Thai VI

ฟังให้ดี สำหรับน้องใหม่นะ

ก่อนจะซื้อหุ้นตัวไหน

1. ถือยาว เพื่อได้ส่วนต่างราคา หรือ เก็งกำไรเพื่อได้ส่วนต่างราคา

1. ถ้าถือยาว ให้มองว่า ทั้งบริษัทราคาเท่าไร แล้วกำไรที่เค๊าได้ในปีที่ผ่านมาเท่าไร คิดซะว่าเราซื้อบริษัทนอกตลาด เช่น ทั้งบริษัทราคา 1000 ล้าน กำไร 50 ล้าน เราอยากได้หรือไม่ ส่วนเรืองการเติบโต ก็ให้นึกว่า ถ้าไม่โต เราจะได้เท่าไร เช่น กำไร 50 ล้าน เราก็ได้ 50 ล้านเราพอใจหรือไม่ ให้ฝากความหวังไว้กับผลงานในอดีต และเรืองการโต ก็ให้คิดว่า เป็นของแถม

สำหรับพี่ จะเลือกถือยาวก็จะเลือกอย่างน้อย กำไร 100 ล้าน สำหรับบริษัทมูลค่า 1000 ล้าน คือ pe 10

2. ถือยาวแค่ไหนก็เลือกเอาเอง ถ้าดูแล้วกำไรอยากขายก็เชิญนะ ถ้าเลือกถือยาวนะ เวลาราคาลงไม่ต้องคิดมาก ลองถือยาวจนกว่าจะกำไร เพราะคุณเลือหุ้นที่มีกำไร มันไม่ลงนานหรอกครับ

3. ถ้าเก็งกำไร ก็ไม่ต้องสนใจอะไรมากมาย ก็มีได้มีเสีย อย่าคิดมาก วิธีเล่นคือ ถ้าซื้อ 1 แสนที่ราคา 100 บาท ถ้าขึ้นไป 120 ถ้าอยากซื้อเพิ่มให้ซื้อเป็นปิรามิด คือ ซื้อ 5 หมื่น แล้วราคาขึ้นไป 140 ก็ให้ซื้อเพิ่มคือ 2.5 หมื่น ฐานเราจะต่ำนะ เราจะกำไรตลอด

4. ถ้าเก็งกำไรถ้าราคาลดมา 5 % เช่น ซื้อ pttep 128 ถ้าเราซื้ออย่างเก็งกำไรนะ 121.60 ก็ cut loss ได้แล้ว cut แล้วอย่าอาฆาติ กลับไปล้างแค้นนะ

จบหลักสูตร รายละเอียดอื่น ก็อ่านๆเอาแล้วกัน

Thank you very much kub !!

ขอบคุณพี่ jeng อีกครั้งครับ

 :D  :D  :D  :D


พี่เจ๋งเป็คนมีความรู้ที่ใจดี

แบ่งปันสอนน้องๆๆเสมอ

ขอบคุณนะครับ

นี่จะไม่นอนกันหรือครับ  :shock:

ขอบคุณพี่เจ๋งครับ

Jeng เขียน:
4. ถ้าเก็งกำไรถ้าราคาลดมา 5 % เช่น ซื้อ pttep 128 ถ้าเราซื้ออย่างเก็งกำไรนะ 121.60 ก็ cut loss ได้แล้ว cut แล้วอย่าอาฆาติ กลับไปล้างแค้นนะ

เข้ามาขำ ฮ่าๆๆๆ    เด็กใหม่ชอบทำ

ขอบคุณครับ  เอาอีก

ขอบคุณครับ

พวกบิ๊กแคปอย่าง pttep ต้องรู้เรื่องเทคนิคคอลบ้างครับ เมื่อวันพฤหัสผมตั้งรับ 110 หลุด 108 คัทครับ ถ้าไม่หลุด 108 ก็ถือและสะสมเพิ่ม สไตล์ผมนะครับตอนหุ้นขึ้นแรงๆแล้ว
   1.ดูว่าหุ้นจบคลื่น 5 แล้วจะต้องลงปรับฐาน A B C
   2.ดูในงบการเงินเอาส่วนของผู้ถือหุ้น/จำนวนหุ้นทั้งหมด ถ้าได้ราคาออกมาว่ามากกว่าบนกระดาน ผมก็คร่าวๆให้มันเท่ากับหรือต่ำกว่าซํก 10-15% ก็ได้
   3.ลากเส้นแนวโน้มหาราคาเป้าหมายที่ใกล้กับข้อ 2. โดยเทียบค่า P/E ของหุ้นด้วย
   4.ราคาต้องต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยยิ่งเยอะยิ่งดี(คุณได้ราคาต่ำกว่าชาวบ้านมากๆ)
   5.หาค่าการถดถอยโดยเอาค่าฟิโบนาชิมาจับ
   6.เอา ข้อ 1-5 มาพิจารณารวมกัน แล้วรอ...............รอ ราคาลงมาอย่างใจเย็นเย็น........ ไม่รีบเข้า เงินสด is Power

