดกว้างทางการค้าของประเทศจีนต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยได้จับตาเฝ้าติดตาม และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อันเป็นรูปแบบการลงทุนของบริษัทขนาดใหญ่ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง การลงทุนของบริษัทคนไทยที่มีมุมมอง ต่อการลงทุนนอกบ้านได้อย่างน่าสนใจที่กลุ่มสหยูเนี่ยนจะมีรายได้รวม 22,800 ล้านบาท แยกเป็นรายได้จากบริษัทในไทย 15,000 ล้านบาท และรายได้จากบริษัทในจีน 7,800 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับรายได้รวมของบริษัทในสิ้นปี 2546 ซึ่งมีราว 20,500 ล้านบาท แยกเป็นบริษัทในไทย 14,900 ล้านบาท และรายได้จากบริษัทในจีน 5,600 ล้านบาท
ธุระกิจที่มีกระแสเงินสดเยอะขนาดนี้ทำไมยัง
ไม่ทิ้งกลุ่มสิ่งทอ โดยการขายทิ้งไปละคับ