หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 05, 2006 12:54 pm
โดย MarginofSafety
ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น (หุ้น) % หุ้น
1 นายขรรค์ชัย บุนปาน  74,941,760 36.56

2 บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน)  41,000,000 20.00

3 บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน)  19,650,800 9.59

4 บริษัท ไซเบอร์ เวนเจอร์ จำกัด  10,200,000 4.98

5 HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD  6,902,000 3.37

6 MELLON BANK,N.A.  5,886,000 2.87

7 น.ส.ปานบัว บุนปาน  3,828,750 1.87

8 นายปราปต์ บุนปาน  3,828,000 1.87

9 นางกมลทิพ พยัฆวิเชียร  2,338,660 1.14

10 STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY  2,314,000 1.13

11 DBS VICKERS SECURITIES (SINGAPORE) PTE LTD  2,082,000 1.02

12 นายไพโรจน์ สายทุ้ม  2,000,000 0.98

13 NORTRUST NOMINEES LTD.  1,879,000 0.92

14 INVESTORS BANK AND TRUST COMPANY  1,595,000 0.78

15 นายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร  1,306,660 0.64

16 NORTRUST NOMINEES LIMITED-NTGS  1,277,000 0.62

17 MR.LIN SHAN-TE  1,062,500 0.52

18 STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY, FOR LONDON  1,028,000 0.50
MATI ถือหุ้นบริษัทตัวเองเกือบ 10% แบบนี้หมายความว่ายังไงครับ
เข้าใจว่า MATI เข้าไปซื้อหุ้นบริษัทตัวเอง (Treasury Stock)
ถูกต้องมั้ยครับ ?

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 05, 2006 1:07 pm
โดย สุมาอี้
ใช่

ผมว่าเจ้าของรับซื้อหุ้นจากรายย่อยมาก่อนเพื่อรักษาความเป็นเจ้าของไว้ แต่เงินที่ใช้อาจเป็นเงินที่ยืมมา ก็เลยต้องให้บริษัทมารับซื้อหุ้นส่วนนี้ไปแทน...

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 8:14 am
โดย MarginofSafety
สุมาอี้ เขียน:ใช่

ผมว่าเจ้าของรับซื้อหุ้นจากรายย่อยมาก่อนเพื่อรักษาความเป็นเจ้าของไว้ แต่เงินที่ใช้อาจเป็นเงินที่ยืมมา ก็เลยต้องให้บริษัทมารับซื้อหุ้นส่วนนี้ไปแทน...
ทำไมเงินที่เจ้าของยืมมาไม่ซื้อในชื่อตัวเองครับ ... ก็รักษาความเป็นเจ้าของได้เช่นเดียวกัน
(ในกรณีนี้สมมติว่าเป็นคุณ ขรรค์ชัย)
ทำไมถึงต้องให้บริษัทไปซื้อมาในลักษณะ Treasury Stock
ทำแบบนี้ได้เหรอครับ....

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 8:23 am
โดย สุมาอี้
ตอนแรกยืมในชื่อตัวเองก่อน เอาเงินมารับซื้อหุ้นไว้ พอคลื่นลมสงบแล้ว ก็ค่อยขายให้บริษัท เอาเงินไปชำระคืนเงินกู้

ถ้ายืมในชื่อตัวเองแล้วถือไว้เองก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยสิครับ

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 8:34 am
โดย MarginofSafety
เข้าใจว่าปกติ Treasury Stock มักจะมีการซื้อเมื่อ
ทีมผู้บริหารส่งสัญญาณให้กับนักลงทุนว่า
ตอนนี้หุ้นในตลาดถูกเกินไปแล้วนะ
และอีกอย่างนึง บริษัทมีเงินสดเยอะ จึงนำไปซื้อหุ้นบริษัทคืน
อีกประเด็นนึง ทำไมไม่กู้ในนามบริษัทตั้งแต่แรก
ทำไมเจ้าของต้องกู้ไปซื้อหุ้นก่อน แล้วค่อยขายให้บริษัทครับ...