   ข้อสังเกตที่คนไม่ค่อยสังเกตนะครับ
   *** หุ้นขึ้นมาแรงแทบจะทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั้ง พลังงาน แบงค์ finance โรงแรม โรงพยาบาล พวกโรงหนัง กลุ่มนิคม ค้าปลีก กลุ่มให้เช่าทั้งหลาย มันขึ้นมาที่จุดสูงสุดพร้อมๆกัน แล้วคุณคิดว่ามันจะลงไม่กี่วันเหมือนทุกครั้งแล้วดีดตัวขึ้น จึงรีบไปรับซื้อกันกลัวไม่ได้ของ อย่างที่เห็นครับ Panic ทุกกลุ่ม ผมว่าจะเตือนชาว VI ก่อนหน้านี้(สำหรับคนที่ซื้อหุ้นกลุ่มดังกล่วก่อนหน้ามันตกอย่างรุนแรง) กลัวโดนด่าครับ เพราะมาอ่านกระทู้เห็นพูดเรื่อง Mint minor โรงบาล โรงแรม และหุ้น VI ตัวอื่นทั้งที่ราคาขึ้นมาเยอะมาก แล้วจะถือยาวกัน แล้วจะขายก็ต่อเมื่อพื้นฐานมันเปลี่ยนเท่านั้น สำหรับผมก็ถือครับแต่ถ้ามันขึ้นบ้าเลือดแบบที่เห็นผมก็จะขายล่ะครับ(Short against port) แล้วลงมารับอีกทีตอนตกอกตกใจกันอย่างที่เห็น หุ้นทุกตัวต้องมีเจ้าสิง ไม่งั้นมันไม่ขึ้นคร๊าบ ยกเว้นหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่องจริงๆ ถ้าเห็นว่าผมโพสไม่ได้เรื่องก็ลบได้ครับ (ผมดูพื้นฐานกับเทคนิคประกอบตอนซื้อหุ้นครับ) คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่องเทคนิคกราฟ(อันนี้อย่าเคืองกันนะครับ สำหรับคนที่แอนตี้ เปิดใจให้กว้างครับ) ช่วงนี้ถ้าจะใช้แต่ดูงบการเงินสำหรับผมก็เหมือนอาวุธไม่ครบ ราคาหุ้นช่วงปีนี้ไม่เหมือนตอนปี 2544-45 ซื้อพื้นฐานดียังไงก็กำไรเยอะ อยากมีคนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเยอะๆในนี้ครับ เรื่องการหาคัดเลือกหุ้นในช่วงเศรษฐกิจอย่างปีนี้ซึ่งหาลำบากมาก ถ้าจะเอาแบบมี Margin of Safety ราคาสุดคุ้มแบบลุงวอเร็นจริงๆ ตอนนี้ผมยังหาไม่เจอเลย สมมุตินะครับ ถ้าคุณคาดได้ว่า HMPRO 10กว่าบาทแล้วมันจะลงมาต่ำ 9 คุณจะ Short หุ้นกันหรือเปล่า?ทุกคนที่ลงทุนในหุ้นย่อมต้องการมาล่าเอาส่วนเกินทุนกันอยู่แล้ว หรือมีใครชอบซื้อหุ้นราคาแพงแล้วเอามาขายถูกแบบว่าทำบุญบริจาคทานกันครับ

อยากถามคุณถาวรหน่อยครับ
ผมเองเคยคิดจะศึกษาเทคนิค แต่ยังตอบปัญหานี้ไม่ขาด สุดท้ายก็เลยตัดสินในเลือกทางพื้นฐานเพียวๆ

มีหุ้นอยู่หนึ่งตัวราคา 10 บาท ศึกษาอย่างดีแล้ว ประเมินมูลค่าหุ้นได้ 20 บาท แต่สัญญาณทางเทคนิคบอกว่ามันจะลงไปซัก 7 บาทก่อนแล้วค่อยเด้ง ผมควรจะทำยังไงดี?

ถ้ารอหน่อยก็ซื้อได้ถูกลง 3 บาท
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเทคนิคไม่ได้ถูกทุกครั้ง
ถ้ามันไม่ลงมาละครับ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งเข้าสู่ราคาพื้นฐานของมันอย่างรวดเร็ว

- ประหยัด 3 บาท แต่อาจจะขาดทุนกำไร 10 บาท
- ซื้อๆไปเถอะไม่ต้องรอ อย่างน้อยก็น่าจะได้ 10 บาทแน่ๆ

ส่วนตัวผมตอบข้อหลังครับ เลยเลือกเดินทางนี้

How are we so sure that a given stock selling at 10 baht will definitely jump to 20 baht?

Despite a best and thorough stock valuation, it does not guarantee that a given stock should be traded at a prospective price.

yoyo เขียน:อยากถามคุณถาวรหน่อยครับ
ผมเองเคยคิดจะศึกษาเทคนิค แต่ยังตอบปัญหานี้ไม่ขาด สุดท้ายก็เลยตัดสินในเลือกทางพื้นฐานเพียวๆ

มีหุ้นอยู่หนึ่งตัวราคา 10 บาท ศึกษาอย่างดีแล้ว ประเมินมูลค่าหุ้นได้ 20 บาท แต่สัญญาณทางเทคนิคบอกว่ามันจะลงไปซัก 7 บาทก่อนแล้วค่อยเด้ง ผมควรจะทำยังไงดี?

ถ้ารอหน่อยก็ซื้อได้ถูกลง 3 บาท
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเทคนิคไม่ได้ถูกทุกครั้ง
ถ้ามันไม่ลงมาละครับ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งเข้าสู่ราคาพื้นฐานของมันอย่างรวดเร็ว

- ประหยัด 3 บาท แต่อาจจะขาดทุนกำไร 10 บาท
- ซื้อๆไปเถอะไม่ต้องรอ อย่างน้อยก็น่าจะได้ 10 บาทแน่ๆ

ส่วนตัวผมตอบข้อหลังครับ เลยเลือกเดินทางนี้

เห็นด้วยครับ วิธีนี้ผมก็ใช้บ่อย เรียกว่า Risk / Reward ครับ ดูว่าความเสี่ยงต่อกำไรที่คาดหมายเป็นอัตราเท่าไหร่

ผมว่าถ้า เราอยู่ในช่วงปลอดภัยมากๆแบบนี้ สบายครับ ซัดเลยทันทีก็ได้ หรือถ้าอยากท้าทาย จะเข้าใช้เทคนิคเก็บก็ได้

แต่ผมว่าเทคนิคจะเริ่มช่วยได้มากขึ้นเวลาเราเจอหุ้นแบบ PE 15 (ลงได้ 5 ขึ้นได้ 7) แล้วจะต้องเข้าเก็บนี่ซิครับ เวลาเจอหุ้นแบบนี้ บางทีเทคนิคก็ช่วยได้มากเหมือนกันครับ

Bread & Butter เขียน:How are we so sure that a given stock selling at 10 baht will definitely jump to 20 baht?

Despite a best and thorough stock valuation, it does not guarantee that a given stock should be traded at a prospective price.

จริงแล้วก็ไม่มีใครรู้หรอกครับ
เพียงแต่ถ้าคิดจะลงทุนแล้วอย่างน้องก็ควรประเมินราคาหุ้นไว้บ้าง
เหมือนกับการทำอะไรซักอย่างมันควรจะมีจุดหมาย ไม่งั้นเราก็ไม่รู้ว่าเราจะไปทางไหน
ที่ผมยกขึ้นมาเป็นเพียงแต่ตัวอย่างครับ สำหรับ case นี้ครับ
ไม่ใช่ความจริงในตลาดหุ้น

แต่ผมว่าเทคนิคจะเริ่มช่วยได้มากขึ้นเวลาเราเจอหุ้นแบบ PE 15 (ลงได้ 5 ขึ้นได้ 7) แล้วจะต้องเข้าเก็บนี่ซิครับ เวลาเจอหุ้นแบบนี้ บางทีเทคนิคก็ช่วยได้มากเหมือนกันครับ

พี่คัดท้ายช่วยอธิบายต่อได้มั๊ยครับ
ผมยังงงๆอยู่ที่ว่า pe 15 ลงได้ 5 ขึ้นได้ 7

yoyo เขียน: จริงแล้วก็ไม่มีใครรู้หรอกครับ
เพียงแต่ถ้าคิดจะลงทุนแล้วอย่างน้องก็ควรประเมินราคาหุ้นไว้บ้าง
เหมือนกับการทำอะไรซักอย่างมันควรจะมีจุดหมาย ไม่งั้นเราก็ไม่รู้ว่าเราจะไปทางไหน
ที่ผมยกขึ้นมาเป็นเพียงแต่ตัวอย่างครับ สำหรับ case นี้ครับ
ไม่ใช่ความจริงในตลาดหุ้น