แต่กรณีกู้มาซื้อแบบนี้
ก็เหมือนผลักภาระดอกเบี้ยไปให้กับบริษัท
ซึ่งก็กระทบผู้ลงทุนโดยรวม
เพื่อรักษาความเป็นเจ้าของ ซึ่งไม่ค่อยถูกต้องนัก
ผมพูดแบบนี้ได้มั้ยครับ...

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 8:40 am
โดย สุมาอี้
ก่อนหน้านี้ MATI มีเงินสดส่วนเกินเยอะมาก เงินที่บริษัทรับซื้อหุ้นคืนมาจึงมาจากเงินสดส่วนเกินไม่มีภาระดอกเบี้ย

ลองคิดว่าถ้าเราเป็นเจ้าของแต่ถือหุ้นไม่เยอะ อยู่ดีๆ ก็มีคนไปไล่ซื้อหุ้นกองทุนมา hostile takeover บริษัทเรา ถ้าเรายังอยากรักษาบริษัทของเราไว้แต่ทุนเราเองไม่หนา ทางเลือกของเรามีอยู่ไม่มาก เราก็ต้องทำแบบนี้แหละ

การซื้อหุ้นคืนอาจทำให้เกิดการกลั่นแกล้งกันระหว่างผู้ถือหุ้นได้ ดังนั้นบริษัทจำกัดจึงห้ามบริษัทซื้อหุ้นของตัวเองเด็ดขาด แต่บริษัทมหาชนนั้นไม่มีข้อบังคับในจุดนี้

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 8:52 am
โดย MarginofSafety
  แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน
                             บริษัท มติชน จำกัด  (มหาชน)
                               วันที่  20 มกราคม  2549

1.วิธีการในการซื้อหุ้นคืน
 _/_ เสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป
 วันที่ครบกำหนดโครงการคือ วันที่ 16 มกราคม 2549
2.โครงการซื้อหุ้นคืน
 2.1 วันที่คณะกรรมการมีมติให้ซื้อหุ้นคืนคือ วันที่ 13 ธันวาคม 2548
 2.2 ผลการซื้อหุ้นคืน
     จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน ไม่เกิน 20,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็น
     ร้อยละ 9.76 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

วันที่ซื้อหุ?นคืน        จำนวนหุ้นที่ซื้อคืน  ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือ       ราคาต่ำสุด       มูลค่ารวม
                             ราคาสูงสุด (บาท/หุ้น)      (บาท/หุ้น)       (บาท)
3-16 มกราคม 2549  19,650,800          11.05            11.05     217,141,340

 2.3 จำนวนหุ้นที่ซื้อคืนทั้งสิ้น
     จำนวนรวมของหุ้นที่ซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน (รวมข้อ 2.2) 19,650,800 หุ้น คิดเป็น 9.59%
     ของทุนชำระแล้ว มูลค่ารวม 217,141,340 ล้านบาท

บริษัทขอรับรองว่าสารสนเทศในแบบรายงานนี้ถูกต้องและครบถ้วนทุกประการ

                                          ขอแสดงความนับถือ


                                        นายสมหมาย  ปาริจฉัตต์
                                        ( กรรมการผู้จัดการ )
Source: SET

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 8:53 am
โดย MarginofSafety
ขรรค์ชัย  บุนปาน ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 18/01/2549 12/01/2549 15,517,700 9.18 ขาย  
ขรรค์ชัย  บุนปาน ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 18/01/2549 17/01/2549 18,000,000 11.02 ขาย  

ขรรค์ชัย  บุนปาน ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 18/01/2549 23/09/2548 25,420,000 11.10 ซื้อ  
ขรรค์ชัย  บุนปาน ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 18/01/2549 09/11/2548 22,922,460 11.10 ซื้อ
Source: SEC

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 9:02 am
โดย สุมาอี้
[quote="HVI"][quote]ขรรค์ชัย

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 9:03 am
โดย สุมาอี้
เขาต้องการส่วนต่างไปจ่ายดอกเบี้ยหรือเปล่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 9:15 am
โดย MarginofSafety
Balance Sheet

Account Name 2005 (Reviewed) M.Baht  
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด  295.61
รวมหนี้สินหมุนเวียน  203.07