"อย่างน้อง" ขอแก้เป็น "อย่างน้อย" นะครับ พิมพ์ผิดแบบหมิ่นเหม่ ไม่ดีๆ

yoyo เขียน: พี่คัดท้ายช่วยอธิบายต่อได้มั๊ยครับ
ผมยังงงๆอยู่ที่ว่า pe 15 ลงได้ 5 ขึ้นได้ 7

สมมุติเฉยๆครับ ไม่ได้แปลว่าขึ้นลงได้เท่านั้นจริงๆ แต่สมมุติว่าถ้าเราประเมินว่า หุ้นตัวนี้ เราอยากได้ เราชอบธุรกิจมันเหลือเกิน แต่มันอาจลงได้ 5 ขึ้นได้ 7 และเราอยากซื้อ

เราจะเก็บหุ้น ... ผมว่าภาวะแบบนี้ เห็น VI เรียกกันบ่อยๆ ว่าซื้อหุ้นดีราคาถูกหายาก แต่ซื้อหุ้นดีในราคาที่เหมาะสมพอทำได้ง่ายขึ้น ก็น่าจะเข้ากับสภาวะที่ผมยกตัวอย่างขึ้นมาให้เห็นครับ

ใช้ทั้งสองอย่างสิครับผมว่าดีทั้งคู่

ผมใช้ทั้งคู่ครับ
แต่ให้นําหนักกับ พื้นฐานมากๆ
ใช่ technic แค่ดูความเป็นมาของราคา และเอาแนวรับมา หาค่า pe บ้างเป็นบางครั้ง  :lol:

ผมไม่ได้เข้าบอร์ดทุกวันครับ บางทีวีคละครั้ง
    สำหรับผมก็ประมาณราคาเชิงพื้นฐานก่อนเหมือนกันครับ แล้ว +-ราคาจากส่วนนี้ไปด้วย แต่ผมไม่ชอบรับราคาตอนลงเพราะว่าต่ำแล้วมีต่ำอีก รอไม่มีคนมา bid-offer(ที่ราคาเราหมายไว้เอาใกล้เคียงไม่ต้องเป๊ะก็ได้) ค่อยเข้ามาดอดเก็บทีละน้อยดีกว่า ซื้อแบบปิรามิดสิครับเซฟดี สมมตินะครับสมมุติ ถ้าผมตั้งว่าจะซื้อพี่เทพจำนวน 10,000 หุ้น เล็งไว้แนวรับที่ 100 สุดท้ายที่ 90 บาท เอาเทคนิคมาจับแต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะลงมาถึงหรือเปล่า ก็ตั้งรับที่ 100 บาทจำนวน 500-1000 หุ้น 90 กว่าอีก 2000 หุ้น ราคาใกล้ๆ 90 ซื้อเพิ่มอีกสเต็บละ 1000 หุ้นจนครบจำนวน คือแนวรับสุดท้ายคือสุดท้ายจริงๆซึ่งแทบจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้น เพราะเล็งไว้ต่ำสุดๆจากทุกเคสของการวิเคราะห์เทคนิค เกือบลืมลองประเมินด้วยว่าถ้ากำไรหดลง 5% 10% 15% ราคามันน่าจะหดลงเหลือเท่าไหร่ เมื่อเราซื้อแล้วถึงจะเซฟด้วย
เพราะระยะสั้นคนมักตื่นตกใจขายหุ้นออกมาอยู่แล้วเวลาผลประกอบการออกมาไม่ดีดังหวังหรือเกิดเคสที่ไม่คาดฝันขึ้นแต่บริษัทหมกเม็ดไว้

ใครที่พลาดกระทู้ดีๆอย่างนี้จะได้มีโอกาสศึกษาครับ

ตกใจนึกว่าพี่เจ็งกลับมาแล้วววว

picklife เขียน:ตกใจนึกว่าพี่เจ็งกลับมาแล้วววว

พอดีผมเป็นลูกค้าพี่เจ็ง พี่เจ็งมีทำ บ. แม่บ้านทำความสะอาดตามสำนักงาน
ถามลูกน้องพี่เจ็ง บอกว่าตอนนี้พี่เจ็งไปทำเกี่ยวกะขายตรงอะไรสักอย่าง ทำใหญ่ด้วย เขาว่าอย่างนั้นครับ