Account Name Q1/2006 (Reviewed) M.Baht  
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด  211.45
รวมหนี้สินหมุนเวียน  272.92
บริษัทมีเงินสดลด หนี้สินหมุนเวียนเพิ่ม
สันนิษฐานว่ามาจากการเข้าไปซื้อ Treasury Stock 200 กว่าล้านดังกล่าว

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 9:27 am
โดย MarginofSafety
สุมาอี้ เขียน: คุณ HVI กำลังสงสัยว่าก่อนขายคืนให้บริษัทมีการ "กินหัวคิว" ก่อนหนึ่งรอบหรือครับ
เปล่าครับ... ตอนแรกแค่สงสัยว่า ทำไมบริษัทตัวเอง ถึงมีชื่อในผู้ถือหุ้นของบริษัทตัวเอง
พอได้รับการ Confirm ว่าเป็น Treasury Stock ประเด็นนี้เข้าใจแล้ว

แต่พอได้รับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการได้มาของ Treasury Stock ดังกล่าว เลยสงสัยต่ออีก
เพราะผมเข้าใจว่า Treasury Stock มักจะซื้อเมื่อบริษัทมีเงินสดเยอะๆ และหุ้นถูกกว่าที่ควรจะเป็น

เลยลองตรวจสอบเพิ่ม
ก็พบว่าคุณขรรค์ชัยขายหุ้นช่วงเวลาที่บริษัทรับซื้อ Treasury Stock จริงๆ

คุณขรรค์ชัยก็เอาเงินที่ได้จากการขายหุ้นไปใช้หนี้ ที่ตัวเองกู้มาซื้อหุ้น
เพื่อให้รอดจาก hostile takeover

แต่ดูเหมือนว่าบริษัทก็ต้องกู้มาซื้อ Treasury Stock
เนื่องจาก หนี้สินหมุนเวียนเพิ่ม ทั้งๆที่บริษัทมีเงินสดเยอะมากๆ

ทำแบบนี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ?
และทำไมบริษัทที่ไม่อยู่ในตลาด การที่ซื้อ Treasury Stock ถึงอาจจะเป็นการกลั่นแกล้งได้ครับ?

ขอบคุณท่านสุมาอี้มากครับ

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 9:39 am
โดย สุมาอี้
ก่อนหน้านี้บริษัทมีเงินสด 500 ล้าน ตอนนี้เหลือ 250 ล้าน ส่วนที่หายไปก็ประมาณเท่ากับหุ้นที่รับซื้อมาพอดี บริษัทจึงไม่น่าจะมีภาระดอกเบี้ยเพราะใช้เงินสดในงบดุลมาซื้อ

การให้บริษัทถือหุ้นเอาไว้เอง ก็จะทำให้ผู้ถือหุ้นที่ต้องการเพิ่มเสียงโหวตของตัวเองไม่สามารถเพิ่มได้ด้วยการซื้อหุ้นเพิ่ม เพราะบริษัทถือหุ้นเอาไว้แล้ว แบบนี้กรรมการผู้มีอำนาจที่เป็นผู้ถือหุ้นด้วยก็อาจใช้วิธีนี้กลั่นแกล้งผู้ถือหุ้นคนอื่นที่ไม่ได้เป็นกรรมการได้

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 10:11 am
โดย MarginofSafety
ตัวที่หยิบมาก่อนหน้านี้เป็น Consolidate
หยิบมาผิดอัน

[quote="HVI"]
Balance Sheet

Account Name 2005 (Reviewed) M.Baht

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 10:18 am
โดย สุมาอี้
ผมดูงบ consol เอา

คงหักกลบลบกันไม่ได้พอดีหรอก เพราะคงมีเงินสดส่วนหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมาจากการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาก รวมทั้งการกู้เงินระยะสั้นเพื่อใช้ในธุรกิจตามปกติ

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MATI

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 08, 2006 9:35 am
โดย por_jai
8) ได้ความรู้มากเลยครับ
     ยังกะโค่วจงฝึกฝีมือกะฉีจื่อหลิง เลยย